"ตุบ!" "ตุบ!" "ตุบ!"
เสียงก้าวขึ้นบันไดฟังดูคล้ายๆกับเสียงหัวใจเต้นมาก
เมื่อเขาขึ้นมาถึงชั้นบน หลิวซินก็สังเกตดูรอบๆสถานที่แห่งนี้ รวมถึงฝั่งที่เหล่าคนงานหลายคนกำลังพักอยู่ จากนั้นก็สำรวจสถานการณ์
ถ้ามองจากตึกสูงแห่งนี้ คุณสามารถมองเห็นสถานการณ์ในที่อื่นๆได้อย่างชัดเจน และคุณยังสามารถมองเห็นฉากวุ่นวายต่างๆได้ทั่วทุกที่ภายในบริเวณใกล้เคียงนี้
...
ฉินหยุนหยุดรถไว้ที่ข้างถนน เขานั่งอยู่ภายในรถพลางคุยโทรศัพท์กับจ้าวเทียนเฉียงเกี่ยวกับสาขาของร้านขายเสื้อผ้า
"บอสฉินครับ ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนทั้งสามสาขาในเมืองหรงหยางได้รับการรีโนเวทใหม่ทั้งหมดแล้ว และเสื้อผ้าจากโรงงานก็ถูกจัดส่งไปยังร้านเหล่านั้นเรียบร้อยแล้วครับ ส่วนการฝึกอบรมพนักงานก็อยู่ในระหว่างดำเนินการ" จ้าวเทียนเฉียงรายงานสถานการณ์ต่างๆผ่านทางโทรศัพท์
สำหรับสาขาร้านขายเสื้อผ้าในเมืองหรงหยาง ผู้จัดการร้านก็จะต้องถูกเลือกมาจากเมืองหรงหยางด้วย ซึ่งจะไม่ใช้คนจากเมืองจินหลิงไปดูแลที่นั่น หลังจากคัดเลือกเสร็จตัวผู้จัดการจึงจะถูกส่งไปยังเมืองหรงหยางอีกที
ตอนนี้เป็นช่วงปลายเดือนธันวาคมแล้ว และอีกไม่นานเดือนธันวาคมก็จะผ่านไป จากนั้นปีใหม่ก็จะมาถึง
และภายในวันที่ 1 มกราคม เทียนหยุนจะมีร้านขายเสื้อผ้าทั้งหมด 15 สาขาในมณฑลเจียงซู
"ร้านสาขาใหญ่จะเปิดขึ้นในวันที่ 1 ส่วนร้านสาขาเล็กอีกสองร้านจะเปิดขึ้นในวันที่ 2" ฉินหยุนสั่งอีกฝ่ายที่อยู่ปลายสาย
ขณะที่กำลังคุยโทรศัพท์ ฉินหยุนก็มองออกไปนอกหน้าต่างรถ เขาเห็นไซต์ก่อสร้างที่อยู่ข้างๆเขา และเขาก็สามารถมองเห็นเหล่าคนงานที่กำลังทำงานในไซต์ก่อสร้างได้อย่างรวดเร็ว
แต่เมื่อเขาเบนสายตาไปอีกทาง ฉินหยุนก็ผงะไปทันที รูม่านตาทั้งสองของเขาหดลงเล็กน้อย
"ปัง!"
เขารีบเปิดประตูรถและวิ่งไปที่ไซต์ก่อสร้างด้วยฝีเท้าที่เร็วมาก
...
ที่ตึกชั้นบน หลิวซินกำลังเคลื่อนย้ายสิ่งของบางอย่างอยู่
"เสี่ยวหลิว หลังจากที่ย้ายของพวกนี้เสร็จ เราจะขึ้นไปที่ชั้นต่อไปกันนะ" คนงานคนหนึ่งกล่าว
"ได้ครับ" หลิวซินพยักหน้าและยิ้มออกมาอย่างอายๆ
เขามองไปที่แผ่นไม้กระดานที่วางกองอยู่ข้างหน้าเขา โดยที่สีหน้าของเขาไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ จากนั้นเขาเริ่มเดินเข้าไปใกล้มัน
ในเวลานี้จิตใจของเขารู้สึกปลอดโปร่งมาก เขารู้ว่าต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับเขา แต่เขาไม่มีความกลัวใดๆอยู่เลย
"ผมขอโทษ ผมไม่ได้อยากทำแบบนี้" เขากล่าวอย่างเงียบๆอยู่ภายในใจ
"ครืดดด!"
เมื่อเขาเดินมาถึงที่อีกฝั่ง ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น จากนั้นแผ่นไม้บางแผ่นที่หลิวซินกำลังเหยียบอยู่ก็ลื่นไถลกระจัดกระจายออกไป
และหลิวซินก็เดินโซเซอยู่บนแผ่นไม้ที่กระจัดกระจายไปทั่ว
"เสี่ยวหลิว!"
เมื่อเห็นสถานการณ์นี้ คนงานในห้องก็หน้าเปลี่ยนสีทันที เขาต้องการวิ่งออกมาข้างหน้า
แต่ก็ช้าเกินไป เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเร็วมาก กว่าเขาจะรู้ตัวหลิวซินก็เดินโซเซมาจนถึงขอบตึกแล้ว และดูเหมือนว่าเขาจะสังเกตเห็นมันเช่นกัน แววตาของเขาเปลี่ยนเป็นตื่นตระหนก แต่ร่างกายของเขาก็เอียงไปที่อีกฝั่งเรียบร้อยแล้ว และไม่สามารถเอี้ยวตัวกลับมาได้ จากนั้นร่างของเขาก็เริ่มหล่นลงไป
"เวรแล้ว! หลิวซินตกลงไปจากตึก!"
เสียงอุทานดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในเวลานี้ฉินหยุนซึ่งกำลังวิ่งอยู่ ก็มองเห็นฉากที่หลิวซินตกลงมาจากตึกชั้นบนได้อย่างชัดเจน
...
สูงขึ้นไปบนท้องฟ้า ร่างของหลิวซินกำลังร่วงลงมาด้วยความเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะนี้เขาไม่รู้สึกกลัวเลย แต่กลับรู้สึกถึงความโล่งใจแทน
ใครก็ตามที่เห็นสถานการณ์ของเขาตอนนี้ จะต้องคิดว่ามันเป็นอุบัติเหตุแน่นอน และเป็นไปไม่ได้ที่จะคิดว่าเขาตั้งใจทำ
แม้ว่าจะคิดว่าเขาตั้งใจทำจริงๆ แต่ทางไซต์ก่อสร้างจะต้องมีการชดเชยที่เหมาะสมให้อย่างแน่นอน
นี่ถือว่าเป็นพฤติกรรมหลอกลวง แต่หลิวซินก็ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว ในเวลานี้เขาคิดได้แค่วิธีนี้เท่านั้นในการที่จะหาเงินให้ได้มากที่สุดในเวลาสั้นๆ
ทันใดนั้นจากที่ด้านล่างก็มีเสียงหนึ่งแว่วออกมาอย่างแผ่วเบา
"รถคันนี้ฉันเพิ่งซื้อมาใหม่ เป็นไงบ้าง?"
"ดูของแต่งข้างในซะก่อน ฉันหมดไปแสนกว่าเลย"
เสียงหนึ่งกล่าวออกมาอย่างสบายๆ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความพึงพอใจ
สำหรับคนอื่นๆ เงินหลายแสนถือเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป แต่สำหรับหลิวซิน มันยากมากที่เขาจะหามาได้
หลังจากนั้นหลิวซินก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดตามร่างกาย ก่อนที่ร่างของเขาจะตกถึงพื้น ร่างกายของเขาก็กระแทกเข้ากับบางอย่างเสียก่อน
"รถของฉัน!"
หลี่เหว่ยกำลังขับรถอย่างช้าๆเพื่ออวดเพื่อนๆของเขา แต่ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกถึงเสียงที่ดังขึ้นจากตัวรถ และจากนั้นก็มีร่างๆหนึ่งปรากฏขึ้นที่หน้ากระจกรถ
เขาอุทานออกมาและลงจากรถอย่างรวดเร็ว
"มีคนตกลงมาจากตึก!"
ในเวลานี้ใบหน้าของหลี่เหว่ยตื่นตระหนกมาก แม้ว่าเขาจะรู้สึกเสียใจกับรถ แต่ในขณะนี้เขาก็เป็นห่วงชีวิตของมนุษย์มากกว่า
นี่คือไซต์ก่อสร้างที่พ่อของเขาทำสัญญาไว้ ตอนนี้รัฐบาลเริ่มเข้มงวดกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าหากว่าที่นี่มีคนตายผลกระทบที่ตามมาจะไม่เล็กแน่นอน
"นายเป็นไงบ้าง?"
หลี่เหว่ยรีบลงจากรถ เขาเห็นหลิวซินนอนอยู่หน้ารถของเขาด้วยความเจ็บปวด
เขาไม่กล้าเข้าไปแตะตัวหลิวซิน แต่เอาโทรศัพท์ออกมาแล้วกดเบอร์ 120 ทันที
"มีคนตกลงมาจากชั้นบน!"
ในเวลานี้ คนงานบางคนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงก็สังเกตเห็นสถานการณ์ทางด้านนี้ สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน จากนั้นพวกเขาก็รีบวิ่งเข้าไปดู
"มันเกิดขึ้นที่ไซต์ก่อสร้างของเราอีกแล้ว"
"นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไร้ยางอายเหล่านี้ไม่มีมาตรการด้านความปลอดภัยในการทำงานที่อาคารสูงๆให้เราเลย และเป็นเพราะพวกเขานี่แหละที่ทำให้ราคาบ้านสูงขึ้นจนฉันไม่สามารถซื้อบ้านได้ แฟนของฉันเลยหนีไปเพราะเรื่องนี้ ตอนนี้ฉันต้องถ่ายรูปไว้ ฉันจะปล่อยให้เหล่าคนงานโดนรังแกไม่ได้!"
คนรอบข้างที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็เข้ามามุงดู บางคนก็แอบใช้มือถือถ่ายภาพบันทึกไว้ท่ามกลางฝูงชน
ใบหน้าของหลี่เหว่ยเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเขาได้เห็นเช่นนี้ แต่เขาไม่สามารถหยุดทุกคนได้ หากเขาตั้งใจเข้าไปแทรกแซงเรื่องนี้ มันคงแย่มากถ้าหากวิดีโอถูกโพสต์ลงบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งมันจะก่อให้เกิดความคิดเห็นต่อสาธารณชนมากมายอย่างแน่นอน
ช็อก? อีกหนึ่งภัยอันตรายที่แอบแฝงอยู่ในไซต์งานก่อสร้าง!
กฎแห่งสวรรค์มีไว้ทำไม! คนรวยรุ่นที่สองทำตัวไม่มีเหตุผล? คนงานถูกนายจ้างกดขี่อย่างหนักเขาจึงตัดสินใจกระโดดลงมาจากตึก?
ในเวลานี้คำที่ใช้พาดหัวข่าวต่างๆปรากฏขึ้นมาในใจของหลี่เหว่ย
มีเรื่องเสียๆหายๆมากมายบนอินเทอร์เน็ต แม้ว่าเขาค่อนข้างจะทำตัวไร้สาระตามประสาลูกคนรวย แต่เขาก็รู้ว่าจะจัดการกับสถานการณ์ในปัจจุบันอย่างไร
หลี่เหว่ยกดโทรออกไปที่ 120 อย่างรวดเร็ว และในที่สุดฉินหยุนก็วิ่งมาถึงด้านข้างของหลิวซิน เมื่อเขาเห็นว่าเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดไม่ได้เกิดขึ้น เขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
"หลิวซิน นายเป็นยังไงบ้าง" ฉินหยุนเอ่ยถามอย่างรวดเร็ว
"พี่ฉิน"
หลิวซินมองเห็นฉินหยุน เขาแสดงความเจ็บปวดออกมาทางสีหน้า และเขาก็รู้สึกเจ็บปวดตามร่างกายของเขาด้วย
แต่เมื่อเทียบกับความเจ็บปวดทางร่างกาย ในตอนนี้เขารู้สึกเจ็บข้างในใจมากกว่า เขารู้สึกชาไปทั้งตัว แผนการที่สมบูรณ์แบบของเขาล้มเหลวลงโดยสิ้นเชิง
เขารู้ว่าอาการบาดเจ็บของเขาไม่ได้ร้ายแรงมากนัก ดังนั้นค่าชดเชยที่ได้ก็น่าจะไม่มากเท่าไร
สำหรับเรื่องที่เขาตกลงมาจากตึก ทั้งการกำกับและการแสดงแค่เพียงครั้งเดียวก็เกินขีดจำกัดของเขาแล้ว และเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะใช้มันอีกเป็นครั้งที่สอง
ความกังวลในใจทำให้ความรู้สึกเจ็บปวดทางร่างกายของเขาน้อยลงเรื่อยๆ จนกระทั่งรถพยาบาลมาถึงและพาเขาไปส่งที่โรงพยาบาล
ในไม่ช้าผลการตรวจออกมา ขาของหลิวซินมีอาการหักเล็กน้อย แต่ไม่ได้บาดร้ายแรงมากนัก
เมื่อได้ยินผลลัพธ์เช่นนี้ หลี่เหว่ยคนรวยรุ่นที่สองก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก และเขาก็ยังรู้สึกขอบคุณรถของเขามากที่เป็นเบาะรองให้กับอีกฝ่าย
มิฉะนั้น อย่างน้อยหลิวซินจะต้องกระดูกหักทั่วร่างแน่นอน
เงินชดเชยบางส่วนถูกทิ้งไว้ และในที่สุดหลี่เหว่ยและคนอื่นๆก็จากไป
"หลิวซิน ตอนนี้นายรู้สึกดีขึ้นบ้างไหม?"
ฉินหยุนกลับมาจากการซื้ออาหาร ในเวลานี้มีคนไม่มากนักภายในวอร์ดคนไข้ เขาวางอาหารไว้บนโต๊ะเล็กๆข้างเตียงห้องพยาบาลพลางเอ่ยถามออกมา
"พี่ฉิน ฉันดีขึ้นมากแล้ว" หลิวซินฝืนยิ้มและกล่าวขึ้น
เขามองไปที่ฉินหยุน และทันใดนั้นเขาก็กล่าวว่า "พี่ฉิน พี่ช่วยปิดบังพ่อกับแม่ของฉันให้หน่อยนะ เกี่ยวกับเรื่องที่ฉันตกจากตึกที่ไซต์ก่อสร้างน่ะ เดี๋ยวสองสามวันฉันก็หายดีแล้ว ฉันจะกลับไปทำงานที่นั่นต่อ"
(จบตอน)
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved