ตอนที่ 22 ค่าเช่าสูงเสียดฟ้า

เมื่อมองไปที่ฉินหยุน ซุนหยาตงยิ้มอย่างเฉยเมยและพูดว่า "เนื่องจากบอสฉินถามมาตรงๆแบบนี้ ผมก็จะขอบอกตรงๆแล้วกัน ผมขอขึ้นค่าเช่าเป็น 25,000 หยวนต่อเดือน และระยะเวลาสัญญาเช่าคือหนึ่งปี"

ห่างออกไปไม่ไกล จ้าวเหมยที่กำลังให้ความสนใจสถานการณ์ฝั่งนี้อยู่ เมื่อเธอได้ยินว่าค่าเช่าเพิ่มเป็น 25,000 หยวน ใบหน้าของเธอก็ปรากฏความตื่นตระหนกทันที

"25,000?"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินหยุนก็ยิ้มทันที เขามองไปที่ซุนหยาตงด้วยสายตาที่เฉียบคม "ค่าเช่าก่อนหน้านี้คือ 4,000 หยวน จู่ๆก็เพิ่มมามากกว่าหกเท่าทันที บอสซุนล้อผมเล่นรึเปล่า แม้เมืองชั้นหนึ่งจะมีราคาค่าเช่าที่อยู่ประมาณนี้ แต่ที่นี่ก็ไม่ใช่เมืองชั้นหนึ่งนี่นา?"

เมื่อเผชิญหน้ากับสายตาของฉินหยุน ซุนหยาตงไม่สะทกสะท้านเลย เขายิ้มและพูดว่า "ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนสามารถทำยอดขายรายวันได้ถึงหลายหมื่นหยวน แม้กระทั่งอย่างน้อยหลายแสนหยวนต่อเดือนเมื่อเทียบกับค่าเช่าเพียง 25,000 หยวน มันไม่มากเลย"

เขาบอกราคาค่าเช่าสูงกว่าที่ซุนเจี้ยนเฉียงเสนออีก เพราะในเวลานี้ความคิดส่วนใหญ่ของเขาต้องการที่จะยึดร้านคืน

แน่นอน ถ้าฉินหยุนยอมให้ค่าเช่าเดือนละ 25,000 หยวน ก็จะเป็น 300,000 ต่อปี ดังนั้นก็ไม่มีปัญหาสำหรับฉินหยุนที่จะเปิดร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนต่อไป

ถึงแม้ว่าเขาจะเอาร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนกลับมาและเปิดร้านบริหารเอง ความเป็นไปได้ที่มันจะเป็นที่นิยมก็ยังมีน้อยมาก

"ราคามันสูงเกินไป"

ฉินหยุนส่ายหัวและพูดว่า "ราคาทุนเสื้อผ้าที่เรารับมาแพงมาก ยังต้องบวกค่าแรง และค่าอื่นๆอีก อันที่จริงร้านเราได้กำไรไม่เยอะเลย ถ้าบอสซุนต้องการมากขนาดนี้ ผมคงไม่สามารถให้ได้จริงๆ”

พูดตามตรงว่านี่คือร้านค้าร้านแรกที่เขาเปิดขึ้นเอง และเขาก็ยังต้องการที่จะเปิดต่อไปเว้นแต่ว่าจะหมดหนทางจริงๆ

"บอสฉิน 25,000 หยวน เป็นราคาที่เหมาะสมที่สุดที่ผมคำนวณออกมาแล้ว ถ้าคุณไม่สามารถจ่ายได้ ผมก็ไม่สามารถให้คุณเช่าร้านนี้ต่อได้เช่นกัน" ซุนหยาตงส่ายหัวเหมือนจะเสียใจ

เมื่อได้ยินคำพูดของเขา ฉินหยุนก็เข้าใจทันทีว่าซุนหยาตงกำลังคิดอะไรอยู่

เขาพยักหน้าและพูดว่า "ในเมื่อเป็นแบบนี้ ผมคงบอกได้คำเดียวว่าเราไม่สามารถร่วมมือกันได้อีกต่อไป"

เขาไม่ได้พูดเรื่องไร้สาระอีกต่อไป "ในวันที่ 31 สิ้นเดือนนี้ผมจะย้ายออกจากที่นี่ทันที"

"งั้นก็ได้" ซุนหยาตงพยักหน้า กล่าวคำสุภาพเล็กน้อย จากนั้นหันหลังและจากไปทันที

"เสี่ยวหยุน เจ้าของที่เขาต้องการเอาร้านคืนงั้นเหรอ?!"

เมื่อเห็นซุนหยาตงจากไป จ้าวเหมยก็รีบเข้ามาและอดไม่ได้ที่จะถาม

"ในเมื่อเขาเพิ่มค่าเช่าเกินจริงตั้ง 25,000 หยวน แสดงว่าเขาต้องการเอาร้านคืนอยู่แล้ว" ฉินหยุนพูดอย่างใจเย็น

เขารู้มาว่า เป็นเรื่องปกติที่เจ้าของที่บางคนจะขอขึ้นค่าเช่าของร้านค้า เมื่อธุรกิจของผู้เช่าไปได้ดีในที่ของพวกเขา ซึ่งก็ไม่ได้ถือว่าผิดกฎอะไร

แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเพิ่งเคยเห็นการขึ้นค่าเช่าสูงขนาดนี้มาก่อน!

ในเขตเล็กๆของเมืองชั้น 5 ค่าเช่าที่ของร้านค้าเล็กๆแห่งหนึ่ง เทียบได้กับที่เมืองชั้น 1 เลยทีเดียว!

ในขณะนี้ฉินซวนเดินเข้ามาจากข้างนอกพอดี เธอมองไปที่จ้าวเหมยและฉินหยุน พร้อมกับถามว่าเกิดอะไรขึ้น

"อะไรนะ? ค่าเช่า 25,000 งั้นเหรอ ซุนหยาตงคนนี้โลภมากเกินไป!" เมื่อเธอรู้เรื่องเกี่ยวกับการขึ้นค่าเช่า ฉินซวนก็ด่าออกมาด้วยความโกรธทันที

"เขาต้องอิจฉาแน่เมื่อเห็นร้านเสื้อผ้าของของเราขายดี"

หลังจากบ่นแล้ว ฉินซวนก็มองไปที่ฉินหยุนและอดไม่ได้ที่จะถามว่า "เสี่ยวหยุน เราควรทำอย่างไรดี?"

ใบหน้าของเธอแสดงความกังวลออกมาอีกครั้ง

การเปิดร้านต้องให้ความสำคัญกับสถานที่ เวลา และการสัญจรของผู้คน เมื่อธุรกิจกำลังดำเนินไปได้ดี ถ้าเกิดว่าคุณปรับเปลี่ยนสถานที่แม้แต่นิดเดียว ธุรกิจก็อาจดิ่งลงเหวได้ทันที

ในความคิดของเธอ การที่ธุรกิจจะประสบความสำเร็จไปได้ไกลแค่ไหน ไม่ใช่สิ่งที่เธอสามารถควบคุมได้เลย แต่มันขึ้นอยู่กับโชคล้วนๆ

ไม่ใช่แค่เธอ แต่รวมถึงจ้าวเหมยด้วย ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความวิตกกังวล กังวลว่าธุรกิจของเธอจะได้รับผลกระทบหากเธอเปลี่ยนสถานที่กระทันหัน

"เสี่ยวหยุน ทำไมลูกไม่ยอมรับเงื่อนไขของเจ้าของที่ไปเลยล่ะ แม้ว่า 25,000 จะแพงมาก แต่เราก็ยังพอทำเงินได้บ้าง" เธออดไม่ได้ที่จะพูด

ในสถานการณ์ที่อนาคตไม่แน่นอน ในความคิดของเธอการประนีประนอมนั้นดีที่สุดในตอนนี้

"แม่ มันไม่ใช่เรื่องของการเห็นด้วยหรือยอมรับกันได้ แม้ว่าเราจะยอมตกลงกันในครั้งนี้ แต่ครั้งหน้าซุนหยาตงเขาจะต้องกำเริบเสิบสานมากกว่านี้อย่างแน่นอน"

ฉินหยุนส่ายหัวและพูดว่า "แทนที่จะทำแบบนี้ เรายอมแพ้ดีกว่า ย่านการค้านี้ยังมีร้านที่สามารถเช่าได้มากมาย และเราจะไม่ได้รับผลกระทบมากนักหากเราเปลี่ยนสถานที่"

จุดแข็งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาคือการรวบรวมโชคลาภ และเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้เขายอมประนีประนอมกับซุนหยาตง

"เสี่ยวหยุน แกจะเปิดร้านเสื้อผ้าร้านใหม่แทนร้านเดิมที่ย่านนี้งั้นเหรอ?" ฉินซวนอดไม่ได้ที่จะถามหลังจากที่ได้ยินคำพูดน้องชายของเธอ

"ที่นี่มีคนมาเดินเที่ยวอยู่จำนวนมาก ดังนั้นผมจะไม่ยอมแพ้แน่นอน!"

ฉินหยุนพยักหน้าด้วยแววตามีเลศนัย "และร้านใหม่ของเราจะตั้งอยู่ใกล้ๆร้านเดิม"

หลังจากพูดจบ ฉินหยุนก็มองไปที่ฉินซวนและพูดว่า "พี่ใหญ่ แถวนี้มีร้านให้เราเซ้งต่อไหม?"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินซวนคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า "มีร้านค้าหลายแห่งรอบๆนี้ที่พร้อมจะปล่อยเซ้ง และหนึ่งในนั้นเป็นร้านขายเสื้อผ้า"

ร้านขายเสื้อผ้าที่ฉินซวนกล่าวถึง คือร้านที่กำลังดิ้นรนเพื่อรักษาสมดุลของรายได้และรายจ่ายไว้อยู่ หลังจากที่ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนของฉินหยุนเปิดขึ้น ธุรกิจของพวกเขาก็ยิ่งแย่ลงไปอีก

อย่างไรก็ตาม เนื้อแท้ของการทำธุรกิจก็คือการแข่งขันกันอยู่แล้ว ไม่รู้ว่ามีกี่ร้านที่ปิดกิจการไป

เมื่อได้ยินคำพูดของฉินซวน ฉินหยุนกล่าวว่า "งั้นเลือกร้านเสื้อผ้านั้นเลย เพื่อให้เราประหยัดเวลาในการตกแต่งร้านมากขึ้น"

ไม่ว่าการตกแต่งจะดูดีหรือไม่ก็ตาม สำหรับเขามันไม่สำคัญมากนัก แต่สำหรับคนอื่น ก่อนที่ร้านเสื้อผ้าทุกร้านจะเปิดกิจการ เจ้าของร้านจะต้องใส่ใจในเรื่องของการตกแต่งร้านเป็นอย่างมาก จะทำผิดพลาดไม่ได้เลย

หลังจากเขาจัดวางรูปแบบการรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่งไว้ โชคลาภความมั่งคั่งก็จะไหลเข้ามาเองตามธรรมชาติ

“โอเค เดี๋ยวพี่จะจัดการเดี๋ยวนี้เลย” ฉินซวนพยักหน้าทันที

ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ฉินหยุนก็ยังคงไปโรงเรียนตามปกติ ในขณะที่ฉินซวนยุ่งมากขึ้นทุกวัน

ร้านสาขาใหม่ก็ถูกเลือกไว้เรียบร้อยแล้ว ตามคำกล่าวของฉินหยุน ในวันที่ 1 มิถุนายน ร้านใหม่แทนร้านเก่าจะเปิดที่ย่านเดิมและร้านสาขาที่สองจะเปิดในหยางกวงซิตี้ ซึ่งเปิดขึ้นในวันเดียวกัน

ต้องจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนเปิดร้านใหม่

...

"ฮ่าฮ่า.. พ่อ พ่อซื้อเสื้อผ้าเหล่านี้มาทั้งหมดเลยเหรอ"

ซุนเจี้ยนเฉียงมองไปที่เสื้อผ้าที่กองอยู่ตรงหน้าเขาแล้วหัวเราะ

เขาไม่ได้คาดหวังว่าพ่อของเขาจะอำมหิตยิ่งกว่าตัวเขาอีก เขาขอขึ้นค่าเช่าทันที 25,000 หยวน และฉินหยุนก็ปฏิเสธที่จะต่อสัญญาเช่าโดยไม่ลังเลเลย

หลังจากสิ้นเดือน ธุรกิจร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนที่ "ร้อนแรง" จะกลายเป็นของพวกเขา

"เอาล่ะ หลังจากที่ฉินหยุนและคนอื่นๆ ย้ายออกจากร้านขายเสื้อผ้าในวันที่ 31 เราจะย้ายเข้าไปในทันที" ซุนหยาตงพูดด้วยรอยยิ้ม

"ฮ่าฮ่า แล้วในตอนนั้น เราก็จะกลายเป็นคนทำกำไรแทนเอง" ซุนเจี้ยนเฉียงรู้สึกตื่นเต้นมาก

เขาแทบรอไม่ไหวที่จะเห็นการแสดงออกของฉินหยุนในเวลานั้น

"เดี๋ยวก่อนครับพ่อ ตอนนี้ฉินหยุนกำลังทำอะไรอยู่" หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง ซุนเจี้ยนเฉียงก็ถามออกมา

"ฉินหยุนเหรอ ดูเหมือนว่าเขาจะเลือกเซ้งร้านอื่นและวางแผนที่จะเปิดร้านขายเสื้อผ้าต่อไป"

ช่วงนี้เขายุ่งกับเรื่องของร้านค้าอยู่ตลอดและก็ไม่ได้สนใจฉินหยุนมากนัก

ท้ายที่สุดแล้ว ฉินหยุนแทบจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาเลย ดังนั้นจะมีประโยชน์อะไรที่เขาจะไปให้ความสนใจกับฉินหยุน

"เปิดร้านเสื้อผ้าต่อไปเหรอ เขาคิดเหรอว่าถ้าเขาเปลี่ยนสถานที่แล้วธุรกิจจะรุ่งเรืองอีกครั้ง?" ซุนเจี้ยนเฉียงเม้มริมฝีปากและกล่าวเย้ยหยัน

(จบตอน)