"อะไรนะ!?"
เมื่อได้ยินคำกล่าวของฉินหยุน ดวงตาของฉินลู่ก็เบิกโพลงด้วยความตกใจทันที
ในความคิดของเธอก่อนหน้านี้ ฉินหยุนอาจจะเปิดร้านขายเสื้อผ้าเล็กๆแค่หนึ่งหรือสองร้านในเมืองจินหลิง แต่เธอไม่คาดคิดว่ามันจะมากถึงขนาดนี้
นี่มันผ่านมานานแค่ไหนเอง? แค่สองเดือนแต่เขาเปิดร้านไป 9 สาขาแล้ว?
"ผู้จัดการจ้าวเป็นผู้จัดการมืออาชีพที่ผมรับสมัครมาเพื่อช่วยบริหารจัดการร้านขายเสื้อผ้าน่ะ" ฉินหยุนแนะนำด้วยรอยยิ้ม
จ้าวเทียนเฉียงก็หันมายิ้มให้ฉินลู่ แต่เขาไม่ได้กล่าวอะไรมาก
ในอดีต เขาเคยคิดว่าฉินหยุนเป็นคนรวยรุ่นที่สองที่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจ แต่เขาค่อยๆพบว่าครอบครัวของฉินหยุนนั้นมีฐานะแค่ระดับปานกลาง แต่เขากลับไม่มีความคิดใดๆอยู่ในใจ แถมยังชื่นชมฉินหยุนมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
โดยไม่ต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากครอบครัว ฉินหยุนเริ่มต้นทุกอย่างขึ้นจากศูนย์ด้วยตัวเอง!
ยิ่งเขาได้ทำงานกับฉินหยุนมากเท่าไร เขาก็ยิ่งมองเห็นอนาคตที่ดีของร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนมากขึ้นเท่านั้น! ในอนาคตเทียนหยุนมีแนวโน้มมากที่จะพัฒนากลายเป็นแบรนด์ใหญ่ได้อย่างแท้จริง!
หลังจากได้ยินคำกล่าวของฉินหยุนแล้ว ฉินลู่ใช้เวลาค่อนข้างนานในการย่อยข้อมูลที่เธอเพิ่งรับมาเมื่อสักครู่นี้
เธอมองไปที่น้องชายของเธอ หลังจากที่ไม่ได้เจอหน้าเขานานกว่าครึ่งปี แต่น้องชายของเธอกลับทำธุรกิจได้ใหญ่โตขนาดนี้เลย? เธอเคยได้ยินข่าวว่ามีนักศึกษามหาลัยหลายคนที่เริ่มต้นทำธุรกิจจากศูนย์ แต่พวกเขาเหล่านั้นเทียบไม่ได้กับน้องชายของเธอเลย
เวลาผ่านไป จากนั้นรถก็หยุดลงเมื่อขับมาถึงชุมชนที่ฉินหยุนพักอาศัยอยู่
"ผู้จัดการจ้าว ส่งเราลงตรงนี้แหละ คุณไปจัดการธุระต่อได้เลย" ฉินหยุนมองไปที่จ้าวเทียนเฉียงพลางกล่าวกับเขา
"ครับบอสฉิน" จ้าวเทียนเฉียงพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเขาก็ขับรถออกไป
ฉินหยุนถือกระเป๋าและเดินนำฉินลู่ไปที่บ้านที่เขาเช่าอยู่
"เสี่ยวหยุน ตอนนี้แกอาศัยอยู่ที่นี่งั้นเหรอ?" ฉินลู่มองไปที่ตัวบ้านข้างหน้า เธอพยักหน้าพลางกล่าวว่า "บ้านหลังนี้กว้างมากเลย สภาพแวดล้อมก็ดีมาก แสงสว่างที่ส่องเข้ามาก็ดีเหมือนกัน"
เพราะเป็นที่ที่น้องชายของเธออาศัยอยู่ เธอจึงสังเกตอย่างระมัดระวัง
"แน่อยู่แล้ว ผมใช้เวลาเลือกค่อนข้างนานเลย"
ฉินหยุนยิ้มและจะช่วยเธอจัดห้องนอน
"เสี่ยวหยุน แกไม่ต้องห่วงพี่ พี่จะไม่พักอยู่ที่นี่หรอก พอดีที่ทำงานของพี่ที่นั่นมีหอพักอยู่" เมื่อเห็นเช่นนี้ ฉินลู่จึงส่ายหัวแล้วกล่าวออกมา
สำนักงานกฎหมายที่เธอทำงาน อยู่ค่อนข้างไกลจากที่นี่ และอาจจะต้องใช้เวลาพอสมควรในการเดินทางไปที่นั่นด้วยรถยนต์
หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง ฉินหยุนก็กล่าวว่า "พี่รอง อยู่ในหอพักผมว่ามันไม่ค่อยสะดวกเท่าไร ผมว่าพี่หาเช่าบ้านใกล้ๆกับสำนักงานกฎหมายดีกว่า"
ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ในรถ เขาถามฉินลู่ว่าเธอต้องการจะทำงานในร้านขายเสื้อผ้าหรือไม่ แต่ฉินลู่ปฏิเสธโดยไม่ลังเลเลย ทนายความเป็นอาชีพที่เธอใฝ่ฝันและเป็นไปไม่ได้แน่นอนที่เธอจะยอมแพ้กับมัน
เธอไม่เคยทำงานในร้านขายเสื้อผ้า และเธอก็ไม่ได้สนใจในอุตสาหกรรมนี้
ฉินหยุนก็ไม่ได้เซ้าซี้เธอในเรื่องนี้ เมื่อร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนพัฒนาต่อไป ถึงยังไงในอนาคตเขาก็จะต้องจัดตั้งทีมทนายความของบริษัทอยู่แล้ว หลังจากนั้นจึงค่อยให้พี่รองของเขามาช่วยเขาก็ได้
"ไม่เป็นไรหรอก เสียดายเงินเปล่าๆ" ฉินลู่ส่ายหัวปฏิเสธอย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินคำกล่าวของฉินหยุน
เมื่อได้ยินเช่นนี้ฉินหยุนก็ทำอะไรไม่ถูกนิดหน่อย เขามองไปที่พี่สาวของเขา และทันใดนั้นเขาก็กล่าวขึ้นอย่างจริงจังว่า "พี่รอง พี่รู้หรือเปล่าว่าเดือนที่แล้วยอดขายรวมของร้านที่ผมเปิดได้เท่าไร?"
"ได้เท่าไร?" เมื่อได้ยินที่ฉินหยุนกล่าว ความอยากรู้อยากเห็นของฉินลู่ก็ถูกกระตุ้นขึ้นทันที เธอจึงรีบเอ่ยถามขึ้นอย่างรวดเร็ว
"เจ็ดล้านกว่า!" ฉินหยุนยิ้มพลางกล่าวออกมา
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินลู่ก็รู้สึกประหลาดใจมาก "เยอะมากเลย!"
แม้ว่ายอดขายจะไม่ได้แสดงถึงผลกำไรโดยตรง แต่อย่างน้อยเขาก็น่าจะได้กำไรมากกว่าหนึ่งล้านหยวนแน่นอน!
ทั้งชีวิตจะมีสักกี่คนที่หาเงินได้เท่านี้
"เพราะงั้นเงินแค่เพียงเล็กน้อยสำหรับเช่าบ้านก็ไม่ได้มากมายอะไรเลย เมื่อมีเงินมากมายทำไมเราถึงไม่อาศัยอยู่ในที่ที่ดีกว่าล่ะ จะไปทนอุดอู้อยู่ในหอพักทำไม?" ฉินหยุนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ในขณะนี้ความคิดของฉินลู่ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน
หอพักของพวกเธอไม่ได้ใหญ่มากนัก และหลายๆคนก็ต้องอยู่อย่างแออัดกัน ซึ่งมันก็ไม่ได้สะดวกเหมือนอย่างที่ฉินหยุนว่าจริงๆ
สำนักงานกฎหมายไม่ได้เปิดขึ้นโดยจางอวี๋ชิงแค่คนเดียว แต่เธอร่วมมือกับบุคคลอื่นด้วย จำนวนคนในสำนักงานทั้งหมดจึงมีมากกว่าหนึ่งโหล และโดยทั่วไปแล้วคนสี่คนจะอาศัยอยู่ในห้องพักขนาดเล็กหนึ่งห้อง
เมื่อเห็นว่าท่าทีของฉินลู่เริ่มคล้อยตาม ฉินหยุนก็ไม่รอให้เธอได้กล่าวมากไปกว่านี้ เขารีบเอ่ยขึ้นทันทีว่า "ใช่ไหมล่ะ งั้นเราไปกินข้าวเที่ยงกันก่อน หลังจากนั้นค่อยไปหาบ้านเช่าแถวนั้นในตอนบ่ายๆ"
"ถ้าอย่างนั้น...ก็ได้" หลังจากที่ฉินลู่คิดตามอยู่ครู่หนึ่งเธอก็พยักหน้าตกลง และเธอก็กล่าวเสริมว่า "แต่พี่จะจ่ายค่าเช่าเอง เพราะตอนนี้พี่สามารถหาเงินได้แล้ว"
เมื่อได้ยินเธอกล่าวเช่นนี้ ฉินหยุนก็ทำอะไรไม่ถูก แต่เขาก็ไม่ได้กล่าวอะไรออกมา
ระหว่างมื้อกลางวัน ฉินเสี่ยวเทาก็มาด้วยเช่นกัน และเขาก็ยังพาแฟนสาวของเขาหูซานซานมาด้วย
"พี่เสี่ยวเทา" ฉินลู่เอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้ม
เธอรู้เช่นกันว่าตอนนี้ฉินเสี่ยวเทากำลังทำงานอยู่ในร้านขายเสื้อผ้า
"เสี่ยวลู่"
ฉินเสี่ยวเทาก็ทักทายฉินลู่ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม จากนั้นเขาก็กล่าวว่า "นี่คือแฟนของฉัน..."
และทั้งสองฝ่ายต่างก็แนะนำตัวต่อกัน
หูซานซานนั่งถัดจากฉินเสี่ยวเทา เธอไม่ได้กล่าวอะไรออกมามาก และนั่งอย่างสงบเสงี่ยมเรียบร้อย
หูซานซานก็พอรู้เกี่ยวกับฉินลู่นิดหน่อย ซึ่งก่อนมาถึงที่นี่เธอได้ยินจากฉินเสี่ยวเทาว่าฉินลู่เป็นทนายความ
เมื่อมองไปที่ฉินลู่ ความอิจฉาก็ฉายแววอยู่ภายในดวงตาของเธอ
อันที่จริงแล้ว มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่าความฝันในวัยเด็กของเธอก็คือการได้เป็นทนายความเมื่อเธอโตขึ้น
ทั้งสี่คนทานอาหารร่วมกัน ในระหว่างนั้นฉินเสี่ยวเทาก็ถามว่าฉินลู่อาศัยอยู่ที่ไหน
ฉินลู่ก็ยิ้มและบอกกับเขาว่า เธอจะไปเช่าบ้านอยู่แถวๆสำนักงานกฎหมาย
ในที่สุดทั้งสี่คนก็รับประทานอาหารกันเสร็จ หลังจากนั้นฉินเสี่ยวเทาก็กล่าวลาและจากไปพร้อมกับหูซานซาน
ในไม่ช้าพวกเขาทั้งคู่ก็มาถึงร้านขายเสื้อผ้าสาขาหนึ่ง และทันใดนั้นก็มีหญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาหาพวกเขาอย่างรวดเร็ว
หญิงสาวคนนี้ดูเหมือนอายุ 23-24 ปี เธอตัดผมสั้นทัดหูและใบหน้ารูปทรงแอปเปิ้ล ซึ่งเธอดูน่ารักมาก
"พี่สาว พี่เขย"
เมื่อเธอมองเห็นฉินเสี่ยวเทากับหูซานซาน หญิงสาวก็รีบตะโกนทักทายทันที
เธอก็คือลูกพี่ลูกน้องของหูซานซาน โจวเยว่
ผลการเรียนของโจวเยว่นั้นถือว่าดี เธอเป็นนักศึกษามหาลัยและเพิ่งจบการศึกษาเมื่อสองปีที่แล้ว
แต่เงินเดือนของเธอไม่สูงนัก ได้แค่ประมาณ 3,000 หยวนต่อเดือนเท่านั้น หลังจากที่เธอได้ติดต่อกับหูซานซาน และทราบเกี่ยวกับร้านเสื้อผ้าเทียนหยุน เธอจึงต้องการมาทำงานที่นี่
หูซานซานจึงช่วยพูดให้เธอ และด้วยความช่วยเหลือของฉินเสี่ยวเทา เธอจึงสามารถเข้าทำงานได้อย่างง่ายดาย
มีเงิน 5,000 หยวนต่อเดือน แม้ว่าเธอจะเหนื่อยเล็กน้อยในช่วงเวลาทำงาน แต่เธอก็รู้สึกพอใจมาก
"ซานซาน ฉันออกไปทำงานก่อนนะ เดี๋ยวคืนนี้ฉันจะไปรับคุณ และก็พาเธอกับเสี่ยวเยว่ไปกินหม้อไฟกัน" ฉินเสี่ยวเทากล่าวด้วยรอยยิ้ม
"โอเค" หูซานซานพยักหน้า
"อ้อ..อีกอย่าง นี่สำหรับเธอ" ฉินเสี่ยวเทากล่าวพลางยื่นกล่องเล็กๆให้ เมื่อดูที่บรรจุภัณฑ์แล้ว มันน่าจะเป็นลิปสติก และดูเหมือนจะราคาห้าร้อยกว่าหยวนเลย
หลังจากกล่าวอีกไม่กี่คำ ฉินเสี่ยวเทาก็เดินออกไปทันที
"พี่สาว พี่เขยใจดีจัง" ข้างๆหูซานซาน โจวเยว่เอ่ยขึ้นอย่างอิจฉา
เมื่อมองแวบแรกจะเห็นว่าฉินเสี่ยวเทานั้นดูเป็นคนซื่อๆ แม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นคนที่โรแมนติกมาก แต่เขาก็ไม่ได้ปิดบังความชอบที่มีต่อหูซานซานเลย
เอาจริงๆแล้วเขาถือว่าเป็นผู้ชายในอุดมคติของโจวเยว่เลย
นอกจากนี้ฉินเสี่ยวเทายังเป็นลูกพี่ลูกน้องของเจ้าของร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนอีกด้วย ซึ่งอนาคตของเขาก็น่าจะไร้ขีดจำกัดเลยก็ว่าได้
ด้วยนิสัยที่ดีและอนาคตที่สดใส คนๆนี้จึงเป็นผู้ชายในอุดมคติของเธอโดยสมบูรณ์
"ก็ดีอยู่"
เมื่อได้ยินคำกล่าวของโจวเยว่ หูซานซานก็แค่ยิ้มและกล่าวออกมานิดหน่อย
จากนั้นเธอก็หันหลังกลับและเดินเข้าไปในร้านทันที
...
ตัดกลับมาที่โต๊ะอาหารมื้อเที่ยง ฉินลู่กล่าวพลางถอนหายใจเล็กน้อย "เมื่อก่อนพี่เสี่ยวเทาเคยมีบุคลิกที่น่าเบื่อและเอาแต่ก้มหน้าอยู่ตลอดเวลา แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคนอย่างสิ้นเชิงเลย"
ฉินเสี่ยวเทาคนที่เธอเห็นในช่วงตรุษจีนคราวที่แล้วยังคงเป็นเหมือนเดิมเช่นก่อนๆหน้า แต่ตอนนี้เขาถือว่าเปลี่ยนไปมากแล้ว
(จบตอน)
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved