ในร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองจินหลิง จั่วหานกำลังชิมอาหารรสเลิศที่อยู่ตรงหน้าเขา
เขาเป็นชอบทานอาหารมาก ตอนที่อยู่ต่างประเทศเขามักจะจ้างเชฟฝีมือดีค่าตัวแพงมาดูแลทั้งเรื่องอาหารและเครื่องดื่มของเขา
ในขณะนี้เอง ชายวัยกลางคนที่อยู่นอกร้านอาหารก็เดินเข้ามา ใบหน้าของเขายังคงแสดงอาการตกใจอยู่ ราวกับว่าเขาได้พบกับสิ่งที่เหลือเชื่อมา
จั่วหานชำเลืองมองไปที่เขาพลางถามว่า "คุณได้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์เฉพาะของร้านขายเสื้อผ้าเทียนหยุนมาแล้วใช่ไหม?"
ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนปิดตัวลงไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่จู่ๆพวกเขาก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งหลังจากผ่านไปแค่เพียงสองวัน และร้านขายเสื้อผ้าทั้งหมดนั่นก็ปรากฏตัวอยู่ข้างๆร้านเสื้อผ้าหานลู่ แม้แต่เขาเองก็ยังรู้สึกเหลือเชื่อ
แต่ตอนนี้ความตกใจจากครั้งก่อนของเขามันได้หายไปอย่างสมบูรณ์แล้ว
"ครับบอสจั่ว" ชายวัยกลางคนก้าวไปข้างหน้าและยื่นเอกสารบางอย่างในมือให้
หลังจากรับเอกสารข้อมูลมา จั่วหานก็ค่อยๆไล่ดูอย่างระมัดระวัง แต่หลังจากนั้นเพียงสามวินาที สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก และเขาก็ยืนขึ้นแทบจะในทันที
"เจ็ดในสิบเอ็ดร้านของร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนตอนนี้ ถูกซื้อด้วยเงินสดแล้ว!?"
"ใช่ครับ บอสจั่ว ข้อมูลนี้ได้รับการยืนยันอย่างสมบูรณ์แล้ว" ข้างๆเขา ชายวัยกลางคนกล่าวเสริมขึ้นมา สีหน้าของเขาก็ดูไม่ดีเช่นกัน
"อีกสี่ร้านที่เหลือยังไม่แน่ใจ เพราะว่าเราไม่สามารถติดต่อกับเจ้าของที่เหล่านั้นได้ แต่เป็นไปได้มากว่าร้านค้าพวกนั้นก็น่าจะถูกร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนซื้อไปด้วยเงินสดเต็มจำนวนแล้วครับ" น้ำเสียงที่ชายวัยกลางคนกล่าวออกมาฟังดูแข็งทื่อเล็กน้อย
เขาเองก็ตกใจมากเช่นกันเมื่อได้ทราบข่าวครั้งแรก
"เป็นไปได้ยังไง! ร้านค้าที่จินหลิงมีราคาแพงมาก ฉินหยุนเอาเงินจากที่ไหนมาซื้อพวกมัน" จั่วหานกล่าวด้วยน้ำเสียงต่ำๆที่แฝงไปด้วยความเกรี้ยวกราด
แม้แต่ร้านเสื้อผ้าหานลู่ก็ยังต้องเช่า
ร้านเพื่อเปิดกิจการอยู่เลย และเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อร้านค้า
ราคาที่ต้องจ่ายมันเป็นจำนวนมากเกินไป
แน่นอนว่าถ้าแค่ร้านค้าเพียงไม่กี่ร้าน ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับแบรนด์เสื้อผ้าหานลู่ แต่ตอนนี้ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนเล็กๆนั่นกลับสามารถทำได้มากขนาดนี้
"มันเกิดอะไรขึ้น ฉินหยุนหาเงินจำนวนมากขนาดนั้นมาได้ยังไง? หรือว่าเขาจะมีภูมิหลัง?" จั่วหานคิดในใจ
ตามข้อมูลที่เขาสืบมา ฉินหยุนไม่ได้มีภูมิหลังที่พิเศษใดๆ
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในแววตาของเขาก็ปรากฏร่องรอยของความตื่นตระหนกขึ้นมา
จริงๆแล้วก่อนหน้านี้ฉินหยุนไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาเลย แม้ว่าฉินหยุนจะเตรียมพร้อมสำหรับรับมือเรื่องนี้ไว้แล้วก็ตาม แต่ในความคิดของเขาฉินหยุนมีจุดสิ้นสุดเพียงแค่จุดเดียวเท่านั้น และนั่นก็คือความล้มเหลว
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่อย่างที่เขาคิดเสียแล้ว
‘เราจะรายงานเรื่องนี้ดีไหม’ จั่วหานคิดอยู่ภายในใจ
ตอนนี้ปัญหานี้มันยกระดับยากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
เขาไม่ได้โง่ และมันเป็นไปไม่ได้แล้วที่เขาจะใช้แผนเดิมเหมือนกับก่อนหน้านี้
ตื้ดด...
ในขณะนี้เอง จู่ๆโทรศัพท์ของจั่วหานก็ดังขึ้น เขาหยิบมันขึ้นมาดู ทันใดนั้นสีหน้าของเขามืดลง จากนั้นเขาก็แตะที่หน้าจอเพื่อรับสาย
"พี่ใหญ่"
น้ำเสียงของเขาดูเหมือนจะมีความดีใจแฝงอยู่
"เสี่ยวหาน ฐานลูกค้าที่ซูโจวเป็นยังไงบ้าง ความคืบหน้าในการขยายสาขาไปถึงไหนแล้ว และสถานการณ์ของร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนเป็นยังไงบ้างตอนนี้?"
เสียงที่ฟังดูอ่อนโยนดังออกมาจากโทรศัพท์
"พี่ใหญ่ ตอนนี้ร้านเสื้อผ้าหานลู่ของเรากำลังดำเนินการขยายสาขาตามแผน ส่วนร้านเสื้อผ้าเทียนหยุน ... "
จั่วหานหยุดไปชั่วขณะ จากนั้นเขาก็กล่าวว่า "เรายังคงจัดการพวกเขาอยู่"
"เสี่ยวหาน ความเร็วระดับนี้มันช้าเกินไป คนจากแบรนด์เสื้อผ้าอื่นๆในหางโจวแห่งนี้กำลังให้ความสนใจกับสถานการณ์ของที่นั่น พวกเขากำลังรอดูเรื่องตลกของแบรนด์เสื้อผ้าหานลู่อยู่ ถ้าเราใช้เวลามากเกินไปในการจัดการร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนที่เพิ่งเปิดได้ไม่กี่เดือนนั่น ทั้งคุณปู่ คุณพ่อ และก็กรรมการในบริษัทจะไม่พอใจเอาได้นะ"
เสียงจากโทรศัพท์กล่าวแนะนำอย่างอ่อนโยนว่า "ตอนนี้พี่ก็เป็นคณะกรรมการของบริษัทมาสักพักแล้ว ให้พี่ส่งซุนเฉียนไปช่วยแกดีไหม?"
"พี่ใหญ่ล้อเล่นกับผมแล้ว"
เมื่อได้ยินเช่นนี้จั่วหานก็รีบกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า "พี่ใหญ่ไม่ต้องห่วง ผมสามารถจัดการกับตลาดเล็กๆในมณฑลเจียงซูแห่งนี้ได้อย่างง่ายดาย สำหรับร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนนั่น ผมจะรีบแก้ปัญหานี้ให้เสร็จ"
เขากล่าวออกมาขณะที่ใบหน้าเริ่มมืดมนขึ้น มือข้างที่ถือโทรศัพท์ไว้เริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาวซีด
"ดีมาก พี่กำลังรอแกกลับมาที่สำนักงานใหญ่เพื่อช่วยงานพี่อยู่นะ" เสียงที่ดูอ่อนโยนกล่าวพลางหัวเราะออกมา
แต่ละคำแต่ละประโยคของจั่วหานต่างก็กล่าวเรียกพี่ใหญ่ๆด้วยความเคารพ แต่หลังจากที่วางสาย ใบหน้าของจั่วหานก็กลายเป็นมืดมนโดยสิ้นเชิง
ที่แบรนด์เสื้อผ้าในเครือบริษัทหานลู่ ที่นั่นเขาไม่ใช่ทายาทเพียงคนเดียว ยังมีพี่ชายคนโตของเขาซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานใหญ่ของแบรนด์เสื้อผ้าหานลู่ มีความสามารถที่โดดเด่นและได้รับการยกย่องว่าเป็นทายาทที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุด
"ไม่ ต้องรีบจัดการร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนให้เร็วที่สุด ตอนนี้มีหลายคนที่กำลังจับตามองฉันอยู่"
หัวใจของจั่วหานที่ก่อนหน้านี้สั่นคลอนเล็กน้อย ในขณะนี้มันก็มั่นคงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งก็เป็นเพราะสายเรียกเข้าเมื่อสักครู่นี้
"หลังจากที่ฉันเพิ่งกลับมาจากการเรียนต่อที่ต่างประเทศและเข้าร่วมกับบริษัท นี่เป็นงานแรกที่ฉันได้รับมอบหมายจากพวกเขา ถ้าฉันทำได้ไม่ดีและต้องกลับไปด้วยความพ่ายแพ้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ต่อจากนี้ฉันก็น่าจะไม่สามารถกำจัดป้ายห้อยคอแห่งความล้มเหลวนี้ออกไปได้ และนี่จะนำไปสู่ความล้มเหลวของการชิงตำแหน่งในสำนักงานใหญ่ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะมีใครที่อยากจะสนับสนุนฉัน และยิ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไปแข่งกับพี่ใหญ่"
ไม่ว่าพี่ชายของเขาจะแข็งแกร่งมากขนาดไหน เขาในฐานะน้องชายก็จะด้อยกว่าไม่ได้แน่นอน
และตอนนี้ ไม่ว่าจะมีอะไรอยู่เบื้องหลังของร้านเสื้อผ้าเทียนหยุน เขาก็ไม่สามารถถอยกลับได้แล้ว เพราะถ้าเขายอมแพ้ มันจะพิสูจน์ให้เห็นถึงความล้มเหลวของเขา
ดังนั้น แม้ว่าเขาจะเจอกระดูกแข็งขวางอยู่ตรงหน้า เขาก็จะใช้ฟันกัดมันให้แหลก
มิฉะนั้นมือของพี่ชายของเขาจะต้องยื่นเข้ามาที่จินหลิงอย่างแน่นอน
ทั้งสำนักงานใหญ่และอุตสาหกรรมต่างๆของแบรนด์เสื้อผ้าหานลู่ ต่างก็ตั้งอยู่ในหางโจวที่มณฑลเจ้อเจียง ซึ่งพี่ชายของเขากำลังดำรงตำแหน่งระดับสูงอยู่ในขณะนี้ ก่อนที่พี่ชายของเขาจะเริ่มเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจของบริษัท ครั้งแรกเขาก็ต้องไปอยู่ในเมืองหลวงของมณฑลอื่นเช่นเดียวกัน ซึ่งเขาก็มีหน้าที่รับผิดชอบการขยายฐานลูกค้าในที่แห่งนั้นแต่เพียงผู้เดียว
และตอนนี้เขาก็ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบกิจการของบริษัทที่เมืองจินหลิง มณฑลเจียงซูแห่งนี้แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งถ้าหากว่าเขาทำได้ดี ตลาดที่นี่ก็น่าจะต้องถูกส่งมอบให้เขาอย่างสมบูรณ์แน่นอน แถมเขายังสามารถใช้ผลงานนี้เพื่อเข้าไปสู่สำนักงานใหญ่ได้อีกด้วย
และถ้าเมื่อใดก็ตามที่พี่ชายของเขาเข้ามาแทรกแซง ไม่ว่าใครก็สามารถจินตนาการถึงผลลัพธ์ที่ตามมาได้
"แม้ว่าร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนจะซื้อร้านค้าเหล่านั้นด้วยเงินสดเต็มจำนวน แต่สิ่งนี้ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้มากอยู่ดี และมีความเป็นไปได้สูงที่เบื้องหลังของพวกเขาจะมีหนี้อยู่เป็นจำนวนมาก"
จั่วหานคิดอย่างเงียบๆอยู่ภายในใจ
"ถ้าเป็นแบบนี้ หากเงินทุนบางส่วนเกิดขัดข้องขึ้นมา ห่วงโซ่เงินทุนของพวกเขาก็อาจจะพังทลายลง และจากนั้นอุตสาหกรรมทั้งหมดก็จะถึงคราวล่มสลายของจริง"
"แม้ว่าฉันจะต้องถอยไปหมื่นก้าว แต่ความแข็งแกร่งของร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนก็ยังเทียบไม่ได้กับของฉัน และตอนนี้ทั้งสองฝ่ายก็ประกาศออกมาว่ากำลังแข่งขันกัน!"
"เมื่อตอนที่แบรนด์เสื้อผ้าหานลู่เพิ่งเริ่มมีชื่อเสียง เราก็ได้สัมผัสกับคู่แข่งต่างๆมากมาย และหลังจากนั้นก็มีคู่แข่งที่แข็งแกร่งพอๆกันปรากฏขึ้นมาเรื่อยๆ แต่ในที่สุดพวกเราแบรนด์เสื้อผ้าหานลู่ก็ได้สร้างเส้นทางแห่งการนองเลือดขึ้นมา!"
"คนรุ่นแรกยังทำได้ ทำไมฉันจะทำไม่ได้"
"ดังนั้นฉันต้องต่อสู้ในศึกครั้งนี้ และฉันก็จะถือว่าร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนเป็นคู่ต่อสู้ที่แท้จริง!"
ในเวลานี้ มุมมองความคิดของจั่วหานได้รับการแก้ไขอย่างสมบูรณ์ และเขาก็ไม่ใช่คนเดิมที่มีนิสัยไม่แยแสกับสิ่งต่างๆอีกต่อไป
เขาเริ่มออกคำสั่งทีละคำสั่ง และหลังจากนั้นร้านเสื้อผ้าหานลู่ที่ดูธรรมดาก็กลายเป็นธุรกิจที่ร้อนแรงขึ้นมาทันที ซึ่งมีกิจกรรมต่างๆจัดขึ้นมากมาย
ในสถานที่ทั้ง 11 แห่ง ธุรกิจของร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนและร้านเสื้อผ้าหานลู่ต่างก็กำลังเฟื่องฟู และการแข่งขันระหว่างทั้งสองร้านยังคงดำเนินต่อไป
ขณะนี้จั่วหาน "ปรมจารย์แห่งการผลาญเงิน" ได้เริ่มต้นนำพาให้แบรนด์เสื้อผ้าหานลู่เข้าไปท้าทายกับค่ายกลรวบรวมโชคลาภ ซึ่งเป็นเส้นทางที่นำไปสู่ความตายอย่างเป็นทางการด้วยตัวของเขาเอง
(จบตอน)
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved