ตอนที่ 129

บทที่ 129 ตั้งแผง

"ใช่แล้ว"

"ไม่ทันได้ตั้งตัวเลย ระบบเตือนภัยสูงสุดก็ทำงานแล้ว พวกเราเข้าห้องปลอดภัยแล้วก็ถามกันเอง ไม่มีใครไปยุ่งกับสิ่งนั้น"

"ตอนนั้นไม่มีใครอยู่ในห้องนั้น อีกอย่างตรงนั้นเป็นพื้นที่แจ้งเตือนระดับสูงสุด พวกเราทำตามขั้นตอนเข้าห้องปลอดภัยภายใน 30 วินาที หลังจากนั้นห้องปลอดภัยก็ปิดล็อคตาย" ผู้รับผิดชอบฐานผลิตหุ่นยนต์ชีวภาพพูดขึ้น

ผู้รับผิดชอบองค์กรฮุยจิ่นรู้ดีว่าสถานการณ์เป็นอย่างไรตอนช่วยคนพวกนี้ ประตูห้องปลอดภัยแทบจะถูกทำลาย ส่วนอย่างอื่นนั้น ไม่ทิ้งแม้แต่กระดาษแผ่นเดียว ไม่มีอะไรเลย

แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เผ่าผู้กลายพันธุ์ส่วนใหญ่ขาดแคลนเสบียง ต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาด แถมยังโดนสหภาพกดดันอีก ดังนั้นทรัพยากรทุกอย่างจึงมีค่ามาก

"พวกแกอยู่ที่นี่ไปก่อน เรื่องครั้งนี้มีอะไรบางอย่างผิดปกติ" ผู้รับผิดชอบองค์กรฮุยจิ่นก็ปวดหัวไม่น้อย

ห้องพลังงานหลักของฐานสหภาพถูกทำลาย นี่เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้มาก่อน แถมยังมีคนเอาหุ่นยนต์ติดตัวไปอีก

ผู้รับผิดชอบองค์กรฮุยจิ่นรู้สึกราวกับมีมือดำกำลังคอยจ้องจับผิดตน ทั้งๆที่องค์กรฮุยจิ่นในฐานะองค์กรข่าวกรองที่ใหญ่ที่สุด มีอิทธิพลและเครือข่ายกว้างขวาง แต่ความผิดพลาดและเหตุไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็ทำให้ผู้รับผิดชอบคนนี้รู้สึกไม่สบายใจ

เริ่มจากกองเรือโจรสลัดเกิดเหตุไม่คาดคิด มาถึงที่นี่แล้วไม่พบกองเรือหลักของดาว แล้วพอค้นเจอ กลับมีออกมาอีกสองลำ ในนั้นมีกองเรือหนึ่งกองด้วย

จะปลอบใจพวกผู้กลายพันธุ์พวกนี้ยังไงดี ครั้งนี้ที่จัดงานแลกเปลี่ยนสมบัติขึ้นมา ก็เพื่อจะให้ทุกฝ่ายมานั่งคุยกัน โชคดีที่ในเผ่าของผู้กลายพันธุ์มีสาขาขององค์กรในสหภาพอยู่ไม่น้อย เลยพอจะรู้ความต้องการของผู้กลายพันธุ์ล่วงหน้าได้

ที่ฐานเพาะเลี้ยงหุ่นยนต์ชีวภาพของบริษัทหุ่นยนต์ถูกโจมตี นี่ก็ค่อนข้างผิดปกติ ฐานแบบนี้เลือกที่ตั้งที่มีลักษณะทางภูมิศาสตร์พิเศษ ถึงผู้กลายพันธุ์จะขุดอุโมงค์เก่ง ก็ไม่น่าจะขุดเข้าไปได้

ข่าวการโจมตีฐานวิจัยหุ่นยนต์ชีวภาพของบริษัทหุ่นยนต์แพร่กระจายออกไปแล้ว ตอนนี้องค์กรต่างๆก็ติดต่อบริษัทแม่ไม่ได้ ทุกคนต่างวิตกกังวล คนที่ไปช่วยเหลือกลับมาเล่าว่าที่นั่นมีสภาพย่ำแย่แค่ไหน

ระหว่างเผ่าผู้กลายพันธุ์ก็ฆ่าฟันกันเอง นี่ยังจะไปเผชิญหน้ากับองค์กรอื่นอีกหรือ ต่อให้สหภาพจะมีหน่วยงานหรือองค์กรมาตั้งสาขาของผู้กลายพันธุ์อยู่ในที่นี้ แต่ก็มีสัดส่วนไม่มากนัก

เพราะคนจำนวนไม่น้อยที่บริษัทส่งตัวมา พอมาดูดี เอ้า เป็นผู้นำที่นี่สบายดีออก ทั้งมีของกินของใช้ ผู้หญิงก็เยอะ ยังพัฒนาพลังได้อีก แล้วบริษัทอะไรนั่นไม่รู้

ยังมีพวกที่แสร้งทำเป็นทำตามแต่ลับหลังก็คิดต่าง ดังนั้นบริษัทใหญ่ๆจึงติดต่อกับองค์กรฮุยจิ่น ก็เพื่อจะได้รู้ความเคลื่อนไหวของคนของตัวเองที่นี่

แน่นอนว่าองค์กรฮุยจิ่นก็มีการคิดค่าบริการตามที่ให้บริการ

หยางป๋อเดินเล่นไปทั่ว การที่ผู้กลายพันธุ์กับมนุษย์อยู่ที่นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย เขาสังเกตเห็นร่องรอยบางอย่างอย่างรวดเร็ว

นั่นก็คือมนุษย์แทบจะเข้าออกอยู่ที่เดียว และยังมีจำนวนไม่น้อย ยังมีหุ่นยนต์คุ้มกันอีก แม้จะเป็นหุ่นยนต์รุ่นเก่ารุ่นที่ 7-8 แต่ในที่แบบนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นไพ่ตายแล้ว

"อืม" เว้นเสียแต่ผู้กลายพันธุ์จะพุ่งเข้าใส่โดยไม่กลัวตาย แถมยังเห็นว่าด้านในทางเข้าออกของอีกฝ่ายยังมีโลหะด้วย ความปลอดภัยคงไม่มีปัญหา

หยางป๋อหาที่แล้วก็เอาของที่ห่อด้วยหนังสัตว์ออกมา ตรงนี้มองเห็นทางเข้าออกของมนุษย์ได้พอดี เขาตั้งใจจะดูว่ามีคนเข้าออกกี่คน

ข้างๆหยางป๋อก็มีผู้กลายพันธุ์ที่มาแบบคนเดียวเหมือนกัน พวกนี้สายตาดุดัน ท่าทางเป็นพวกเดินทางคนเดียวล้วนๆ ทั้งตัวสวมใส่ชุดเกราะรบจนดูไม่ออกว่าหน้าตาเป็นอย่างไร แต่มีคนหนึ่งมีมือเป็นกรงเล็บ แถมกรงเล็บสีดำสนิท ท่าทางน่าจะมีพิษ ขอเรียกมันชั่วคราวว่า กรงเล็บดำ

อีกด้านหนึ่งเป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างอรชร ผู้หญิงคนนี้ใส่เกราะหนังชุดหนึ่ง ฝีมือการทำยังดีมากๆ แบบนี้ก็แปลกอยู่นะ

ชุดเกราะรบบนตัวหยางป๋อนั้น ตอนแรกเขาก็คิดว่าเป็นเกราะหนังเหมือนกัน แต่พออยู่ในมือถึงได้รู้ว่าไม่ใช่

ส่วนเกราะหนังชุดเกราะรบของจริงนั้น ก็มาจากการลอกหนังสัตว์กลายพันธุ์ จริงๆแล้วหยางป๋อก็เอาหนังงูใหญ่ที่ตัวเองฆ่ามาทำเป็นชุดเกราะรบได้ บางทีเกราะอาจจะมีโล่ป้องกันพลังงานไฟในตัวด้วย แต่น่าเสียดายที่เขามีชุดเกราะรบแล้ว แถมเขายังใช้พลังควบคุมโลหะเปลี่ยนรูปร่างได้

มองไม่เห็นผิวของผู้หญิงคนนี้เลย ทั้งตัวถูกห่อหุ้มมิดชิด ดังนั้นจะเป็นผู้หญิงจริงหรือเปล่าก็ยากจะพูด เพศของผู้กลายพันธุ์น่ะ หยางป๋อยังสงสัยอยู่เลย

ผู้หญิงคนนี้เห็นแค่รูจมูกกับดวงตาเท่านั้น หยางป๋อจึงขอเรียกเธอชั่วคราวว่า หญิงสาวรูจมูก ส่วนที่เหลือทั้งตัวถูกชุดเกราะห่อหุ้มมิดชิด บนหลังยังแบกดาบยาวอีกสองเล่ม ดูท่าคันดาบจะทำมาจากฟันของสัตว์ประหลาดบางชนิด

ตรงหน้าหญิงสาวรูจมูกบนแผ่นหนังสัตว์มีหินพลังงานวางอยู่สองสามก้อน แต่หินพลังงานพวกนี้เป็นสีฟ้าทั้งหมด อันใหญ่มีขนาดเท่าลูกฟุตบอล อันเล็กก็ขนาดเท่ากำปั้น แถมยังมีก้อนหินสีดำขลับแนบอยู่ด้วย

นี่เป็นหินพลังงานเฉพาะธาตุ ไม่เหมือนกับหินใสที่หยางป๋อเอามาจากฐาน หินใสนั้นไม่มีธาตุอะไร

ส่วนตรงหน้ากรงเล็บดำคือไข่ อันที่ใหญ่ที่สุดมีขนาดเท่าอ่างล้างหน้า อันเล็กก็ยังมีขนาดเท่าลูกฟุตบอล

หยางป๋อนำของของตัวเองออกมา พอสองคนนั้นเห็นก็หันหน้าหนีไปเลย

ลูกค้าหลักที่นี่คือพวกมนุษย์ พวกมนุษย์ก็แค่มาดูๆก่อน เพราะงานแลกเปลี่ยนสมบัติมีเพียง 10 วัน พวกมนุษย์มักจะยังไม่ซื้อในช่วงวันแรกๆ เพื่อรอให้ถึงช่วงหลังแล้วค่อยซื้อเพื่อกดราคา ก็เพราะของที่พวกผู้กลายพันธุ์นำมาล้วนแล้วแต่เป็นของที่ต้องการแลกเปลี่ยน

ผู้กลายพันธุ์ก็รู้ แต่จะทำอย่างไรได้ล่ะ อย่างไรก็ตาม ฝั่งหยางป๋อเป็นข้อยกเว้น มีชายหัวล้านคนหนึ่ง สวมแต่ชุดเกราะ ไม่ได้ใส่หมวกกันน็อค เดินมาข้างๆหยางป๋อ พิจารณาอย่างละเอียด แล้วก็ถามว่า "อยากแลกอะไรล่ะ"

"แกมีอะไรบ้าง" หยางป๋อมองหัวล้าน ในใจหวาดระแวง แต่ก็ยังใช้ภาษาของสหภาพถามออกไป

"ของดีของฉันมีเยอะแยะ ชุดเกราะ อาวุธพลังงาน อาวุธเลเซอร์ แถมยังมียารบกวนพันธุกรรมอีกหน่อย" หัวล้านพูด

หยางป๋อไม่รู้ว่ายารบกวนพันธุกรรมคืออะไร แต่ก็พูดอย่างเรียบๆว่า "ฉันอยากดูอีกหน่อย"

"ได้" หัวล้านพาคนเดินจากไป พวกคนที่ตามมาด้วยนั้นมองยังไงก็ไม่เหมือนคนดีทั้งนั้น

แน่นอนอยู่แล้ว หยางป๋อมองว่าที่นี่ทุกคน ทั้งคนทั้งผู้กลายพันธุ์ ไม่ใช่คนดีเลยสักคน มีแต่ตัวเขาคนเดียวนั่นแหละที่เป็นคนดี

ไม่นานก็มีตาเดียวอีกคนเดินมา หยางป๋อยิ่งระแวงมากขึ้น คิดดูสิว่าในยุคที่วิทยาศาสตร์พันธุกรรมเจริญรุ่งเรืองขนาดนี้ ยังใส่ตาเทียมกันไม่ได้ นี่ชัดเจนว่าเป็นผู้แข็งแกร่ง เพราะดวงตาที่เพาะเลี้ยงออกมานั้นเป็นแค่ของธรรมดา ทนรับพลังของผู้แข็งแกร่งไม่ไหว ใส่เข้าไปก็ตายได้

แน่นอนว่าอาจจะเป็นเพราะพวกผู้แข็งแกร่งทางพันธุกรรมเหล่านี้ไม่ยอมให้องค์กรตรวจสอบตัวเอง องค์กรก็มีความสามารถระดับหนึ่งที่จะทำให้พวกเขาฟื้นฟูได้ แต่ก่อนหน้านั้นต้องศึกษาตัวพวกเขาโดยละเอียดก่อน ถึงจะสามารถเพาะเลี้ยงสิ่งที่อาจจะถูกต้องเหมาะสมออกมาได้ ทหารทั่วไปของสหภาพหากได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังจากให้เวลาสักระยะหนึ่งก็จะฟื้นฟูได้

"ไอ้หนูนี่มาไม่สุจริตแน่ๆ" หยางป๋อกับตาเดียวต่างประเมินกันและกัน ในใจต่างก็บ่นพึมพำ

หลายคนไม่รู้จักภาชนะที่หยางป๋อนำออกมา แต่ก็มีบางส่วนที่รู้จัก นี่คือภาชนะสำหรับใส่แท่งพลังงาน บนนั้นยังมีหมายเลขกำกับอีก น่าเสียดายที่โดนลบทิ้งไปหมดแล้ว

แค่เห็นก็รู้แล้วล่ะว่า ไอ้นี่มันเป็นผู้เชี่ยวชาญชัดๆ

"อยากแลกอะไร" ตาเดียวถามขึ้นมาประโยคหนึ่ง

"แกมีอะไรบ้าง" หยางป๋อก็ยังใช้คำถามเดิมตอบกลับไป

"ที่นี่มีอะไร ฉันก็มีหมดแหละ" ตาเดียวตอบแบบหยิ่งผยอง

หยางป๋อส่ายหัว "ฉันยังไม่เห็นของจริงของแกเลย แกจะอวดอ้างยังไงก็เชิญตามสบาย"

"ดี รอให้ฉันเอาของออกมาให้ดูแล้วกัน" ตาเดียวพยักหน้าพูด

"ตกลง" หยางป๋อพยักหน้า ก็ตกลงด้วย

ชัดเจนว่าลูกค้าสองกลุ่มนี้ไม่ธรรมดา พอมาดูของข้างหน้าหยางป๋อ ก็ดึงดูดความสนใจของคนอีกหลายคนในทันที มีทั้งพวกมนุษย์และผู้กลายพันธุ์

พอได้รับข่าว ราชาหน้าเสือก็รีบมา สายตาเป็นประกายแล้วก็ถามว่า "โอ้โห พี่น้อง เก่งนี่หว่า ของแบบนี้ยังหาได้ คุยกันข้างนอกดีกว่ามั้ย"

(จบตอน)