ตอนที่ 166 วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด

"โทรศัพท์ของฉันไม่มีรูปถ่ายของเธอเลย!"

หลิวซินถือโทรศัพท์ไว้และต้องการยื่นมันให้จางหยานดู

อย่างไรก็ตาม ฉินหยุนหยุดเขาไว้ทันทีและบอกให้เขาถือโทรศัพท์ไว้เฉยๆ

"พี่ฉิน?" หลิวซินรู้สึกสับสน

"นายไม่ต้องกังวลหลิวซิน" ฉินหยุนกล่าว

ในสถานการณ์เช่นนี้ แม้ว่าการยื่นโทรศัพท์มือถือไปให้อีกฝ่ายจะสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองได้ทันที แต่เมื่ออีกฝ่ายได้โทรศัพท์ไปแล้ว ความคิดเห็นส่วนใหญ่ของฝูงชนก็จะเข้าข้างอีกฝ่ายโดยอัตโนมัติ

แม้ว่าในโทรศัพท์จะไม่ได้มีรูปที่ถูกหาว่าแอบถ่ายอยู่จริงๆ แต่ถ้าหญิงสาวคนนี้บอกกับคนอื่นๆว่ามี และเธอก็ลบทิ้งแล้ว หากเป็นกรณี มันก็เป็นไปไม่ได้แล้วที่จะพิสูจน์อะไร

หลิวซินยังคงเชื่อใจฉินหยุนมาก ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าและปล่อยให้ฉินหยุนจัดการเรื่องนี้แทน

"ดูสิ โทรศัพท์ของเพื่อนฉันไม่ได้มีอัลบั้มรูปอยู่เลย"

ฉินหยุนบอกให้หลิวซินเปิดหน้าจอโทรศัพท์มือถือให้ทุกคนดู และหน้าจอโทรศัพท์ก็ถูกเปิดค้างไว้ให้ทุกคนที่อยู่รอบๆได้เห็นโดยที่ไม่ได้ไปแตะเข้าแอพอื่นเลย

หลังจากนั้นฉินหยุนก็ใช้โทรศัพท์โทรออกไปที่เบอร์ๆหนึ่ง

"ฮัลโหล 110 ใช่ไหมครับ"

เขาไม่ยอมเสียเวลาแม้แต่นิด และเลือกที่จะโทรหาตำรวจทันที

หลังจากกล่าวกับปลายสายสั้นๆเกี่ยวกับสถานการณ์ในตอนนี้ เขาก็ยืนรออยู่เฉยๆที่ข้างๆหลิวซิน

และหน้าจอโทรศัพท์มือถือของหลิวซินก็ยังคงถูกเปิดค้างไว้ภายใต้สายตาของทุกคน

"ชายหนุ่มคนนี้เขาโทรหาตำรวจเลย"

"ดูเหมือนว่าเพื่อนของเขาน่าจะไม่ได้แอบถ่ายจริงๆ ไม่งั้นเขาคงไม่กล้าทำแบบนี้หรอก"

"ผู้หญิงคนนี้อาจจะกำลังใส่ร้ายเขา"

"เธอมั่นหน้ามากจริงๆ เธอคิดว่าคนอื่นทุกคนมีความคิดแบบนั้นกับเธอหมดเลยหรือไง?"

เมื่อเห็นการกระทำของฉินหยุน ทุกคนที่อยู่รอบๆก็เริ่มพูดคุยกันอีกครั้ง

หลิวซินก็รู้ถึงแผนของฉินหยุนเช่นกัน เขาจึงยืนรออยู่ข้างๆอย่างเงียบๆ

เขารู้อยู่แก่ใจดีว่าเขาแอบถ่ายรูปเธอหรือเปล่า

ฉากรอบตัวทั้งหมดเต็มไปด้วยเสียงการสนทนาของเหล่าจีนมุง ซึ่งฉินหยุนและหลิวซินก็ยืนรออยู่ตรงนี้ด้วยใบหน้าที่สงบ ส่วนจางหยานเธอก็สีหน้าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่ตลอดเวลา ยังมีจ้าวสิงที่พยายามลุกขึ้นจากพุ่มไม้ข้างทาง

ในเวลานี้ใบหน้าของจ้าวสิงกำลังเปลี่ยนเป็นสีเขียวและขาวซีด ตามร่างกายของเขาเต็มไปด้วยรอยขูดขีด แถมยังมีใบไม้กับฝุ่นละอองที่ติดอยู่ตามตัว

เขาแสดงอาการหลุกหลิกออกมาให้เห็น ซึ่งในขณะนี้เขาไม่ได้หลงเหลือความเย่อหยิ่งอยู่อีกแล้ว เขาหวังแค่ว่าสายตาของทุกคนจะไม่จับจ้องมาที่เขาก็พอ

ตอนแรกเขาพุ่งไปข้างหน้าอย่างดุร้าย แต่เขากลับไม่สามารถรับมือกับการเคลื่อนไหวของฉินหยุนได้เลย และยังต้องดิ้นรนอยู่ในพุ่มไม้อยู่เป็นเวลานานก่อนที่เขาจะหลุดออกมาได้

นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่จ้าวสิงเข้ามหาลัยมา เขารู้สึกอับอายและขายขี้หน้ามากมาก

อย่างไรก็ตาม ผู้คนที่อยู่รอบๆไม่ได้เป็นไปตามที่เขาหวัง ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีบางคนที่กำลังสนทนาอยู่รอบๆบังเอิญรู้จักเขา

เมื่อเห็นว่าฉินหยุนโทรหาตำรวจเสร็จเรียบร้อย จากนั้นก็ถือโทรศัพท์มือถือไว้ภายใต้สายตาของทุกคนขณะเดียวกันก็เริ่มรอ จางหยานก็ทนไม่ได้อีกต่อไป

ซึ่งเอาจริงๆเธอก็คิดว่าหลิวซินอาจจะไม่ได้แอบถ่ายรูปเธอ

หลังจากรออยู่สักครู่ เห็นได้ชัดว่าจางหยานรู้สึกกังวลเล็กน้อย

"ช่างมันเถอะ ฉันไม่เอาเรื่องนายแล้ว และฉันก็ไม่ต้องการคำขอโทษจากนายด้วย"

จางหยานกล่าวขึ้นมาทันทีพลางมองไปที่หลิวซิน จากนั้นก็เตรียมที่จะเดินออกไป

แต่ฉินหยุนขยับมาขวางด้านหน้าของเธอ ซึ่งความหมายของการกระทำนี้มันก็ชัดเจนมาก

"นายจะทำอะไร เรื่องที่เพื่อนของนายแอบถ่ายฉันๆก็ไม่เอาเรื่องแล้วไม่ใช่หรือไง ทำไมนายถึงไม่ยอมปล่อยฉันไปอีก" จางหยานกล่าวด้วยความโกรธ

ฉินหยุนขี้เกียจเกินกว่าที่จะพูดเรื่องไร้สาระกับเธอ เขาจึงกล่าวว่า "ตำรวจมาแล้วเราค่อยคุยกัน"

ถ้าจางหยานจากไปตอนนี้ และนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปโพสต์ในกระทู้บนกระดานข่าวของมหาลัยเพื่อเผยแพร่เรื่องนี้ ใครจะรู้ว่าจะมีเกิดอะไรขึ้น

โดยไม่สนใจท่าทางและคำพูดของเธอ ตราบใดที่จางหยานต้องการจะจากไป ฉินหยุนก็จะไปยืนขวางทางเธอไว้

นอกจากจางหยานแล้ว จ้าวสิงก็ต้องการที่จะก้าวไปข้างหน้าเพื่อออกจากที่ตรงนี้เช่นกัน แต่เมื่อมองไปที่ฉินหยุนเขาก็รู้สึกกลัวที่จะก้าวขาเล็กน้อย

เมื่อสักครู่นี้เขาเสียหน้าไปแล้วรอบหนึ่ง และถ้าเขายังก้าวออกไปอีก เขาก็อาจจะเสียหน้าเป็นรอบที่สอง

ไม่นานตำรวจในเครื่องแบบก็มาถึง

"เมื่อกี้มีคนโทรแจ้งตำรวจหรือเปล่า?"

ตำรวจมองไปที่เหล่านักศึกษาแล้วถามออกมา

หลังจากสอบถามและได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตำรวจก็มองไปที่หลิวซินและกล่าวว่า "ขอผมดูอัลบั้มรูปในมือถือของคุณหน่อย"

หลิวซินก็มอบโทรศัพท์มือถือไปให้เขาอย่างรวดเร็ว และภายใต้สายตาของทุกคน ตำรวจก็มองไปที่ฝั่งของจางหยานพลางกล่าวว่า "นักศึกษา ในโทรศัพท์ของเพื่อนคนนี้เขาไม่ได้มีรูปแอบถ่ายของเธอ"

"ไม่มีรูปแอบถ่ายจริงด้วย!"

"แน่นอนว่าผู้หญิงคนนี้ต้องกล่าวหาผู้ชายคนนั้นอย่างลอยๆ"

ใบหน้าของจางหยานเปลี่ยนเป็นสีเขียวและขาวซีดทันที

"ที่เธอกล่าวหาคุณเรื่องแอบถ่าย คุณต้องให้เธอขอโทษคุณไหม?" หลังจากกล่าวจบ ตำรวจก็มองไปที่หลิวซินแล้วเอ่ยถามออกมาอีกครั้ง

หลิวซินมองไปที่จางหยาน เขาส่ายหัวและกล่าวว่า "ไม่จำเป็น"

เมื่อเห็นว่าหลิวซินไม่ได้คิดที่จะเอาเรื่องเธอ จางหยานก็ไม่กล้าเสนอหน้าอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว และเธอก็เดินก้มหน้าออกจากที่นี่ด้วยความอับอาย

"ผู้ชายคนนั้นทำได้ดีมาก การกระทำต่างๆของเขาไม่มีข้อบกพร่องเลย และเขาก็ช่วยให้เพื่อนของเขาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้"

"ใช่แล้ว เมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้ สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือถือโทรศัพท์ไว้ต่อหน้าทุกคนโดยไม่ต้องกดอะไรใดๆ และก็ห้ามให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหนีออกไป จากนั้นก็โทรหาตำรวจ แล้วก็รอให้ตำรวจมาจัดการ"

"ถ้าเป็นฉันนะ ฉันคงส่งโทรศัพท์ไปให้อีกฝ่ายอย่างโง่ๆแน่เลย แต่ต่อไปต้องระวัง มันอาจจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกก็ได้"

คนรอบข้างต่างก็มองไปที่ฉินหยุน และอดไม่ได้ที่จะกล่าวชมเชยเขา หญิงสาวที่มีความกล้าบางคนถึงกับเข้าไปหาด้วยใบหน้าสีแดงและกล่าวกับเขาว่า "นักศึกษา เราเพิ่มวีแชตกันได้ไหม"

ทั้งวิธีที่ฉินหยุนใช้ผลักจ้าวสิงจนต้องถอยกรูดออกไปในตอนแรก และวิธีที่เขาช่วยหลิวซินชะล้างมลทินหรือความคับข้องใจของทุกคนนั้น ช่างสุดยอดมากจริงๆ แถมเขาก็สูงและยังหล่อเหลา ชายหนุ่มคนนี้ถือว่าเป็นแฟนหนุ่มในอุดมคติของเหล่าสาวๆเลย

บางคนถึงกับอัดวิดีโอเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นไว้ และเตรียมโพสต์ขึ้นบนกระทู้ของทางมหาลัยแล้ว

ฉินหยุนไม่สนใจคำขอของเหล่าสาวๆ เขาพาหลิวซินเดินออกไปซื้อของกันต่อ

"พี่ฉิน ขอบคุณมาก" ขณะที่เดินอยู่บนถนน หลิวซินก็เอ่ยคำขอบคุณออกมา

"เรื่องเล็กน้อย" ฉินหยุนโบกมือ

เขาไม่ได้กล่าวอะไรที่ฟังแล้วเป็นการสั่งสอนออกมา ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็เป็นเพื่อนกัน การกล่าวเชิงสั่งสอนนั้นไม่เหมาสมเลย

หลังจากที่กลับมาจากการซื้อของแล้ว ฉินหยุนก็กำลังรอเพื่อเข้าชั้นเรียน

และหลิวซินก็เดินออกไปคุยโทรศัพท์

"พ่อ ผลการตรวจของน้องเป็นยังไงบ้าง"

...

เวลาสี่ทุ่ม ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนถึงเวลาปิดร้าน และฉินหยุนก็กำลังดูรายงานยอดขายที่ส่งมาโดยจ้าวเทียนเฉียง

ตอนนี้ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนมียอดขายต่อวัน 400,000 กว่าหยวน และคาดการณ์ว่ายอดขายของร้านเสื้อผ้าทั้งหมดในเดือนธันวาคมจะมากกว่า 13 ล้านหยวนเสียด้วยซ้ำ!

แต่แน่นอนว่าจำนวนนี้ยังไม่เพียงพอสำหรับเขาที่จะใช้ซื้อร้านค้าด้วยสดเงินเต็มจำนวน

เงินที่ต้องใช้มีจำนวนมากถึง 16 ล้าน ยังมากกว่ากำไรต่อเดือนของเขาเสียอีก

เขาเปิดดูหุ้นในพอร์ตของตัวเอง วันเสาร์กับวันอาทิตย์ตลาดหุ้นจะปิด และวันนี้ หุ้นที่เขาซื้อในวันจันทร์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นถึง 3% ซึ่งถือว่าเป็นรายได้เสริมเลยทีเดียว

"ดูเหมือนว่าอิทธิพลของระบบรวบรวมโชคลาภที่มีต่อหุ้นก็จะไม่แย่มากเกินไป"

อย่างที่เขาจินตนาการไว้ก่อนหน้านี้ไม่ว่าเขาจะซื้อหุ้นตัวใด มันก็จะมีขีดจำกัดในการพุ่งขึ้นต่อวัน ซึ่งสถานการณ์อย่างเช่นหุ้นที่เขาซื้อมันจะพู่งสุงขึ้นภายในวันเดียว มันไม่น่าจะเกิดขึ้นได้

เมื่อเทียบกับลอตเตอรี่ หุ้นเหล่านี้โดยพื้นฐานแล้วจะถูกควบคุมโดยบริษัทที่มีชื่อเสียงและเจ้ามือรายใหญ่

แน่นอน ถ้าระบบรวบรวมโชคลาภของเขาได้รับการอัปเกรดต่อไปเรื่อยๆ ก็เป็นไปได้ว่าสิ่งนี้อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต

"เราคงต้องกู้เงินจากธนาคารต่อไป!"

ฉินหยุนรู้สึกหมดหนทางเล็กน้อย เมื่อเขาเปิดร้านสาขาใหม่ เขาก็คาดว่าตัวเองจะต้องเป็นหนี้ธนาคารมากขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน

...

หลังจากนัดกับพี่รองฉินลู่เพื่อจะไปที่ธนาคารแล้ว ฉินหยุนก็ขับรถไปที่ถนนที่เธอกำลังรออยู่

ในเวลานี้มีผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ข้างๆเธอ ซึ่งอีกฝ่ายก็กำลังคุยกับฉินลู่

"พี่รอง" ฉินหยุนเปิดประตูรถแล้วเอ่ยเรียกเธอด้วยรอยยิ้ม

"เสี่ยวหยุน" เมื่อฉินลู่เห็นรถของน้องชาย เธอก็รีบเดินเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว

(จบตอน)