ตอนที่ 126 ฉันซื้อรถแล้ว

"ฉินหยุนบอกว่าจะมาถึงที่นี่ในอีกไม่กี่นาที" เมื่อได้ยินคำกล่าวของเจียงอี จ้าวคังฮ่าวก็รีบกล่าวออกมา

ในเวลานี้เขารู้สึกเสียหน้ามาก

เดิมทีคราวนี้มีอยู่รถสองคัน และคนขับสองคน แต่ฉินหยุนและคนอื่นๆไม่ได้มีส่วนร่วมในการไปเที่ยวเล่นครั้งนี้ แถมเมื่อเช้าโจวผานยังมีเรื่องกระทันหันบางอย่างด้วย หลังจากคำนวณดูแล้วคนที่ไปเที่ยวในรอบนี้ก็มีแค่ 6 คนเท่านั้น และรถของพ่อเขาก็เป็นรถหกที่นั่งพอดี

ผลสุดท้ายมันจบลงด้วยการได้ใบสั่งจากตำรวจ

ที่สำคัญเลยที่จอดรถนั้นหายากมาก แถมแถวๆที่เขาจอดรถไว้ ยังมีรถคันอื่นจอดอยู่ด้วยเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงคิดว่ามันสามารถจอดตรงนั้นได้

จ้าวคังฮ่าวรู้สึกหดหู่มากที่ทุกอย่างกลายเป็นแบบนี้ ก่อนหน้านี้เขาวางแผนไว้แล้วว่าจะไปต่อที่อื่นกับเจียงอีสองคน แต่ตอนนี้เมื่อเห็นความไม่พอใจที่แปะอยู่บนหน้าของเธอ มันก็น่าจะเป็นเรื่องดีมากแล้วที่เธอไม่ออกห่างจากเขาไป

พวกเขากำลังรออยู่ ซึ่งหลังจากผ่านไป 2-3 นาที ฉินหยุนก็ยังไม่มา แต่มีรถคนหนึ่งขับผ่านไป

ในเวลานี้ฉินหยุนกำลังอยู่ในรถ เขาสังเกตเห็นคนสองสามคนที่ยืนอยู่ข้างทางเช่นกัน แต่เขาไม่ได้หยุดรถเพื่อทักทายพวกเขาทันที กลับขับรถตรงไปที่ลานจอดรถแทน

จ้าวคังฮ่าวและคนอื่นๆก็ช่วยกันมองหารถของฉินหยุนต่อ

"ทำไมฉินหยุนยังไม่มา"

เขาอดไม่ได้ที่จะบ่นออกมาขณะมองไปรอบๆ

ถ้าเขารออยู่ที่นี่คนเดียวก็ไม่เป็นไร แต่เจียงอีกำลังยืนรออยู่กับเขาด้วย ซึ่งเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียหน้านิดหน่อย

ในเวลานี้เอง ฉินหยุนกับโจวเยว่ก็ได้ลงจากรถแล้ว และพวกเขาก็พากันเดินออกมาจากลานจอดรถ

ก่อนที่จ้าวคังฮ่าวและคนอื่นๆจะมองเห็นเขา หลินเมิ่งเมิ่งดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงเงาร่างที่คุ้นเคยจากมุมหางตาของเธอ เธอจึงหันศีรษะไปมองที่เขา จากนั้นก็กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ "ฉินหยุน!"

เมื่อเสียงของเธอดังขึ้น คนอื่นๆจึงพากันหันกลับมา และเมื่อได้เห็นเงาร่างที่คุ้นเคย ดวงตาของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจเช่นกัน

"ฉินหยุน ทำไมนายถึงออกมาจากลานจอดรถล่ะ?"

"นั่นสิ มาได้ยังไง?"

จ้าวคังฮ่าวและหลี่หานอวี่ก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน

ลานจอดรถอยู่ข้างใน ซึ่งถ้าจะเข้าไปก็ต้องผ่านพวกเขาก่อน แต่เมื่อสักครู่นี้พวกเขาไม่เห็นฉินหยุนเข้าไปเลย

อย่างไรก็ตาม หลี่หานอวี่ตอบสนองขึ้นอย่างรวดเร็วและกล่าวด้วยความประหลาดใจว่า "ฉินหยุน รถ BMW ที่ขับเข้าไปเมื่อกี้เป็นของนายหรือเปล่า?"

ในขณะนี้มีรถเพียงคันเดียวเท่านั้นที่ขับเข้าไป แต่กลับเป็นฉินหยุนที่เดินออกมาจากลานจอดรถ ดังนั้นจึงมีแค่คำอธิบายเดียวเท่านั้น นั่นก็คือฉินหยุนเป็นคนขับรถคันนั้นเข้าไป

"รถ BMW นั่นเป็นของฉินหยุนงั้นเหรอ?!"

"ใช่รถที่จับรางวัลได้ไหม?"

เจียงอีและจางเสี่ยวเยว่จากหอพักหญิงต่างก็ประหลาดใจเช่นกัน พวกเธอมองไปที่จ้าวฉิงพลางถามด้วยความสงสัย

แต่จ้าวฉิงก็ส่ายหัวและกล่าวว่า "รถที่ฉินหยุนจับรางวัลได้ไม่ใช่คันนี้"

เธอเคยเห็นรถที่ฉินหยุนจับรางวัลได้ที่ร้านเสื้อผ้าจวินชิงมาก่อน ดังนั้นเธอจึงรู้ว่ารถคันนั้นมีหน้าตาเป็นอย่างไร

"มันไม่ใช่รถคันนั้นงั้นเหรอ แล้วรถคันนี้เขาได้มายังไง?"

เมื่อเห็นจ้าวฉิงกล่าวออกมาเช่นนั้น เจียงอีและคนอื่นๆก็รู้สึกงงงวยขึ้นอีกครั้ง

ในเวลานี้เองจ้าวคังฮ่าวก็เอ่ยถามขึ้นโดยตรง "ฉินหยุน รถคันนั้นของใครงั้นเหรอ?"

เขามองไปที่ลานจอดรถและก็ได้เห็นว่าฉินหยุนจอดรถไว้ตรงไหน

ฉินหยุนก็ยิ่มพลางกล่าวว่า "ฉันเพิ่งซื้อมาใหม่ ไม่เลวเลยใช่ไหม"

"นายซื้อมันงั้นเหรอ!?" จ้าวคังฮ่าวกับหลี่หานอวี่รู้สึกตกใจมาก

และสาวๆหลายคนในหอพักหญิงต่างก็อุทานขึ้นเช่นกัน "ฉินหยุน นายซื้อรถเองงั้นเหรอ!"

ก่อนหน้านี้พวกเขาก็ประหลาดใจมากแล้วที่ฉินหยุนเคยจับรางวัลได้รถมาคันหนึ่ง แต่ตอนนี้เขาซื้อรถอีกคันแล้ว

"นายซื้อเงินสดทีเดียวเลยงั้นเหรอ?" จ้าวคังฮ่าวเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง

"ไม่ ฉันจ่ายเงินดาวน์เอาน่ะ" ฉินหยุนกล่าวด้วยรอยยิ้ม ซึ่งเขาจ่ายแค่เงินดาวน์เท่านั้นจริงๆ

ในปัจจุบันนี้แม้ว่าจะซื้อรถโดยใช้เงินดาวน์ ราคาของมันก็ไม่ต่างกับการซื้อราคาเต็มเลย ดังนั้นเขาก็เลยจ่ายเงินดาวน์ออกมาก่อน เพราะต้องต้องการเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนสำหรับร้านขายเสื้อผ้าของเขา

เมื่อได้ยินสิ่งที่ฉินหยุนกล่าว ทุกคนก็รู้สึกประหลาดใจอีกครั้ง ตอนนี้ฉินหยุนทั้งเช่าบ้านและซื้อรถใหม่ ซึ่งเขากำลังใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมากเลย

"ฉินหยุน นายยังเช่าบ้านอยู่ และตอนนี้นายก็ซื้อรถแล้ว แถมนายต้องผ่อนค่ารถทุกเดือนอีก นายมีเงินพอไหม?" จ้าวคังฮ่าวอดไม่ได้ที่จะถามออกมา

รถ BMW นั้นเป็นที่นิยมมาก ไม่ว่าใครเห็นก็จดจำมันได้ทันที แม้ว่าฉินหยุนจะขับรุ่นที่ถูกที่สุด แต่มันก็มีราคาถึง 300,000 หยวนเลย ดังนั้นจำนวนเงินที่ต้องผ่อนรายเดือนจึงค่อนข้างมาก

"ไม่ต้องห่วง ฉันพอมีอยู่" ฉินหยุนยิ้มและไม่ได้กล่าวถึงเรื่องนี้เพิ่มเติม

"พี่จ้าว ไม่ใช่ว่านายเรียกฉันมาจัดการเรื่องของนายงั้นเหรอ รีบจัดการสิ" ฉินหยุนเอ่ยเตือนพวกเขา เมื่อเห็นว่าคนสองสามคนกำลังประหลาดใจจนดูเหมือนจะลืมเรื่องของพวกเขาไปแล้ว

"ใช่แล้ว" เมื่อได้ยินคำเตือนของฉินหยุน จ้าวคังฮ่าวก็ตอบสนองขึ้นทันที

"นายเอาใบขับขี่ของนายมาด้วยไหม?"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินหยุนก็ชี้ไปที่หญิงสาวที่อยู่ข้างหลังเขา จากนั้นก็กล่าวว่า "นี่คือโจวเยว่ นายสามารถใช้ใบขับขี่ของเธอเพื่อหักคะแนนได้ จากนั้นก็โอนเงินเก้าร้อยหยวนให้เธอ"

เมื่อเห็นฉินหยุนชี้ไปที่หญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างหลัง จ้าวคังฮ่าวและคนอื่นๆก็ผงะไปอีกครั้ง

ทีแรกพวกเขาคิดว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มากับฉินหยุน แต่แค่เดินออกมาพร้อมกันเฉยๆ

"ให้ตายเถอะฉินหยุน นายเจอสาวสวยคนนี้ที่ไหน เธอเป็นแฟนของนายงั้นเหรอ?" หลี่หานอวี่เอ่ยถามเสียงเบา

"นายคิดไปถึงไหนกัน เธอเป็นเพื่อนของฉัน ฉันกำลังขับรถอยู่ ดังนั้นฉันเลยให้นายหักคะแนนของฉันไม่ได้" เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินหยุนก็กล่าวออกมาอย่างโมโห

โจวเยว่ยืนอยู่ด้านหลังโดยไม่ได้กล่าวอะไร ขณะที่อยู่ในรถก่อนหน้านี้ ฉินหยุนบอกกับเธอว่าไม่ต้องพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งสอง

อันที่จริงเขาไม่ได้มีความต้องการพิเศษอะไร แค่ฉินหยุนยังไม่อยากให้รูมเมทของเขารู้ว่าเขาได้สร้างธุรกิจขนาดใหญ่เช่นนี้ไว้ที่ข้างนอก ไม่อย่างนั้นความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่ายอาจจะแย่ลงเมื่อเวลานั้นมาถึง

ตอนนี้ทุกคนอยู่ด้วยกันอย่างปกติดี ไม่ได้มีความกดดันทางจิตใจอะไร และเขาสามารถพูดอะไรก็ได้ที่เขาต้องการ ซึ่งมันทั้งยากและง่ายในเวลาเดียวกัน

ต่อหน้าโจวเยว่คนแปลกหน้าที่พวกเขาเพิ่งเคยพบกันเป็นครั้งแรก จ้าวคังฮ่าวกับหลี่หานอวี่ไม่ได้กล่าวอะไรมาก พวกเขารีบไปจัดการขั้นตอนต่างๆอย่างรวดเร็ว

หลังจากใช้เวลาสักครู่และจ่ายค่าปรับนิดหน่อย ในที่สุดทุกอย่างก็เสร็จสิ้น

หลังจากที่เสร็จเรื่อง โจวเยว่ก็จากไปทันที

เธออาศัยอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ซึ่งก็เธอนั่งรถเมล์ไป-กลับที่ทำงานอยู่ทุกวัน ปกติแล้วเธอจะเลิกงานตอนบ่ายสามโมง และตอนนี้ก็เหลือเวลาอีกไม่กี่นาทีแล้วที่เธอจะเลิกงาน ถ้ากลับไปทำงานต่อก็คงไม่ทันอย่างแน่นอน ดังนั้นฉินหยุนจึงให้เธอเลิกงานก่อนเวลาได้ แน่นอนว่าต้องนับว่าเธอทำงานเต็มเวลา

เมื่อออกมาจากสถานีตำรวจ จ้าวคังฮ่าวก็รู้สึกโล่งใจทันที

แต่หลังจากผ่านเรื่องนี้ไป ทุกคนก็ไม่อยากไปเที่ยวเล่นกันต่อแล้ว และวางแผนที่จะกลับไปมหาลัยกันทันที

"ฉินหยุน เนื่องจากนายมีรถ นายต้องพาพวกเราที่เหลือไปส่งด้วย" ทันใดนั้นจ้าวฉิงก็กล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้ม

เมื่อได้ยินเช่นนี้ จ้าวคังฮ่าวก็ตอบสนองเช่นกัน เขารีบกล่าวขึ้นทันทีว่า "ใช่แล้วฉินหยุน พวกเราทั้งหกคนนั่งอยู่ในรถคันเดียวมันแออัดเกินไป นายอาศัยอยู่ไม่ไกลจากมหาลัยมากนัก เพราะงั้นนายน่าจะแวะไปส่งหลินเมิ่งเมิ่งได้"

หลายๆคนพากันกล่าวออกมา จากนั้นจางเสี่ยวเยว่และจ้างฉิงก็ผลักหลินเมิ่งเมิ่งที่กำลังหน้าแดงออกไปข้างหน้า

เมื่อได้ยินสิ่งที่พวกเขากล่าว ฉินหยุนก็มองไปที่หลินเมิ่งเมิ่งพลางพยักหน้า

วันนี้เขาไปดูบ้านของพี่รองฉินลู่ และเขาก็ยังแวะตรวจสอบโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้ามาแล้ว ซึ่งในขณะนี้ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ

หลังจากนั้นเขาก็ขึ้นรถและพาหลินเมิ่งเมิ่งขับออกไปทันที

ในเวลานี้ จ้าวคังฮ่าวและคนอื่นๆยังไม่ได้จากไป จางเสี่ยวเยว่ถอนหายใจพลางกล่าวว่า "ฉินหยุนใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกอย่างสุขสบายเลย เขาทั้งเช่าบ้านและซื้อรถใหม่หนึ่งคัน"

เธอรู้สึกอิจฉามากจริงๆ ชีวิตในอุดมคติของเธอก็คือการซื้อบ้านและรถในเมืองจินหลิงด้วยกันกับหลี่หานอวี่ และช่วยกันสร้างรากฐานในเมืองใหญ่แห่งนี้ไปด้วยกัน

(จบตอน)