ตอนที่ 313

บทที่ 313 คนน่าสงสาร

"ดูเหมือนว่าหยางป๋อคนนี้จะมีความลับจริงๆ น้องสาวที่รัก แม้ว่าเธอจะไม่มีพรสวรรค์ แต่ก็ฉลาดมาก ถ้าหยางป๋อไม่มีคุณค่าเพียงพอ เธอคงไม่แต่งตัวแบบนี้" หวังมู่เสวียหันไปถามโจวรุ่ยแทน

โจวรุ่ยหัวเราะเบาๆ "พี่สาวที่รัก แม้ว่าหยางป๋อจะมีความลับบางอย่าง แต่พี่กำลังจะไปแล้ว นายพลระดับสูงของสหภาพอย่างพี่จะถูกส่งไปยังที่ห่างไกลที่สุดอย่างแน่นอน ก็ใครจะไปคิดว่าพี่จะมีผลงานยิ่งใหญ่ขนาดนี้"

"ถ้าไม่ส่งพี่ไปที่ห่างไกล แล้วพี่สร้างผลงานอีกจะทำยังไง?"

"และพี่ยังต้องเผชิญกับอันตรายหลายด้าน องค์กรฮุยจิ่น หงเป่ยจวี่ นายพลคนอื่นๆ ในกองทัพ สภา ตระกูลฝ่ายตรงข้าม และตระกูลของพี่เอง" โจวรุ่ยมองหวังมู่เสวียด้วยสีหน้าสนุกสนาน

หวังมู่เสวียหัวเราะเบาๆ "น้องสาวที่รัก ถ้าฉันดึงเธอเข้ามาในฝ่ายของฉันเอง เธอจะทำยังไง?"

โจวรุ่ยได้ยินคำพูดนี้แล้วยิ้มเล็กน้อย "ฉันไม่มีปัญหาอะไร แต่ผลลัพธ์ก็คือสมาคมนักล่าเงินรางวัลจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับพี่ และพันธมิตรของฉันอาจจะไม่พอใจด้วย ส่วนตัวฉันไม่เป็นไร อย่างมากก็แค่ออกจากสหภาพแล้วไปหาที่ใหม่เพื่อพัฒนาตัวเอง แต่ต้องพาหยางป๋อไปด้วย"

"งั้นเราแลกเปลี่ยนความลับกันไหม?" หวังมู่เสวียได้ยินคำพูดนี้แล้วรู้สึกหวาดระแวงต่อพันธมิตรของโจวรุ่ย คนที่สามารถควบคุมองค์กรฮุยจิ่นและองค์กรนักฆ่าได้อย่างง่ายดาย ต้องเป็นพวกที่คล้ายๆ กัน คนประเภทนี้ที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดเป็นคนที่รับมือยากมาก

"ไม่มีความลับอะไรหรอก พี่สาวคิดมากไปแล้ว" โจวรุ่ยปฏิเสธทันที

เหตุผลที่โจวรุ่ยปฏิเสธนั้นง่ายมาก นั่นคือตัวเองไม่มีข้อได้เปรียบอะไรเลยเมื่อเทียบกับพี่สาวคนนี้ หากปล่อยให้พี่สาวรู้ถึงพรสวรรค์ของหยางป๋อ ไม่ว่าจะเป็นชาติตระกูลหรือสภาวะส่วนตัวก็สามารถบดขยี้เธอได้

"ดูเหมือนหยางป๋อจะมีความลับจริงๆ ฉันจะไปคุยกับเจ้านายของเขา" หวังมู่เสวียไม่พอใจกับคำตอบของโจวรุ่ยมาก ถ้าโจวรุ่ยตอบว่าไม่แลกเปลี่ยน นั่นก็แปลว่ามีความลับ แต่โจวรุ่ยตอบว่าไม่มีความลับ

"นั่นเป็นอิสระของพี่" โจวรุ่ยก็สงสัยในใจเช่นกันว่าทำไมพี่สาวของเธอถึงเลือกที่จะหลบซ่อนทางฝั่งของหยางป๋อ หรือว่าเป็นเพราะป้อมปราการนี้?

โจวรุ่ยรู้เรื่องการสร้างป้อมปราการของหยางป๋อคร่าวๆ คงเป็นเพราะตกใจกับบางสิ่งบางอย่างจึงสร้างป้อมปราการแบบนี้ขึ้นมา

โจวรุ่ยละสายตาจากหวังมู่เสวียแล้วเดินสำรวจภายในอาคารอย่างละเอียด ดูว่าหยางป๋อใช้ชีวิตประจำวันอย่างไร

ส่วนหยางป๋อที่ปรากฏตัวในบาร์ ถูกคนในบาร์พาไปยังที่พัก เป็นห้องชุด ในห้องนอนยังมีผู้หญิงสองคน

หยางป๋อนอนอยู่บนโซฟา ในใจคิดถึงเหตุการณ์คืนนี้ "ประโยชน์ที่ได้มากที่สุดคืนนี้คือคะแนนทักษะพลังจิต น่าเสียดายที่ไม่รู้ว่ามีคนแข็งแกร่งขนาดนี้ ไม่งั้นคงอยากเห็นว่าเขาเป็นใคร"

"ยักษ์ล่องหนมีพลังการต่อสู้ทางร่างกายที่แข็งแกร่งมาก และไร้เสียงไร้กลิ่นด้วย" เนื่องจากหยางป๋อใช้พลังทางร่างกาย จึงยังคงอยู่ในสภาพล่องหน

"แต่การซ้อนทับพลังสองอย่างนี้มีผลเฉพาะกับของแข็งเท่านั้น"

"และยังสิ้นเปลืองพลังมากด้วย"

"ยังต้องเพิ่มสมรรถภาพร่างกายของตัวเองอีก"

"ไม่รู้ว่าทางโจวรุ่ยเป็นยังไงบ้าง ที่เกิดเหตุจะตรวจพบปัญหาอะไรไหม?"

ขณะที่หยางป๋อกำลังคิดเรื่องต่างๆ บนโซฟา ทางการของดาวซันเหยว่ก็ตกตะลึง

หลังจากที่กู้ยานดำน้ำลำนี้ขึ้นมาแล้วส่งไปยังโรงงานของยานซ่อมบำรุงที่อยู่ใกล้ๆ

เมื่อหุ่นยนต์แยกชิ้นส่วนยานดำน้ำอย่างรวดเร็ว สิ่งที่ปรากฏก็คือหุ่นรบที่เหลืออยู่ข้างใน

หุ่นรบจำนวนมากขนาดนี้ทำให้เจ้าหน้าที่ทางการที่เห็นภาพนี้จากระยะไกลรู้สึกหนาวสันหลังวาบ

บนผิวน้ำ เครื่องบินรบบินฝ่าพายุฝนอย่างรวดเร็ว โยนเครื่องตรวจจับลงไปนับไม่ถ้วน

ไม่นานหุ่นรบสามตัวที่ถูกหยางป๋อบิดเบี้ยวก็ถูกพบ น่าเสียดายที่คนข้างในตายหมดแล้ว ต่อให้เป็นผู้มีพลังพิเศษแต่อยู่ใต้น้ำได้ในเวลาจำกัด

และเพราะหุ่นรบสูญเสียพลังงาน ถูกกระแสน้ำขนาดใหญ่พัดลงไปในทะเลลึก แรงกดดันใต้น้ำสูงมาก ห้องขับของหุ่นรบบิดเบี้ยวผิดรูป ถ้าไม่รั่ว ก็ยังพอว่า แต่เมื่อบิดเบี้ยวผิดรูปและรั่ว ไม่เพียงแต่เปิดไม่ได้ ยังต้องทนต่อแรงกดดันในน้ำอีกด้วย

ทางการก็ปวดหัวตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าบนดาวดวงนี้มีโรงงานลับที่ผลิตยานดำน้ำและหุ่นรบ

แต่ดาวดวงนี้ใหญ่มาก และสภาพแวดล้อมใต้ทะเลก็ซับซ้อน โรงงานอัจฉริยะต้องมีมาตรการอำพรางของตัวเอง เว้นแต่จะตรวจสอบในระยะประชิด

แต่นั่นต้องใช้อุปกรณ์ตรวจจับมากแค่ไหน และไม่รู้ว่าโรงงานลับนี้อยู่ที่ไหน อาจจะอยู่ในแผ่นดิน แล้วเชื่อมต่อผ่านเส้นทางน้ำใต้ดิน

ทางการไม่ได้คิดที่จะขอความช่วยเหลือจากสหภาพ แต่หากในระหว่างการตรวจสอบพบสิ่งดีๆ ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะดึงดูดกลุ่มอำนาจอื่นๆ ของสหภาพ

ผู้บริหารสูงสุดของดาวซันเหยว่มองศพที่ถูกลากออกมาจากยานดำน้ำทีละศพ ศพส่วนใหญ่เปลี่ยนสภาพไปแล้ว ถูกรังสีจากการระเบิดของเครื่องยนต์พลังงานสูง ประกายพลังงานเผาร่างทั้งหมดจนกลายเป็นถ่าน

"ท่านผู้บริหาร ในแคปซูลการแพทย์ยังมีศพที่สมบูรณ์อีกหนึ่งศพ จากการตรวจสอบน่าจะเป็นนักรบลึกลับที่มีผ่าท้องฟ้าที่ต่อสู้กับนายพล" ตอนนี้มีคนรายงาน

"ไม่มีศพ ทั้งหมดถูกเครื่องยนต์พลังงานเผาเป็นเถ้าถ่าน" ผู้บริหารสูงสุดของดาวซันเหยว่ได้ยินแล้วรู้สึกขนหัวลุก ผู้วิวัฒนาการพันธุกรรมระดับ A ทั้งยังมีผ่าท้องฟ้าอีก

นี่มันผีบ้าอะไรกันแน่ ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังซ่อนอำนาจอะไรไว้

"เรื่องนี้ท่านนายพลรู้ดีอยู่แล้ว พวกเราไม่จำเป็นต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยว" ผู้บริหารสูงสุดอธิบายเพิ่มเติม

ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย ดังนั้นแคปซูลการแพทย์ที่เพิ่งสมบูรณ์เมื่อครู่ก็ถูกโยนลงบนเครื่องยนต์ที่แตกหักและยังปล่อยประกายพลังงานอยู่ ในพริบตาก็กลายเป็นถ่านไป

ทางการของดาวซันเหยว่ไม่อยากเข้าไปยุ่ง เพราะไม่มีประโยชน์อะไรเลย มีแต่จะได้ศัตรู

ตอนที่นายพลคนนี้มาใหม่ๆ พวกผู้บริหารเหล่านี้ดีใจมาก คิดว่าจะได้สร้างความสัมพันธ์ ตอนนี้รู้สึกเหมือนเทพแห่งโรคระบาด นายพลคนนี้มาแล้วทั้งดาวเกิดความวุ่นวายมากมาย

"เป้าหมายของเราคือต้องหาโรงงานอัจฉริยะของฝ่ายตรงข้ามให้เร็วที่สุด ฉันสั่งให้กรมรักษาความปลอดภัยของดาวทำการสำรวจทั่วโลก ฉันจะจัดสรรงบประมาณพิเศษ" ผู้บริหารสูงสุดออกคำสั่งทันที

"ครับ" อธิบดีกรมรักษาความปลอดภัยรับคำสั่งทันที

ในฐานะผู้บริหารสูงสุดของดาว แน่นอนว่าไม่สามารถปล่อยให้โรงงานอัจฉริยะนี้ดำรงอยู่ได้ นี่คือภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดต่อดาวในครั้งนี้

ทางฝั่งที่พักในบาร์ หยางป๋อรออยู่กว่าสองชั่วโมงแล้ว ระหว่างนั้นก็มีข้อมูลส่งกลับมาเป็นระยะ

ความเชี่ยวชาญด้านหุ่นหุ่นรบ ความสามารถนี้รวมทักษะการซ่อมแซมหุ่นรบ การออกแบบหุ่นรบ และการผลิตหุ่นรบเข้าด้วยกัน

ซึ่งการผลิตหุ่นรบยังรวมถึงวัสดุและระบบพลังงานอีกด้วย

"ดูเหมือนว่าคนพวกนี้จะเป็นบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการผลิตหุ่นรบ ฝ่ายตรงข้ามส่งบุคลากรการผลิตพวกนี้ออกมาหมดแล้ว งั้นฐานทัพจะไม่มีคนแล้วหรอ?" หยางป๋อยังคิดถึงเรื่องนี้อยู่ในใจ

หยางป๋อก็อยากจะหมายตาฐานที่ผลิตหุ่นรบและยานดำน้ำ แต่น่าเสียดายที่ดาวมีใหญ่ขนาดนี้ จะไปหาที่ไหนได้?

"จะลองใช้ทักษะการแบ่งปันการมองเห็นดูไหม?" หยางป๋อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองยังมีความสามารถแบ่งปันการมองเห็น

จากความหมายตรงตัว สิ่งนี้ค่อนข้างวิปริต หยางป๋อคิดสักครู่ แล้วเดินไปที่ประตูห้องข้างๆ ซึ่งมีผู้หญิงอยู่ในนั้น ก่อนอื่นเขาเคาะประตูเบาๆ ใช้การสั่นสะเทือนของประตูตรวจสอบคนข้างใน พบว่าผู้หญิงทั้งสองยังเมาอยู่

จากนั้นจึงผลักประตูเข้าไป ที่ต้องตรวจสอบก่อนเพราะกลัวว่าคนอื่นจะตื่น พอดีตัวเองผลักประตูเข้าไป จะดูเหมือนตัวเองลามกมาก

หยางป๋อท่องในใจว่า "แบ่งปันการมองเห็น" แล้วก็เข้าใจทันทีว่าต้องทำอย่างไร

เขาตบลงบนเท้าของผู้หญิงทั้งสองทันที

"ทำได้แค่คนเดียวเหรอ?" หยางป๋อตบสองครั้งติดกัน พบว่ามีแค่การตบครั้งหลังบนตัวซีหย่าที่การแบ่งปันการมองเห็นใช้งานได้ ส่วนครั้งแรกที่ตบบนตัวแอนนี่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล

ทดลองอีกครั้ง ตบลงบนตัวแอนนี่หนึ่งครั้ง การแบ่งปันการมองเห็นบนตัวซีหย่าก็หายไป จากนั้นก็ตบลงบนตัวซีหย่าอีกครั้ง

สุดท้ายการแบ่งปันการมองเห็นยังคงอยู่บนตัวซีหย่า จากนั้นหยางป๋อก็ค่อยๆ ถอยห่างออกไป

ตอนนี้ความรู้สึกแปลกมาก แต่ทางด้านซีหย่ามองไม่เห็น คงเป็นเพราะหลับตาอยู่ แต่ยังรู้สึกได้ถึงภาพที่มีอยู่

เดินไปที่ประตูแล้วปิด ยังคงรู้สึกได้ถึงภาพที่มีอยู่

"ความสามารถแบบนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่การแพร่กระจายพลังงาน?"

"แล้วมันส่งมาถึงฉันด้วยวิธีไหนกันนะ?" หยางป๋อปิดประตูแล้ว นอนลงบนโซฟายังคงรับรู้ถึงภาพที่มีอยู่ได้

นี่ทำให้คนสงสัยมาก แต่เรื่องพลังพิเศษใครจะรู้ได้ชัดเจน?

"พลังพิเศษยังคงลึกลับมาก อย่างน้อยวิทยาศาสตร์ระหว่างดาวในตอนนี้ก็ไม่สามารถอธิบายพลังพิเศษหลายอย่างได้ ไม่งั้นคงผลิตผู้มีพลังพิเศษออกมาเป็นจำนวนมากแล้ว" หยางป๋อคิดสักพัก ไม่มีอะไรคืบหน้า จึงวางเรื่องนี้ไว้ก่อน

ตอนนี้หยางป๋อได้รับข้อความจากโจวรุ่ย จึงออกจากห้องไปที่บาร์ข้างๆ

"คุณซานเย่ ขอบคุณมากค่ะ!" โจวรุ่ยยังคงเป็นทรงผมหัวล้านเหมือนเดิม

"ผมก็สงสัยเหมือนกัน คุณไปทำอะไรที่ห่างไกลขนาดนั้น ไม่คิดว่าจะเจอคนที่ไม่หวังดีพอดี ผมสงสัยจริงๆ ทางการของดาวซันเหยว่กินขี้อยู่เหรอ นี่มันชัดเจนว่ามีฐานการผลิตอัจฉริยะซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่ง?" หยางป๋อนั่งลงบนเก้าอี้อย่างสบายๆ แล้วพูด

"นายพลของสหภาพถูกโจมตี และยังถูกคนในตระกูลหักหลังจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ฉันได้รับการว่าจ้างให้มาดู" โจวรุ่ยอธิบายอย่างระมัดระวัง

"ตระกูลของพวกเขาจะยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเหรอ?" หยางป๋อถามอย่างสงสัย

"เติบโตเร็วเกินไป รากฐานในตระกูลไม่มั่นคง เธอไม่ได้เป็นสายตรงของตระกูล ได้ยินว่าทางตระกูลจัดการแต่งงานให้ แต่เธอปฏิเสธ"

"สายตรงบางคนของตระกูลอยากเอานายพลของสหภาพไปแลกผลประโยชน์ นายพลไม่ยอม คนพวกนั้นในตระกูลไม่ได้สิ่งที่ต้องการก็โกรธแค้น" โจวรุ่ยอธิบาย

หยางป๋อหัวเราะเยาะ "ตระกูลใหญ่หลายตระกูลก็เป็นแบบนี้ ทำให้ตัวเองพินาศ"

"ใช่ สายตรงของตระกูลคิดว่าตระกูลเป็นของพวกเขา ฉันก็เพราะแบบนี้ถึงได้แยกตัวออกจากตระกูล ในสายตาของสายตรงพวกนั้น พวกเราเป็นแค่สิ่งของที่มีมูลค่าสูงหรือต่ำเท่านั้น คิดว่าพวกเราเป็นผู้ติดตามของพวกเขา ตระกูลของพวกเราก็เพราะพวกเราจากไปหลายปีนี้ถึงได้ตกต่ำลง"

"แต่พวกเราไม่เสียใจ เพราะบ้านนั้นไม่ใช่บ้านของฉัน" โจวรุ่ยอธิบายต่อ

"นายพลของสหภาพสามารถตั้งตระกูลเองได้เลย เธอคงไม่ได้มีความคิดนี้หรอกนะ?" หยางป๋อพูดอีก

โจวรุ่ยพยักหน้า "แต่ก่อนก็มีความคิดนั้น แต่ก็ยังลังเล หลังจากครั้งนี้ เธอก็จะตั้งตระกูลของตัวเองแล้ว"

"คนในตระกูลของพวกเขาสมรู้ร่วมคิดกับคนขององค์กรฮุยจิ่น ทำอะไรไร้จริยธรรมมาก แต่ตระกูลของพวกเขาก็เป็นแค่อำนาจระดับกลางๆ ครั้งนี้เพราะผลงานของเธอ ตระกูลได้รับผลประโยชน์ไม่น้อย"

"แต่บางคนก็โลภไม่สิ้นสุด อยากขายคนอื่นเพื่อแลกผลประโยชน์มากขึ้น นี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ตระกูลตกต่ำลง ผู้นำตระกูลล้วนเป็นคนไร้ความสามารถ"

"ตระกูลของพวกเราก็เป็นแบบนี้ คนไร้ความสามารถในสายตรงมีสถานะสูงกว่าอัจฉริยะในสายรอง" โจวรุ่ยพูดต่อ

หยางป๋อพอจะเข้าใจแล้ว พูดไปแล้วหวังมู่เสวียก็น่าสงสารเหมือนกัน ตัวเองสร้างผลงานทางทหารมากมาย นำผลประโยชน์มหาศาลมาให้ตระกูล แต่ไม่คิดว่าตระกูลจะอยากเอาตัวเธอทั้งคนไปแลกเป็นผลประโยชน์ที่มากขึ้น

"สำหรับผู้ชายในตระกูลจะดีกว่าหน่อย ถ้าผู้ชายเจอสถานการณ์แบบนี้ อย่างมากก็แค่แต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ชอบ"

"แต่ผู้หญิงในตระกูลสถานะค่อนข้างกระอักกระอ่วน ก็ผู้หญิงต้องแต่งออกไป และผู้หญิงในตระกูลก็ไม่มีสิทธิ์สืบทอด" โจวรุ่ยส่ายหน้าพูด

หยางป๋อพยักหน้า พอเข้าใจเรื่องราวคร่าวๆ แล้ว โจวรุ่ยรายงานต่อ "คุณซานเย่ ทางปาจิงเหลียนคุณจะจัดการยังไงคะ?"

"จะรีดไถเอาจากพวกเขาหน่อย แล้วค่อยคืนสัตว์เลี้ยงให้ สุดท้ายก็กำจัดพวกเขา" หยางป๋อไม่ค่อยสนใจการแฝงตัว ของพวกนั้นไม่ได้ผลดีเท่าการล่องหนของตัวเอง

"สัตว์เลี้ยงของพวกเขา คุณต้องหาทางเอามาให้ได้นะ สัตว์เลี้ยงนั่นเป็นสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ ความสามารถที่ปาจิงเหลียนมีก็มาจากการใช้เลือดของสัตว์เลี้ยงนั่นเป็นวัตถุดิบในการผลิตยาเสริมพันธุกรรม" หยางป๋อพูดเรื่องนี้ออกมาก็เพื่อเพิ่มพลังให้โจวรุ่ย ไม่งั้นอีกตัวตนหนึ่งของตัวเองเป็นที่พึ่ง แต่ที่พึ่งไม่มีกำลัง พอเจอเรื่องตัวเองก็ต้องหนีเอาตัวรอด

โจวรุ่ยได้ยินคำพูดของหยางป๋อ ตาเบิกโพลง ถามอย่างสงสัย "คุณซานเย่ ทำไมถึงบอกเรื่องนี้กับฉัน?"

"หนึ่ง ผมมีวิธีทำลายความสามารถนั้น สอง ทางผมไม่มีนักปรุงยาระดับผู้เชี่ยวชาญ สาม กำลังของสมาคมพวกคุณค่อนข้างอ่อนแอ" หยางป๋อตอบอย่างเรียบๆ

"แต่ยานั่นมีระยะเวลาค่อนข้างสั้น ว่าเท่าไหร่แน่ยังต้องทดสอบ"

โจวรุ่ยได้ยินคำอธิบายของหยางป๋อแล้วถอนหายใจโล่งอก "ขอบคุณคุณซานเย่ที่เอาใจใส่"

"อีกอย่าง หลังจากผมไม่ได้ใช้ตัวตนนี้แล้ว ให้บ้านของคนนี้กับผู้หญิงสองคนในห้อง แล้วจัดการชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเธอด้วย วาสนาของผมกับพวกเขาหมดแล้ว" หยางป๋อชี้ไปที่ผู้หญิงสองคนในห้อง

โจวรุ่ยรีบพยักหน้า "คุณซานเย่วางใจได้ค่ะ"

หยางป๋อพูดจบก็ลุกขึ้น "ผมจะส่งข้อความไปหาอีกฝ่ายก่อน คุณคอยสังเกตความเคลื่อนไหวของพวกเขาให้ดี"

พูดจบหยางป๋อก็เดินจากไป จากนั้นหยางป๋อก็ส่งข้อความไปหาปู้เลอ บอกให้อีกฝ่ายเตรียมความจริงใจให้เพียงพอ พรุ่งนี้พาทนายมาที่บ้าน ตัวเองจะคืนสัตว์เลี้ยงให้

ปู้เลอได้รับข้อความแล้วพูดอย่างภาคภูมิใจ "พวกไพร่เหล่านี้ก็ต้านทานเงินทองไม่ไหวอยู่ดี"

"นายท่าน หลังจากได้สัตว์เลี้ยงมาแล้ว ผมจะจัดการอีกฝ่ายโดยเร็ว"

"ไม่ ข้าจะฆ่าไพร่นี่ด้วยตัวเอง ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้ห่านี่ ภารกิจของข้าก็คงไม่มีทางล้มเหลว"

ปล. ผู้แปล หลังจากนี้ขอแก้คำของหุ่นยนต์ที่ใช้นักขับต่อสู้กันว่าหุ่นรบนะครับตรงกว่า

(จบบท)