ตอนที่ 11 เปิดฉากร้อนแรง!

"แกได้พนักงานแคชเชียร์หรือยัง?" ฉินซวนถามหลังจากที่เห็นฉินหยุนวางสายแล้ว

“เรียบร้อยแล้ว” ฉินหยุนพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม

"ให้จางชิงทำหน้าที่แคชเชียร์ ส่วนพนักงานขายเสื้อผ้ามีทั้งแม่ พี่สาว น้าสะใภ้และก็ฉัน อืม..ถือว่าได้อยู่ ดูสถานการณ์พรุ่งนี้ก่อน แล้วค่อยรับสมัครคนเพิ่มอีกสักสองสามคน" ฉินหยุนคิดกับตัวเอง

ก่อนหน้านี้เขาเคยเสนอให้รับพนักงานเพิ่มอีก แต่ครั้งนี้จ้าวเหมยคัดค้านอย่างหนักแน่น

ท้ายที่สุดแล้ว ในร้านขายเสื้อผ้าทั่วไป พนักงานสักคนสองคนก็เพียงพอแล้วที่จะดูแลร้านทั้งหมด และไม่จำเป็นต้องใช้คนจำนวนมากขนาดนั้น

ร้านยังไม่ทันได้เปิด จะทำอย่างไร หากรับพนักงานมาแล้วแต่ไม่มีลูกค้า?

ฉินหยุนไม่ยืนกรานต่อ ดังนั้นเขาจึงต้องรอจนกว่าจะถึงวันพรุ่งนี้เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาให้ทุกคนได้เห็นก่อน

สำหรับจางชิง เดิมทีเธอเป็นแคชเชียร์ของร้านขายเสื้อผ้าแห่งนี้มาก่อน ถ้าหากว่าเธอไม่มา เขาก็สามารถทำหน้าที่แคชเชียร์แทนได้ และพี่สาวของเขาก็เคยทำมาก่อนเช่นกัน ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้อง กังวล

...

วันต่อมา ทั้งครอบครัวมาที่ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนตั้งแต่เช้าตรู่

ฉินกั๋วตงไม่ได้มาด้วย ช่วงนี้ที่ไซต์ก่อสร้างค่อนข้างจะยุ่งมาก เขาและคนอื่นๆ จึงไม่มีเวลาพักผ่อนเลย

นี่เป็นอีกวันในเดือนพฤษภาคม เวลา 8.00 น.ในที่สุดดวงอาทิตย์ก็ขึ้นจากทิศตะวันออกอย่างสมบูรณ์ และแสงแดดก็สาดส่องกระทบกับใบหน้าของผู้คนจำนวนมากที่กำลังเดินตามถนน ทำให้ลมหายใจที่พ่นออกมาถึงกับปนไอร้อนอยู่ด้วย

"หืม.. มีร้านขายเสื้อผ้าอยู่ที่นี่ด้วยเหรอ?"

"ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุน? ฉันจำได้ว่าเคยเป็นร้านขายเสื้อผ้าชิงอี้ไม่ใช่เหรอ!"

"ป่ะ เข้าไปดูกันดีกว่า"

ผู้คนบนถนนที่เดินผ่านไปมา ทันทีที่ร้านเปิด ทุกคนเริ่มมองไปทางหน้าร้านโดยไม่รู้ตัว บางคนถึงกับเดินเข้าไปในร้านเลยด้วยซ้ำ

"สวัสดี"

จ้าวเหมยและคนอื่นๆไม่คาดคิดว่าจะมีลูกค้าเข้าร้านทันทีที่เปิดร้านเสร็จ พวกเธอจึงรีบเข้าไปต้อนรับลูกค้า

ในความเป็นจริงฉินหยุนสามารถเปิดร้านค้าขายของอื่นๆก็ได้ เช่น ร้านชานม หรือร้านขายเครื่องประดับ เป็นต้น ไม่ว่าเขาจะเปิดร้านแบบไหน เขาก็สามารถทำเงินได้หากมีโชคลาภ

อย่างไรก็ตามทั้งฉินซวน จ้าวเหมยและฉินหยุน ต่างก็เคยทำงานในร้านขายเสื้อผ้ามาก่อน และร้านเสื้อผ้าก็บริหารง่าย ได้ผลกำไรสูง ด้วยเหตุผลต่างๆนี้ ฉินหยุนจึงเลือกธุรกิจนี้เป็นตัวเลือกแรกของเขา

"เสื้อผ้าสวยดี ดูมีคุณภาพดีทีเดียว"

"ครั้งที่แล้วฉันดูราคาในอินเทอร์เน็ต เทียบกันแล้วก็ไม่ต่างจากที่ร้านนี้มากนัก"

เหล่าลูกค้าที่เห็นเสื้อผ้าที่แขวนอยู่ ก็เดินเลือกดูอย่างระมัดระวัง และมีความรู้สึกอยากจะชอปปิ้งโดยไม่รู้ตัว

อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และการขนส่ง เป็นสี่ปัจจัยพื้นฐานที่มนุษย์ขาดไม่ได้มากที่สุด

“บอส! ชุดนี้มีส่วนลดไหม” ลูกค้าคนหนึ่งเอ่ยถาม

"สวัสดีครับ เสื้อผ้าเหล่านี้ขายราคาถูกมากแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีส่วนลดให้ครับ"

ฉินหยุนก้าวไปข้างหน้าและอธิบายต่อ: "อย่างไรก็ตาม วันนี้เป็นวันแรกของการเปิดร้าน และเสื้อผ้าทั้งหมดทางร้านสามารถลดราคาพิเศษได้ 10% เฉพาะวันนี้วันเดียวเท่านั้น "

เรื่องส่วนลด 10% ตอนเปิดร้าน เขาเขียนติดไว้หน้าประตูแล้วแต่ลูกค้าบางคนไม่ได้สังเกต

ราคาทุนของเสื้อผ้าคือ 100 หยวนและเขาตั้งราคาขายไว้ที่ 200 หยวน แม้ว่าราคาจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับร้านเสื้อผ้าส่วนใหญ่ แต่ราคาก็ไม่ได้สูงเกินไป

บางร้านได้ราคาทุนมา 100 หยวน แต่ขายบวกกำไรไปที่ 400-500 หยวน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดามาก

แต่ว่าร้านค้าเหล่านั้นสามารถต่อรองราคาได้ แต่ที่ร้านของเขา ฉินหยุนจะไม่ยอมให้ลูกค้าต่อราคาเด็ดขาด หากว่าคุณต้องการต่อรองราคา การพูดคุยกันครึ่งวันนั้นใช้เวลานานและสิ้นเปลืองพลังงานมากเกินไป

เขามีรูปแบบการรวบรวมโชคลาภระดับหนึ่ง ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีใครมาซื้อของ

ลูกค้าลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า: "ขอฉันลองหน่อย"

หลังจากรอไม่กี่นาที ลูกค้าก็จ่ายเงินซื้อทันที

จางชิงมองดูลูกค้าจ่ายเงินซื้อของด้วยความประหลาดใจ ปกติแล้วภายในหนึ่งชั่วโมงแทบจะขายไม่ได้สักตัว แต่ตอนนี้เสื้อผ้าหนึ่งชิ้นถูกขายไปภายในไม่กี่นาทีหลังจากเปิดร้าน

ทุกอย่างเริ่มต้นได้ดีและเสื้อผ้าชิ้นแรกก็ถูกขายออกไป จ้าวเหมย ฉินซวนและคนอื่นๆ รู้สึกตื่นเต้นและพูดคุยอย่างกระตือรือร้นอธิบายเกี่ยวกับเสื้อผ้าให้ลูกค้ารายอื่นฟัง

และเมื่อเวลาผ่านไป จำนวนเสื้อผ้าที่ขายได้ก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

“บอส ขอฉันลองชุดนี้หน่อย”

"สามี คุณดูเสื้อผ้าพวกนี้สิ สวยจังเลย ฉันอยากจะซื้อมัน"

"เสื้อผ้าในร้านนี้ราคาถูกมาก คุณภาพก็ไม่แย่ไปกว่าร้านแบรนด์ดัง และยังมีแบบให้เลือกเยอะมาก ที่สำคัญราคาไม่เเพงเลย ราคาไม่ถึงหนึ่งในสามของร้านแบรนด์ดังๆด้วยซ้ำ"

"ในอนาคต ถ้าเราซื้อเสื้อผ้าบ่อยๆ เราค่อยมาซื้อที่ร้านนี้กัน! "

"ส่วนลด 10% มีเฉพาะวันนี้เท่านั้น และพรุ่งนี้ราคาจะกลับเป็นเหมือนเดิมแล้ว เพราะงั้น ซื้อ! ซื้ออีกสักสองสามตัว!”

เสียงตื่นเต้นของลูกค้าเริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ เสื้อผ้าแต่ละชิ้นก็ถูกขายออกไป ตั้งแต่แรกมีคนห้าหรือหกคนภายในร้าน และจากนั้นจำนวนก็คงที่อยู่ระดับนี้ บางครั้งก็มีลูกค้าเพิ่มขึ้นเล็กน้อยประมาณสิบกว่าคน แล้วก็มีช่วงที่ลูกค้าน้อยลง แต่ก็มีอย่างน้อยสองคนที่เดินเลือกซื้อเสื้อผ้าในร้าน ทั้งร้านจึงไม่ค่อยมีที่ว่างเลย

สถานการณ์นี้พบเห็นได้ยากในร้านขายเสื้อผ้าทั่วไป

ผู้คนข้างนอกหลายคนเริ่มสังเกตเห็นสถานการณ์ที่นี่เช่นกัน

"ว้าว มีคนค่อนข้างเยอะในร้านเสื้อผ้านั่น!"

"ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุน? ร้านเพิ่งเปิดใหม่ อาจจะจ้างหน้าม้ามาก็ได้ "

"ไปดูกันเถอะ!"

เหล่าผู้คนที่ขี้สงสัย เมื่อเห็นสิ่งผิดปกติก็จะไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น

ตั้งแต่เวลา 8.30 น. ลูกค้าเข้าร้านแทบไม่ขาดสายเลย แน่นอน คนส่วนใหญ่เลือกเข้ามาชมเฉยๆ

มีร้านเสื้อผ้าอยู่มากมายที่ข้างนอก เป็นปกติที่เราจะไปเลือกดูหลายร้านเมื่อซื้อเสื้อผ้า

ถึงแม้ว่าจะมีเพียงคนส่วนน้อยที่ซื้อ แต่นี่ก็ดีมากแล้ว

ในไม่ช้าเวลาก็ล่วงเลยไปถึงสิบเอ็ดโมงกว่าๆ จนถึงตอนนี้เสื้อผ้าก็ถูกขายไป 18 ตัวแล้ว

เปิดร้านมาสามชั่วโมง ขายได้ 18 ตัว เฉลี่ยแล้วขายหนึ่งตัวในสิบนาที

อันที่จริง นี่มันน่าทึ่งอยู่แล้ว ท้ายที่สุด เมื่อเราเข้าไปในห้องลองเสื้อผ้าและลองเสื้อผ้า 2 ชุดอยู่พักหนึ่ง เวลาก็ผ่านไป 10 นาทีแล้ว

นี่เท่ากับว่า ทุกคนลองเสื้อผ้าสองสามตัวแล้วก็ซื้อทันที ภายในเวลาสามชั่วโมง

เสื้อผ้า 18 ตัวนี้ ไม่นับต้นทุน ได้กำไรสุทธิถึง 1,800 หยวน!

ในเวลานี้ ใบหน้าของจ้าวเหมยและฉินซวน เต็มไปด้วยความตื่นเต้น และพวกเธอก็รู้ถึงผลกำไรโดยคร่าวๆได้

เมื่อถึงตอนพักเที่ยงหลายคนก็จะไปพักกินข้าวกัน แต่ก็ยังมีลูกค้าคนสองคนอยู่ในร้านที่กำลังเลือกดูเสื้อผ้าอยู่

"แม่ ไปหาอะไรกินกันเถอะ" ฉินหยุนพูดด้วยรอยยิ้ม

“เสี่ยวหยุน ลูกไปกินข้าวก่อนเลย เราจะอยู่ต่อสักพัก!” จ้าวเหมยพูดอย่างเร่งรีบ

ตอนนี้เธอตื่นเต้นจนไม่อยากพักเลย

ความกังวลของเมื่อวานถูกเธอโยนทิ้งไปนานแล้ว

ร้อนแรง! ธุรกิจรุ่งเรืองตั้งแต่เริ่มต้น! สิ่งที่เธอได้รับแค่ในช่วงเช้าสามารถเปรียบเทียบได้กับสิ่งที่เธอได้รับในหนึ่งเดือน

ฉินหยุนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงดึงพี่สาวคนโตของเขา ฉินซวน และทั้งสองก็ไปที่ร้านอาหารเล็กๆใกล้ๆ เพื่อรับประทานอาหารแบบสบายๆ

"เสี่ยวหยุน พี่ไม่คิดเลยว่าวันนี้ธุรกิจจะดีขนาดนี้" ฉินซวนพูดอย่างตื่นเต้น

ภายในไม่กี่ชั่วโมงในตอนเช้า เสื้อผ้าตัวหนึ่งก็ถูกขายออกไปในเวลาอันสั้น นี่เป็นสถานการณ์ที่ร้านขายเสื้อผ้าทั้งหมดต้องการเห็นอย่างแน่นอน

"ผมบอกแล้ว ถ้าเราเปิดร้านขายเสื้อผ้า เราจะประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน!" ฉินหยุนพูดด้วยรอยยิ้ม

ความจริงแล้วร้านเสื้อผ้าส่วนใหญ่ขายเสื้อผ้าได้ไม่กี่ตัวต่อวัน ซึ่งนี่ก็ดีมากแล้ว มีคำกล่าวไว้ว่าร้านขายเสื้อผ้าบางร้านจะไม่ขาดทุนตราบเท่าที่ยังขายเสื้อผ้าได้วันละหนึ่งตัว

เว้นแต่ว่าจะเป็นพวกของราคาถูกเป็นพิเศษซึ่งมีราคาแค่สิบกว่าหยวนหรือแม้แต่ไม่กี่หยวน ก็เป็นไปได้ที่จะขายได้มากภายในหนึ่งวัน

แต่ผลกำไรที่ได้จากของเหล่านั้นก็ต่ำมากเช่นกัน

(จบตอน)