บทที่ 175 เตรียมทำเรื่องใหญ่
นึกถึงตรงนี้ หยางป๋อก็ใช้ตัวตนของโรเบิร์ตส่งอีเมลไปหาบริษัทที่โรเบิร์ตทำงานอยู่ ใจความคือขอลางานประจำปี
หยางป๋อตรวจสอบกล่องจดหมายของโรเบิร์ต พบว่าไอ้หมอนี่ยังไม่ได้ลาพักร้อนประจำปีเลย พอดีลาไปหนึ่งเดือน ก็จะทำให้เขามีเวลามากพอจัดการเรื่องนี้
แล้วหยางป๋อก็ยังมีหลายเรื่องที่ต้องพิสูจน์อีก อย่างเช่นความสามารถที่จะเข้าถึงสิทธิ์ระบบหุ่นยนต์ได้อย่างง่ายดาย
แล้วจะสามารถใช้ในฐานะแฮกเกอร์ได้หรือเปล่านะ?
ตอนนี้องค์ประกอบของเครือข่าย โดยเฉพาะเครือข่ายข้อมูลภายในดาวเคราะห์ ส่วนใหญ่ก็เป็นเครือข่ายไฟฟ้าแสง
ตัวเขาเองมีทักษะพลังงานแสงและไฟฟ้าระดับปรมาจารย์ หากสามารถเข้าสู่ระบบเครือข่ายไฟฟ้าของดาวเคราะห์ได้ตามใจ งั้นบนดาวเคราะห์ดวงนี้ เขาอยากจะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้นเลยน่ะสิ?
ส่วนเครือข่ายการสื่อสารของสหภาพทั้งหมดนั้น หยางป๋อไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ มันเกี่ยวข้องกับระบบควอนตัมแบบอวกาศ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นอีกสาขาหนึ่ง
ตลอดมาหยางป๋อก็มีความคิดนี้อยู่ แต่ไม่เคยมีโอกาสได้ทดลอง เพราะไม่ได้อยู่บ้านตัวเอง
ตัวตนของโรเบิร์ตครั้งนี้ มีคุณค่ามากที่สุดอยู่ตรงนี้แหละ
สิ่งที่สหภาพเรียกว่าความเป็นส่วนตัวอะไรทำนองนั้น ในระดับนี้มันไม่มีความหมายใดๆเลย
"มีตัวตนแบบนี้เป็นของดีเลยนะ ต่อให้โดนจับได้ก็คงคิดว่าเป็นการแก้แค้นสหภาพขององค์กรฮุยจิ่น"
"แต่ตอนนี้ก็ไม่ต้องรีบทำเรื่องมั่วๆหรอก ยังไงการบุกรุกเครือข่ายแบบนี้ตัวเองก็ไม่เคยทำ ถ้าเรื่องเกิดใหญ่โต ตัวเราก็ยังจัดการไม่ได้" หยางป๋อรอจนผ่านการทดสอบเกมหุ่นยนต์ครั้งนี้ไปก่อน แล้วค่อยใช้ตัวตนของโรเบิร์ตลองทำดู
สิ่งที่ทำให้หยางป๋อแปลกใจคือ พอตกค่ำบริษัทยังส่งอีเมลตอบกลับมาอีก ยินยอมให้โรเบิร์ตลาพักร้อน แถมยังถามด้วยความเป็นห่วงว่าโรเบิร์ตต้องการไปพักผ่อนบนดาวเคราะห์ดวงอื่นหรือไม่? บริษัทสามารถออกค่าเดินทางไปกลับได้
หยางป๋อส่งอีเมลกลับไปทันที ขอบคุณบริษัทแล้วปฏิเสธไป แน่นอนว่า น้ำเสียงที่ใช้เลียนแบบมาจากตอนที่โรเบิร์ตเคยส่งอีเมล
ตอนแรกหยางป๋อตั้งใจว่าจะเอาของที่เข้าตาไปด้วยเลย แต่รู้สึกว่าเพิ่งกลับมา แล้วจะออกเรืออีกก็ดูไม่ค่อยสมจริงเท่าไหร่ เลยแอบกลับไปที่บ้านตัวเองเลยดีกว่า
ทางด้านกองทัพของสหภาพ บรรดานายพลในกองทัพกำลังดูแผนการที่กำลังจะปฏิบัติอย่างละเอียด แล้วก็ถามขึ้นว่า "พวกนายเลือกผู้เล่นเกมยังไงกัน?"
"ท่านนายพล เรามีเกณฑ์เลือกแค่สองอย่าง อย่างแรกคือต้องสามารถบังคับหุ่นยนต์รุ่นที่เก้าขึ้นไปได้ ผู้เล่นส่วนนี้ถึงจะมีโอกาสเป็นนักขับหุ่นยนต์ระดับสูงได้ แล้วในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนอย่างบนดาวพาโด นักขับระดับสูงก็จะมีอัตราชนะสูงกว่า เพราะจำนวนหุ่นยนต์ไร้คนขับของเราบนดาวพาโดมีจำนวนจำกัด" ผู้ที่รับผิดชอบเรื่องนี้เป็นพันเอก รีบอธิบายทันที
"อย่างที่สองคือ พวกเขาต้องมีเหรียญทองในเกมเพียงพอ คนที่สามารถทำเงินในเกมหุ่นยนต์ได้ ไม่ได้ต้องการแค่ทักษะเท่านั้น แต่ยังต้องการสมองที่ฉลาดด้วย บางครั้งทักษะเพียวๆไม่ได้บอกอะไร แต่ในสนามรบมันได้รับการพิสูจน์มากขึ้น"
"เคยมีนักขับหุ่นยนต์ระดับกลางคนหนึ่ง ใช้สภาพแวดล้อมในสนามรบล่าฆ่านักขับระดับสูงได้ถึงเจ็ดแปดคน นั่นก็เพียงพอจะแสดงให้เห็นแล้วว่าบนสนามรบ ทักษะมันไม่ได้เป็นตัวชี้ขาดทั้งหมด การใช้ปัจจัยแวดล้อมบนสนามรบให้เป็นประโยชน์ ถึงจะถือว่าเป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่สุด"
"การที่จะได้เหรียญทองเกมมากพอในเกมยากระดับนี้ มันก็บ่งบอกแล้วว่าสมองของเขาฉลาดมาก แถมตามเงื่อนไขการคัดเลือกก่อนหน้านี้ด้วย ผมเชื่อว่า 500 คนที่คัดมานี้จะสามารถทำภารกิจได้สำเร็จตามมาตรฐานที่กำหนด" พันเอกอธิบายต่อ
นายพลของกองทัพพยักหน้า แล้วถามต่อว่า "แผนการครั้งนี้จัดการยังไงล่ะ?"
"ครั้งนี้เราใช้ข้ออ้างว่าทดสอบภายใน ประกาศว่าเป็นการทดสอบภายในของการต่อสู้กลุ่มในเกมหุ่นยนต์" พันเอกตอบต่อไป
นายพลของกองทัพพยักหน้า "ส่วนเรื่องเสมือนจริงทำเสร็จยัง?"
"ท่านนายพล ได้โปรด ผมรับรองว่าไม่มีใครเชื่อมโยงการทดสอบภายในครั้งนี้เข้ากับการกบฏบนดาวพาโดได้หรอก" พันเอกพูดถึงว่าจะทำยังไงไม่ให้ผู้เล่นจำแนกได้ในส่วนของเกมเสมือนจริง
"งั้นก็ดี พวกนายฝั่งนั้นเตรียมตัวให้พร้อม พอเราเตรียมจบก็เริ่มปฏิบัติการได้เลย ต้องใช้ปฏิบัติการสายฟ้าฟาดเพื่อจัดการไอ้พวกหงเป่ยจวี่บนดาวพาโดให้หมด" นายพลของกองทัพให้นายพลท่านอื่นๆดูข้อมูลชุดนี้ ทุกคนก็เห็นด้วย
"ขอรับ!" พอได้ยินแบบนั้น พันเอกก็รีบไปปฏิบัติทันที
แน่นอนว่า หากทางกองทัพไม่ได้เตรียมอะไรไว้ งั้นเกมที่ทดสอบภายในก็เป็นแค่เกมเสมือนจริง จะไม่มีการควบคุมระยะไกลอะไร
พันเอกกลับมาฝ่ายของตัวเอง นี่เป็นแผนกลับที่เพิ่งตั้งขึ้นมาใหม่ รหัสเรียกอย่างเป็นทางการคือเคียว
นั่นก็แปลว่าเคียวเก็บวิญญาณนั่นแหละ ถ้าถูกหน่วยนี้จับตาเมื่อไหร่ คู่ต่อสู้ก็มีแต่ความตาย ไม่มีทางรอดแน่
"ทางกองทัพยังมีความกังวลอะไรอีกไหม? ทำไมยังต้องรออีก ทางเราก็กำหนดเวลาไว้ในเกมหุ่นยนต์แล้วนะ" พอพันเอกกลับมาที่ฝ่ายตัวเอง ก็เรียกลูกน้องทั้งเจ็ดแปดคนมารวมตัวกัน แจ้งผลการรายงานครั้งนี้ แล้วก็มีคนถามขึ้นมา
"ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องของกัปตันเรือรบหลัก ถ้าเขาไม่ยินยอม พวกเราก็ไม่มีทางเข้าไปในระบบของเรือรบหลักได้เลย ระบบคอมพิวเตอร์ควอนตัมของเรือรบหลักแต่ละลำล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว" ในเจ็ดแปดคนนี้ต่างเชี่ยวชาญคนละด้าน โดยคนหนึ่งพอดีเชี่ยวชาญเรื่องระบบคอมพิวเตอร์ควอนตัมประจำเรือรบ
ชายคนนั้นอธิบายต่อ "กัปตันเรือรบหลักแต่ละคนล้วนมีความสามารถสูงมาก ทางกองทัพก็แค่ตั้งค่าระบบพื้นฐานให้เรือรบแต่ละลำเท่านั้น ส่วนระบบหลังจากนั้น กัปตันจะปรับแต่งเองทั้งหมดตามสไตล์ของแต่ละคน"
"กัปตันของแต่ละเรือรบมีสไตล์การต่อสู้ไม่เหมือนกัน บางคนชอบใช้หุ่นยนต์ บางคนชอบใช้ยานรบ บางคนก็ชอบใช้ปืนเรือ"
"ตอนที่ดาวปีศาจเขียวโดนโจรสลัดโจมตีครั้งนี้ กัปตันของเรือรบก็แยกชิ้นส่วนทั้งลำ ใช้แต่ละหน่วยของเรือรบทำลายกองเรือโจรสลัด นี่ก็ถือเป็นสไตล์การต่อสู้อย่างหนึ่ง"
"ดังนั้น ถ้าให้ผมไปแฮกระบบ ผมขอไปแฮกระบบป้องกันของดาวบริหารยังจะดีกว่า ไม่อยากไปแฮกเรือรบหลักเลย เรือรบหลักบางลำมีระบบควบคุมหลายชั้นเลย"
พันเอกฟังแล้วก็พยักหน้า "ตอนนี้มีคนทุกประเภทจริงๆ การที่เราควบคุมระยะไกลฆ่าพวกหงเป่ยจวี่ครั้งนี้ ถ้าสภาเปิดเผยออกมาทีหลัง ก็ต้องมีคนสงสัยความสามารถในการควบคุมเรือรบของกัปตันแน่ๆ กัปตันอย่างน้อยก็ต้องเสียชื่อเสียง"
"ยังมีบางองค์กรหรืออะไรก็แล้วแต่ที่ได้รับทุนจากอีกสองประเทศด้วย ไม่แน่ว่าอาจจะออกมาก่อกวนก็ได้ ประท้วงอะไรทำนองนั้น ยังไงเรื่องครั้งนี้ต้องมีคนตายไม่น้อยแน่ๆ ถ้าพลเมืองที่ตายในเหตุการณ์ครั้งนี้เกินจำนวนที่กำหนดของสหภาพ สหภาพอาจจะต้องสอบสวนเรื่องนี้ด้วยก็ได้"
"สมมติว่าพวกนายเป็นกัปตัน เดิมทีเป็นความดีความชอบ แต่ตอนนี้อาจจะโดนสั่งพักงานและสอบสวน ถึงแม้มันจะเป็นแค่พิธีการ แต่ใครจะยอมกันล่ะ?" พันเอกพูดต่อ
"ผมรู้สึกว่าสังคมของเรามีปัญหานะ ทั้งที่ควรเป็นความดีความชอบ ทำไมสุดท้ายดันกลายเป็นต้องโดนสอบสวนด้วย?" มีคนได้ยินดังนั้นก็พูดอย่างไม่พอใจ
"เรื่องนี้ในหมู่พวกเราคุยกันก็ดี ทุกคนกลับไปทำงานกันได้แล้ว เตรียมฝังระบบควบคุมระยะไกลเข้าไปในหุ่นยนต์ นอกจากนั้นก็ปรับปรุงข้อมูลฝั่งเกมเสมือนจริงต่อไปด้วย" พันเอกก็แค่ยักไหล่ แล้วก็สั่งการต่อ
(จบบท)
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved