ในเวลานี้สวีช่างรู้สึกอายนิดหน่อย แต่อารมณ์ของฉินหยุนยังคงเรียบเฉยอยู่เช่นเดิม
"ฉินหยุน ในเมื่อนายไม่ดื่ม งั้นก็ไม่เป็นไร" สวีช่างพูดพร้อมกับวางแก้วในมือลง
ใบหน้าของเขาไม่หลงเหลือรอยยิ้มอยู่อีกแล้ว
"ฉินหยุนจากคณะบริหารธุรกิจนี่ใจกล้าจริงๆ!"
"นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นฉินหยุนคนนี้เลย"
ในเวลานี้ ทั้งหลี่ไห่และคนอื่นๆจากคณะบริหารการเงินรู้สึกประหลาดใจมาก พวกเขามีความขัดแย้งกับคณะบริหารธุระกิจอยู่บ่อยครั้ง แต่พวกเขาไม่เคยเห็นหน้าฉินหยุนเลย ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าเขาไม่ค่อยเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆของทางมหาลัยก็ได้ และตอนนี้พวกเขาก็ได้รู้แล้วว่ายังมีคนแบบนี้อยู่
"แต่ไปจงใจยั่วยุสวีช่างแบบนี้ ค่อนข้างไร้เหตุนิดหน่อยนะ"
แม้ตอนนี้สวีช่างจะกำลังยิ้มอยู่ แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าในใจของเขากำลังวางแผนอะไรไว้
ขณะที่พวกเขากำลังคิดไปต่างๆนาๆ หญิงสาวคนหนึ่งก็เดินเข้ามาจากอีกฝั่ง
"หืม? "
ฉินหยุนบังเอิญมองไปทางนั้นพอดี และเมื่อเขาเห็นคนที่เดินเข้ามาเขาก็จำอีกฝ่ายได้ทันที หญิงสาวคนนี้ดูเหมือนจะมีความเกี่ยวข้องบางอย่างกับหลินเสวี่ยหยา ผู้จัดการฝ่ายบัญชีของธนาคารที่เขาไปกู้เงิน แต่เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะได้พบกับเธอที่นี่
"ประธานหลินชิง"
ขณะที่เขากำลังคิด จู่ในเวลานี้หลายๆคนก็เอ่ยขึ้นอย่างรวดเร็ว
"รุ่นพี่หลินชิง รองประธานสภานักศึกษาของมหาลัยเรานี่เอง"
เจียงอี จางเสี่ยวเยว่ และคนอื่นๆก็อุทานขึ้นเช่นกัน
เมื่อได้ยินคำกล่าวของพวกเขาฉินหยุนก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
คิดไม่ถึงเลยว่าหญิงสาวที่เคยพบกันหลายครั้งที่ธนาคารก่อนหน้านี้ จะกลายมาเป็นรองประธานสภานักศึกษาของมหาลัยเจียงหยวนของพวกเขาเสียได้ แถมพวกเขาทั้งหมดนี้ก็เป็นคนจากสภานักศึกษาเหมือนกันเสียอีก
ทั้งสวีช่าง หวังฉิน และคนอื่นๆที่มาด้วยกัน เกือบทั้งหมดล้วนมาจากสภานักศึกษาของมหาลัย
"ฉินหยุน บังเอิญจริงๆ เราเจอกันอีกครั้งแล้วนะ" เมื่อหลินชิงมาถึงเธอก็ตรงไปที่ด้านข้างของฉินหยุนทันที จากนั้นก็พูดกับเขาด้วยรอยยิ้ม
ในส่วนลึกดวงตาของเธอมีความประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด ก่อนหน้านี้หลินเสวี่ยหยาซึ่งเป็นอาของเธอ ถามเธอว่าเธอกับฉินหยุนอยู่มหาลัยเดียวกันหรือเปล่า ซึ่งมันก็บังเอิญว่าพวกเขาเรียนอยู่ที่เดียวกันจริงๆ ปรากฏว่าหนุ่มหล่อที่กู้เงิน 40 ล้านหยวนจากธนาคารและเปิดร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนขึ้นมาสิบกว่าสาขา เป็นรุ่นน้องในมหาลัยของเธอ
เธอรู้เกี่ยวกับร้านเสื้อผ้าเทียนหยุน และเธอก็ยังรู้เกี่ยวกับการต่อสู้ครั้งก่อนระหว่างเทียนหยุนกับหานลู่เช่นกัน สุดท้ายแล้วยักษ์ใหญ่หานลู่ก็ถูกจัดการภายใต้เงื้อมมือของเทียนหยุน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพลังและความสามารถของชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเธอ
เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ตอนนี้ ดูเหมือนว่าสวีช่างและคนอื่นๆจากสภานักศึกษาอาจจะกำลังพยายามสร้างปัญหาให้กับฉินหยุนอยู่?
เธอคิดกับตัวเองว่าสวีช่างและคนอื่นๆนี่ช่างไร้ความสามารถเสียจริง
ล้อเล่นหรือไง บอสใหญ่ที่มีร้านขายเสื้อผ้ามากกว่าสิบสาขาและยอดขายต่อเดือนมากกว่าสิบล้านหยวน เขาจะไปเป็นฝ่ายหาเรื่องสภานักศึกษาเล็กๆเช่นนี้ก่อนได้อย่างไร?
ด้านข้างหลินชิง สาวสวยคนที่มากับเธอก็กำลังมองไปที่ฉินหยุนด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินหยุนก็พยักหน้าและพูดว่า "ใช่ บังเอิญจริงๆ"
"เลขาสวี ฉินหยุนเป็นเพื่อนของฉัน ฉันไม่รู้ว่าพวกคุณ..."
หลังจากพูดคุยกับฉินหยุน หลินชิงก็มองไปที่สวีช่าง หวังฉินและคนอื่นๆต่อ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางกล่าวออกมา
เมื่อเห็นท่าทางของหลินชิง สีหน้าของสวีช่างก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เห็นได้ชัดว่าหลินชิงอยู่ฝ่ายเดียวกับฉินหยุน ถ้าหากว่าทั้งคู่เป็นเพื่อนธรรมดาทั่วไป หลินชิงจะไม่แสดงท่าทีเช่นนี้แน่นอน มีแนวโน้มว่าพวกเขาอาจจะมีความสัมพันธ์พิเศษต่อกัน และมันก็อาจจะเป็นไปได้ว่าเบื้องหลังของฉินหยุนนั้นไม่ใช่ระดับทั่วไป
เมื่อพวกเขาสามารถมาถึงตำแหน่งนี้ในมหาลัยได้ ในแง่ของความสามารถ พวกเขาต้องเหนือกว่านักศึกษาส่วนใหญ่แน่นอน ไม่ว่าเรื่องอะไรพวกเขาก็จะคิดอย่างละเอียดจนถี่ถ้วน
ขณะที่คิดอยู่ในใจ สวีช่างก็บังคับให้รอยยิ้มเผยออกมาบนใบหน้าของเขา เขารีบกล่าวว่า "ประธานหลิน ระหว่างฉินหยุนกับเราไม่ได้มีเรื่องอะไรกัน เราแค่อยากจะหาเพื่อนใหม่ก็เลยมาชวนดื่มเท่านั้นเอง"
ในเวลานี้หวังฉินก็ก้าวออกมาด้านหน้าทันที เธอดึงจางหยานที่ใบหน้ากำลังตกใจออกมาเช่นกัน จากนั้นก็ยิ้มพลางกล่าวว่า "ฉินหยุน ก่อนหน้านี้เสี่ยวหยานแสดงนิสัยที่ไม่ดีออกไป เหตุการณ์นั้นทำให้ฉันรู้สึกไม่สบายใจมาก ฉันจึงมาที่นี่เพื่อขอโทษนายด้วยตัวเอง"
จากนั้นเธอก็เทเบียร์ใส่แก้วใบหนึ่ง แล้วก็ดื่มมันลงไปในรวดเดียวทันที
แค่ช่วงเวลาสั้นๆตั้งแต่ที่หลินชิงมาถึง สถานการณ์ทั้งหมดก็เปลี่ยนเป็นเช่นนี้โดยไม่มีใครคาดคิดเลย
ฉินหยุนมองไปที่หลินชิง ดูเหมือนว่าหลินเสวี่ยหยาจะบอกเธอเกี่ยวกับเรื่องของเขา
เขาโบกมือและพูดว่า "ต่อไปนี้อย่ามายุ่งกับฉันอีก"
เมื่อได้ยินคำพูดของฉินหยุน จางหยานก็รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย พอว่าเขาได้หลินชิงมาสนับสนุน จู่ๆฉินหยุนก็กลายเป็นคนหยิ่งยโสทันที เธอต้องการจะกล่าวตอบโต้เขาแต่ทว่าก็ถูกหวังฉินจ้องเขม็งใส่
ทันใดนั้นเธอก็ไม่กล้าจะกล่าวอะไรออกมาอีก
หลินชิงไม่ได้กล่าวอะไรมาก เธอพูดแค่สองสามคำจากนั้นก็เดินออกไปพร้อมกับสวีช่างและหวังฉิน
"ให้ตายเถอะฉินหยุน นายไปรู้จักกับรองประธานสภานักศึกษาได้ไง?"
"ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของพวกนายจะดีมาก สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง?"
เมื่อเห็นพวกเขาจากไป จ้าวคังฮ่าวและคนอื่นๆก็พากันเอ่ยถามอย่างตื่นเต้นทันที
ฉินหยุนยิ้มและพูดว่า "เราเป็นแค่เพื่อนกันน่ะ"
อันที่จริงก่อนหน้านี้เขาไม่รู้จักชื่อของหลินชิงด้วยซ้ำ
"ถ้าเป็นแค่เพื่อน เธอจะมาออกหน้าให้นายทำไม?"
เห็นได้ชัดว่าจ้าวคังฮ่าวและคนอื่นๆนั้นไม่เชื่อ
"ประธานหลินมีอำนาจมากจริงๆ ทันทีที่เธอมาที่นี่ ทั้งเลขาสวีกับเลขาหวังก็เปลี่ยนท่าทีกันหมดเลย"
ในเวลานี้ จ้าวฉิงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
เจียงอีชำเลืองมองไปที่เธอพลางกล่าวว่า "นั่นคือผู้นำสูงสุดในสภานักศึกษาของมหาลัยยังไงล่ะ"
เธอมองไปที่ฉินหยุนเช่นกัน ซึ่งเธอไม่คาดคิดเลยว่าเขาจะรู้จักกับหลินชิงด้วย ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาจะมีความมั่นใจมาก
จากมุมมองของพวกเธอ เห็นได้ชัดว่าที่สวีช่าง หวังฉิน และคนอื่นๆมีท่าทียอมจำนนก็เป็นเพราะหลินชิง
"เสี่ยวชิง เธอรู้จักฉินหยุนคนนั้นด้วยเหรอ เธอไปเจอเขาตั้งแต่เมื่อไรกัน?"
ในอีกด้านหนึ่ง หญิงสาวที่อยู่ข้างๆหลินชิงก็เอ่ยถามด้วยความสงสัย
เธอเป็นพี่สาวของหลี่ไห่ และเธอก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับหลินชิง
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินชิงก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า "เสี่ยวซี เธอกลายเป็นคนชอบเรื่องซุบซิบตั้งแต่เมื่อไรกัน?"
"ก็เพราะว่าเป็นเรื่องของเธอไง"
หลี่ซียิ้มพลางกล่าวว่า "ปกติแล้วเธอไม่เคยออกหน้าให้ผู้ชายคนไหนเลย เธอชอบเขาใช่ไหมล่ะ ฉันไม่แปลกใจหรอกที่เธอจะตกหลุมรักเขาน่ะ แต่ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะชอบคนที่อายุน้อยกว่า"
เมื่อเห็นว่าเพื่อนของเธอพูดแหย่ด้วยคำพูดเช่นนี้ หลินชิงก็อดไม่ได้ที่จะโมโห เธอกล่าวว่า "เธออย่ามาทำลายชื่อเสียงของฉันได้ไหม!"
เธอคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่พักหนึ่ง แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับสถานการณ์ของฉินหยุนออกมา
...
ที่ธนาคารแห่งหนึ่งในเมืองจินหลิง ฉินหยุนกำลังคุยเรื่องกู้เงินกับหลินเสวี่ยหยา
การขยายตัวของเทียนหยุนยังคงต้องการเงินกู้เพื่อมาใช้ดำเนินการ แต่ฉินหยุนไม่ได้รู้สึกวิตกกังวลกับเรื่องนี้มากนัก เขาสามารถหาเงินได้มากขึ้นเรื่อยๆในอัตราที่มั่นคง และเมื่อกำไรต่อเดือนเกิน 16 ล้านหยวน เงินกู้ของธนาคารก็สามารถชำระคืนได้ในไม่ช้า
"คุณฉินคะ เงินกู้ของคุณจะได้รับการอนุมัติภายในเวลาที่สั้นที่สุดแน่นอนค่ะ"
หลินเสวี่ยหยากล่าวออกมา ใบหน้าของเธอมีรอยยิ้มประดับไว้
ตอนนี้ในเมืองจินหลิงแห่งนี้เทียนหยุนกำลังได้รับความนิยมอย่างเต็มที่ แม้แต่หานลู่ที่มีมูลค่าตลาดมากกว่าหนึ่งพันล้านก็ยังเป็นฝ่ายยอมล่าถอยด้วยความสมัครใจภายใต้เงื้อมมือของพวกเขา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่ซ่อนอยู่ของเทียนหยุน!
และแน่นอนว่าลูกค้าแบบนี้ถือว่ามีประโยชน์อย่างมากต่อธนาคารของพวกเธอ
ฉินหยุนพยักหน้า เขาเดินออกจากห้องของผู้จัดการ และที่ด้านนอกของประตูก็มีสาวสวยคนหนึ่งยืนอยู่ เธอก็คือหลินชิงนั่นเอง
"ฉินหยุน" เมื่อเห็นฉินหยุน หลินชิงก็ทักทายเขาด้วยรอยยิ้ม
"พี่สาวหลินชิง" ฉินหยุนพยักหน้าให้หลินชิง จากนั้นเขาก็เดินออกไปโดยไม่ได้พูดอะไรมาก
"เสี่ยวชิง คุณฉินคนนี้เป็นนักศึกษาในมหาลัยของหลานจริงๆงั้นเหรอ?"
หลินเสวี่ยหยามองไปที่หลานสาวของเธอและถามด้วยความประหลาดใจ
ก่อนหน้านี้หลานสาวของเธอเคยติดต่อเธอมาหา และบอกกับเธอว่าถ้าฉินหยุนมาที่นี่ให้บอกเธอด้วย
"ใช่ค่ะคุณอา หนูไม่คิดว่ามันจะบังเอิญขนาดนี้เลย" หลินชิงพูดด้วยรอยยิ้ม
ไม่ว่าใครก็คิดไม่ถึงว่า คนที่เป็นเจ้าของเทียนหยุนที่ทำให้หานลู่ต้องปิดร้านไปด้วยความคับแค้นใจนั้น แท้จริงแล้วเป็นเพียงนักศึกษาปีหนึ่งในมหาลัยเจียงหยวนเท่านั้น
เมื่อได้เห็นท่าทางของหลินชิง หลินเสวี่ยหยาก็ยิ้มและกล่าวว่า "เสี่ยวชิงของอารู้สึกใจเต้นแรงแล้วใช่ไหม?"
"ใจเต้นแรงอะไรกัน!"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินชิงก็หน้าแดงด้วยความเขินอาย เธอรีบพูดขึ้นว่า "ฉินหยุนเป็นคนที่สุดยอดมาก หนูไม่คู่ควรกับเขาหรอก"
"ไร้สาระ หลานสาวของฉันโดดเด่นมากจะตาย คนอื่นต่างหากที่ไม่คู่ควรกับหลานน่ะ" หลินเสวี่ยหยาหัวเราะออกมา
"ยังไงก็เถอะ หลานอยากมาฝึกงานที่ธนาคารในช่วงวันหยุดฤดูหนาวนี้ไหม?" เธอถามหลังจากที่นึกขึ้นได้
...
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งวันตรุษจีนก็ใกล้เข้ามาทุกที และในเวลานี้ ในที่สุดงานประชุมประจำปีของเทียนหยุนก็กำลังจะเริ่มต้นขึ้น
ณ มหาลัยเจียงหยวน หอพักนักศึกษาหญิง ห้อง 406
จางเสี่ยวเยว่กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า "หานอวี่กับรูมเมทของเขาชวนพวกเราออกไปเที่ยวด้วยกัน พวกเธออยากไปไหม?"
"แน่นอน ฉันไป"
"สอบเสร็จครั้งนี้ก็ใกล้จะปิดเทอมฤดูหนาวแล้ว จะอุดอู้อยู่ในหอพักไปทำไม"
หลังจากเธอกล่าวจบ จ้าวฉิงและสาวๆคนอื่นก็พูดขึ้นทีละคน
ในเวลานี้เอง โจวเสี่ยวเค่อพูดด้วยเสียงเบาๆว่า "ฉันมีบางอย่างที่ต้องทำ ดังนั้นฉันเลยไม่ได้ไปด้วยนะ"
"เสี่ยวเค่อ เธอจะไปไหนเหรอ?"
"ตอนนี้ไม่มีอะไรที่ต้องห่วงแล้ว เราออกไปเที่ยวด้วยกันเถอะ"
ได้ยินคำพูดของโจวเสี่ยวเค่อ ทั้งจางเสี่ยวเยว่และคนอื่นๆก็รีบเอ่ยขึ้น
"มันเป็นงานของบริษัทน่ะ คืนนี้บริษัทกำลังจัดงานประชุมประจำปี" โจวเสี่ยวเค่ออธิบายกับพวกเธอ
หลังจากได้ยินคำพูดของโจวเสี่ยวเค่อแล้ว จางเสี่ยวเยว่และคนอื่นๆก็ไม่ได้ยืนกรานต่อ
พวกเธอรู้ว่าโจวเสี่ยวเค่อทำงานพาร์ทไทม์อยู่ในร้านเสื้อผ้าเทียนหยุน
หลายบริษัทจะจัดงานประชุมประจำปีขึ้นตอนช่วงปีใหม่ และมันก็เป็นเรื่องปกติที่ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนจะจัดงานประชุมประจำปีขึ้นเช่นกัน ซึ่งก็เป็นไปไม่ได้ที่คนนอกอย่างพวกเธอจะมีโอกาสได้เข้าไปในงานเลี้ยงนั้น แต่พวกเธอก็ไม่ได้มีความคิดที่อยากจะเข้าร่วมเลย
หลังจากออกจากหอพักแล้ว โจวเสี่ยวเค่อก็ขึ้นรถบัสไปยังโรงแรมขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง
งานประชุมประจำปีของบริษัทเทียนหยุนถูกจองไว้ที่ชั้นสามของโรงแรมแห่งนี้
ในเวลานี้ เวทียกสูงบนชั้นสามทั้งหมดของโรงแรมได้ถูกสร้างขึ้นมาชั่วคราว มีป้ายต่างๆถูกแขวนไว้ และของรางวัลมากมายถูกวางไว้ในที่เดียวกัน
(จบตอน)
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved