ตอนที่ 204 กลับบ้าน

วันนี้เป็นวันที่ครอบครัวของจ้าวเทียนเฉียงมีความสุขกันมาก ในเวลานี้พวกเขากำลังมาดูบ้านที่ได้เลือกไว้

พวกเขาวางแผนที่จะหาบ้านให้ได้ก่อนวันตรุษจีน และจะเริ่มย้ายเข้าไปฉลองวันปีใหม่ในบ้านหลังใหม่ของพวกเขา

โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกสาววัย 13-14 ปีของจ้าวเทียนเฉียง เธอรู้สึกมีความสุขมาก

"เทียนเฉียง เราไปดูบ้านมาหลายหลังแล้ว ฉันว่าหลังที่สามก็ไม่เลวเลยนะ แต่สภาพแวดล้อมค่อนข้างแย่นิดหน่อย" ภรรยาของจ้าวเทียนเฉียงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

จ้าวเทียนเฉียงยิ้มและพูดกับเธอว่า "ไม่ต้องกังวล ยังมีเหลืออีกสองสามหลัง เดี๋ยวเราตามตัวแทนไปดูกันก่อน"

ในขณะที่เขากำลังพูด จ้าวเทียนเฉียงก็มองไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง เขาผงะไปชั่วครู่ จากนั้นก็รีบเดินเข้าไปและพูดว่า "บอสฉิน"

คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะบังเอิญได้พบกับฉินหยุนที่นี่

ในเวลานี้ภรรยาและลูกสาวของจ้าวเทียนเฉียงก็เดินมาทางนี้เช่นกัน เห็นได้ชัดว่าภรรยาของเขาสงวนท่าทีของเธอไว้เล็กน้อย เธอเอ่ยทักทายฉินหยุนด้วยคำว่าบอสฉิน แน่นอนว่าเธอรู้จักตัวตนของฉินหยุนอยู่แล้ว และเธอก็รู้สึกขอบคุณมากที่ฉินหยุนเลือกให้โอกาสจ้าวเทียนเฉียง

สำหรับเสี่ยวรุ่ยลูกสาวของพวกเขา เธอกำลังมองดูชายหนุ่มที่อายุมากกว่าเธอไม่กี่ปีด้วยความอยากรู้อยากเห็น

"ผู้จัดการจ้าว ตอนนี้ไม่ใช่เวลาทำงาน เพราะงั้นไม่ต้องสุภาพมากเกินไปก็ได้" เมื่อเห็นจ้าวเทียนเฉียงเดินเข้ามาใกล้ ฉินหยุนก็ยิ้มและพูดกับเขา

"คุณมาดูบ้านแถวนี้งั้นเหรอ?"

เขาเบนสายตามองไปที่ตัวแทนจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ยืนข้างๆจ้าวเทียนเฉียง จากนั้นก็เอ่ยถามอย่างเป็นกันเอง

"ใช่ครับ พอดีผมจะย้ายบ้านน่ะ" จ้าวเทียนเฉียงพูดด้วยรอยยิ้ม

ฉินหยุนพยักหน้า เขารู้ดีว่าเหตุผลที่จ้าวเทียนเฉียงมาทำงานกับเขานั้นเป็นเพราะว่าเงินเดือนในเทียนอี้เตี๋ยไม่สูงนัก ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจลาออกจากที่นั่น

"ถ้าอย่างนั้นก็ตามสบาย เดี๋ยวผมขอตัวก่อน"

หลังจากพูดคุยกันสองสามคำ ฉินหยุนก็กล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้ม "ผมขออวยพรล่วงหน้าแล้วกัน ขอให้ทุกคนมีความสุขในการขึ้นบ้านใหม่นะ"

วันนี้เป็นวันพักผ่อนของจ้าวเทียนเฉียงกับครอบครัวของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่ได้เอ่ยถามเกี่ยวกับเรื่องของร้านขายเสื้อผ้าและโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า

...

หลังจากซื้อของและขนของขึ้นรถแล้ว ฉินหยุนก็พร้อมที่จะเดินทางกลับบ้าน

ขณะที่เขากำลังขับรถอยู่บนถนน เขาก็คุยโทรศัพท์กับพ่อและแม่ของเขาไปพลางๆ

"เสี่ยวหยุน ลูกจะกลับมาตอนไหน?" เสียงของจ้าวเหมยดังขึ้นจากปลายสาย

"ผมออกเดินทางแล้ว อีกไม่กี่ชั่วโมงก็น่าจะถึงบ้าน"

"ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องรีบนะ ระหว่างทางลูกก็ขับช้าๆหน่อย"

จ้าวเหมยเอ่ยเตือน

หลังจากพูดคุยกันอีกไม่กี่คำเขาก็กดวางสายไป และตอนนี้รถของฉินหยุนก็ได้แล่นมาถึงที่แห่งหนึ่งแล้ว เขามองออกไปนอกหน้าต่างรถสักพัก ขณะที่กำลังถอนสายตากลับมาจู่ๆเขาก็ผงะ จากนั้นก็มองไปทางนั้นอีกครั้งพร้อมกับสายตาประหลาดใจ ที่นั่นเขาเห็นร่างของหลินเมิ่งเมิ่งกำลังยืนอยู่

"ไม่ใช่ว่าหลินเมิ่งเมิ่งกลับบ้านไปนานแล้วหรอกเหรอ?"

หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง ฉินหยุนก็ขับรถตรงเข้าไปหาเธอ

ในเวลานี้หลินเมิ่งเมิ่งกำลังรู้สึกกังวลเล็กน้อย หลังจากที่วันหยุดของมหาลัยเริ่มขึ้นเธอก็ไม่ได้กลับบ้านไปทันที เพราะว่าลูกพี่ลูกน้องของเธอกำลังจะแต่งงาน

ลูกพี่ลูกน้องของเธอเช่าบ้านอยู่ในจินหลิง เธอมักจะทำงานที่เมืองจินหลิงอยู่ตลอด และคนที่เธอแต่งงานด้วยก็เป็นคนจินหลิง

ทีแรกเธอวางแผนไว้ว่าจะกลับไปที่บ้านก่อนแล้วค่อยเดินทางมางานแต่งที่จินหลิงอีกครั้ง เธอจึงโทรไปบอกพ่อกับแม่ของเธอ แต่พวกเขาบอกกับเธอว่ายังไม่ต้องกลับ พวกเขาจะเป็นฝ่ายมาหาเธอเอง

ตอนนี้พิธีงานแต่งงานสิ้นสุดลงแล้ว เหล่าญาติๆก็เริ่มเดินทางกลับ ขามาพวกเขาได้รวมเงินกันเช่ารถจากเขตชิงอู๋เพื่อเป็นการประหยัดเงิน ดังนั้นที่นั่งในรถแต่ละคันจึงเต็มหมดเลย

และเมื่อครอบครัวของหลินเมิ่งเมิ่งจะเดินทางกลับ ทั้งสามก็ไม่สามารถนั่งเบียดกับเหล่าญาติๆได้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเรียกรถคันใหม่ และการเรียกแท็กซี่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ปกตินั่งจากจินหลิงไปเขตชิงอู๋ค่าโดยสารก็แพงอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เป็นช่วงตรุษจีน ค่าโดยสารของรถแท็กซี่จะถูกเพิ่มขึ้นอีกมาก

ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดก็คือการหารถโดยสารประจำทางที่จะไปเขตชิงอู๋

ก่อนหน้านี้พวกเขาก็เรียกรถคันนั้นไว้แล้ว แต่ตอนนี้เมื่อกำลังจะพากันกลับ รถคันนั้นไม่สามารถกลับไปที่เขตชิงอู๋ได้อีกแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงถูกขอให้หารถคันอื่นแทน

"พี่ชาย ไปก่อนเลย"

"เดี๋ยวพวกเราตามไป"

ในเวลานี้พ่อแม่ของหลินเมิ่งเมิ่งกล่าวกับญาติๆด้วยรอยยิ้ม แต่สีหน้าของพวกเขาดูลำบากใจนิดหน่อยอย่างเห็นได้ชัด

พวกเขาต้องออกจากกลุ่มเพราะลูกสาวของพวกเขา และตอนนี้รถทุกคันก็เต็มไปด้วยของที่ทุกคนพากันขนกลับ ดังนั้นมันจึงไม่มีที่ว่างให้พวกเขานั่งเลย

และข้างๆหลินเมิ่งเมิ่ง ลูกพี่ลูกน้องของเธอกำลังเอ่ยปลอบโยนอยู่ "ไม่ต้องกังวลไปหรอกเมิ่งเมิ่ง เรากำลังเรียกรถคันอื่นอยู่ รออีกสักแป๊บเดี๋ยวก็มีรถมารับแล้ว"

"ลูกพี่ลูกน้อง ฉันไม่รีบๆ" หลินเมิ่งเมิ่งรีบพูดออกมาอย่างรวดเร็ว

ถึงกระนั้นเธอก็ยังเป็นแค่หญิงสาวตัวเล็กๆที่เพิ่งเริ่มเรียนมหาลัยปีแรก แถมเธอยังเป็นคนหน้าบางเล็กน้อยด้วย เมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นเป็นปกติที่เธอจะรู้สึกวิตกกังวล

ตอนนี้หลินเมิ่งเมิ่งยังคงถือกระเป๋าใบใหญ่ไว้อยู่ หลังจากที่เธอมาเรียนที่มหาลัยเธอก็ไม่ได้กลับไปที่บ้านนานแล้ว ดังนั้นคราวนี้เธอจึงนำสิ่งต่างๆกลับไปมากมาย และมันก็ค่อนข้างอึดอัดเล็กน้อยเมื่อต้องอยู่ท่ามกลางฝูงชน

แม้ว่าเธอจะกังวลเล็กน้อย แต่เธอก็ไม่ได้แสดงมันออกมา

"เฮ้ มีรถ BMW กำลังขับมาทางเรา"

ทันใดนั้นก็มีเสียงอุทานหลายเสียงดังขึ้น

เมื่อได้ยินเช่นนี้หลินเมิ่งเมิ่งก็หันไปมองเช่นกัน เธอเห็นรถคันนั้นกำลังใกล้เข้ามา และเมื่อเธอเห็นหมายเลขทะเบียนที่คุ้นเคยเธอก็อดไม่ได้ที่จะผงะ

เมื่อเห็นว่ารถ BMW หยุดลงตรงหน้าพวกเขา ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็ไม่รู้ว่าสิ่งนี้มันหมายความว่าอย่างไร

ทุกวันนี้รถยนต์ส่วนใหญ่ที่ผู้คนใช้งานส่วนมากมักจะเป็นยี่ห้อ Volkswagen ส่วน BMW และ Audi ก็มีให้เห็นอยู่บ้าง แต่อันที่จริงแล้วก็มีไม่มากนัก

คนที่สามารถขับรถแบบนี้ได้ คาดว่าครอบครัวจะต้องพอมีฐานะอย่างแน่นอน

"ใครเป็นคนเรียกรถคันนี้มา?"

"ไม่รู้สิ ดูเหมือนว่ารถคันนี้เป็นรถในมณฑลเจียงซู รถของเราเกือบทั้งหมดมาจากมณฑลอานฮุย"

ทุกคนต่างก็สนทนากัน สถานที่ที่พวกเขาอยู่ตอนนี้เป็นที่โล่ง โดยพื้นฐานแล้วไม่น่าจะมีรถของคนอื่นขับเข้ามาแน่นอน และถ้าขับเข้ามาจริงๆก็ต้องมีเหตุผลอะไรบางอย่าง

จากนั้นพวกเขาก็เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งลงจากรถ

ชายหนุ่มคนนี้รูปร่างสูงและหน้าตาหล่อเหลา และเมื่อหลินเมิ่งเมิ่งเห็นชายหนุ่มคนนี้ เธอก็รีบวิ่งไปหาเขาอย่างมีความสุข  "ฉินหยุน"

เธอไม่คิดว่าจะได้พบกับฉินหยุนที่นี่

ฉินหยุนมองดูหญิงสาวที่กำลังมีท่าทางดีใจตรงหน้า เขาเอ่ยถามเธอ "หลินเมิ่งเมิ่ง เธอยังไม่กลับบ้านอีกเหรอ?"

"อื้ม พอดีวันนี้ฉันมาร่วมงานแต่งของลูกพี่ลูกน้องน่ะ" หลินเมิ่งเมิ่งอธิบาย

บอกตามตรงว่าในเวลานี้เธอรู้สึกมีความสุขมาก หลังจากต้องรออยู่ที่จินหลิงคนเดียวถึงสองสามวันแต่พอจะกลับบ้านก็ไม่มีรถ สำหรับหญิงสาวตัวเล็กๆอย่างเธอเธอกังวลมากจนแทบจะอยากจะร้องไห้ออกมา

"เมิ่งเมิ่ง นี่ใครเหรอลูก?"

ในขณะนี้เองพ่อกับแม่ของหลินเมิ่งเมิ่งก็เดินเข้ามาพลางเอ่ยถาม

พวกเขารู้สึกได้ชัดเจนว่าท่าทีของหลินเมิ่งเมิ่งและชายหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าดูผิดปกติเล็กน้อย

"พ่อคะ แม่คะ นี่คือเพื่อนร่วมชั้นในมหาลัยของหนูเอง" หลินเมิ่งเมิ่งเอ่ยแนะนำ

"เป็นเพื่อนในมหาลัยของเมิ่งเมิ่งนี่เอง"

"ชายหนุ่มคนนี้เพิ่งเป็นนักศึกษาปีแรก แต่เขาขับ BMW ตั้งแต่อายุยังน้อยเลย"

ทุกคนประหลาดใจมาก

ฉินหยุนไม่ได้มองไปที่คนอื่นๆ เขาเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง "เธอจะกลับบ้านกันงั้นเหรอ?"

ฉินหยุนรู้สึกประหลาดใจนิดหน่อยเมื่อเห็นกระเป๋าใบใหญ่ เขาจึงชี้ไปที่กระเป๋าของหลินเมิ่งเมิ่งพลางเอ่ยถามเธอ

หลินเมิ่งเมิ่งพยักหน้าและพูดว่า "ตอนนี้พ่อกับแม่ของฉันและก็ฉันกำลังรอรถอยู่"

เขามองไปรอบๆ มีรถตู้สองสามคันจอดอยู่ใกล้ๆ แต่ดูเหมือนว่าหลินเมิ่งเมิ่งจะไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขา เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งและก็พอเดาได้คร่าวๆ

"ฉันก็กำลังจะกลับบ้านเหมือนกัน ถ้าไม่ติดอะไร เธอกับคุณลุงคุณป้าก็สามารถกลับพร้อมกับฉันได้นะ"

ไหนๆเขาก็ต้องไปที่เขตชิงอู๋เมืองอู๋ซื่ออยู่ดี ไม่สำคัญว่าจะพาหลินเมิ่งเมิ่งไปด้วยหรือไม่ ถึงอย่างไรก็ไปทางเดียวกัน

"ฉินหยุน นายก็จะกลับบ้านด้วยงั้นเหรอ"

เมื่อได้ยินคำพูดของฉินหยุน หลินเมิ่งเมิ่งก็ผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นเธอก็พยักหน้าอย่างมีความสุข

"เมิ่งเมิ่ง นี่..." ในเวลานี้พ่อแม่ของหลินเมิ่งเมิ่งรู้สึกสับสนเล็กน้อย

"พ่อคะแม่คะ ครอบครัวของฉินหยุนก็อยู่ที่เมืองอู๋ซื่อเหมือนกัน บ้านของเขาอยู่ที่เขตชิงอู๋" หลินเมิ่งเมิ่งอธิบาย

เมื่อได้ยินเช่นนี้ พ่อแม่ของหลินเมิ่งเมิ่งก็เข้าใจ พวกเขามองไปที่ฉินหยุนและพูดขึ้นอย่างรวดเร็วว่า "ขอบคุณมากนะเพื่อนร่วมชั้นตัวน้อย เดี๋ยวถ้าถึงแล้วฉันจะให้ค่าโดยสารกับเธอด้วย"

"ไม่เป็นไรครับ"

ฉินหยุนโบกมือแล้วพูดว่า "ขึ้นรถได้เลย"

(จบตอน)