ตอนที่ 50

บทที่ 50 ทิศทางใหม่ของการควบคุมคลื่นเสียง

มันแตกต่างออกไป ตอนนี้หยางป๋อรู้สึกได้แล้วว่า ผู้กลายพันธุ์กับผู้อยู่อาศัยธรรมดาไม่เหมือนกันเลย

"ศิลปะการต่อสู้โบราณอะไรนะ ยาเสริมพันธุกรรมอะไรนะ ต่อหน้าฉันล้สนเป็นขยะ"

"ต่อสู้ก็ต้องเร็ว โหดเหี้ยม แม่นยำ ถ้าวันหนึ่งความเร็วของฉันเร็วจนอาวุธเทคโนโลยีล็อกไม่ทัน ก็จะไม่มีใครสู้ได้"

"แต่ดูเหมือนความสามารถล่องหนของฉันก็มีความสามารถแบบนี้"

ชาติที่แล้วหยางป๋อเก็บกดมาก ชาติใหม่นี้จึงปรารถนาพลังอย่างแรงกล้า เขาบีบกำปั้น ไม่รู้ว่าพละกำลังมหาศาลเพียงใด แต่ถ้าสามารถกำวัตถุโลหะแข็งๆ ให้เป็นแป้งโดได้ ต้องเป็นพลังที่ไม่ธรรมดาแน่ๆ

แต่สำคัญกว่านั้นคือ ไม่ใช่แค่พละกำลัง แม้แต่ผิวหนัง กล้ามเนื้อ กระดูก ตอนที่กำวัตถุโลหะก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดใดๆ เหมือนกำดินน้ำมันอย่างเดียว

หยางป๋อยืนอยู่หน้ากระจก คนในกระจกคือตัวเขาในชาติที่แล้ว ความสูง 1.70 เมตร ชายวัยกลางคนอ้วนพีท้องป่อง เพราะชอบดื่มจนเมา

"ยังคงดูดีที่สุด" หยางป๋อมองตัวเองในชาติที่แล้วแล้วถอนหายใจ สกิลการอำพรางถึงระดับนี้แล้ว สามารถปรับโครงสร้างกระดูกทั่วร่าง รวมทั้งควบคุมความสูงและส่วนต่างๆของร่างกายได้ด้วย...แหะๆ

"จะคิดวิธีอะไรดีนะ เพื่อออกจากที่อันตรายนี่น่ะ?" หยางป๋อกลับสู่หน้าตาเดิม มองเครื่องบินรบตรวจการณ์บนท้องฟ้า

ถ้ามีเจ้านี่อยู่ พลังส่วนบุคคลถ้าไม่ถึงระดับ S ในตำนานก็ไม่มีทางสู้ได้ ต้องถูกกำจัดเป็นเพียงเค้กชิ้นเดียว

"ถ้ามีการล่องหน ก็น่าจะหนีไปได้อย่างแนบเนียน แต่แผนต่อไปคือจะไปที่ไหนดีล่ะ" หยางป๋อมึนงงเล็กน้อย เหมือนตอนที่เขาออกไปทำงานครั้งแรก ไม่รู้ว่าจะเจออะไร ต้องเผชิญหน้ากับสิ่งใดบ้าง

หลังจากส่ายหัวเล็กน้อย หยางป๋อก็เริ่มฝึกฝนพลังของตัวเอง โดยวิดพื้น 500 ครั้งในรวดเดียว เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

"จะควบคุมพลังของตัวเองได้อย่างแม่นยำได้ยังไงนะ?" หยางป๋อครุ่นคิด แต่ก็ยังไม่นึกออก

ครั้งที่แล้วตอนหยางป๋อออกไป ได้เจอหลี่ไอตั๋ว ดังนั้นครั้งนี้เขาจึงสวมหน้ากาก โลกนี้มากกว่าครึ่งสวมเจ้านี่กัน ผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่มีโรคกลัวการเข้าสังคม เพราะไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์ แต่หยางป๋อครั้งที่แล้วไม่ได้สวม เพราะในชาติที่แล้วไม่มีนิสัยแบบนั้น

เดินเล่นออกไปข้างนอก เห็นหุ่นยนต์เฝ้าระวังอยู่ไกลๆ ก็รีบหลบ ไม่รู้ว่ากลุ่มหงเป่ยจวี่ปล่อยของอะไรออกมาบ้างใต้ดิน แต่คิดว่าต้องเป็นของไม่ดีแน่ๆ ทำให้ต้องเก็บกวาดอยู่ตลอด

ถ้าไม่มีสิ่งรบกวน ส่วนใหญ่งานต่างๆก็จะให้หุ่นยนต์ทำ บางครั้งถ้าต้องควบคุมเป็นพิเศษ ก็จะให้คนควบคุมระยะไกล

ที่หุ่นยนต์สงครามต้องให้คนควบคุม เพราะสถานการณ์ที่ต้องเผชิญซับซ้อนกว่างานเหล่านี้มาก

"เจ้านาย" วันนี้ตอนหยางป๋อออกไป บนรถประจำทางแทบไม่มีคน เขาได้รับอีเมลจากหลิวจื๋อเจี๋ยให้มาที่บริษัท

หลิวจื๋อเจี๋ยนวดขมับ แล้วถามขึ้นมา "หยางป๋อ ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง รู้สึกดีขึ้นรึยัง?"

"ขอบคุณเจ้านาย ดีขึ้นมากแล้วครับ" หยางป๋อไม่รู้ว่าหลิวจื๋อเจี๋ยเรียกเขามาทำไม

หลิวจื๋อเจี๋ยถอนหายใจ แล้วพูดว่า "เพราะภัยคุกคามจากกลุ่มหงเป่ยจวี่ ดาวเครราะห์ทั้งใบเลยต้องเพิ่มการเฝ้าระวัง รู้มั้ยว่าช่วงนี้ ราคาที่อยู่อาศัยตกฮวบมาก พนักงานหลายคนเสียหายย่อยยับ มีพนักงานหายตัวไปหลายคนด้วย ตอนนี้บริษัทกำลังเผชิญกับอุปสรรค"

"เจ้านาย คุณจะไม่ทำงานนี้แล้วเหรอ จะเลิกสัญญากับผมหรือเปล่า ผมไม่มีปัญหานะ" หยางป๋อคิดว่าหลิวจื๋อเจี๋ยจะไม่ทำแล้ว เลยพูดอย่างนั้น

หลิวจื๋อเจี๋ยส่ายหัวพูดว่า "ดาวเครราะห์นี้ไม่ปลอดภัยแล้ว องค์กรหัวรุนแรงอย่างหงเป่ยจวี่ ไม่รู้จะแก้แค้นบ้าคลั่งตอนไหน ที่ร้ายแรงที่สุดของพวกเขาคือ เคยปล่อยสารอันตรายทำให้ประชากรครึ่งดาวเสียชีวิต"

"อาา..." หยางป๋อเชื่อเต็มที่ว่ากลุ่มหงเป่ยจวี่ทำได้ พวกนี้สมองมีปัญหาจริงๆ

หลิวจื๋อเจี๋ยพูดต่ออีกว่า "ดังนั้นฉันเลยมีความคิดว่า อยากออกจากดาวเครราะห์นี้ไปตั้งหลักที่อื่น บริษัทใหญ่ก็ตกลงในหลักการแล้ว แต่ว่าจะไปที่ไหนกันแน่ยังต้องรอ วันนี้ฉันเรียกนายมาก็เพื่ออยากถามความคิดนาย"

"ถ้านายยินดีมากับฉัน พอไปถึงที่แล้ว บริษัทจะให้ยาเสริมพันธุกรรมหรือวิชาลับสักครั้ง โดยไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม"

หยางป๋อได้ยินแบบนั้นก็ตื่นเต้น ไอ้อ้วนนี่คงสัมผัสถึงอันตรายอะไรสักอย่างแล้วแน่ๆ ถึงได้จะหนีแบบนี้

"เรื่องนี้ผมขอกลับไปคิดดูก่อนนะครับ" หยางป๋อไม่ได้ตกลงทันที เพราะไม่คิดว่าหลิวจื๋อเจี๋ยจะถามแบบนี้

หลิวจื๋อเจี๋ยพยักหน้า "ได้สิ ตอนนี้เราก็ยังไปไม่ได้อยู่ดี"

"เจ้านาย มีอะไรอีกมั้ยครับ?" หยางป๋อได้ยินหลิวจื๋อเจี๋ยตอบอย่างนั้นก็มองหน้าหลิวจื๋อเจี๋ยถาม

หลิวจื๋อเจี๋ยมองแผ่นหลังหยางป๋อ แล้วนวดหน้าผาก ท่าทางหยางป๋อไม่อยากไปดาวเครราะห์อื่นเลย

และแน่นอนว่าดาวเคราะห์ทางการปกครองทุกดวงไม่ยอมให้ประชากรลดลงมากๆ อย่างเด็ดขาด ไม่งั้นข้อมูลของนักการเมืองก็จะดูไม่ดี การจะหนีไปอย่างราบรื่นก็ต้องพยายามอีกสักหน่อย

ถึงแม้จะมีโรงงานทำเด็กทารก แต่ก็ต้องใช้เวลาสักพัก

หยางป๋อเดินไป ในใจก็คิดว่า "จะใช้คลื่นเสียงทำลายล้างได้มั้ยนะ?"

หยางป๋อไม่ได้ขึ้นรถประจำทาง แต่เดินเล่นช้าๆ ครั้งนี้เขาสวมหน้ากากไป เมื่อก่อนหยางป๋อมองข้ามเรื่องนี้ไป แต่วันนี้เขาตั้งใจจะไปร้านค้าอาวุธใกล้ๆ เป็นร้านขายอาวุธพลังงานของผู้กลายพันธุ์

ดูแล้วร้านก็เพิ่งเปิดวันนี้เท่านั้น

เดินไปเรื่อยๆ หยางป๋อก็ทดลองใช้การควบคุมคลื่นเสียงของตัวเอง

แล้วหยางป๋อก็นึกอะไรขึ้นมาได้ เสียงฝีเท้า?

การสำรวจน้ำมันบนโลก ไม่ใช่ใช้คลื่นกระแทกจากการระเบิดในการตรวจจับหรอกหรือ?

ตัวเองก็ทำได้แน่ๆ ดังนั้นหยางป๋อจึงทำเสียงฝีเท้าดังขึ้นมาหน่อย พร้อมๆกับรับรู้เสียงฝีเท้าที่สะท้อนกลับมาจากพื้นดิน

จริงๆแล้วคลื่นเสียงสามารถส่งผ่านไปได้ไกลมาก แค่สัตว์แต่ละชนิดมีการได้ยินที่แตกต่างกัน ระยะการได้ยินก็เลยต่างกัน คนที่อยู่ห่างออกไป 100 เมตรตะโกนเรียกเรา เราก็ยังได้ยิน แต่ถ้าห่างออกไป 500 เมตร เราก็จะไม่ได้ยิน แค่เราไม่ได้ยินเท่านั้น แต่คลื่นเสียงยังคงอยู่

"3 เมตร?" หยางป๋อค่อยๆรับรู้ พบว่าตอนนี้ลึกใต้พื้นดินเขาทำได้มากสุด 3 เมตร ลึกกว่านั้นภาพก็จะเริ่มเบลอ

"ถ้าใช้คลื่นเสียงทำลายของที่อยู่ลึก 3 เมตรใต้ดินได้ละก็...!" ตาหยางป๋อเป็นประกาย กลับไปบ้านเขาจะลองทำดู ถ้าคลื่นเสียงสามารถส่งลงไป 3 เมตรแล้วทำลายสิ่งใต้ดินได้ นี่จะมีประโยชน์มากๆเลย

หยางป๋อทดลองอย่างต่อเนื่อง ตอนแรกเสียงฝีเท้ายังดังอยู่บ้าง แต่ภายหลังก็ปกติ อย่างไรก็ตาม เขายังไม่ได้ลองทำลายอะไรใต้ดินดู เพราะอาจจะทำให้บางคนสังเกตเห็น

อาวุธพลังงาน สถานที่ขายอาวุธพลังงาน ไม่เหมือนที่หยางป๋อคิดไว้เลย มองไปแล้วเหมือนร้านขายอุปกรณ์ช่างบนโลก

ในร้านเต็มไปด้วยอาวุธพลังงานมากมาย หลายรูปแบบ รู้สึกเหมือนกองขยะไปเลย

"ลูกค้าเลือกสินค้าเอง ขายแล้วไม่รับคืน โปรดเลือกอย่างรอบคอบ" คนหนึ่งสวมหมวกกันน็อคเสมือนจริง มีถุงมือควบคุมเสมือนจริงอยู่ในมือ ไม่รู้ว่ากำลังเล่นเกมอะไร พอเห็นมีคนเข้ามาในร้านก็พูดขึ้น

หยางป๋อรู้สึกขัดใจอยู่บ้าง เลือกเอง? แล้วจะเลือกยังไง?

(จบบท)