บทที่ 241 บริษัทสำรวจ

สมาชิกส่วนใหญ่ของสมาคมนักล่าเงินรางวัลต่างรู้สึกหวั่นใจ เนื่องจากสมาชิกขององค์กรผิดกฎหมายเหล่านี้มักจะปลอมตัวเพื่อลดความเสี่ยงในการถูกเปิดเผยตัวตนขณะทำภารกิจ

แน่นอนว่าหากถูกจับได้ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล เพราะยังไงก็ถูกจับอยู่ดี

ขณะที่คนของสมาคมนักล่าเงินรางวัลกำลังวิตกกังวล เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาในช่องสื่อสารสาธารณะ

"ตั้งแต่นี้ไป ห้ามทุกคนเข้าไปในเหมือง" นี่คือเสียงที่ดังออกมาจากช่องสื่อสารสาธารณะ ทุกคนหันไปมองกลุ่มอำนาจที่สาม

กลุ่มนี้เคยแข็งแกร่งมากในตอนแรก มียานขนาดเล็กที่ดัดแปลงมา แต่น่าเสียดายที่ถูกยานรบขนาดใหญ่ของกองกำลังกบฏจู่โจมจนพังยับเยิน

ตอนนี้บนดาวเคราะห์มีสามกลุ่มคือห้าคนของเจ้านายอ้วน สมาคมนักล่าเงินรางวัล และกลุ่มอำนาจที่สาม

กลุ่มที่มีคนมากที่สุดคือกลุ่มอำนาจที่สาม เมื่อพวกเขาเปิดปากพูดขึ้น คนของสมาคมนักล่าเงินรางวัลจึงถามกลับไปในช่องสื่อสาร "พวกแกหมายความว่าไง?"

"หมายความว่า ฉันอยากเข้าเหมืองก็จะเข้า แล้วไง?" เหล่านักล่าเงินรางวัลพวกนี้ไม่ใช่คนดี คนดีย่อมไม่เข้าร่วมกับองค์กรที่ผิดกฎหมายแบบนี้หรอก

"เหมืองนี่ตอนนี้เป็นทรัพย์สินของบริษัทเรา ยานรบสองลำใหม่ที่มานั่นก็เป็นของบริษัทเรา พวกแกลองเข้าไปดูก็ได้นะ" คนของกลุ่มอำนาจที่สามพูดขึ้น คำพูดของเขาทำให้ทุกคนที่ได้ยินต่างตกใจ

"พวกแกออกไปเรียกคนที่อยู่ในเหมืองออกมาให้หมด ห้ามใครค้างอยู่ในนั้น ไม่งั้นบริษัทเราจะต้องใช้มาตรการจำเป็นเพื่อปกป้องผลประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัท" ผู้บัญชาการของกลุ่มอำนาจที่สามพูดเสียงเข้มดุดัน เพราะนี่ถือเป็นการแจ้งเตือนทางกฎหมาย

ผู้บัญชาการของกลุ่มอำนาจที่สามสามารถใช้การแจ้งเตือนนี้เป็นหลักฐาน หากภายหลังคนของสมาคมนักล่าเงินรางวัลไม่ฟังคำเตือนแล้วเกิดการปะทะจนมีคนตาย เพื่อพิสูจน์ว่าเขาได้ทำตามหน้าที่ในการแจ้งเตือนแล้ว และเป็นความผิดของอีกฝ่าย

"แกมีหลักฐานอะไรว่าที่นั่นเป็นของบริษัทแก พวกฉันไม่เคยได้รับข้อมูลใดๆ เลย?" คนของสมาคมนักล่าเงินรางวัลถามกลับอย่างหัวเสีย

"ก็ดูจากยานรบติดอาวุธสองลำที่ผ่านการดัดแปลงของบริษัทเราสิ เอกสารกฎหมายที่เกี่ยวข้องเราจะให้ดูอยู่แล้ว ตอนนี้ฉันแค่ทำตามหน้าที่ในการแจ้งเตือน ถ้าพวกแกไม่ฟัง ผลที่ตามมายังไงก็ต้องรับผิดชอบเอง" ผู้บัญชาการของกลุ่มอำนาจที่สามกล่าวย้ำ

"บริษัทพวกแกชื่ออะไร?" ประธานของสมาคมนักล่าเงินรางวัลถามด้วยความสงสัย

"บริษัทสำรวจซานอี้!" ผู้บัญชาการของกลุ่มอำนาจที่สามตอบ

เมื่อได้ยินชื่อนี้ ประธานของสมาคมนักล่าเงินรางวัลก็สั่งในช่องสื่อสารทันที "พวกแกรีบไปแจ้งคนในเหมืองเดี๋ยวนี้ ให้ทุกคนออกมา เอาหุ่นยนต์ขับออกมาด้วย ไม่น่าจะเกิดอันตรายอะไร!"

คนของสมาคมนักล่าเงินรางวัลจึงรีบไปที่เหมืองทันทีเพื่อแจ้งกับคนข้างใน

เจ้านายอ้วนจัดคนมาเฝ้ายามไว้ เมื่อคนของสมาคมนักล่าเงินรางวัลมาถึง จึงถูกตรวจพบเป็นคนแรก

หลังจากส่งสารให้คนในเหมืองแล้ว พวกเขาก็เดินเข้าไปข้างใน

"ไปกันเถอะ พวกเราอย่าหาเรื่องใส่ตัวเลย" หลังฟังคำแจ้งเตือน เจ้านายอ้วนก็เรียกลูกน้องให้ออกไปจากที่นั่น

ลูกน้องทุกคนต่างเห็นด้วย โจวเจิ้งพูดขึ้นว่า "ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเป็นบริษัทซานอี้"

"ฉันควรเดาได้ตั้งแต่แรกแล้ว มีแต่บริษัทใหญ่ๆ แบบนี้เท่านั้นที่จะมีอิทธิพลถึงขนาดนี้" เจ้านายอ้วนพูดเสียงอ่อย เพราะการมาที่นี่ครั้งนี้กำลังจะได้กำไรก้อนโต หากเจอหินพลังงานสักก้อน ก็จะได้รายได้กว่าร้อยล้าน การอยู่ค้นหาที่นี่สักหนึ่งสองวันเพื่อหาอีกไม่กี่ก้อนน่าจะทำได้แน่ เพราะหยางป๋อนั้นดวงดีมาก

หยางป๋อจึงเกิดความสงสัยขึ้น "หัวหน้าครับ บริษัทแบบไหนถึงจะมีอิทธิพลขนาดนี้ได้?"

หยางป๋อไม่เข้าใจจริงๆ ว่าบริษัทแบบไหนถึงจะสั่งให้ยานรบสหภาพออกมาจัดการเรื่องนี้ได้

"หยางป๋อ ต่อไปนี้ถ้าได้ยินคำว่าบริษัทสำรวจล่ะก็ อย่าเข้าใกล้เชียว บริษัทสำรวจมีกองกำลังติดอาวุธเป็นของตัวเอง ถึงแม้ยานรบของพวกเขาจะสู้ยานรบของกองทัพสหภาพไม่ได้ แต่ก็เหนือกว่ายานรบดัดแปลงทั่วไปมากทีเดียว"

"ยานรบพวกนี้ก็มาจากโรงงานผลิตยานรบอย่างเป็นทางการให้กับกองทัพสหภาพนั่นแหละ"

"อย่างที่ชื่อของมันบอก บริษัทสำรวจก็คือการสำรวจอวกาศที่ยังไม่รู้จัก หากพบดาวเคราะห์ที่อาศัยอยู่ได้ บริษัทเหล่านี้จะมีสิทธิ์ในการพัฒนาก่อน และของมีค่าใดๆ ที่พบ พวกเขาก็มีสิทธิ์พัฒนาก่อนเช่นกัน"

"บริษัทสำรวจก็คือการสำรวจอวกาศที่ไม่รู้จัก ดังนั้นพวกเขาจึงเจออันตรายมากมาย เช่น พบเจอโจรสลัดหรือบริษัทสำรวจของชาติอื่นๆ"

"กำลังทหารของบริษัทสำรวจนั้นอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสหภาพ แต่บริษัทสำรวจเป็นบริษัทส่วนตัว จริงๆ แล้วก็เป็นบริษัทของเหล่าตระกูลใหญ่ระดับสูงสุดในสหภาพนั่นแหละ"

"บริษัทสำรวจเหล่านี้มีกำลังมากกว่าพวกโจรสลัดเยอะ อย่างน้อยการสนับสนุนด้านโลจิสติกส์และอุปกรณ์ของบริษัทเหล่านี้ก็ไม่ต่างจากโจรสลัดมากนัก และบางบริษัทสำรวจในชาติของพวกเขาเองก็ถือเป็นบริษัทในระบบ พอออกนอกพื้นที่ควบคุมของสหภาพก็กลายเป็นโจรสลัดไปเลย บริษัทสำรวจจึงถูกเรียกว่าบริษัทปล้นสะดมด้วย"

หลังจากเจ้านายอ้วนอธิบาย หยางป๋อก็เข้าใจดีขึ้น มันเหมือนกับบริษัทอีสต์อินเดียของโลกเก่าที่มีสิทธิ์ในการพัฒนาดาวเคราะห์ ก็เหมือนกับสิทธิ์ในการปกครองอาณานิคม

"ผมเข้าใจแล้วครับ" หยางป๋อพยักหน้าแสดงว่าเข้าใจหลังฟังคำอธิบายของเจ้านายอ้วน

เจ้านายอ้วนนำลูกน้องทั้งห้าออกมานอกเหมือง เงยหน้ามองท้องฟ้าอีกครั้ง ก็เห็นยานรบของกองกำลังกบฏกำลังหนี ส่วนยานรบของสหภาพไล่ตามไป

"จะไม่เกิดเรื่องผิดปกติอะไรใช่ไหมนะ?" หยางป๋อมองไปทางอวกาศสีดำทะมึนอีกด้าน รู้สึกว่าเรื่องนี้คงไม่ง่ายอย่างที่คิด ผู้บัญชาการกองกำลังกบฏไม่ใช่คนโง่ ในเมื่อรู้ว่าที่นี่มีกับดัก แล้วทำไมถึงเตรียมมาแค่นี้?

แต่หยางป๋อก็ไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับกำลังที่แท้จริงของกองกำลังกบฏเท่าไร บางทีพวกเขาอาจไม่แข็งแกร่งนักก็ได้

หยางป๋อและกลุ่มห้าคนเพิ่งออกมาจากเหมือง ผู้บัญชาการของกลุ่มที่สามก็ประกาศผ่านช่องสื่อสารสาธารณะว่า "ตอนนี้ ผมขอประกาศในนามของบริษัทสำรวจซานอี้ว่า บริษัทของเราได้รับสิทธิ์ในการสำรวจและพัฒนาดาวเคราะห์ดวงนี้แล้ว ก้อนหินทุกก้อนบนดาวเคราะห์นี้ล้วนเป็นของบริษัทเรา จึงขอให้ทุกท่านอย่าได้เข้าไปในเหมืองอีก ไม่เช่นนั้นทางบริษัทจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด!"

เจ้านายอ้วนตอบกลับในช่องสื่อสารสาธารณะว่า "บริษัทอันจื๋อเจี๋ยของเราเป็นบริษัทที่มีความรับผิดชอบและเคารพกฎหมาย ผมขอรับประกันในนามของบริษัทว่า จะไม่ให้พนักงานของบริษัทเข้าไปในเหมืองอีก"

ประธานสมาคมนักล่าเงินรางวัลได้ยินคำพูดของเจ้านายอ้วน ในใจก็บ่นว่า ไอ้หมอนี่ไม่รู้ว่ารับอะไรมาเยอะแค่ไหน แต่พูดจาฟังดูดีซะจริงๆ

หุ่นยนต์ 3 ตัวของสมาคมนักล่าเงินรางวัลและเชลยกองกำลังกบฏก็ถูกนำออกมาจากเหมือง

ยานรบรุ่นดัดแปลงลำหนึ่งค่อยๆ ร่อนลงมา เมื่อถึงระยะที่เหมาะสม ทุกคนก็เห็นว่ายานลำนี้ดูเหมือนยานขนส่งที่ถูกดัดแปลง ยาวประมาณ 1,000 เมตร กว้างสุดประมาณ 300 เมตร สูงประมาณ 50 เมตร

โดยทั่วไป ยานรบที่สามารถลงจอดบนดาวเคราะห์ได้จะมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก ถึงแม้เทคโนโลยีต้านแรงโน้มถ่วงของโลกนี้จะก้าวหน้า แต่การใช้พลังงานของมันก็สูงมาก นอกจากนี้ หากยานรบขนาดใหญ่ต้องการลงจอดบนดาวเคราะห์ มวลของโครงสร้างตัวยานเองก็จะเพิ่มขึ้น เพราะต้องการความแข็งแรงทนทานมากขึ้น

การเพิ่มขึ้นของมวลก็จะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของการใช้พลังงานระบบต้านแรงโน้มถ่วงอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ยานขนส่งดัดแปลงของบริษัทสำรวจเหล่านี้ จัดเป็นยานรบประเภทที่เน้นอาวุธยุทโธปกรณ์

ยานขนส่งติดอาวุธก็ยังคงเป็นยานขนส่งอยู่ดี แต่ยานดัดแปลงประเภทนี้ถือเป็นยานรบ ซึ่งต้องมั่นใจว่ามีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่เพียงพอเป็นอันดับแรก

"หัวหน้า ผมรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ ผู้บัญชาการกองกำลังกบฏดูเหมือนจะรู้ว่าที่นี่เป็นกับดัก แล้วตอนนี้ก็หนีไปแบบนี้เลยเหรอ?" หยางป๋อพูดขึ้นในช่องสื่อสารของกลุ่มห้าคน

"ฉันก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนกัน กองกำลังกบฏแอบซ่อนยานรบมากมายไว้บนดาวเคราะห์นี้ แสดงว่าพวกเขาคาดการณ์ถึงผลลัพธ์แบบนี้ไว้แล้ว" เจ้านายอ้วนก็พูดขึ้นในช่องสื่อสาร แสดงความเห็นด้วยกับคำพูดของหยางป๋อ

โจวเจิ้งก็พูดเสริม "ผมก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจเหมือนกัน กองกำลังกบฏคงยังมีไม้ตายอยู่"

"และทุกครั้งที่กองกำลังกบฏต่อสู้กับสหภาพก็จะสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย จนกว่าจะถึงจุดที่อยู่ไม่ไหวจริงๆ แล้วค่อยถอย แต่ครั้งนี้พวกเขาหนีไปอย่างประหลาดๆ"

"ผู้บัญชาการยานของสหภาพเองก็คงรู้เรื่องนี้ดี พวกเขาไล่ตามไปก็คงมีไม้ตายเหมือนกัน" อู๋ปิงพูดขึ้นในอีกมุมมองหนึ่ง

"อันนี้ก็ไม่แน่หรอก ผู้บัญชาการยานบางคนของสหภาพเป็นแค่พวกทหารกระดาษ หลายสิบปีแล้วที่ไม่เคยรบสักครั้ง ยานรบลำนี้ดูแล้วก็ไม่ใช่ยานหลักของกองยาน"

"พวกเรารู้ข้อมูลน้อยเกินไป แต่ในเมื่อสหภาพเป็นฝ่ายวางแผน ก็ไม่น่าจะมีอะไรผิดพลาด!"

"อย่าพูดถึงสหภาพเลย หลายปีผ่านไปกองกำลังกบฏก็ยังไม่สามารถกำจัดได้ แถมยิ่งเข้มงวดกับพวกเรามากขึ้น ระบบป้องกันดาวเคราะห์ทันสมัยขึ้น แต่กลับใช้กับคนบนดาวเคราะห์ ไม่ได้ใช้ป้องกันภัยคุกคามจากอวกาศเลย"

"มีคนบอกว่าในที่ประชุมของสภาสหภาพ ข่าวหลุดออกมาก่อนที่การประชุมจะจบซะอีก" หยางป๋อฟังสมาชิกในกลุ่มพูดคุยกันแล้วยิ่งรู้สึกแปลกใจ

"พวกเราหลบให้ไกลๆ หน่อยเถอะ" เมื่อได้ฟังแบบนี้ เจ้านายอ้วนก็ไม่มั่นใจ จึงบอกให้ทุกคนหลบออกไปให้ไกลๆ

กลุ่มห้าคนของเจ้านายอ้วนจึงหลบไปที่ไกลๆ ส่วนคนอื่นๆ ที่กำลังมองยานของบริษัทซานอี้ลงจอดก็พากันสงสัย

อย่างไรก็ตาม สมาชิกบางส่วนของสมาคมนักล่าเงินรางวัลก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ จึงรีบหลบออกไปให้ไกลๆ เช่นกัน

อีกทั้งชื่อเสียงของบริษัทสำรวจก็ไม่ค่อยดีนัก เพราะพอออกนอกการควบคุมของสหภาพ พวกเขาส่วนใหญ่ก็กลายเป็นโจรสลัดไปเลย

จังหวะนั้น เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นในช่องสื่อสารสาธารณะ "พวกเราคือบริษัทสำรวจซานอี้ บริษัทเราได้รับสิทธิ์ในการพัฒนาดาวเคราะห์ดวงนี้แล้ว ขอให้ทุกคนออกไปจากที่นี่"

"ครั้งนี้ทางเราจะเก็บค่าบริการ หนึ่งล้านเครดิตต่อคนเพื่อส่งพวกคุณไปดาวบริหารที่ใกล้ที่สุด หรือพาไปที่เส้นทางเดินยานที่ใกล้ที่สุดเพื่อรอยานขนส่ง"

"หากไม่ยอมออกไป ผลที่ตามมาก็ต้องรับผิดชอบเอง!"

(จบบท)