ตอนที่ 142 สิบเอ็ดปะทะสิบเอ็ด

การให้เจ้าของที่กลับคำและเอาที่ตั้งร้านของร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนคืน ก็เป็นวิธีหนึ่งในการปราบปรามเช่นกัน

อันที่จริงจั่วหานไม่ได้สนใจร้านค้าร้านเล็กๆเหล่านั้นเลย ท้ายที่สุดแล้วขนาดพื้นที่รวมของร้านขายเสื้อผ้าทั้ง 6 สาขานั้นก็มีเพียง 240 ตารางเมตร ซึ่งเทียบได้กับร้านค้าสาขาใหญ่ของฉินหยุนแค่ร้านเดียวเท่านั้น

จากร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนทั้งหมด 9 สาขา ในตอนนี้เขากำลังปราบปรามร้านค้าสาขาใหญ่ที่มีอยู่แค่ 3 สาขาเป็นหลักเท่านั้น และเขาไม่ได้คำนึงถึงร้านค้าขนาดเล็กอีก 6 สาขาที่เหลือเลย

เพราะถ้าเขาเช่าร้านเล็กๆหกร้านโดยเปิดใกล้ๆร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนในลักษณะเดียวกัน จากนั้นก็ค่อยๆเขมือบพวกเขาอย่างช้าๆ วิธีนี้มันไม่คุ้มสำหรับแบรนด์เสื้อผ้าหานลู่สักเท่าไร

แม้ว่าเขาไม่ได้วางแผนที่จะบีบร้านขายเสื้อผ้าขนาดเล็กเหล่านั้นเหมือนกับร้านสาขาใหญ่ แต่เขาก็ไม่ต้องการที่จะทำให้ร้านค้าเล็กๆทั้ง 6 สาขาของฉินหยุนอยู่อย่างสบายๆ

ท้ายที่สุดแล้วร้านขายเสื้อผ้าทั้ง 6 สาขานั้นก็ต้องทำเงินให้ฉินหยุนอย่างแน่นอน

ดังนั้นเขาจึงพูดคุยกับเจ้าของที่อีกครั้ง ถ้าเจ้าของที่ต้องการยึดร้านคืน ตามการคาดการณ์ของเขา ฉินหยุนจะต้องไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน ดังนั้นเจ้าของที่ก็อาจจะสร้างปัญหาบางอย่างขึ้น และถึงแม้ว่าจะเป็นตำรวจก็ไม่สามารถจัดการได้ง่ายๆเลยเมื่อเจ้าของที่ยกพวกไปสร้างความเดือดร้อนที่ร้านค้าของเขา

ธุรกิจร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนของฉินหยุนก็จะแย่ลงเรื่อยๆ

"บอสจั่วครับ แต่ถ้าฉินหยุนยอมตกลงล่ะ?" ชายวัยกลางคนเอ่ยถามขึ้น

จั่วหานยิ้มออกมาเล็กน้อยพลางกล่าวว่า "ถ้าฉินหยุนยอมตกลง ก็ให้เจ้าของบ้านกลับคำอีกทีและไม่ต้องคืนเงินค่าเช่าที่เหลือให้เขา"

ร้านขายเสื้อผ้ากำลังดำเนินการไปได้ด้วยดี กิจการต่างก็ราบรื่น

แต่จู่ๆก็มีคนมากำหนดพวกเขาเป็นเป้าหมายในการปราบปราม ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะปิดกิจการทันทีแน่นอน

ร้านขายเสื้อผ้าทั้ง 6 สาขาของฉินหยุนเปิดทำการมาได้ด้วยดี ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะปิดร้านทันทีหลังจากแค่เจอการโจมตีรอบแรก

และแม้ว่ามันจะจบลงแล้ว ฉินหยุนกำลังจะปิดกิจการ แต่ถ้าเกิดเจ้าของที่กลับคำพูดของเขาไปมา ฉินหยุนจะรู้สึกอึดอัดมากแค่ไหน?

ในระยะเวลาสั้นๆ เขาได้กำหนดแผนการสำหรับร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เพื่อปราบปรามและบีบพวกเขาในทุกด้าน จากนั้นในที่สุดก็ปล่อยให้ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนปิดกิจการลงถาวร

จั่วหานยิ้มและกล่าวว่า "ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ร้านค้าเล็กๆทั้งหกร้านนั่นจะต้องสร้างปัญหาให้ฉินหยุนได้มากแน่นอน สำหรับร้านค้าสาขาใหญ่ ฉันได้จัดการปราบปรามพวกมันแล้ว และเขาก็คงไม่สามารถขอคืนค่าเช่าจากเจ้าของที่ได้ จุดประสงค์ทั้งหมดก็เพื่อดำเนินการในแผนการขั้นต่อไป บีบให้เงินทุนของเทียนหยุนหมดลง"

ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนสามารถเปลี่ยนสถานที่เพื่อย้ายไปเปิดร้านที่อื่นได้ แต่ค่าเช่าที่จ่ายไปแล้วหลายแสนหยวนก็จะหายไปด้วย

ส่วนเรื่องที่เขาสามารถทำให้เจ้าของที่ร่วมมือกับเขาได้นั้น นั่นเป็นเพราะเงินทุนที่มีเพียงพอ

...

"บอสฉินครับ นี่คือข้อมูลร้านสาขาทั้งหมดของแบรนด์เสื้อผ้าหานลู่ในเมืองจินหลิงแห่งนี้ ทั้งขนาดร้าน ตำแหน่งที่ตั้ง และข้อมูลอื่นๆอยู่ในนี้ทั้งหมดแล้วครับ"

ขณะเดียวกันกับที่จั่วหานได้รับหมายศาล จ้าวเทียนเฉียงก็ส่งเอกสารบางอย่างให้ฉินหยุน

ก่อนหน้านี้ฉินหยุนขอให้เขาตรวจสอบอย่างละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้

ในเมืองจินหลิง แบรนด์เสื้อผ้าหานลู่มีร้านขายเสื้อผ้าทั้งหมด 9 สาขา และตอนนี้เพื่อบีบร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนของฉินหยุน พวกเขาได้เปิดเพิ่มอีก 2 สาขา รวมเป็นร้านขายเสื้อผ้าทั้งหมด 11 สาขา

มี 4 สาขาที่ตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับร้านเสื้อผ้าเทียนหยุน

ฉินหยุนค่อยๆไล่ดูข้อมูลในเอกสาร และหลังจากที่เขาอ่านจบ เขาก็คิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็ถามออกมาว่า "ในพื้นที่เหล่านี้ทั้งหมด มีเจ้าของที่คนไหนอยากขายร้านค้าขนาด 40 ตารางเมตรบ้างไหม?"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ จ้าวเทียนเฉียงก็พยักหน้าพลางกล่าวว่า "ผมตรวจสอบมาแล้วครับ พบว่ายังมีร้านในลักษณะนี้อยู่มาก มีอย่างน้อยสองร้านในสถานที่แห่งเดียวเลยครับ ซึ่งเจ้าของที่เหล่านั้นก็มีความคิดที่จะขายราคาเต็มเช่นกัน ท้ายที่สุดแล้วช่วงนี้ก็ไม่ได้มีแนวโน้มว่าราคาที่ดินจะพุ่งสูงขึ้น"

ตั้งแต่ปีที่แล้ว ราคาบ้านที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วก็ดูเหมือนจะประสบปัญหาจุดคอขวดแล้ว แถมในบางพื้นที่ราคาบ้านยังลดลงอย่างรวดเร็วอีกด้วย

แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้มีให้เห็นแค่ส่วนเล็กๆเท่านั้น ซึ่งการเพิ่มขึ้นของราคาบ้านยังคงเป็นกระแสหลัก แต่ความเร็วที่เพิ่มขึ้นนั้นโดยพื้นฐานแล้วมันช้ามาก และธุรกิจการเกร็งราคาบ้านแบบนี้ก็ไม่นับว่าเป็นความมั่งคั่งอย่างกะทันหันได้

ดังนั้นหากมีคนยอมจ่ายเงินเต็มจำนวนเพื่อซื้อร้าน อาจจะยังมีคนอีกมากที่ยอมขาย

"โอเค งั้นคุณเลือกร้านมาสิบเอ็ดแห่งจากสถานที่เหล่านี้ เจ็ดแห่งมีพื้นที่ 40 ตารางเมตร และอีกสี่แห่งที่มีพื้นที่มากกว่า 200 ตารางเมตร ความต้องการอันดับแรกของผมคือทำเลดี อันดับที่สองคืออยู่ใกล้กับร้านเสื้อผ้าหานลู่ และอันดับที่สามก็คือ เจ้าของที่ต้องยินดีขายให้เราในราคาเต็ม" เขาสั่งออกมาทันที

ตอนนี้แบรนด์เสื้อผ้าหานลู่กำลังกระหน่ำเข้ามาอย่างรุนแรงจนแทบจะรอไม่ไหวที่จะถล่มร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนของเขาโดยตรงแล้ว

เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีเช่นนี้ ถ้าไม่ตอบโต้กลับ ก็คงจะไม่ใช่ฉินหยุนแน่นอน

ในอดีต ซุนหยาตงเคยขึ้นค่าเช่าสูงเสียดฟ้ากับเขา และท้ายที่สุด เขาก็สูญเสียเงินหลายแสนทันทีภายใต้การแผนการแก้แค้นของฉินหยุน และจบลงด้วยความยุ่งเหยิง

ฉินหยุนไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคนดี ตั้งแต่ที่อีกฝ่ายเข้ามาเพื่อปราบปรามเขา พวกเขาก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมที่จะหลั่งเลือดออกมาเช่นกัน!

แบรนด์เสื้อผ้าหานลู่นั้นมีขนาดใหญ่มาก แต่เขาไม่ได้กังวลเกี่ยวกับมัน นั่นเป็นเพราะว่าเขามีค่ายกลรวบรวมโชคลาภอยู่กับตัว ในการแข่งขันทางธุรกิจนั้นเขาจึงไม่รู้สึกกลัวใครเลย

นอกจากนี้ อิทธิพลหลักของแบรนด์เสื้อผ้าหานลู่นั้นอยู่ในหางโจวที่มณฑลเจ้อเจียง แต่ที่นี่คือเมืองจินหลิง ซึ่งอิทธิพลของพวกเขานั้นน้อยมากอย่างไม่ต้องสงสัย

ตามแผนการของฉินหยุน เขาจะใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งปีในการขยายกิจการไปทั่วทั้งมณฑลเจียงซู และเขาจะยังไม่มีการขยายสาขาไปที่มณฑลเจ้อเจียงในขณะนี้ ซึ่งเขาก็จะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับแบรนด์เสื้อผ้าหานลู่แบบตัวต่อตัวได้ด้วย

นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขากล้าที่จะต่อสู้กลับในเวลานี้

ฉินหยุนไม่ได้โง่ ถ้าตอนนี้เขาอยู่ในหางโจวที่อยู่ภายใต้จมูกของแบรนด์เสื้อผ้าหานลู่ เขาจะไม่สามารถต้านทานได้อย่างแน่นอน ถ้าเป็นในกรณีนั้นเขาก็จะไม่เลือกที่จะสู้แบบตัวต่อตัวอย่างเด็ดขาด ซึ่งเขาเลือกที่จะเลิกยุ่งกับพวกเขาชั่วคราว กลับมาฝนกรงเล็บให้แหลมคมและเฝ้ารอโอกาสอย่างเงียบๆอีกที

แต่เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ในปัจจุบันแล้ว ถ้าครึ่งปีให้หลังนี้เขาสามารถยึดครองตลาดซูโจวได้ทั้งหมดจริงๆ จากนี้ไปเขาก็ไม่ต้องกลัวแบรนด์เสื้อผ้าหานลู่อีกเลย!

"ครับบอสฉิน ผมจะจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด" เมื่อได้ยินคำกล่าวของฉินหยุน จ้าวเทียนเฉียงก็พยักหน้าออกมาทันที

เกี่ยวกับคำสั่งของฉินหยุน เขาไม่เคยถามมากเกินไปตามที่ฉินหยุนได้กล่าวไว้ในตอนต้น

หน้าที่ของเขาคือดูแลร้านเสื้อผ้าให้กับฉินหยุน ซึ่งเขาก็ไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องอื่นๆมากไปกว่านี้

ตื้ดดด...

ในขณะนี้เอง จู่ๆโทรศัพท์มือถือของฉินหยุนก็ดังขึ้น

เมื่อมองไปที่เบอร์โทรศัพท์ที่โทรเข้ามา คิ้วของฉินหยุนก็ขมวดเข้าหากันทันที

"ฮัลโหล"

เขากดรับสายอย่างรวดเร็ว

หลังจากพูดคุยกับอีกฝ่ายสองสามคำ ฉินหยุนก็กดวางสายไป

"บอสฉิน เจ้าของที่โทรมางั้นเหรอครับ?" จ้าวเทียนเฉียงที่อยู่ข้างๆอดไม่ได้ที่จะถามออกมา

เขาเห็นชื่อและเบอร์โทรเมื่อครู่นี้ด้วย

"เจ้าของที่บอกว่าจะไม่ให้เราเช่าร้านต่อแล้ว" ฉินหยุนกล่าวด้วยน้ำเสียงต่ำ

"อะไรนะครับ?"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของจ้าวเทียนเฉียงก็เปลี่ยนไปทันที เขากล่าวด้วยความโกรธว่า "นี่ต้องเป็นฝีมือของแบรนด์เสื้อผ้าของหานลู่แน่เลย"

"แน่นอนว่าต้องเป็นพวกเขา" สีหน้าของฉินหยุนก็มืดลงเล็กน้อยเช่นกัน

"ไปกันเถอะ ไปดูที่ร้านขายเสื้อผ้าก่อน"

ทั้งสองคนออกจากที่นี่แล้วรีบไปยังสถานที่แห่งหนึ่งอย่างรวดเร็ว

...

เมื่อพวกเขามาถึงร้านขายเสื้อผ้า ก็มีชายวัยกลางคนๆหนึ่งรออยู่ที่นี่ก่อนแล้ว

"บอสคะ" เมื่อเห็นฉินหยุนเดินเข้ามา ผู้จัดการร้านก็รีบเข้าไปหาทันที

ผู้หญิงคนนี้อยู่ในวัยสามสิบปี เธอชื่อว่าจ้าวเยว่ ซึ่งได้รับคัดเลือกโดยฉินหยุนในภายหลัง

"บอสฉิน ในที่สุดคุณก็มาถึงสักที" เมื่อชายวัยกลางคนได้ยินคำพูดของจ้าวเยว่ เขาก็มองไปที่ฉินหยุนด้วยดวงตาเป็นประกาย จากนั้นก็รีบเดินเข้าไปหาพลางกล่าวขึ้น

"บอสหลิน"

เมื่อมองไปที่ชายวัยกลางคนรูปร่างอ้วน ฉินหยุนก็เอ่ยถามเขาว่า "คุณต้องการอะไรจากผม?"

ชายคนนี้คือหลินต้าเฉียง เจ้าของที่ของร้านขายเสื้อผ้าแห่งนี้

เมื่อได้ยินคำถามของฉินหยุน ใบหน้าของหลินต้าเฉียงก็แดงด้วยความอายเล็กน้อย เขากล่าวว่า "บอสฉิน เราไม่ได้คุยกันทางโทรศัพท์เมื่อกี้หรอกเหรอ ผมไม่ต้องการให้คุณเช่าร้านนี้อีกต่อไปแล้ว และผมก็จะเอาที่คืน"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของฉินหยุนก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้นทันที เขากล่าวว่า "บอสหลิน คุณล้อเล่นหรือเปล่า? มันยังไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำตั้งแต่ที่เราลงนามกันในสัญญาเช่ากัน แถมยังเหลือเวลาอีกตั้งสิบเอ็ดเดือนก่อนที่จะหมดอายุสัญญา ซึ่งผมก็ได้จ่ายเงินคุณไปแล้วเป็นจำนวนของค่าเช่าทั้งปี จู่ๆคุณมาบอกว่าจะเอาร้านคืน คุณก็จะเอาคืนได้เลยเหรอ?"

(จบตอน)