ตอนที่ 107 งานพาร์ทไทม์

เจียงอีอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ "ฉินหยุนนี่ดีจริงๆ แค่คิดว่าถ้าฉันมีเงินแล้วได้อยู่ข้างนอกคนเดียว มันจะสบายแค่ไหนกัน"

มีใครบ้างที่ชอบอาศัยอยู่ในหอพักที่แออัดกัน?

พวกที่อยู่ห้องพักแบบ 6 คนก็อยากได้ห้องพักแบบ 4 คน คนที่ได้ห้องพักแบบ 4 คนก็อยากได้ห้องพักแบบ 2 คน สุดท้ายก็ ห้องเดี่ยว มหาลัยหลายแห่งจัดให้นักศึกษาอาศัยอยู่ในหอพักกันตามตำแหน่ง ยิ่งตำแหน่งสูง ความเป็นอยู่ก็ยิ่งสะดวกสบาย

จ้าวฉิงตอบสนองขึ้นทันทีที่เธอเอ่ยจบ

แต่ก่อนที่เธอจะได้กล่าวอะไรออกมา รุ่ยเฉินฉีก็กระโดดไปที่ด้านข้างของเจียอีก่อนทันที เธอแสร้งทำเป็นร้องไห้และกล่าวว่า "อีอี เธอใจร้ายเกินไปแล้ว อยากจะทิ้งพวกเราและออกไปอยู่ข้างนอกคนเดียว"

หลังจากนั้นพวกเธอก็สู้กันทันที เสียงหัวเราะของพวกเธอดึงดูดเหล่านักศึกษาชายที่อยู่ไม่ไกลให้มองมาเป็นครั้งคราว

"เอาล่ะๆ พอแล้ว"

หลังจากสู้กันเสร็จ สาวๆก็ออกมาจากมหาลัย จากในระยะไกล พวกเธอยังมองเห็นร้านหม่าล่าทั่งที่เปิดโดยหยูเล่อเหยาอีกด้วย

"หัวหน้าชั้นเรียนน่าทึ่งมากจริงๆ ธุรกิจของร้านหม่าล่าทั่งนั้นดีจริงๆ" เมื่อมองไปที่ผู้คนที่เดินเข้าออกภายในร้าน จางเสี่ยวเยว่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉานิดหน่อย

ในความคิดของเธอ การเปิดร้านแล้วธุรกิจดีขนาดนี้ มันสุดยอดมากเกินไปจริงๆ

"สาวน้อย เธอยังไม่พอใจอีกหรือไง หลี่หานอวี่ของเธอมีรายได้จากการเขียนนิยายมากกว่า 7,000 หยวนต่อเดือน และคาดว่าในอีกไม่กี่เดือนต่อจากนี้ รายได้ต่อเดือนของเขาก็จะเกิน 10,000 หยวนแล้ว"

จ้าวฉิงเหลือบมองไปที่จางเสี่ยวเยว่พลางกล่าวออกมา

พวกเธอรู้สึกอิจฉาจางเสี่ยวเยว่มากที่มีแฟนที่สามารถเขียนนิยายและหาเงินได้มากขนาดนี้

"ยังไงก็เถอะ ตอนแรกหยูเล่อเหยาเริ่มชักชวนฉินหยุนก่อน และหวังว่าเขาจะลงทุนในร้านหม่าล่าทั่งของเธอใช่ไหม?" จ้าวฉิงคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็ถามออกมา "ดูเหมือนฉันจะเคยได้ยินบางคนพูดถึงเรื่องนี้ในชั้นเรียนอยู่"

"เป็นอย่างนั้นนั่นแหละ จ้าวคังฮ่าวก็บอกฉันเหมือนกันว่าหัวหน้าชั้นเรียนมาหาฉินหยุนด้วยตัวเองเลย"

เจียงอีพยักหน้าและกล่าวต่อ "แต่ตอนนั้นฉินหยุนปฏิเสธไป ในห้องพักของพวกเขามีแค่โจวผานเท่านั้นที่ลงทุนด้วยเงิน 3,000 หยวน"

"น่าเสียดายจัง ฉินหยุนมีเงินอยู่กับตัว ถ้าเขาเอาไปลงทุน เขาจะได้รับเงินปันผลทุกเดือนแน่นอน" จ้าวฉิงกล่าวออกมา

พวกเธอกล่าวคนละคำสองคำ จากนั้นเจียงอีก็กล่าวต่อ "ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องของวิสัยทัศน์ ถ้าคุณมีเงินอยู่ในมือ แต่คุณไม่ใช้มันให้เกิดประโยชน์ ไม่ช้าก็เร็วเงินก้อนนั้นมันก็จะหมดลง"

ตอนนี้มีบางคนในชั้นเรียนกำลังกล่าวถึงฉินหยุนเรื่องนี้เลย การเปิดร้านหม่าล่าทั่งนั้นต้องใช้เงินอย่างน้อย 50,000 หยวน และนักศึกษาในชั้นเรียนส่วนใหญ่เป็นคนธรรมดาที่ไม่ได้มีเงินมากมายนัก ดังนั้นพวกเขาแต่ละคนจึงลงทุนน้อยมาก

อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบกันดีว่าฉินหยุนจับรางวัลได้รถยนต์ คนทั้งชั้นเรียนจึงคิดว่าเขาต้องมีเงินจากการขายรถแน่นอน และหัวหน้าชั้นเรียนหยูเล่อเหยาได้เข้าไปขอให้เขาช่วยลงทุนโดยเฉพาะ แต่ฉินหยุนกลับปฏิเสธ

ตอนนี้ธุรกิจของร้านหม่าล่าทั่งกำลังร้อนแรง บางคนจึงได้เริ่มพูดเหน็บแนมลับหลังเขา

ท้ายที่สุดพวกเขาต่างก็รู้สึกอิจฉาฉินหยุนและอิจฉาที่เขาเคยจับรางวัลได้รถยนต์

ในมุมมองของเจียงอี แทนที่เขาจะเลือกเอาเงินไปลงทุนในร้านอาหารหม่าล่าทั่ง แต่เขากลับเลือกที่จะเอาเงินไปเช่าบ้านและย้ายออกไปอยู่ข้างนอก ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขาบริหารเงินไม่เป็น

"เฮ้ ทำไมพวกเธอถึงเอาแต่พูดถึงฉินหยุนกัน" ในขณะนี้เอง หลินเมิ่งเมิ่งก็กล่าวขึ้นอย่างไม่ค่อยพอใจ

"โอ้ เมิ่งเมิ่งรู้สึกไม่พอใจ เพราะเรากำลังพูดถึงฉินหยุนในทางที่ไม่ดี" หญิงสาวตัวเล็กรุ่ยเฉินฉี กล่าวด้วยรอยยิ้ม

"เอาล่ะ หยุดพูดเรื่องนี้กันเถอะ ไปช้อปปิ้งกันดีกว่า"

"คราวนี้ไปที่อื่นกัน"

เหล่าสาวๆต่างก็มองไปที่หลินเมิ่งเมิ่ง  และหยุดเอ่ยถึงเรื่องนี้

ไม่นานพวกเธอก็มาถึงสถานที่แห่งหนึ่ง ครั้งที่แล้วพวกเธอเลือกเดินเล่นที่ถนนย่านการค้า ครั้งนี้พวกเธอจึงเลือกที่ใหม่

"เฮ้ ทำไมถึงมีร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนอยู่ที่นี่? ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่าอยู่ที่ถนนย่านการค้าหรอกเหรอ?"

ในเวลานี้ เจียงอี จางเสี่ยวเยว่และคนอื่นๆ ต่างก็รู้สึกประหลาดใจเมื่อพวกเธอมาถึงสถานที่แห่งหนึ่ง และมองไปเห็นร้านขายเสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าของพวกเธอ ซึ่งมีป้ายเขียนว่าเทียนหยุนอยู่หน้าร้าน และมีโลโก้ที่ดูลึกลับโบราณแฝงความแฟนตาซีอยู่ข้างๆ

ครั้งล่าสุดที่พวกเธอไปซื้อของที่ถนนย่านการค้า พวกเธอก็เห็นร้านขายเสื้อผ้าของเทียนหยุนอยู่ที่นั่นเช่นกัน แต่ตอนนี้พวกเธอได้เห็นอีกครั้งในสถานที่ที่แตกต่างกัน

"เป็นไปได้ไหมว่าร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนสาขาก่อนหน้านี้ปิดตัวลง? ก็เลยเปลี่ยนมาเปิดที่นี่?"

เจียงอีและคนอื่นๆอดไม่ได้ที่จะรู้สึกงงงวย จากนั้นพวกเธอก็เดินเข้าไปในร้าน

"ยินดีต้อนรับค่ะ" เมื่อเห็นลูกค้าหลายคนเดินเข้ามา หญิงสาวในชุดพนักงานของร้านก็ก้าวไปข้างหน้าและเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม

"คุณนี่เอง"

เมื่อเห็นหญิงสาวคนนี้ เจียงอีและคนอื่นๆก็ผงะไปทันที

ครั้งสุดท้ายที่พวกเธอซื้อเสื้อผ้าที่ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุน ก็เป็นผู้หญิงคนนี้ที่เป็นคนบริการพวกเธอ ซึ่งพวกเธอก็ไม่ได้คาดคิดว่าจะได้พบกันที่นี่อีก

"ฉันจำได้ว่าร้านเสื้อผ้าของคุณไม่ใช่ว่าตั้งอยู่ที่ถนนย่านการค้าหรอกเหรอ? ทำไมตอนนี้ถึงเปลี่ยนที่ตั้งร้านแล้วล่ะ?” เจียงอีถามด้วยความสงสัย

หญิงสาวคนนี้ก็จำพวกเจียงอีได้เช่นกัน

เธอถูกย้ายมาที่ร้านเสื้อผ้าสาขานี้ ท้ายที่สุดแล้วร้านสาขาใหม่ก็เพิ่งเปิดขึ้นและมันจะดีกว่าถ้ามีพนักงานเก่าคอยดูแล

และเนื่องจากเธออาศัยอยู่ใกล้กับที่นี่ เธอจึงไม่ได้ขอย้ายกลับไปที่สาขาเดิม

เธอตอบด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า "ไม่ใช่ค่ะลูกค้า ร้านเสื้อผ้าของเราสาขาที่ถนนการค้ายังคงเปิดอยู่ค่ะ ร้านนี้เป็นร้านสาขาใหม่ของเรา"

"แบบนี้นี่เอง" เมื่อได้ยินเช่นนี้ เจียงอีและคนอื่นๆก็พยักหน้าออกมา

ในเวลานี้ โจวเสี่ยวเค่อผู้ซึ่งเงียบอยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นที่ไหน จู่ๆก็สังเกตเห็นข้อความที่เขียนไว้ในร้าน ทันใดนั้นดวงตาของเธอก็สว่างวาบขึ้น

เธอก้าวไปข้างหน้าและกล่าวทันทีว่า "สวัสดีค่ะ ที่ร้านนี้ต้องการพนักงานงานพาร์ทไทม์ไหมคะ"

ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนรับสมัครนักศึกษาสำหรับทำงานพาร์ทไทม์ด้วย ซึ่งร้านค้าสามสาขาแรกก็ทำเช่นนั้น แต่ในระหว่างที่เปิดรับสมัคร โจวเสี่ยวเค่อกำลังอยู่ในช่วงฝึกทหาร และเมื่อจบการฝึกทหารทางร้านค้าก็ได้รับพนักงานพาร์ทไทม์จนเต็มแล้ว

และในขณะนี้มีร้านขายเสื้อผ้าสามสาขาเปิดขึ้นใหม่ ดังนั้นต้องเริ่มรับสมัครพนักงานพาร์ทไทม์อีกแน่นอน

ส่วนมากเหล่านักศึกษาจะไม่มีเรียนในช่วงวันเสาร์และวันอาทิตย์ ดังนั้นพวกเขาจึงมีเวลาว่างมากมาย

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นวันชาติ นักศึกษาจำนวนมากจึงเดินทางกลับบ้าน ดังนั้นตอนนี้ที่ร้านเสื้อผ้าจึงยังมีตำแหน่งงานพาร์ทไทม์ว่างอยู่

เมื่อได้ยินคำถามของโจวเสี่ยวเค่อ พนักงานก็ยิ้มพลางกล่าวว่า "เราต้องการแน่นอน ถ้าคุณมีความคิดที่จะทำงานพาร์ทไทม์ ฉันจะพาคุณไปกรอกข้อมูล เมื่อผู้จัดการร้านของเรามา ฉันจะแจ้งให้คุณทราบอีกทีเพื่อมาสัมภาษณ์งาน"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ โจวเสี่ยวเค่อก็ส่งเสียงดีใจออกมาทันที ตงหยาน รุ่นพี่ของเธอก็ทำงานในร้านเสื้อผ้าเช่นกัน แต่จำนวนพนักงานที่นั่นเต็มหมดแล้ว และตอนนี้ที่นี่ก็กำลังเริ่มรับสมัครอีกครั้ง

เจียงอีและคนอื่นๆในห้องพักมองดูโจวเสี่ยวเค่อไปกรอกข้อมูลสมัครงาน จากนั้นก็มองไปที่เสื้อผ้าภายในร้าน พวกเธอต่างก็รู้ว่าสภาพความเป็นอยู่ครอบครัวของโจวเสี่ยวเค่อแย่ที่สุดในห้องพักเลย เธอจึงมองหางานพาร์ทไทม์อยู่เสมอ

...

ในเมืองจินหลิง ฉินหยุนกำลังยืนรอบางคนอยู่

"ฉินหยุน!"

เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งมองเห็นเขาแต่ไกล ดวงตาของเธอก็เป็นประกายขึ้นทันที จากนั้นเธอก็รีบวิ่งเข้าไปหา

หญิงสาวสวมเสื้อสเวตเตอร์สีขาว หน้าตาสวย เธอไว้ผมหางม้า ดูอ่อนเยาว์และมีชีวิตชีวา เมื่อมองไปที่ใบหน้าของเธอ เธอก็คือเซียวหลานนั่นเอง ในช่วงวันชาติมีฝนตกอยู่นิดหน่อยเช่นกัน แต่อุณหภูมิกลับลดลงมากทันที ซึ่งในช่วงตอนเที่ยงมันเหลือต่ำกว่า 20 องศาเท่านั้น

ตอนนี้อุณหภูมิเริ่มผิดปกติมากขึ้นเรื่อยๆ สถานที่หลายแห่งเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวทันทีหลังจากสิ้นสุดฤดูร้อนได้ไม่นาน

หลังจากอาศัยอยู่ในหอพักของทางมหาลัยเจียงหยวนเป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือน เซียวหลานก็ย้ายออกมาจากหอพักเช่นกัน

ด้วยตอนนี้โรงงานเครื่องจักรเหิงจุน มีมูลค่าอย่างน้อยหนึ่งพันล้านหยวน และเซียวผิงจุนยังถือหุ้น 5% ของทางโรงงานอีกด้วย นอกจากนี้เขายังมีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมอื่นๆอีก ดังนั้นจึงสามารถจินตนาการถึงทรัพย์สินที่มากมายได้อย่างง่ายดาย

เมื่อเทียบกับฉินหยุนแล้ว เซียวหลานถือเป็นเศรษฐีนีน้อยเลยทีเดียว

ด้วยรอยยิ้มจางๆบนใบหน้าของเธอเซียวหลานเอาสองมือไพล่หลัง เธอมองไปที่ฉินหยุนด้วยหางตาที่โค้งลง

สองสามวันในช่วงวันชาตินั้น พวกเขาไม่ได้เจอกันเลย ทั้งคู่มักจะคุยกันผ่านทางวีแชตอยู่ทุกวัน ในขณะนี้เซียวหลานรู้สึกคิดถึงฉินหยุนมาก

ในอดีต ทั้งตอนที่เรียนอยู่มัธยมปลาย หรือว่าตอนช่วงวันหยุดฤดูร้อน ต่างก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษ แต่มาวันชาติปีนี้ เธอกลับอยากให้มันจบลงโดยเร็วที่สุด

(จบตอน)