ตอนที่ 45

บทที่ 45 ปัญหาที่ยุ่งยาก

หลังจากตรวจสอบแล้ว พบว่าเหตุการณ์เมื่อเร็ว ๆ นี้ก็อยู่ห่างกันไม่เกิน 10 กิโลเมตร อีกทั้งเพราะเหตุการณ์นี้ โลกทั้งใบถูกปิดกั้นไม่ให้ผู้อยู่อาศัยออกนอกอาณาเขต

"ไม่ว่ายังไง ก็เก็บเงินไว้ก่อน จะได้เดินดูรอบ ๆ ที่นี่ แล้วจะได้ฟื้นสมองสักหน่อย" หยางป๋อก็ไม่ได้วางแผนเล่งเกม เมื่อวานเขาก็ไม่ได้เล่นเกมเท่าไหร่แล้ว เขายังไม่แน่ใจว่าต่อไปควรทำอย่างไร

ควรจะซื้อบ้านขนาดใหญ่เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งหรือเก็บเงินรอตุนใว้หนีเมื่อจำเป็น

"ดูเหมือนเป็นสถานที่ที่เจริญรุ่งเรืองแต่ใครจะรู้ว่าจะเกิดอันตรายอะไรขึ้น" หยางป๋อเดินออกไป เห็นเครื่องบินรบขับไล่ลาดตระเวนในท้องฟ้าไม่หยุดหย่อน

เครื่องบินรบขับไล่ในบรรยากาศและบินออกจากบรรยากาศมีความแตกต่างกัน เครื่องบินรบขับไล่ในบรรยากาศนั้นสังกัดกองเรืออวกาศ ส่วนเครื่องบินรบขับไล่บินออกจากบรรยากาศนั้นสังกัดระบบป้องกันดาวอาศัย

หยางป๋อไม่ได้เดินออกไปไกล เขาแค่เดินไปรอบ ๆ ชุมชน มีต้นไม้และดอกไม้หลากหลาย และมีผู้คนมากมายเนื่องจากโลกถูกปิดล้อมทั้งหมด ถ้าใครบินขึ้นไปก็จะถูกอาวุธล็อกเป้าทันที

ในโลกที่พัฒนาแล้วอย่างนี้ หุ่นยนต์จะมีบทบาทไม่มากนัก ตามคาดการณ์ของหยางป๋อ บริษัทหุ่นยนต์ใหญ่ๆ น่าจะมีศัตรูที่แข็งแกร่งในบางพื้นที่ ส่วนเกมที่เขาเล่นหุ่นยนต์คงเป็นการต่อสู้เพื่อยึดครองดาวอาศัยเหล่านั้น

"อะไร? เพียงเพื่อวัตถุดิบจากสัตว์ประหลาดเท่านั้นหรือ" หยางป๋อลองคาดเดาว่าสัตว์ประหลาดในเกมมีค่าอาจจะเป็นวัตถุดิบสำหรับยารักษาพันธุกรรม

เมื่อมาถึงริมสระน้ำเล็กๆ ยังไม่ได้เข้าใกล้สระ เขาก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งกำลังฮัมเพลง หยางป๋อขมวดคิ้วเล็กน้อย

เมื่อเข้าใกล้สระ เขาเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่สวมเสื้อยืดรุ่มร่าม ใบหน้าถูกบังไว้ด้วยแว่นกันแดง

การแต่งกายแบบนี้เป็นเรื่องปกติ เพราะผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่ในโลกนี้ชอบแยกตัวออกจากสังคม เป็นคนชอบอยู่บ้านมาก

แม้ว่าเสียงเพลงจะไพเราะ แต่หยางป๋อรู้สึกอึดอัดโดยไม่รู้เหตุผล เขาจึงหันเดินไปทางอื่น แทนที่จะเดินต่อมายังที่ผู้หญิงคนนั้นอยู่

ผู้หญิงที่ฮัมเพลงหยุดทันที หันมามองหยางป๋อ ตกใจที่เขาหันหลังเดินไปอีกทาง ทั้งที่เขาควรจะเดินมาทางนี้

"คุณคะ ฉันกำลังจะขัดจังหวะคุณหรือเปล่า?" ผู้หญิงคนนั้นถาม

"ไม่ใช่ ฉันชอบสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ" หยางป๋อส่ายหัว แล้วเดินต่อไป

หยางป๋อเดินไปด้วยความแปลกใจ "ไม่คิดว่าจะพบเธอตรงนี้"

เขาเมื่อสักครู่รู้สึกไม่ชอบอะไรบางอย่าง ถึงแม้ว่าเธอจะฮัมเพลงที่เป็นเพลงฮิตในโลกนี้ ซึ่งเขาเคยฟังก่อนหน้านี้ แต่เขาก็รู้สึกอึดอัดอยู่ดี

เมื่อเธอเปิดปากถาม เขาก็นึกได้ทันที ที่คอนเสิร์ตของหลี่ไอตั๋ว เธอเปิดปากร้องเขาก็รู้สึกแบบนี้เหมือนกัน

เมื่อใช้คลื่นเสียงทดสอบมา พบว่าเธอเป็นผู้ที่กลายพันธุ์พันธุกรรม และจากรูปร่างก็เดาได้ว่าน่าจะเป็นหลี่ไอตั๋ว 99 เปอร์เซ็นต์แน่นอน

หลี่ไอตั๋วมองหยางป๋อที่เดินหนีไปด้วยความระแวง ขมวดคิ้วเล็กน้อย นึกถึงเสียงผิวปากที่เธอได้ยินเมื่อวานที่ห้องเวทีชั้นใต้ดินของโดมสถานบันเทิง เธอมีความไวต่อเสียง เพียงแค่ได้ยินเสียงใครสักคนก็จำได้ไม่ลืม

และตำรวจก็บอกเธอว่า นักสู้หุ่นยนต์มือทองคนลึกลับที่น่าทึ่งคนนั้นก็หายตัวไปแล้ว

"ดูเผิน ๆ ยังเด็กเกินไป นักสู้หุ่นยนต์มือทองที่ฉันรู้จักไม่มีวัยอย่างนี้" หลี่ไอตั๋วขมวดคิ้วเล็กน้อย

จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นเดินจากไป ยามรักษาการณ์ก็ค่อย ๆ ตามหลังเธอไป

หลี่ไอตั๋วมาพักในชุมชนนี้ โดยถูกส่งตัวมาพักชั่วคราว เนื่องจากทางโรงแรมใหญ่มีเรื่องวุ่นวายไปหน่อย

กลับถึงที่พักของตัวเอง หลี่ไอตั๋วหยิบปากกาขึ้นมาวาดรูปทันที ปรากฏว่าเธอเพิ่งวาดภาพของหยางป๋อ

หยางป๋อเดินเลียบชุมชนมาแล้ว ทบทวนจุดยืนของตนเอง ตอนนี้เขาคิดว่าซื้อบ้านเป็นอันดับแรก เพิ่มความแข็งแกร่งให้ตัวเอง เพราะถ้าตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย เงินทองก็ไม่มีประโยชน์ ความแข็งแกร่งคือสิ่งสำคัญที่สุด

ตอนนี้เขาก็ไม่ได้วางแผนจะไปรีบเพิ่มทักษะในเกมต่อไปแล้ว เขาต้องเปลี่ยนทักษะเหล่านั้นให้เป็นความสามารถในการต่อสู้จริง ๆ ยังต้องฝึกฝนอีกมาก

เมื่อกลับถึงบ้าน เขาค้นหาข้อมูลแล้วพบว่าการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ถูกระงับไปหมด

หยางป๋อนั่งบนโซฟา ลูบหน้าผาก "ดูเหมือนว่าจะมีคนที่ไม่รู้จักกำลังมองหาฉัน ไม่รู้เป็นใคร หงเป่ยจวีแทรกตัวเข้าไปในทางทหาร ไม่รู้ว่าจะโจมตีดาวอาศัยโดยใช้เรือรบหรือเปล่า ถ้าเป็นแบบนั้นก็จะเป็นเรื่องยุ่งยาก"

"อีกอย่างบริษัทบริการอันจื๋อเจี๋ยก็ชัดเจนว่ากำลังยื่นเหยื่อล่อฉัน"

"ยิ่งรู้จักโลกนี้มากเท่าไร ก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเล็กลงเท่านั้น"

"ตอนนี้อิสรภาพคืออะไร?"

หยางป๋อยืนขึ้น แล้วมองไปยังตัวอาคารที่เขาได้ปุ่มควบคุมห้องเก็บหุ่นยนต์ เมื่อครู่เขาเพิ่งผ่านมาทางนั้น ตรวจสอบแล้วไม่พบว่ามีการเคลื่อนไหวใด ๆ

หยางป๋อไม่แน่ใจว่าที่นั่นจะถูกหน่วยงานความมั่นคงจับตามองหรือไม่

หยางป๋ออารมณ์เสีย แต่เขาต้องรับมือกับมัน

เขารีบไปยังลานจอดรถใต้ดิน ซึ่งเป็นที่ที่เขาชาร์จไฟให้กับตนเอง มองไปรอบ ๆ ไม่พบใคร

หยางป๋อหาที่สงบเงียบ เริ่มถอดเสื้อผ้าออก จากนั้นก็ใช้ความสามารถล่องหนตัว แล้วรีบไปยังที่เดิม

ในทางเดิน เขาดีดนิ้วมือ วิเคราะห์รอบ ๆ ไม่พบรอยปริการเสียหายแต่อย่างใด

ด้วยความสามารถนี้ เขาทำให้กลอนที่ห้องนั้นเสียหายอย่างรวดเร็ว แม้แต่วัสดุที่ใช้ก็อาจตรวจสอบได้ว่าเป็นอะไร

เขาล่องหนตัวเองเข้าไปในห้อง พิจารณาร่องรอยที่เขาเคยทิ้งไว้ แล้วพบว่าในห้องไม่พบรองรอยใดๆ ว่ามีใครเข้ามาที่นี่

"หรือว่าพวกมันเล่นงานเสียหมดกันแล้ว?" หยางป๋อรึบคิด

จากนั้นเขาก็เก็บเอาของปลอมที่เขาเคยซื้อมา แต่เมื่อเห็นภาพวาดโบราณอันนั้น หยางป๋อก็เกิดความสนใจ สิ่งนี้คงมีความสำคัญ ถ้าหากเจ้าหน้าที่ความมั่นคงพบ พวกเขาอาจจะสอบสวนอย่างละเอียด เขาไม่แน่ใจว่าตัวเองอาจจะทิ้งรอยเท้าใดๆ ไว้หรือไม่

"ฉันเช็ดก้นของพวกนี้จริงๆ" หยางป๋อบ่น แล้วก็เอาภาพวาดม้วนนั้นไปด้วย

ไม่มีสิ่งใดน่าสงสัยอื่นแล้ว เขาจึงรีบออกมา

ถ้ามีใครได้เห็น จะเห็นว่ามีภาพวาดลอยอยู่กลางทางโดยไม่มีใครถือ

กลับมาถึงลานจอดรถ หยางป๋อก็เริ่มรู้สึกผิดหวังในใจ สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกร้อนรนมาก เขาอยากจะซ่อนภาพวาดนี้ไว้ในห้องเก็บหุ่นยนต์ แต่เขาก็ต้องคิดว่าจะนำหุ่นยนต์ออกมาที่ไหน

(จบบท)