บทที่ 329 วิธีการสร้างสูตร

"นอกจากนี้ยังมีสมาคมมวย สมาคมศิลปะการต่อสู้โบราณ และอื่นๆ อีก โดยทั่วไปแล้วก็แบ่งระดับตามนี้" โจวรุ่ยพูดต่อ

หยางป๋อถามอย่างประหลาดใจ "ทำไมผมถึงไม่เห็นข่าวของสมาคมพวกนี้บนอินเทอร์เน็ตล่ะครับ?"

"พวกนี้เป็นเรื่องทางวิชาการ มีแต่สมาชิกเท่านั้นที่มีที่อยู่เว็บไซต์ ถือเป็นเครือข่ายส่วนตัว ถ้าไม่ใช่สมาชิกก็อ่านไม่รู้เรื่องอยู่ดี" โจวรุ่ยอธิบายต่อ

หยางป๋อบ่นในใจ เรื่องวิชาการบ้าอะไร บนโลกมีเว็บไซต์หนึ่งที่เก็บเงินคนอื่นแพงๆ แล้วก็แต่งสัญญาอนุญาตให้ตัวเองตามใจชอบ จนโดนนักวิชาการใหญ่ๆ ด่าว่าไม่ได้อนุญาต

"โอ้ ผมไม่ขาดเงินหรอกครับ" หยางป๋อส่ายหัวแล้วพูดประโยคสุดท้ายที่ทำให้โจวรุ่ยแทบจะกระอักเลือด

"ถ้าเข้าร่วมสมาคม สมาคมก็จะช่วยคุ้มครองคุณ" โจวรุ่ยพูดต่อ

หยางป๋อมองโจวรุ่ยอย่างสงสัย "ตระกูลของคุณทำไม่ได้เหรอครับ?"

"นี่มันไม่ใช่ระดับเดียวกัน สมาคมนักปรุงยาเป็นองค์กรยักษ์ใหญ่ กำลังของตระกูลเราเทียบกับสมาคมพวกนี้ไม่ได้หรอก"

"นอกจากนี้ สมาคมเหล่านี้ยังมีสิทธิพิเศษมากมายในสังคมระหว่างประเทศ ซึ่งเราไม่สามารถให้ได้" โจวรุ่ยแทบจะกระอักเลือด นี่มันเทียบกันได้ยังไง

"ผมไม่ได้จะไปที่อื่นนี่ครับ อยู่ที่นี่อย่างสงบสุขก็ดีแล้ว" ตอนนี้หยางป๋อยังไม่มีความคิดที่จะไปไหน อยากจะเสริมความแข็งแกร่งก่อน

"แม้แต่อยู่ที่ดาวซันเหยว่ การมีสถานะนักปรุงยาก็ช่วยหลีกเลี่ยงปัญหามากมายได้นะ" โจวรุ่ยพูดอีก

หยางป๋อได้ยินแล้วยิ่งไม่อยากในใจ แม้จะหลีกเลี่ยงปัญหาได้ แต่ก็ดึงดูดความสนใจคนอื่นด้วย แล้วอีกอย่าง ที่นี่ไม่ต้อนรับเรา ก็ยังมีที่อื่นที่ต้อนรับ

"ผมฟังความเห็นของเจ้านายก่อนครับ" หยางป๋อหาข้ออ้างมาบังหน้า

"พี่รุ่ย ผมขอเอาหนังสือเล่มนี้กลับไปอ่านนะครับ ผมยังต้องไปซื้อของด้วย" หยางป๋อรู้ว่าโจวรุ่ยตอนนี้รู้สึกไม่สบายใจ แต่จะทำยังไงได้ล่ะ

แล้วหยางป๋อก็ถือหนังสือจากไป โจวรุ่ยมองดูการแต่งตัวของตัวเอง "ตัวเองไม่มีปัญหาอะไรนี่ ทำไมถึงไม่ดึงดูดไอ้หมอนี่เลย"

"ไม่รู้ว่าหลิวอ้วนสอนอะไรให้หยางป๋อบ้าง ถึงทำให้หยางป๋อให้ความสำคัญกับเขามากขนาดนี้" โจวรุ่ยหมดคำพูด ตัวเองอยากเข้าร่วมสมาคมนักปรุงยายังเข้าไม่ได้ หยางป๋อที่มีพรสวรรค์แบบนี้ถ้าเข้าร่วม แม้จะมีปัญหานั่นปัญหานี่ แต่สำหรับตัวบุคคลแล้วเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

โจวรุ่ยรู้ดีว่าองค์กรขนาดใหญ่พวกนี้มีความซับซ้อนมาก แม้จะมีปัญหานั่นปัญหานี้ แต่ในนั้นก็ยังให้ความสำคัญกับความสามารถทางเทคนิค

ในนั้นแน่นอนว่ามีวิธีการสกปรกอะไรบ้าง แต่ถ้าหยางป๋อสามารถเป็นตัวแทนของดาวซันเหยว่ได้ล่ะ? พอพรสวรรค์ของหยางป๋อถูกเปิดเผย ก็จะมีคนมาดึงตัวเอง ดังนั้นแค่ระวังหน่อย ก็หลีกเลี่ยงวิธีการสกปรกได้

แม้แต่นักปรุงยาจะต่อสู้กันเอง ก็ไม่ได้ตะโกนว่าจะฆ่าจะฟันกันโจ่งแจ้ง มันไม่เหมาะกับภาพลักษณ์ของสมาคมวิชาการ ขอแค่ไม่โลภมาก โดยทั่วไปก็จะไม่ถูกคนอื่นวางแผน และความคิดแบบชาวบ้านของหยางป๋อ ก็แทบจะไม่หลงกล

หยางป๋อออกจากร้านแล้ว ก่อนหาชาดื่ม ****รอรถบินซื้อของเสร็จ  เขาสั่งของทางออนไลน์ แล้วรถบินก็ไปรับของที่ร้านเอง พอรับเสร็จก็รออยู่แถวนั้น พอหยางป๋อออกจากร้านน้ำชาก็สั่งให้รถบินมารับ

พอถึงที่จอดรถ รถบินก็เปิดประตูเอง หยางป๋อนั่งขึ้นไป อุณหภูมิในรถก็เหมาะสมมาก รู้สึกสบายมาก

ถ้าที่บ้านมีหุ่นยนต์ เจ้าของบ้านก็ไม่ต้องทำอะไรเลยก็ได้

"สำคัญคือตัวเองมีความลับเยอะเกินไป ไม่งั้นในโลกนี้มีเงินก็สบายสุดๆ แล้ว" หยางป๋อบ่นในใจ

กลับถึงบ้าน หยางป๋อก็เอาของที่ซื้อมาเก็บ รถบินก็เข้าโรงรถชาร์จไฟเอง แล้วปิดประตูโรงรถเอง

"วัตถุดิบของยาเสริมพันธุกรรมแบ่งเป็น 5 ประเภทคือ A B C D E ในความหมายอย่างกว้าง นอกจากนี้ในความหมายแคบๆ ยังแบ่งเป็นคุณสมบัติบวก A B C D E และคุณสมบัติลบ A B C D E อีก 5 ประเภท"

"5 ประเภทนี้มีความสัมพันธ์แบบเกื้อหนุนและต้านทานกัน เมื่อทำการวิจัยพัฒนาสูตรยา อันดับแรกต้องกำหนดว่าวัสดุนี้มีคุณสมบัติพลังงานแบบไหน"

"คุณสมบัติพลังงานนี้ไม่ใช่แค่ปรากฏการณ์ทางกายภาพภายนอกเช่นแสงหรือไฟฟ้า แสงก็มีทั้งแสงบวกและแสงลบ"

หยางป๋อมองสูตรที่เขียนแน่นหน้ากระดาษ มีอะไรพวก AB, ABC

"ทำไมดูเหมือนกำลังพูดถึงหยินหยางห้าธาตุ แถมยังมี ABC ด้วย?" หยางป๋อยิ่งดูทฤษฎีนี้ก็ยิ่งคุ้นเคย พอเห็น ABC ก็ปวดหัว แต่พอแทนที่ด้วยหยินหยางห้าธาตุก็เข้าใจง่ายขึ้น บวกลบก็คือหยินหยางนั่นเอง

"หรือว่าอารยธรรมโลกก็เป็นเศษเสี้ยวของอารยธรรมระดับสูงอื่นๆ?"

"โลกนี้ก็ได้รับอิทธิพลจากอารยธรรมระดับสูงเหรอ?" หยางป๋อเดาในใจ

ส่วนอารยธรรมระดับสูงอยู่ที่ไหน ก็ไม่รู้ แต่ว่าเรื่องหยินหยางห้าธาตุบนโลก บอกว่าไม่เชื่อก็เก่งจริงๆ โดยเฉพาะการฝังเข็ม จุดฝังเข็มอะไรพวกนี้

จะให้เชื่อก็รู้สึกงมงาย ตอนที่หยางป๋อข้ามมิติ วิทยาศาสตร์ก็ยังไม่สามารถค้นพบการมีอยู่ของเส้นลมปราณและจุดฝังเข็ม

แน่นอนว่าตอนนี้หยางป๋อเชื่อมากขึ้น ตัวเองก็เป็นแบบนี้แล้ว ยังจะมีอะไรเป็นไปไม่ได้อีก ถ้าตอนนี้หยางป๋อประกาศว่าจิตวิญญาณของตัวเองเป็นคนอื่น คงถูกมองว่ามีปัญหาทางจิต โดนตำรวจบังคับพาไปหาจิตแพทย์ แล้วถ้ายังยืนยันแบบนี้ ก็จะถูกส่งไปบำบัด

บำบัดถึงระดับไหน? จนกว่าคุณจะยอมรับว่าคุณโกหก แล้วถึงจะปล่อยคุณออกมา

หยางป๋ออ่านต่อ หลังจากทฤษฎีก็เป็นการปฏิบัติ แล้วจะกำหนดว่าวัสดุนี้มีคุณสมบัติอะไรยังไง? ง่ายมาก ทดลอง

คุณลองสมมติว่าวัสดุนี้เป็น +A แล้วทดลอง ถ้าไม่ได้ผลก็ลองสมมติเป็น -A แล้วทดลอง ก็ทดลองไปเรื่อยๆ จนสรุปได้

จากนั้นหยางป๋อก็เห็นในสมุดบันทึกเต็มไปด้วยตัวอักษร +, - และ A B C D E หยางป๋อแทนที่ด้วยหยินหยาง ทอง ไม้ น้ำ ไฟ ดิน ในใจ ก็ไม่รู้สึกน่าเบื่ออีกต่อไป

แน่นอนว่าต้องระวังอีกจุดหนึ่ง คือวัสดุหนึ่งชนิดอาจมีพลังงานหลายประเภท ต้องดูว่าชนิดไหนมีประสิทธิภาพมากกว่า หรือไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ นี่ต้องเรียนรู้การแปลงพลังงานเพิ่มเติม

ตัวอย่างเช่น วัสดุหนึ่งชนิดมี +A, +C, +E แต่มีแค่ +C ที่มีประสิทธิภาพ ก็ต้องใช้วัสดุหลายชนิดเพื่อแปลง +A และ +E ให้เป็น +C...

ตอนนี้หยางป๋อก็เข้าใจแล้วว่า ตอนที่ตัวเองปรุงยาเห็นพลังงานหลายสีในนั้น ไม่ใช่แค่การสะเทินพลังงานที่เป็นอันตราย แต่ยังเป็นการแปลงพลังงานที่เรียกว่าเป็นอันตราย +A และ +E ให้เป็น +C

ดังนั้นวัสดุหนึ่งชนิดต้องทำการทดลองหลายชุดตามชนิดของพลังงานที่มีอยู่ ต้องทำการทดลองในสัตว์ ทดลองในมนุษย์ และแนะนำให้ทำในห้องทดลองอวกาศ เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย

ห้องทดลองอวกาศมักอยู่ใกล้ดาวฤกษ์ ด้านหนึ่งดาวฤกษ์สามารถให้พลังงานแก่ห้องทดลอง อีกด้านหนึ่งถ้าเกิดอุบัติเหตุ ยีนที่ปนเปื้อนจะถูกรังสีแรงของดาวฤกษ์ทำลาย ในกรณีเลวร้ายที่สุดก็สามารถสั่งให้ห้องทดลองตกลงในดาวฤกษ์ได้

ห้องทดลองยาในอวกาศไม่มีระบบพลังงานปฏิสสาร ทั้งหมดใช้เทคโนโลยีโฟโตโวลเทอิก ส่วนเหตุผลก็คือนิวเคลียร์อื่นๆ ก็มีคุณสมบัติเช่นกัน

"เป็นแบบนี้เหรอ?"

"งั้นบนโลก ไฟฟ้าจากน้ำเป็นคุณสมบัติหยิน ไฟฟ้าจากไฟเป็นคุณสมบัติหยางสินะ?" หยางป๋อสงสัยในใจ

แล้วอ่านต่อ สูตรที่สมบูรณ์ต้องใช้เวลานาน และต้องมีแหล่งวัตถุดิบที่มั่นคง

สุดท้ายยังพูดถึงว่าคนก็แบ่งตามคุณสมบัติ ผู้ชายเป็นคุณสมบัติบวก ผู้หญิงเป็นคุณสมบัติลบ

"โอ้โห ถ้าคนที่มีเพศอื่นๆ รู้เรื่องนี้ คงออกมาประท้วงแน่ๆ" หยางป๋อเห็นตรงนี้แล้วบ่นในใจ

ด้านหลังก็มีประโยคหนึ่งว่า คนที่ใช้ยาเปลี่ยนเพศทางพันธุกรรมจะมีอัตราความสำเร็จต่ำกว่าคนที่ไม่เปลี่ยนประมาณ 20%

คุณสมบัติของคนก็ต้องทดลอง ทดสอบความเข้ากันได้ คือดูว่าเลือดของคนนี้เข้ากันได้กับพลังงานคุณสมบัติไหนมากที่สุด

หลังจากอ่านจบ หยางป๋อก็วางสมุดบันทึกไว้ข้างๆ นี่เป็นสมุดที่คัดลอกด้วยมือ นึกย้อนกลับไปอย่างละเอียด ตัวเองก็เข้าใจจริงๆ

ไม่ว่าจะเป็นวัสดุอะไร ก็ต้องทดลอง แล้วสำคัญที่สุดคือแหล่งวัตถุดิบที่เหมือนกันและมั่นคง ถึงจะทำให้ข้อมูลการทดลองเปรียบเทียบมีความน่าเชื่อถือ

"หรือว่าต้องเข้าร่วมสมาคมนักปรุงยาจริงๆ?" หยางป๋อเปิดอินเทอร์เน็ตค้นหา พบว่าห้องทดลองยาในอวกาศแบ่งเป็นหลายระดับ สูงสุดคือ SSS แต่เขาไม่เปิดให้บุคคลทั่วไป

มีคนตอบในอินเทอร์เน็ตว่า การทดลองครั้งหนึ่งอาจใช้เงินหลายร้อยล้านหรือหลายพันล้าน ต้องซื้อประกันด้วย

เพราะถ้าการทดลองล้มเหลว ทำให้ห้องทดลองปนเปื้อนต้องทำลาย แนะนำให้เช่าห้องทดลองอวกาศแยกต่างหาก แม้ค่าเช่าจะแพง แต่ถ้าเกิดการปนเปื้อน ค่าชดเชยก็น้อยกว่า ห้องทดลองร่วมขนาดใหญ่ค่าเช่าถูกกว่า แต่ถ้าเกิดการปนเปื้อน การทำความสะอาดห้องทดลองครั้งหนึ่งก็เป็นตัวเลขมหาศาล

หยางป๋อก็ไม่กล้าทดลองส่งๆ ถ้าทำให้เกิดแหล่งมลพิษทางพันธุกรรมขึ้นมา ตัวเองไม่เป็นไร แต่ถ้าปนเปื้อนทั้งดาวเคราะห์จะทำยังไง?

"รอเจ้านายอ้วนกลับมา ให้เจ้านายอ้วนซื้อวัสดุพวก +A, +B ที่บอกในสมุดบันทึกนี้หน่อย ให้ตัวเองดูว่าสีพลังงานที่ตัวเองเห็นแทนคุณสมบัติอะไร?" ตอนนี้หยางป๋อรอคอยให้เจ้านายอ้วนกลับมาอย่างใจจดใจจ่อ

หยางป๋อไม่ได้คิดที่จะซื้อของในตลาดมืด แต่ใครจะรู้ว่าของพวกนี้จะเป็นของปลอมหรือเปล่า

เจ้านายอ้วนแม้จะไม่มีพรสวรรค์ในการปรุงยา แต่ก็เรียนมาอย่างเป็นระบบ อย่างน้อยก็รู้ความแตกต่างระหว่างลาและม้า จะไม่เป็นแบบหยางป๋อที่ไม่รู้จักลาและม้า บางทีคนอื่นส่งหนูกับเป็ดมาบอกว่านี่คือลาก็ได้

เหมือนชาติที่แล้วหยางป๋อเคยซื้อเมล็ดดอกไม้ ซื้อมาสิบกว่าพันธุ์ คนขายยังใจดีแยกใส่ถุงแล้วเขียนชื่อให้ด้วย ผลคือพอออกดอกเป็นแบบเดียวกันหมด

หยางป๋อเก็บสมุดบันทึกไว้ดีๆ เดี๋ยวต้องคืนให้โจวรุ่ย อันนี้น่าจะของจริง

กินข้าวเสร็จ หยางป๋อก็เข้าเกม

เสี่ยวหวงเห็นหยางป๋อออนไลน์ก็รีบพูดทันที "หัวหน้าครับ การทดสอบเปลี่ยนอาชีพเป็นการทดสอบการเอาชีวิตรอด โยนผู้เล่นไว้กลางเมือง สุดท้ายให้คะแนนตามผลงาน ต่ำสุดหนึ่งดาว สูงสุดห้าดาว ผมได้หนึ่งดาว คุณสมบัติโดยรวมเพิ่มขึ้น 20% ความสามารถในการรับน้ำหนัก พละกำลัง ความคล่องแคล่วเพิ่มขึ้น 20%"

"ประสบการณ์ที่ได้จากการฆ่าซอมบี้เป็นห้าเท่าของข้างนอก นอกจากนี้มูลค่าของไอเทมภารกิจก็เป็นห้าเท่าด้วย"

"ผมถูกวางไว้บนตึกระฟ้า อยู่รอดได้หนึ่งชั่วโมง ส่วนใหญ่เป็นเพราะบนตึกมีซอมบี้สิบกว่าตัว ยังไม่ทันฆ่าเสร็จ ข้างล่างก็พุ่งขึ้นมาแล้ว ผมใช้ภูมิประเทศถ่วงเวลาได้หนึ่งชั่วโมง สุดท้ายบนดาดฟ้าเต็มไปด้วยซอมบี้ ผมอยู่บนช่องลิฟต์ ข้างบนเป็นคอนกรีต ผลคือซอมบี้เหยียบซอมบี้สร้างบันไดมนุษย์ขึ้นมา ตำแหน่งรีเฟรชกระสุนก็สุ่ม"

หยางป๋อได้ยินแบบนี้ก็นึกว่าน่าจะเป็นการทดสอบการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของผู้เล่น

"ผมท้าทายความยากระดับสามดาว เสี่ยวหงระดับสี่ดาว ปรากฏตัวในลานกว้าง ไม่ถึงสิบนาทีก็ถูกฆ่าตาย แค่ได้คะแนนผ่าน คุณสมบัติโดยรวมเพิ่มขึ้น 5%"

"คุณหนูน้อยกับคุณหนู สองคนเลือกความยากระดับสองดาวกับหนึ่งดาวตามลำดับ คุณหนูน้อยอยู่รอดได้สองชั่วโมง ได้คะแนนหนึ่งดาว คุณหนูอยู่รอดได้ห้าชั่วโมง สุดท้ายได้คะแนนดีเยี่ยม คุณสมบัติตัวละครเพิ่มขึ้น 10%"

"ตามที่ผมเข้าใจ ยิ่งระดับความยากสูง ยิ่งอยู่รอดได้นาน คะแนนก็จะยิ่งสูง"

"คุณหนูอยู่รอดได้ห้าชั่วโมง แต่คะแนนยังไม่ถึงหนึ่งดาว ส่วนผมอยู่รอดแค่ชั่วโมงเดียวได้หนึ่งดาว คุณหนูน้อยในระดับความยากสองดาวอยู่รอดได้สองชั่วโมง ก็ได้คะแนนหนึ่งดาวเช่นกัน" เสี่ยวหวงสรุปสิ่งที่ตัวเองสังเกตได้

"นอกจากนี้ยังมีเหรียญชุบชีวิต สามารถฟื้นคืนชีพและเริ่มการทดสอบใหม่ได้สูงสุดสามครั้ง" เสี่ยวหวงพูดต่อ

สุดท้ายเสี่ยวหวงถาม "หัวหน้าจะทดสอบเมื่อไหร่ครับ?"

"พรุ่งนี้ละกัน" หยางป๋อคิดในใจ ในเมื่อแค่หนึ่งดาวก็เพิ่มคุณสมบัติ 20% กระสุนก็สามารถพกเพิ่มได้ 80 นัด แล้วถ้าได้ห้าดาวล่ะ จะเพิ่มขึ้นเท่าไหร่? 100%?

จากนั้นหยางป๋อใช้พลังพิเศษแสงและไฟฟ้าดู พบว่าคุณสมบัติตัวละครของเสี่ยวหวงเพิ่มขึ้น 20% แต่มนุษย์เทียมเต็มไปด้วยรอยปะ ชัดเจนว่าเป็นมนุษย์เทียมของเสี่ยวหวงเมื่อวาน

นั่นหมายความว่าทางการจำกัดข้อมูลของมนุษย์เทียมมาตั้งแต่ต้น จริงๆ แล้วสามารถเพิ่มขึ้นได้ 20% หรือมากกว่านั้น

คุณสมบัติตัวละครที่คุณเห็นในเทอร์มินัลเกมเป็นอีกเรื่องหนึ่ง มนุษย์เทียมที่ควบคุมจากระยะไกลเต็มไปด้วยรอยปะ เพราะซอมบี้มีฤทธิ์กัดกร่อน ดังนั้นชั้นป้องกันด้านนอกของมนุษย์เทียมจะถูกกัดกร่อน ทุกวันที่ผู้เล่นออกจากเกม ชั้นป้องกันบนตัวมนุษย์เทียมพวกนี้ก็จะได้รับการซ่อมแซม ทำให้เกิดสีที่ไม่เหมือนกัน

"หัวหน้าครับ มีคนผ่านการทดสอบระดับสามดาว คุณสมบัติเพิ่มขึ้น 100% แล้วหัวหน้าดูร้านค้าในเกมสิครับ เปิดให้ซื้ออาวุธหนักแล้ว แต่พวกเรายังแบกน้ำหนักไม่พอ" เสี่ยวหงพูดในช่องสนทนา

หยางป๋อรีบเปิดร้านค้าที่จุดเกิดใหม่ เห็นอาวุธหนัก ปืนสไนเปอร์ขนาด 20 มิลลิเมตร และอาวุธเย็นขนาดใหญ่ขึ้น ดาบใหญ่สูงครึ่งตัวคน

"ฮือๆ ดาบนี่เท่มาก ฉันจะไปทดสอบใหม่" เสี่ยวหงร้องในทีม

หยางป๋อใช้พลังพิเศษแสงและไฟฟ้าไม่เห็นว่าดาบจริงๆ เป็นยังไง แต่มองดูดาบใหญ่สูงเท่าคนที่เปล่งแสงสีเขียวในเทอร์มินัลเกม รู้สึกว่าคงเป็นอาวุธพลังงานสินะ?

"หัวหน้า ดูนี่สิครับ ชุดเกราะโครงกระดูกภายนอก ตอนนี้คงเป็นอุปกรณ์ที่แข็งแกร่งที่สุดแล้ว มีการป้องกันด้วยพลังงาน แถมยังมีความสามารถในการบินระดับต่ำได้ 120 วินาที น่าเสียดายที่เวลาคูลดาวน์ถึง 24 ชั่วโมง" เสี่ยวหงอุทานในทีม

หยางป๋อมองดู โอ้โห อุปกรณ์นี้ใส่เข้าไปก็เป็นหุ่นรบขนาดเล็กเลยนี่

"ดูเหมือนว่าถ้าแสดงผลงานได้ดีพอ ทางทหารก็มีของดีๆ อีกเยอะ แต่ของพวกนี้ราคาแพงเกินไป ไม่เหมาะจะแจกจ่ายให้ผู้เล่นทุกคน" หยางป๋อคิดในใจ

"หัวหน้า เมื่อกี้ในฟอรั่มมีผู้เล่นที่ผ่านการทดสอบสามดาวโอ้อวด ตัดสินใจจะทดสอบใหม่ สาบานว่าจะเอาชุดเกราะโครงกระดูกภายนอกให้ได้" คุณหนูน้อยพูดขึ้น

หยางป๋อนึกถึงอีกประเด็นหนึ่ง ว่าตัวเองควรจะจ่ายเงินให้พวกนี้ไปทดสอบใหม่ไหม อย่างน้อยก็ให้ได้คะแนนหนึ่งดาว คนหนึ่งสามารถพกกระสุนเพิ่มได้ 80 นัด ห้าคนก็เพิ่มได้ 400 นัด แล้วถ้าได้สองดาวล่ะ คุณสมบัติจะเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ แบบนี้จะช่วยให้ตัวเองฟาร์มทักษะได้ง่ายขึ้น

"เดี๋ยวเราลองทดสอบก่อน เห็นทางการกำลังพัฒนาต่อไปในการต่อสู้เป็นทีม น่าจะมีการทดสอบเป็นทีมด้วย" หยางป๋อรู้ว่าสิ่งที่ทางการเรียกว่าการแย่งชิงเป็นทีม จริงๆ แล้วคือการทำให้วัสดุที่ไม่มีอยู่จริงหายไป แม้ว่าในคลังของตัวละครจะยังเห็นอยู่ แต่จริงๆ แล้วไม่มีแล้ว เหมือนกับเงินหลายร้อยล้านที่ดูเหมือนยังมีอยู่ แต่จริงๆ แล้วไม่มีแล้ว แล้วออกตั๋วอะไรสักอย่างมาทำให้หายไปเลย

(จบบท)