ตอนที่ 155 เทียนหยุน ฉันกลับมาอีกครั้งแล้ว!

"พรุ่งนี้เช้าเริ่มทำงานตอน 8.30 น.! ที่สาขาถนนย่านการค้า... "

ข้อมูลแถวหนึ่งปรากฏขึ้นในกลุ่มย่อยของพนักงานร้านขายเสื้อผ้า กลุ่มวีแชตกลุ่มนี้อยู่ในความดูแลของโจวจินหลัน ผู้จัดการร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนสาขาถนนย่านการค้าที่เขตเจียงหนิง

ดูจากที่ตั้งของร้านเสื้อผ้าที่แจ้งมา ก็น่าจะเปลี่ยนจากร้านเดิมแต่ระยะทางไม่ได้ไกลจากเดิมมากนัก

"ว้าว ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนของเราเปิดอีกครั้งแล้ว!"

"ที่ตั้งของร้านดูเหมือนจะเปลี่ยนไป ร้านเราย้ายที่งั้นเหรอ?"

"ช่างเถอะ ในเมื่อเราได้รับแจ้งเตือนให้ไปทำงาน งั้นพรุ่งนี้เราก็กลับไปทำงานได้แล้วสินะ"

หลังจากได้รับข้อความแจ้งเตือน เหล่าสาวๆก็พากันร่าเริงขึ้นทันที

ท้ายที่สุดแล้วพวกเธอก็ไม่ต้องการที่จะสูญเสียงานดีๆเช่นนี้ไปอย่างแน่นอน

...

ในช่วงกลางคืนของวันที่ 2 กล่าวให้ชัดก็ตอนตีหนึ่ง ซึ่งเวลามันก็ล่วงเลยเข้าไปในเช้าของวันที่ 3 แล้ว แต่ในขณะนี้ฉินหยุน จ้าวเทียนเฉียงและฉินเสี่ยวเทายังอยู่ในร้านขายเสื้อผ้า

ทั้งด้านในและด้านนอกของร้านขายเสื้อผ้าทั้งหมดถูกจัดการตกแต่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว และตอนนี้คนงานหลายคนก็กำลังช่วยกันเอาป้ายชื่อร้านขึ้นไปติดที่หน้าร้านขายเสื้อผ้าอยู่

"ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุน"

หลังตัวอักษรชื่อของร้านค้า มีโลโก้ค่ายกลโบราณขนาดเล็กพิเศษอยู่ติดกับตัวอักษร ซึ่งก็เป็นโลโก้เทียนที่ทุกคนคุ้นเคย

"บอสฉินครับ ประมาณตีสองการเตรียมการทั้งหมดสำหรับร้านขายเสื้อผ้าทั้งสิบสองสาขาน่าจะเสร็จพอดี พนักงานขายในร้านเหล่านั้นได้รับการติดต่อและพวกเธอก็รับทราบแล้วครับ แต่มีพนักงานประมาณยี่สิบคนที่ไม่ได้มาทำงานต่อ และร้านค้าอีกสามสาขาที่เราเพิ่งเปิดใหม่ก็ยังไม่ได้รับสมัครพนักงานเลยครับ เพราะว่าเวลากระชั้นชิดเกินไป แต่เรื่องนี้มีผลกระทบแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เราสามารถขยายเวลาการทำงานของพนักงานออกไปได้ครับ"

จ้าวเทียนเฉียงกล่าวข้อมูลต่างๆออกมาขณะที่ยืนอยู่ข้างๆฉินหยุน

"ถ้าพนักงานมีไม่เพียงพอก็ปล่อยให้พวกเธอทำโอทีได้ และเงินค่าทำงานล่วงเวลาก็จะถูกเพิ่มไปกับค่าจ้างอีกที หลังจากที่พรุ่งนี้ร้านขายเสื้อผ้าเปิดแล้ว จะต้องมีการเริ่มรับสมัครพนักงานใหม่โดยเร็วที่สุด" ฉินหยุนสั่ง

สำหรับการทำงานล่วงเวลา พนักงานของร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนนั้นไม่ได้ต่อต้านเลย เพราะว่าฉินหยุนจ่ายค่าล่วงเวลาให้สูงมาก

"นอกจากนี้ เลื่อนการจ่ายเงินเดือนของพนักงานออกไปในวันที่สิบก่อน"

ปกติแล้วร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนจะจ่ายค่าจ้างในวันที่ 3 ของทุกเดือน ซึ่งเร็วกว่าร้านอื่นๆ 99% แน่นอน แต่ตอนนี้ฉินหยุนเหลือเงินในมือไม่มากนัก แม้ว่ามันเพียงพอที่จะจ่ายค่าจ้างให้พนักงานได้ แต่เมื่อจ่ายไปแล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็อาจจะเกิดขึ้นได้เช่นกัน ถ้าเป็นเช่นนั้นเขาก็จะไม่มีเงินสำรองเอาไว้หมุน

อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับร้านค้าส่วนใหญ่ จ่ายเงินเดือนวันที่ 10 ก็ยังถือว่าเร็วมากอยู่ดี

หลังจากถามจ้าวเทียนเฉียงอีกสองสามคำ ฉินหยุนก็มองไปที่ฉินเสี่ยวเทาและถามว่า "พี่เสี่ยวเทา เสื้อผ้าถูกจัดส่งมาแล้วหรือยัง?"

ฉินเสี่ยวเทาก็พยักหน้าและกล่าวว่า "เสื้อผ้าทั้งหมดจากโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าได้ถูกจัดส่งมาแล้ว ในเวลาสองเดือนจำนวนของเสื้อผ้าเพียงพอต่อความต้องการของร้านขายเสื้อผ้าทั้งหมดแน่นอน"

ตอนนี้ในจินหลิง ฉินหยุนมีร้านขายเสื้อผ้าอยู่ 12 สาขา และในเขตชิงอู๋เขามีอีก 2 สาขา รวมเป็น 14 สาขา

ถึงแม้จะมีร้านค้าจำนวนมาก แต่ในโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าเทียนหยุนที่เขตชิงอู๋ก็มีพนักงานมากถึง 200 คน ซึ่งกำลังการผลิตของเสื้อผ้าก็ยังคงมากกว่าความต้องการของร้านขายเสื้อผ้าอยู่ดี และในช่วงปลายเดือนนี้จะมีเสื้อผ้าดีไซน์พิเศษอีกจำนวนมาก

นอกจากนี้โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าเทียนหยุนในเมืองจินหลิงก็เริ่มดำเนินการตามปกติแล้ว

ในขณะที่ฉินเสี่ยวเทากำลังกล่าวออกมา ส่วนลึกในดวงตาของเขาก็ยังคงมีร่องรอยของความตกใจหลงเหลืออยู่ ซึ่งก่อนหน้านี้เขาได้รู้สึกตกใจกับร้านขายเสื้อผ้าทั้ง 12 แห่งที่ฉินหยุนเพิ่งเปิดเผยออกมามาก

คนอื่นอาจจะไม่รู้รายละเอียดของฉินหยุน แต่เขารู้ทั้งหมด

ไม่ว่าเขาจะคิดเรื่องนี้มากขนาดไหน เขาก็คิดไม่ออกเลยว่าฉินหยุนเอาเงินมาจากไหนเพื่อซื้อร้านค้าเหล่านี้?

เขาเดาว่าฉินหยุนน่าจะเช่ามา แต่แม้ว่าจะเป็นการเช่าที่ สัญญาเช่าของร้านค้าทั้ง 12 แห่งนี้ก็อาจจะมีระยะเวลานานถึงหนึ่งปีเลย และคาดว่าเขาจะต้องจ่ายค่าเช่ามากกว่าสองล้านหยวนในคราวเดียว

"เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว สิ่งที่เราต้องทำตอนนี้ก็คือรอ" ฉินหยุนยิ้ม

"แบรนด์เสื้อผ้าหานลู่งั้นเหรอ?"

เขามองออกไปในระยะไม่ไกล ตรงที่ที่ร้านขายเสื้อผ้าแห่งหนึ่งเพิ่งปิดร้านไปตอนสี่ทุ่มที่ผ่านมา

การต่อสู้กับหานลู่ ขณะนี้มันถือว่าเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น

...

เวลาผ่านไปทุกวินาทีทุกนาที หกโมงเช้าท้องฟ้ายังคงมืดดำ

และเมื่อเวลาผ่านไปแสงสว่างก็เริ่มส่องออกมาจากท้องฟ้าอันไกลโพ้น

ดวงอาทิตย์สีแดงลอยขึ้นมา ปัดเป่าความมืดมิดให้สลายหายไป และส่องแสงสว่างกลับมายังดินแดนแห่งนี้อีกครั้ง

จางต้าหยานเป็นแม่บ้านธรรมดาๆ เธอมักจะชอบไปช้อปปิ้ง โดยเฉพาะในร้านขายเสื้อผ้า

ขณะที่เดินอยู่บนถนน จางต้าหยานก็อดถอนหายใจออกมาไม่ได้เมื่อเห็นร้านที่ติดป้ายไว้ว่า ‘ปล่อยเซ้ง’ ให้เช่าต่อ

"เฮ้ออ ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้จะไปซื้อเสื้อผ้าจากที่ไหนแล้ว"

ร้านด้านหน้าเธอนั้นก็คือร้านเสื้อผ้าเทียนหยุน แต่ปิดกิจการไปแล้ว

ร้านขายเสื้อผ้าที่เธอไปบ่อยที่สุดก็คือเทียนหยุน เพราะทัศนคติในการให้บริการของพวกเขานั้นดีมาก และถ้าหากภายในหนึ่งเดือนเสื้อผ้ามีปัญหาหรือไม่เป็นที่พอใจ ก็สามารถส่งคืนทางร้านได้โดยตรง

ก่อนหน้านี้เธอก็เคยเอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งขั้นตอนก็เป็นไปอย่างราบรื่นมาก

ฉินหยุนมีค่ายกลรวบรวมโชคลาภเอาไว้เรียกลูกค้า ดังนั้นทัศนคติในการให้บริการจึงเป็นสิ่งที่เขาให้ความสำคัญมากที่สุด และเขาก็มีข้อกำหนดที่เข้มงวดมากในด้านนี้

"ก่อนหน้านี้ร้านเสื้อผ้าหานลู่แห่งนั้นได้ใช้กลยุทธ์ราคาถูกกว่าในการบดขยี้ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุน แต่ตอนนี้ราคาเสื้อผ้าของพวกเขาได้เพิ่มขึ้นอีกครั้งแล้ว แถมยังมีราคาแพงกว่าเสื้อผ้าของเทียนหยุนอีก ช่างเป็นนักธุรกิจที่ใจดำจริงๆ"

เธออดไม่ได้ที่จะมองไปยังร้านขายเสื้อผ้าแห่งหนึ่ง พลางสบถออกมา

อันที่จริงราคาเสื้อผ้าของร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนนั้นไม่ได้แพงมากนัก อย่างน้อยมันก็ถูกกว่าในร้านเสื้อผ้าส่วนใหญ่

แบรนด์เสื้อผ้าหานลู่ประสบปัญหาในการขาดทุนมาก่อน ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ตอนนี้พวกเขาจะกำหนดให้เสื้อผ้าราคาเดียวกันกับร้านเสื้อผ้าเทียนหยุน

จริงๆแล้วจางต้าหยานอาศัยอยู่ที่นี่ก่อนที่ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนจะมาเปิดขึ้นเสียอีก ซึ่งร้านเสื้อผ้าหานลู่ก็เปิดขึ้นที่นี่ก่อนเช่นกัน และส่วนมากเธอก็ซื้อเสื้อผ้าจากร้านของพวกเขาด้วย

และเมื่อเธอนำเสื้อผ้าไปคืนครั้งก่อนเนื่องจากเสื้อผ้าที่ซื้อมาเสียหายเล็กน้อย แต่ร้านเสื้อผ้าหานลู่ไม่ได้เปลี่ยนคืนให้เธอเลย

สิ่งนี้ทำให้จางต้าหยานไม่มีความประทับใจที่ดีต่อพวกเขา

หลังจากนั้น ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนก็เปิดสาขาขึ้นที่นี่ ด้วยเสื้อผ้าราคาถูกและทัศนคติการบริการของพนักงานขายที่ดีมาก ดังนั้นเธอจึงกลายเป็นลูกค้าประจำของเทียนหยุนนับตั้งแต่บัดนั้น

จากนั้น ร้านขายเสื้อผ้าทั้งสองแห่งก็ต่อสู้กันในสงครามกดราคา สุดท้ายเทียนหยุนก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป และตอนนี้ราคาเสื้อผ้าของร้านเสื้อผ้าหานลู่ที่เป็นฝ่ายได้ชนะ ก็กลับมาเท่ากับเมื่อก่อนแล้ว

จางต้าหยานเดินต่อไปอย่างไร้จุดหมาย แต่จู่ๆเธอก็มองไปที่ร้านขายเสื้อผ้าแห่งใหม่ที่ปรากฏขึ้น!

"หืม? ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนเปิดอีกครั้งงั้นเหรอ?"

เธอเดินมาที่หน้าร้านพลางสังเกตดูใกล้ๆ

ป้ายที่ติดไว้ตรงร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนที่อยู่ข้างเธอบอกว่าเปิดเวลา 8:30 น.

"เยี่ยม! แปดโมงครึ่งฉันจะมาดูอีกทีแน่นอน" จางต้าหยานรู้สึกยินดีมาก

...

ในโรงน้ำชาใจกลางเมืองจินหลิง จั่วหานและเฝิงเทียนจวินกำลังนั่งอยู่คนละฝั่งของโต๊ะ

ข้างๆจั่วหานมีผู้หญิงคนหนึ่งสวมชุดกี่เพ้านั่งอยู่ ผู้หญิงคนนี้ดูอายุประมาณสามสิบปี เธอมีใบหน้าสวยและรูปร่างโค้งเว้าสมส่วน

ส่วนเฝิงเทียนจวินนั่งถัดจากเซียวเฉียนเฉียน

"ชาที่นี่มีกลิ่นหอมและวิธีชงก็สง่างามมาก จั่วหาน นายสามารถลองลิ้มรสดูได้" เฝิงเทียนจวินยิ้ม

เมื่อได้ยินเช่นนี้จั่วหานก็กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สงบ "ฉันลิ้มรสชาไม่เป็น"

เขาหยิบถ้วยชามาไว้ในมือแล้วยกขึ้นจิบโดยตรง

"ยังไงก็เถอะ นายมาที่นี่เพื่อคุยเรื่องการขยายสาขาร้านขายเสื้อผ้าไม่ใช่เหรอ?"

จั่วหานเอนหลังลงบนเก้าอี้ เขาใช้แขนโอบรอบเอวผู้หญิงที่สวมชุดกี่เพ้าข้างๆเขา จากนั้นก็กล่าวอย่างเกียจคร้านว่า "ร้านเสื้อผ้าจวินชิงของนายวางแผนที่จะเปิดที่ไหนเป็นสาขาต่อไป?"

เฝิงเทียนจวินก็ยิ้มและกล่าวว่า "ขั้นต่อไป ร้านเสื้อผ้าจวินชิงของเราจะเปิดสาขาใหม่ในเขตลี่สุ่ย ฉันสงสัยว่ามันจะไปขวางทางเดินของบอสจั่วหรือเปล่า"

หลังจากเอาชนะร้านเสื้อผ้าเทียนหยุน ร้านเสื้อผ้าหานลู่ก็จะขยายสาขาอย่างรวดเร็วในมณฑลเจียงซู และพวกเขาก็น่าจะเปิดร้านอีกสองสามแห่งในเมืองจินหลิง เพื่อครอบครองตลาดทั้งหมด

เฝิงเทียนจวินมีเงินทุนมากมายหนุนหลังเขาอยู่ แต่ส่วนใหญ่แล้วเขาจะมีส่วนร่วมอยู่ในอุตสาหกรรมอาหารมากกว่า ไม่ใช่อุตสาหกรรมเสื้อผ้า ดังนั้นเขาจะหลีกเลี่ยงการแข่งขันที่ควรหลีกเลี่ยง

ท้ายที่สุดแล้วจั่วหานก็เพิ่งกลับมาจากการไปเรียนที่ต่างประเทศและเพิ่งเข้ามาที่นี่ ถ้าเขาต้องการพิสูจน์ความสามารถของตัวเอง มันจะไม่ใช่แค่การกระทำเล็กๆน้อยๆแน่นอน

"ทำอย่างที่นายต้องการได้เลย ฉันจะไม่ไปเปิดที่นั่น" จั่วหานกล่าวออกมาอย่างสบายๆ

ในขณะนี้เอง เสียงโทรศัพท์มือถือของจั่วหานก็ดังขึ้น

เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู แต่จู่ๆสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป!

(จบตอน)