ตอนที่ 182 แก้ปัญหาเจ้าของที่

เมื่อได้ยินคำกล่าวของหลินเยว่ซาน หลิวกั๋วหมินก็ตัวสั่นขึ้นอีกครั้ง จับมือลูกชายของเขา และอดไม่ได้ที่จะกล่าวว่า "เสี่ยวซิน ในอนาคตลูกต้องตอบแทนบริษัทเทียนหยุนให้ได้"

"พ่อ ผมเข้าใจแล้ว"

หลิวซินพยักหน้าอย่างแรงพลางกล่าวทั้งน้ำตา

เมื่อเห็นครอบครัวของพวกเขาเป็นเช่นนี้ ฉินหยุนและคนอื่นๆก็เงียบไป ภายในใจรู้สึกถอนหายใจออกมา

ถ้าไม่เจอกับตัว ก็คงจะไม่มีใครสามารถเข้าใจถึงความสิ้นหวังก่อนหน้านี้ได้อย่างแท้จริง ด้วยเหตุนี้ภายใต้ความสุขและความโศกเศร้า อารมณ์ความรู้สึกของพวกเขาจึงเป็นเช่นนี้

"เอาล่ะหลิวซิน เดี๋ยวฉันจะพาคุณไปชำระค่ารักษาพยาบาลก่อน อาการป่วยของน้องสาวของคุณไม่สามารถรอช้าได้อีกต่อไป" หลินเยว่ซานกล่าว

"ได้ครับ พี่สาวหลิน" หลิวซินพยักหน้าอย่างรวดเร็ว

ก่อนหน้านี้หลินเยว่ซานยังบอกกับพวกเขาด้วยว่าเธอจบการศึกษาจากมหาลัยเจียงหยวน

หลินเยว่ซานได้ทำการโอนเงิน 100,000 หยวนไปยังบัตรประชาชนของหลิวตัน น้องสาวของหลิวซิน ภายใต้ชื่อของบริษัทเทียนหยุน ถ้าหากในระหว่างการรักษาจำเป็นต้องใช้เงินมากขึ้น ทางบริษัทก็จะยังคงโอนเงินมาที่ชื่อของผู้ป่วย

เรื่องของหลิวซินได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว และหลังจากที่อยู่ในโรงพยาบาลกันอีกสักพัก ในที่สุดจ้าวคังฮ่าว หลี่หานอวี่และคนอื่นๆก็กลับออกไป

เจียงอีและคนอื่นๆก็เช่นเดียวกัน

"ฉันเอารถมา มีใครจะกลับพร้อมกับฉันไหม?"

ฉินหยุนถามขณะที่มองไปที่ผู้คนที่อยู่ข้างหน้าเขา

เขายังคงต้องกลับไปที่มหาลัยเช่นกัน

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเมิ่งเมิ่งก็ก้าวออกมาทันที เธอไปยืนที่ด้านข้างฉินหยุนด้วยใบหน้าเขินอาย

"เมิ่งเมิ่งของเรานี่รุกหนักจริงๆ"

"ฉินหยุน นายด้านชาเกินไปแล้ว นายไม่แม้แต่จะทะนุถนอมผู้หญิงดีๆอย่างเมิ่งเมิ่งเลย"

เมื่อเห็นเช่นนี้ จางเสี่ยวเยว่ จ้าวฉิงและคนอื่นๆก็เอ่ยหยอกล้อทันที

สำหรับเฉิงต้าสงกับโจวผาน พวกเขาดูอิจฉามาก

"ฉินหยุนโชคดีเกินไปแล้ว!"

หลินเมิ่งเมิ่งเป็นคนที่ดูน่ารักและเธอก็มีบุคลิกที่อ่อนโยนมาก ที่สำคัญมีผู้ชายคนไหนบ้างที่จะไม่ชอบผู้หญิงตัวเล็กๆ? แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าหลินเมิ่งเมิ่งกำลังตามจีบฉินหยุนอยู่

พวกเขายังไม่มีแฟน ไม่ต้องพูดถึงหลินเมิ่งเมิ่งเลย แม้ว่าคนที่ปฏิบัติต่อพวกเขาเช่นนี้จะเป็นผู้หญิงหน้าตาธรรมดาๆ แต่พวกเขาก็จะตกลงคบกับเธอทันทีและจะดูแลเทคแคร์เป็นอย่างดี

หลังจากได้ยินสิ่งที่พวกเขากล่าว ฉินหยุนก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา

"ช่วงนี้กระเป๋าเงินค่อนข้างรัด เพราะงั้นฉันขอนั่งรถไปด้วยแล้วกัน" จ้าวฉิงคิดอยู่ครู่หนึ่ง และเธอก็เดินมาที่ด้านข้างของฉินหยุนเช่นกัน

"เหลือที่ว่างอีกสอง" ฉินหยุนมองไปที่กลุ่มคนแล้วกล่าวออกมาอีกครั้ง

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทั้งรุ่ยเฉินฉีและโจวเสี่ยวเค่อก็ก้าวออกไปพร้อมกัน

สำหรับคนจากหอพักชาย พวกเขารู้สึกอายนิดหน่อยที่จะขึ้นไปนั่งรถของฉินหยุนเพื่อประหยัดเงินค่าแท็กซี่

เจียงอีและจางเสี่ยวเยว่ต่างก็มีแฟน ดังนั้นพวกเธอจึงจะไม่กลับไปที่มหาลัยด้วยรถของฉินหยุนแน่นอน

"งั้นก็ไปกันเถอะ" ฉินหยุนโบกมือ จากนั้นก็พาหญิงสาวทั้งสี่ขึ้นรถขับออกไป

เมื่อเห็นว่าพวกเขาจากไปแล้ว เฉิงต้าสงก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวว่า "การมีรถสักคันนี่เป็นเรื่องดีจริงๆ"

แววตาของเขาเต็มไปด้วยความอิจฉา

ถ้าเขามีรถ เขาก็จะได้พาเหล่าสาวๆออกไปเที่ยวเล่น และเขาก็จะหาแฟนได้ง่ายกว่าเดิมมาก

"เฮ้อ.. นอกจากมีรถแล้ว นายยังต้องหน้าตาดีด้วย ไม่งั้นให้ตายฉันก็ไม่อิจฉานายหรอก" โจวผานถอนหายใจออกมา

ขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกัน ฉินหยุนก็พาหลินเมิ่งเมิ่งและคนอื่นๆออกไปไกลแล้ว

แม้ว่ารถของเขาจะไม่ได้ราคาแพงมากนัก แต่สิ่งอำนวยความสะดวกภายในนั้นมีความเฉพาะเจาะจงมาก และรูปลักษณ์โดยรวมก็ค่อนข้างหรูหรามีระดับ

หลินเมิ่งเมิ่งนั่งอยู่ด้านข้างของฉินหยุนตรงเบาะข้างคนขับ และที่เบาะด้านหลังพวกเขาก็มีสามสาวนั่งอยู่ ได้แก่จ้าวฉิง รุ่ยเฉินฉี และโจวเสี่ยวเค่อ

ต้องบอกเลยว่าผู้ชายจะดูหล่อมากเป็นพิเศษเมื่อตอนที่พวกเขาขับรถ โดยเฉพาะฉินหยุนที่ทั้งรูปร่างสูงและหน้าตาดี ตอนที่เขาขับรถอย่างจริงจังไม่ใช่แค่หลินเมิ่งเมิ่งเท่านั้น แต่แม้แต่สาวๆที่นั่งอยู่ด้านหลัง ทั้งจ้าวฉิงและรุ่ยเฉินฉี ต่างก็รู้สึกว่าฉินหยุนนั้นดูดีมาก โดยทั่วไปแล้วไม่ว่าสาวๆคนไหนก็อยากมีแฟนแบบนี้

หลินเมิ่งเมิ่งมองไปทางฉินหยุนที่อยู่ด้านข้าง ในใจของเธอรู้สึกเขินอายเล็กน้อย ในเวลานี้เธอรู้สึกแค่ว่ายิ่งมองฉินหยุนมากเท่าไร เขาก็ยิ่งดูหล่อมากขึ้นเท่านั้น

สำหรับสาวๆคนอื่นที่อยู่ด้านหลัง โจวเสี่ยวเค่อเอาแต่จ้องไปที่จมูกทะลุไปถึงหัวใจของเธอ โดยเธอไม่กล้าที่จะมองไปที่บอสใหญ่ของเธอเลย

สำหรับจ้าวฉิงและรุ่ยเฉินฉี ในใจของพวกเธอก็มีความคิดมากมาย

จ้าวฉิงคิดกับตัวเอง ‘ไม่น่าแปลกใจที่เมิ่งเมิ่งจะชอบฉินหยุนมาก ฉินหยุนดูดีมากจริงๆ’

เธอไม่ได้วางแผนที่จะมีแฟนตอนอยู่มหาลัย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธออยากจะมีแฟนสักคน

แม้เธอจะเป็นผู้หญิงที่ดูไร้ความกังวล แต่เธอก็รู้สึกได้ถึงความมั่นคงในตัวของฉินหยุน

เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้เมื่อตอนที่ฉินหยุนปรากฏตัวในโรงพยาบาล เรื่องของหลิวซินที่ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับใครมันก็เป็นเหมือนทางตัน กลับได้รับการแก้ไขทันทีโดยฉินหยุน

ราวกับว่าถ้ามีฉินหยุนอยู่ที่นั่น ทุกอย่างก็สามารถแก้ไขได้อย่างง่ายดาย

ในขณะนี้รุ่ยเฉินฉีก็กำลังเฝ้าดูฉินหยุนอย่างเงียบๆ

ปกติเธอมักจะหัวเราะให้กับพฤติกรรมการไล่ตามจีบฉินหยุนของหลินเมิ่งเมิ่งอยู่เสมอ เป็นผู้หญิงก็ต้องสงวนท่าทีให้เหมือนกับกุลสตรี มีเหตุผลอะไรที่จะต้องเป็นฝ่ายตามจีบผู้ชายก่อน?

ถ้าเป็นแบบนี้ถึงจะจีบจนได้คบเป็นแฟน แต่ผู้ชายเหล่านั้นก็จะไม่รู้สึกเห็นคุณค่าของผู้หญิง

แต่กลับกันเมื่อเป็นฉินหยุน เธอมีความรู้สึกว่าเธอต้องการเข้าใกล้เขา

มีหลายคนตามจีบเธอ แต่เธอไม่รู้สึกชอบใครเลย แต่ถ้าเป็นฉินหยุนที่เข้ามาจีบเธอ เธอก็อาจจะตกลงทันที

มีแฟนหน้าตาดีแบบนี้มันก็ต้องเป็นเรื่องที่ดีแน่นอน

"ฉินหยุน นายซื้อรถคันนี้แบบเงินผ่อนงั้นเหรอ?" หลังจากคิดอยู่พักหนึ่ง รุ่ยเฉินฉีก็ถามขึ้นมาด้วยความสงสัย

"ใช่แล้ว" ฉินหยุนพยักหน้า

ขณะนี้ในบริษัทมีรถอยู่สามคัน ซึ่งเขาก็มักจะขับ BMW รุ่นธรรมดาคันนี้อยู่เสมอเมื่อเขาต้องเดินทางไปไหนมาไหน แต่บางครั้งเขาก็ขับคันที่จ้าวเทียนเฉียงใช้

รถสองคันในนั้นเป็นรถที่ซื้อด้วยเงินผ่อนทั้งหมด ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วมันก็มีค่าเท่ากับซื้อราคาเต็ม ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องซื้อด้วยเงินสดเต็มจำนวน

"แล้วนายไม่ต้องผ่อนค่ารถทุกเดือนหรอกเหรอ?" รุ่ยเฉินฉีถามอีกครั้ง "มันต้องรู้สึกกดดันมากใช่ไหม?"

"ก็ไม่เท่าไร" ฉินหยุนกล่าวด้วยท่าทางสบายๆ

รุ่ยเฉินฉีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็กล่าวว่า "รถคันนี้ราคาประมาณ 300,000 หยวน หากผ่อนชำระเป็นเวลา 3 ปี น่าจะต้องจ่ายประมาณ 6,000 หยวนต่อเดือนเลย"

รุ่ยเฉินฉีเป็นคนอ่อนไหวต่อเงินมาก หลังจากในตอนแรกที่เธอได้เห็นรถของฉินหยุน เธอก็คำนวณอัตราการผ่อนชำระค่ารถยนต์ที่ฉินหยุนจะต้องชำระคืนออกมาทันที

"มากขนาดนั้นเลยเหรอ?"

หลินเมิ่งเมิ่งซึ่งนั่งอยู่เบาะข้างคนขับรู้สึกผงะไปเมื่อได้ยินคำกล่าวของรุ่ยเฉินฉี ครอบครัวของเธอมีฐานะปานกลาง และค่าขนมที่เธอได้ต่อเดือนก็ตกอยู่ที่ 2,000 หยวนเท่านั้น สำหรับเธอนี่ก็ถือว่ามากแล้ว แถมบางทียังใช้เหลืออีกด้วย

แต่ฉินหยุนต้องจ่ายมากกว่า 6,000 หยวนต่อเดือนเพื่อชำระคืนค่ารถยนต์!

สำหรับเธอเงินจำนวนนี้ใช้ได้ครึ่งเทอมเลยทีเดียว

"ประมาณนั้น"

ฉินหยุนพยักหน้าและกล่าวว่า "อยู่ข้างนอกฉันพอหาเงินได้บ้าง ดังนั้นฉันจึงสามารถจ่ายค่างวดรถได้"

เมื่อได้ยินสิ่งที่ฉินหยุนกล่าว รุ่ยเฉินฉีก็ยืนยันการคาดเดาในใจของเธอ

แม้ว่าก่อนหน้านี้ฉินหยุนจะเคยจับรางวัลได้รถยนต์มาคันหนึ่ง แต่รถคันนั้นมันก็ไม่ได้แพงมากนัก และเนื่องจากเขากล้าที่จะซื้อรถราคา 300,000 หยวน ดังนั้นเขาจึงต้องมีเงินเพียงพอที่จะใช้จ่ายเป็นค่ารถด้วย

บางทีฐานะครอบครัวของฉินหยุนอาจจะดีมาก ดังนั้นเขาจึงเช่าบ้านและสามารถซื้อรถได้

แต่เธอก็ไม่ได้ถามอะไรเรื่องนี้อีก

ไม่นานรถก็ไปส่งพวกเธอถึงที่มหาลัย

...

หลังจากที่ส่งหลินเมิ่งเมิ่งและคนอื่นๆกลับไปที่มหาลัยได้ไม่นานก็มีคนโทรมาหาฉินหยุน

หลังจากที่วางสาย ใบหน้าของเขาก็ปรากฏรอยยิ้มที่ดูมีเลศนัยออกมา

"ในที่สุดเรื่องของเจ้าของที่ก็จะได้รับการแก้ไขสักที"

...

บอสหลิว ชื่อเต็มๆคือ หลิวเฉวียนสี่ และเขาเป็นเจ้าของที่ของร้านค้าขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนที่กำลังปล่อยเซ้งอยู่

ก่อนที่ร้านเสื้อผ้าหานลู่จะปราบปรามร้านเสื้อผ้าเทียนหยุน ทางร้านเสื้อผ้าหานลู่ก็ได้เข้ามาหาเขาเพื่อขอความร่วมมือกันในการจัดการกับเทียนหยุน

เปรียบเทียบกันระหว่างร้านเสื้อผ้าทั้งสองร้าน ร้านหนึ่งเป็นแบรนด์ในเครือเสื้อผ้าที่มีมูลค่าตลาดมากกว่าหนึ่งพันล้านหยวน และอีกร้านเป็นร้านค้าที่เพิ่งเปิดได้ไม่กี่เดือน แน่นอนว่าเขาต้องเลือกฝ่ายหานลู่อยู่แล้ว

ในความคิดของเขา ในอีกไม่ช้าก็เร็วนี้เทียนหยุนจะต้องล้มละลายลงภายใต้แรงกดดันของหานลู่แน่นอน

(จบตอน)