ตอนที่ 217 กำไรสุทธิต่อเดือน 10 ล้าน!

ทุกคนกำลังตั้งหน้าตั้งตารอ

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในเวลาต่อมาลูกค้าจะหลั่งไหลเข้ามาในร้านค้ามากมาย แต่ก็มีไม่กี่คนเท่านั้นที่แวะดูเสื้อผ้าของซุนเซียง

ในครึ่งชั่วโมง มีเสื้อผ้าหนึ่งตัวที่ออกแบบโดยซุนเซียงถูกลูกค้าลองสวมใส่ แต่ลูกค้าคนนั้นก็ไม่ได้ซื้อมันไป

ชั่วขณะหนึ่ง ความมั่นใจของซุนเซียงก็เริ่มสั่นคลอนเล็กน้อย

หนึ่งชั่วโมงต่อมา เสื้อผ้า 2 ตัวที่เธอออกแบบถูกลองสวมใส่ แต่ก็ขายได้แค่ตัวเดียว

และในเวลาสองชั่วโมง เสื้อผ้าที่เธอออกแบบมี 5 ตัวที่ถูกลูกค้าลองสวมใส่ ส่วนเสื้อผ้าที่ขายได้มีแค่ตัวเดียวเท่านั้น

สามชั่วโมงต่อมา มีลูกค้าลองสวมเสื้อผ้าของเธอไปแล้ว 9 คน แต่ก็ยังขายได้แค่หนึ่งตัว

และช่วงเช้าก็ผ่านไปเช่นนี้ ร้านเสื้อผ้าหานลู่พอขายเสื้อผ้าได้บ้าง แต่เสื้อผ้าที่ออกแบบโดยซุนเซียงขายได้แค่สองตัวเท่านั้น

ยอดขายเช่นนี้ไม่เพียงพอที่จะเรียกว่าเป็นที่นิยมได้เลย

"มันเกิดอะไรขึ้น?" ในขณะนี้สีหน้าของซุนเซียงเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด

ก่อนหน้านี้เสื้อผ้าที่เธอออกแบบในร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนสามารถขายได้ 1 ตัวในระยะเวลาสั้นๆ และในโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าเทียนหยุน ยอดขายเสื้อผ้าที่ออกแบบโดยเธอก็คิดเป็นสัดส่วนครึ่งหนึ่งของทั้งโรงงานเลย

และในร้านเสื้อผ้าหานลู่แห่งนี้เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจมาก เธอรู้สึกว่าเสื้อผ้าที่เธอออกแบบในเวลานี้ดีกว่าเสื้อผ้าที่เธอเคยออกแบบในโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าเทียนหยุนเสียอีก

เนื่องจากวันหยุดช่วงตรุษจีนที่ผ่านมาเธอมีเวลาว่างมาก เธอจึงมีแรงบันดาลใจมากมายที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งเธอก็ได้ทำการออกแบบคร่าวๆตอนอยู่ที่บ้าน

ในความคิดของเธอ เสื้อผ้าของเธอต้องขายหมดเร็วแน่นอน แต่ตอนนี้มันกลับขายไม่ได้เลย

ตามความคาดหวังของเธอ เช้าวันนี้เสื้อผ้าของเธอควรจะขายได้อย่างน้อยสัก 20 ตัว

นอกจากซุนเซียงแล้ว ซุนเจียเจียก็เงียบไป สีหน้าของเธอค่อนข้างว่างเปล่า ซึ่งเธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพี่สาวที่เธอชื่นชมมากที่สุดจะประสบกับความล้มเหลวเช่นนี้

จากเสื้อผ้าทั้งหมดเจ็ดสไตล์กลับขายได้แค่ 2 ตัวเท่านั้นในเช้าวันแรก นี่เป็นสิ่งที่ดีไซน์เนอร์ทุกคนในโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าเทียนหยุนสามารถทำได้โดยง่าย

เจียงเสี่ยวเว่ยก็เช่นเดียวกัน และตอนนี้โทรศัพท์มือถือของเธอก็ไม่ได้เปิดกล้องถ่ายทอดสดอีกต่อไปแล้ว เธอพูดอยู่เสมอว่าฉินหยุนไม่มีวิสัยทัศน์และเป็นนักธุรกิจที่ใจดำ การไล่ลูกพี่ลูกน้องของเธอออกถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่

อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์กลับลงเอยเช่นนี้

ข้างๆพวกเธอ ซุนเฉียนอดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้ามืดมนเล็กน้อย แต่เธอก็ยังพอมีความคาดหวังอยู่บ้าง

"ผู้อำนวยการซุน"

ทันใดนั้นจั่วหานก็เดินเข้ามาในร้านขายเสื้อผ้าและเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

"เสื้อผ้าขายดีไหม?"

เขาสังเกตดูที่นี่อยู่ตลอดเวลา แน่นอนว่าเขาต้องรู้สถานการณ์การขายเสื้อผ้าของซุนเซียงเป็นอย่างดี

ตอนนี้เขามีความสุขมาก อันที่จริงเขารู้อยู่ชัดเจนว่าตอนที่ซุนเฉียนเพิ่งมาถึงที่นี่ก่อนหน้านี้เธอรู้สึกดูถูกเขามาก เขารู้ว่าในใจของซุนเฉียนมองเขาเป็นแค่คนรวยรุ่นสองที่ไม่มีความสามารถอะไรเลย

แม้ว่าในใจของเขาจะโกรธ แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องอดทน

และตอนนี้เขามาที่นี่ก็เพื่อจะบอกว่า เธอ ซุนเฉียน เธอช่างน่าทึ่งจริงๆ เธอดูถูกฉันใช่ไหม เธอคิดว่าฉันไร้ความสามารถ และไม่สามารถจัดการกับเทียนหยุนได้

แต่ตอนนี้เธอได้ใช้เงินจำนวนมากเพื่อดึงตัวดีไซน์เนอร์มาจากเทียนหยุน นี่ถือว่าเป็นความล้มเหลวเหมือนกันไหม?

ซุนเฉียนมองไปที่จั่วหานด้วยความนิ่งเฉย

"ไปกันเถอะ"

เธอไม่พูดอะไรมาก หันหลังกลับและจากไปทันที

เมื่อเห็นท่าทางของเธอ จั่วหานก็ยิ้มและจากไปเช่นกัน

ซุนเซียงซึ่งมีสีหน้าเปลี่ยนไปก็ถูกทิ้งไว้ในร้าน

เหตุผลที่เธอขอขึ้นเงินเดือนจากโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าเทียนหยุนก็เพราะว่าเสื้อผ้าของเธอขายได้มากมาย และเมื่อย้ายมาที่โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าของหานลู่ เธอก็ใช้เหตุผลเดียวกัน

แต่ตามผลลัพธ์ที่ออกมาตอนนี้ คาดว่าแม้แต่เจ็ดถึงแปดพันต่อเดือนก็ยังยากที่จะได้รับแล้ว

"มันต้องไม่เป็นแบบนี้ตลอดแน่นอน"

ซุนเซียงยังคงไม่อยากเชื่อและเฝ้าดูอยู่ที่นี่ต่อไป

...

"บอสฉินครับ ตั้งแต่ช่วงเช้าเสื้อผ้าของซุนเซียงแทบจะขายไม่ได้เลย..." จ้าวเทียนเฉียงพูดในขณะที่มองไปที่ฉินหยุน

"ดูเหมือนว่าวิธีการขายของหานลู่จะไม่ค่อยดีเท่าไร" ฉินหยุนยิ้มพลางกล่าว

เขามองไปด้านหน้าของเขา ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนสาขาใหม่กำลังจะเปิดขึ้น

ในที่สุดตอนนี้เวลา 12.00 น. ของวันที่ 1 กุมภาพันธ์ก็มาถึงแล้ว!

"ชื่อ : ฉินหยุน"

"ค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่สอง : 6 จุด"

"ค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่ง : 16 จุด"

"ยอดคงเหลือ : 28,355,000"

เมื่อเวลา 12.00 น.มาถึง แถวข้อความตามด้วยเสียงของระบบก็ดังขึ้นในจิตใจของฉินหยุนทันที

"ยอดคงเหลือยังไม่ถึง 100 ล้าน ซึ่งไม่เพียงพอที่จะเปิดใช้งานค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่สามได้"

"ในวันที่ 1 ของทุกเดือน โฮสต์จะได้รับค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่สอง 1 จุด และค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่ง 2 จุด"

"ตอนนี้มีค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่สอง 6 จุด ใช้งานไปแล้ว 5 จุด และค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่ง 16 จุด ซึ่งใช้งานไปแล้ว 14 จุด"

"ข้อมูลของระบบรวบรวมโชคลาภจะอัปเดตครั้งต่อไปในวันที่ 1 มีนาคม เวลา 12.00 น."

เสียงระบบยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเมื่อเสียงนั้นหยุดลง ฉินหยุนก็สัมผัสได้ถึงดวงแสงแปลกประหลาดสามดวงปรากฏขึ้นในจิตใจของเขา

"กำไรของเดือนมกราคมคือเก้าล้าน!"

เมื่อมองไปที่ยอดคงเหลือของเขา ฉินหยุนก็รู้สึกยินดีมาก

"ตามความเร็วระดับนี้ ในเดือนกุมภาพันธ์กำไรของฉันจะเกิน 10 ล้านแน่นอน!"

ยิ่งค่ายกลรวบรวมโชคลาภเปิดขึ้นมากเท่าไร กำไรในแต่ละเดือนของเขาก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น!

จากตอนแรกที่เปิดใช้งานค่ายกลรวบรวมโชคลาภ กำไรสุทธิต่อเดือนของเขาอยู่ที่ 100,000 หยวนเท่านั้น จากนั้นก็เพิ่มขึ้นมาเป็นสามล้าน ห้าล้าน เจ็ดล้าน… และในตอนนี้มันก็เพิ่มขึ้นมากถึงเก้าล้านอย่างน่าอัศจรรย์!

"กำไรต่อเดือนยังได้มากขนาดนี้ หุ้นที่ฉันซื้อไว้ในเดือนที่แล้วก็เพิ่มขึ้นมากกว่าหนึ่งล้านหยวนด้วย"

แบรนด์เสื้อผ้าเทียนหยุนมีเงินมากมายเข้าบัญชีทุกวัน ซึ่งฉินหยุนก็จะนำเงินส่วนหนึ่งไปลงทุนซื้อหุ้น แม้ว่าโชคด้านความมั่งคั่งของเขาจะมีผลต่อตลาดหุ้นแค่เล็กน้อย แต่มันก็ยังสามารถบวกกำไรให้ฉินหยุนได้อย่างน้อย 10% ต่อเดือน

เนื่องจากเทศกาลตรุษจีนเดือนมกราคมจึงมีวันหยุดมากกว่าปกติ มิเช่นนั้นเงินที่เขาได้รับจะยิ่งมากกว่านี้

สรุปแล้วตลอดทั้งเดือนมกราคม กำไรสุทธิของเขารวมแล้วได้มากกว่า 10 ล้านหยวน นี่คือจำนวนที่หักเงินเดือนพนักงาน ภาษี และค่าใช้จ่ายจำเป็นอื่นๆแล้ว!

ด้วยกำไรสุทธิเดือนละ 10 ล้าน ค่ายกลรวบรวมโชคลาภช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ

และในเดือนหน้ากำไรสุทธิจะยิ่งสูงขึ้นมากกว่าเดิม

ด้วยความคิดในใจ ทันใดนั้นดวงแสงของค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่สองก็ปรากฏขึ้นในจิตใจของเขา และจากนั้นมันก็โผล่ออกมาครอบคลุมร้านขายเสื้อผ้าที่อยู่ตรงหน้าเขาอย่างสมบูรณ์ทันที

หลังจากออกจากที่นี่ ฉินหยุนก็ไปที่ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนอีกสองร้านเพื่อจัดวางค่ายกลรวบรวมโชคลาภ

"ผู้จัดการจ้าว ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนของเราในเมืองหรงหยางจะเปิดเพียงหกสาขา ในวันที่ 1 มีนาคมนี้ร้านสาขาใหม่จะเปิดขึ้นในเมืองมู่อี้" ฉินหยุนกล่าว

ความสามารถในการดึงดูดลูกค้าของระบบนั้นแข็งแกร่งเกินไป ซึ่งคาดว่ายอดขายเสื้อผ้าในร้านของเขาแค่ร้านเดียวนั้น อาจเท่ากับร้านขายเสื้อผ้าร้านอื่นๆสิบร้านรวมกันเลย

จินหลิงเป็นมหานครที่มีอัตราการบริโภคอยู่ในระดับสูง แต่ที่อื่นๆไม่ได้ดีเท่าที่นี่ ดังนั้นฉินหยุนจึงไม่ได้วางแผนที่จะเปิดร้านสาขาขึ้นมากนัก

ร้านค้าขนาดใหญ่สองแห่งและร้านค้าขนาดเล็กสี่แห่งก็พอให้ครอบครองตลาดของทั้งเมืองหรงหยางแล้ว ซึ่งก็ถือว่าเพียงพอแล้วในความคิดของเขา

ไม่เช่นนั้นตลาดเสื้อผ้าในมณฑลเจียงซูอาจถูกเขาผูกขาดไว้แค่คนเดียว

ฉินหยุนอาจจะไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน แต่ตอนนี้เขาเริ่มคิดเรื่องต่างๆมากขึ้น

"ได้ครับบอสฉิน" จ้าวเทียนเฉียงพยักหน้า

"แล้วเรื่องเสื้อผ้าของซุนเซียงล่ะ ตอนนี้เป็นไงบ้าง?"

หลังจากพูดคุยเกี่ยวกับทิศทางการขยายตัวของเทียนหยุนแล้ว ฉินหยุนก็เอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง

...

ซุนเซียงยังไม่ได้ออกจากร้านเสื้อผ้าหานลู่ เธอกำลังเฝ้าดูการขายเสื้อผ้าของเธอต่อไป

เวลาล่วงเลยมาถึงบ่ายโมงกว่าๆ ในที่สุดเสื้อผ้าที่ซุนเซียงออกแบบก็ขายได้อีกหนึ่งตัว

พอถึงบ่ายสามโมงก็ขายได้อีกตัว

แต่หลังจากนั้นจนถึงห้าโมงเย็นก็ไม่มีเสื้อผ้าตัวไหนที่เธอออกแบบขายได้อีกเลย

(จบตอน)