ตอนที่ 104 เช่าบ้าน

"มีอะไรเหรอเหล่าจ้าว?" ป้าสะใภ้รองของฉินหยุนเดินเข้ามาถามด้วยความงุนงง

จ้าวเจียฝูจึงบอกเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้ และเมื่อป้าสะใภ้รองของฉินหยุนได้ยินว่าฉินหยุนเปิดร้านขายเสื้อผ้าในจินหลิงไป 6 สาขาแล้ว แถมยังมีอีก 2 ร้านที่มีขนาดพื้นที่มากกว่า 200 ตารางเมตร ใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความตกใจ

จินหลิงเป็นเมืองที่ใหญ่มาก ที่ดินทุกตารางนิ้วมีราคาแพงหูฉี่ แต่ที่นั่นฉินหยุนก็ยังสามารถเปิดร้านค้าได้มากมาย ดังนั้นเขาจึงถือว่าสุดยอดมากจริงๆ

เธอมีความประทับใจบางอย่างเกี่ยวกับฉินหยุนเช่นกัน ในฐานะหลานชาย เขามีบุคลิกที่ค่อนข้างนิ่งเงียบและไม่ค่อยพูดมากนัก ทุกๆปีในช่วงที่มาสวัสดีปีใหม่ เขามักจะเอ่ยทักทายทุกคนอย่างสุภาพ จากนั้นเขาก็กลับไปนั่งเงียบๆ เขาจะพูดก็ต่อเมื่อถูกคนอื่นถามเท่านั้น ซึ่งเธอไม่คาดคิดเลยว่าเขาจะสามารถประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้

เมื่อได้รู้เช่นนี้ ป้าสะใภ้รองก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย

ก่อนที่ฉินหยุนจะเข้าเรียนในมหาลัย เขาได้เชิญพวกเธอไปงานเลี้ยงเนื่องในโอกาสสอบติดมหาลัย แต่พวกเธอบอกกับฝั่งของเขาว่ามีธุระบางอย่างที่ต้องจัดการจึงไม่ได้ไปร่วมงานด้วย

แม้ว่าพวกเธอจะมีธุระบางอย่างที่ต้องจัดการจริงๆ แต่การทำสิ่งเหล่านี้ในภายหลังนั้นก็ไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆเลย

ถ้าพวกเธอรู้ตั้งแต่แรกว่าฉินหยุนมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ พวกเธอจะไม่ทำอย่างที่เคยทำแน่นอน

"ตอนนี้เสี่ยวเสวี่ยขอให้ฉันติดต่อเสี่ยวเหมย เธอบอกว่าอยากให้ฉินหยุนเพิ่มเงินเดือนให้เธอ" จ้าวเจียฝูกล่าว

"ห้ะ ทำไมเด็กนั่นถึงโง่ได้ขนาดนี้!" เมื่อได้ยินคำกล่าวของจ้าวเจียฝู ป้าสะใภ้รองก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวล

ลูกสาวของพวกเธอก็ออกไปทำงานนอกบ้านอยู่ตั้งสามปีแล้ว ทำไมตอนนี้เธอยังไร้เดียงสาอยู่อีก? นิสัยเหมือนกับเด็กยังไม่โต

"เดี๋ยวฉันจะโทรหาเสี่ยวเหมย และบอกให้เธอคุยกับเสี่ยวหยุน บอกเขาว่าอย่าไปใส่ใจกับความต้องการที่ไม่สมเหตุผลของเสี่ยวเสวี่ย"

จ้าวเจียฝูคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวออกมา จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นอีกครั้ง และกดโทรออกทันที

...

"เสี่ยวเสวี่ย เธอพูดไปแบบนั้นมันจะดีเหรอ?" หยูเสี่ยวถิงอดไม่ได้ที่จะกล่าวขณะเดินอยู่บนถนน หลังจากที่เห็นจ้าวตงเสวี่ยวางสายโทรศัพท์

"จะเป็นไรไป?"

จ้าวตงเสวี่ยไม่สนใจ เธอหันมากล่าวว่า "ฉินหยุนเป็นพี่ชายของฉัน เขาจะปล่อยให้ฉันเป็นเหมือนพนักงานคนอื่นๆได้ยังไง อย่างน้อยเขาก็ต้องให้บางอย่างกับฉันที่พิเศษกว่าคนอื่นๆหน่อยสิ จริงไหม?"

ในใจของเธอคิดว่า แค่ฉินหยุนดูแลเธอเป็นพิเศษต่างจากพนักงานคนอื่นๆจะเป็นอะไรไป? ก่อหน้านี้ในที่ที่เธอเคยทำงาน บรรดาญาติๆต่างก็ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี

หยูเสี่ยวถิงคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่ในที่สุดเธอก็ไม่ได้กล่าวอะไรออกมาเพื่อเกลี้ยกล่อมเธออีกต่อไป

...

ในอีกด้านหนึ่ง หลังจากที่ฉินหยุนได้รับสายจากจ้าวเหมย

"โอเคครับแม่ ผมเข้าใจแล้ว ไม่ต้องห่วง ผมรู้ว่าจะต้องทำยังไง"

หลังจากคุยกันสักพัก ฉินหยุนก็กดวางสายไป

"ลูกพี่ลูกน้องคนนี้ช่างไร้เดียงสาซะจริงๆ"

เมื่อนึกถึงสิ่งที่จ้าวเหมยกล่าวในสายโทรศัพท์เมื่อครู่นี้ ฉินหยุนก็อดส่ายหัวไม่ได้

เพิ่งมาอยู่ที่นี่ ยังไม่ทันได้ทำงานด้วยซ้ำ เธอจะมาอยากได้สิทธิพิเศษอะไร? มีไม่กี่คนที่รู้ว่าฉินเสี่ยวเทา ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ดีกับฉินหยุน มาทำงานที่นี่และรับผิดชอบงานสำคัญต่างๆเช่นกัน เขายุ่งอยู่ทุกวันตั้งแต่เช้าจรดค่ำ และฉินหยุนจ่ายเงินเดือนให้เขาเพียง 7,000 หยวนเท่านั้น

แน่นอนว่าในอนาคตฉินหยุนจะเพิ่มเงินเดือนให้เขา เมื่อความสามารถของเขาดีขึ้น

อย่างไรก็ตามฉินหยุนรู้ว่าจ้าวตงเสวี่ยเป็นหญิงสาวที่มีปัญหา ซึ่งพ่อกับแม่ของเธอไม่สามารถควบคุมเธอได้เลย เมื่อก่อนหน้านี้ตอนที่ลุงรองบอกเรื่องนี้กับจ้าวเหมย แม่ของเขา จ้าวเหมยก็ลังเลนิดหน่อยที่จะเล่าเรื่องนี้ให้เขาฟัง

"ถ้าเธอทำงานอยู่ในร้านอย่างสงบเสงี่ยม ฉันก็จะจ่ายเงินเดือนให้กับเธอ แต่ถ้าไม่ เธอก็จะถูกไล่ออกทันที"

ฉินหยุนคิดกับตัวเอง ถ้าจ้าวตงเสวี่ยอยู่ในความสงบเรียบร้อย เขาก็จะไม่สนใจ เผลอๆอาจจะขึ้นเงินเดือนให้เธอนิดหน่อย

แต่ถ้าเธอมีปัญหามาก งั้นก็ไม่ต้องอยู่ที่นี่

แม้ว่าจ้าวตงเสวี่ยจะเป็นลูกพี่ลูกน้องของเขา แต่เขาจะไม่ทำให้เธอเสียคน ทุกอย่างก็เพื่อตัวเธอเอง

ฉินหยุนมองไปด้านหน้าโดยไม่คิดถึงเรื่องนี้อีก ภายในสายตาของเขา มีชุมชนหนึ่งตั้งอยู่ที่นั่น

สภาพแวดล้อมโดยรอบดูดี การจราจรสะดวกมาก เห็นได้ชัดว่าที่แห่งนี้ทำเลค่อนข้างดีทีเดียว

"บอสฉินครับ ที่นี่คือชุมชนชูเซียง บ้านที่คุณเช่าอยู่ที่อาคาร 13 ห้อง 601"

จ้าวเทียนเฉียงขับรถ BMW ซีรีส์ 7 มากับฉินหยุน เมื่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูทางเข้าเห็นรถหรูและคีย์การ์ดที่ฉินหยุนโชว์ให้ดู เขาก็ปล่อยทั้งคู่เข้าไปทันที

นอกจากนี้เขายังลอบมองไปที่ใบหน้าของฉินหยุนและจ้าวเทียนเฉียงอย่างระมัดระวัง โดยจดจำพวกเขาไว้

ละแวกนี้ไม่ได้มีรถหรูมากนัก แต่เขาเป็นคนชอบรถมาก และจำรถหรูคันที่อยู่ข้างหน้าเขาได้ทันที

เขาไม่สามารถไปสร้างความรำคาญให้คนร่ำรวยเหล่านี้ได้

รถแล่นเข้าไปในชุมชนและหยุดอยู่ที่หน้าอาคารหลังหนึ่ง

ฉินหยุนไม่ได้วางแผนที่จะอาศัยอยู่ในหอพักนานนัก ดังนั้นเขาจึงขอให้จ้าวเทียนเฉียงช่วยหาที่พักแห่งใหม่ให้

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เขายังไม่ได้มาดูที่นี่ และตอนนี้เมื่อวันหยุดช่วงวันชาติจบลง เขามีแผนจะย้ายออกจากหอพักนักศึกษาแล้ว

หลังจากลงจากรถ จ้าวเทียนเฉียงก็พาฉินหยุนขึ้นไปดูที่บ้าน

บ้านทั้งหลังมีขนาด 130 ตารางเมตร มี 3 ห้องนอน 2 ห้องนั่งเล่น ภายในตกแต่งอย่างดี โซฟา และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างก็เป็นของใหม่ทั้งหมด

ภายในบ้านสะอาดเรียบร้อย เห็นได้ชัดว่าเพิ่งทำความสะอาดไปไม่นาน

วิวจากทางหน้าต่างเอย แสงสว่างที่ส่องเข้ามาเอย ทุกอย่างก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน ทำเลที่นี่ดี ค่าเช่าจึงไม่ใช่ราคาถูกๆ แม้จะไม่ใช่ระดับไฮเอนด์ แต่ก็ไม่ใช่ระดับล่างๆเช่นกัน

ไม่น่าแปลกใจที่ฉินหยุนจะได้มาอาศัยอยู่ในที่แห่งนี้หลังจากที่หาไม่นาน เพราะว่าที่นี่คือจินหลิง ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะหาสถานที่เช่นนี้ไม่พบ

เมื่อมองไปรอบๆบ้าน ฉินหยุนก็พยักหน้าพลางกล่าวว่า "ผู้จัดการจ้าว ขอโทษที่รบกวนนะครับ"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ จ้าวเทียนเฉียงโบกมืออย่างรวดเร็วสื่อว่าไม่เป็นไร เขาเรียบเรียงความคิดของเขา จากนั้นก็รายงานให้ฉินหยุนฟัง

"บอสฉินครับ ร้านเสื้อผ้าทั้งหกสาขาของเราเปิดทำการครบหมดแล้ว สำหรับที่ถนนย่านการค้า กิจกรรมโปรโมทของร้านเสื้อผ้าจวินชิงที่จางฉินเยว่เป็นผู้รับผิดชอบยังคงถูกจัดขึ้น แต่ความนิยมของลูกค้าเริ่มน้อยลงแล้ว กิจการของร้านสาขาของเราก็ค่อยๆฟื้นตัวสู่สภาวะปกติแล้วครับ" จ้าวเทียนเฉียงกล่าวรายงานออกมา

ร้านเสื้อผ้าจวินชิงจัดกิจกรรมชิงรางวัลต่างๆมากมาย และมีแม้กระทั่งรางวัลใหญ่เป็นรถยนต์ หลังจากนั้นพวกเขาก็เชิญคนดังทางอินเทอร์เน็ตมา นักรีวิวรายใหญ่บางคนยังได้รับเชิญให้แวะมาที่ร้านอีกด้วย

ภายใต้กิจกรรมเหล่านี้ ร้านขายเสื้อผ้าหลายๆแห่งในถนนย่านการค้าได้รับผลกระทบอย่างมาก แต่สิ่งเหล่านี้มีอิทธิพลต่อร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนไม่มากนัก

ฉินหยุนพยักหน้าและกล่าวว่า "ไม่ต้องกังวลกับร้านเสื้อผ้าจวินชิง เราจะเปิดร้านกันตามปกติ"

ธุรกิจของเขาไปได้ดีก็เพราะค่ายกลรวบรวมโชคลาภ เว้นแต่ว่าร้านเสื้อผ้าจวินชิงจะโปรยเงินทิ้งและจัดกิจกรรมโปรโมทต่อไปอยู่เรื่อยๆ มิฉะนั้นมันจะไม่ส่งผลกระทบอะไรกับร้านของเขาเลย

ไม่กี่วันต่อมา ฉินหยุนก็ยุ่งอยู่กับการจัดการร้านขายเสื้อผ้าของเขา

หลังจากที่เขาพาจ้าวตงเสวี่ยไปไว้ที่ร้านขายเสื้อผ้า แม้เธอจะผ่านการฝึกอบรมแล้ว เขาก็ไม่เคยเข้าไปหาเธออีกเลย

สำหรับลูกพี่ลูกน้องคนนี้ ฉินหยุนปฏิบัติต่อเธอตามปกติ เช่นเดียวกับพนักงานคนอื่นๆ

และแล้วเวลาก็ผ่านมาถึงวันที่ 9 นักศึกษาที่กลับบ้านไปในวันหยุดช่วงวันชาติก็ทยอยกลับมากันอีกครั้ง

ฉินหยุนก็กลับไปที่หอพักของเขาด้วย

เมื่อเขามาถึงห้องพัก จ้าวคังฮ่าว หลี่หานอวี่ และเพื่อนๆอีกสามคนต่างก็อยู่ในห้องพักกันทั้งหมด พวกเขากำลังคุยโม้และพากันกล่าวเสียงดัง ราวกับว่าพวกเขาเอ่ยถึงเรื่องที่สุดยอดมากๆ

ใบหน้าของโจวผานตื่นเต้นมากอย่างเห็นได้ชัด และเสียงของเขาก็ดังที่สุดในห้องพักทั้งหมด

"ฉินหยุน นายกลับมาแล้วเหรอ"

เมื่อเห็นการมาถึงของฉินหยุน จ้าวคังฮ่าวก็ยิ้มพลางกล่าวว่า "นายรู้หรือยัง ร้านหม่าล่าทั่งที่เปิดโดยหัวหน้าชั้นเรียนหยูเล่อเหยา เปิดร้านวันนี้แล้วนะ"

"หม่าล่าทั่ง?" เมื่อได้ยินเช่นนี้ จู่ๆฉินหยุนก็นึกขึ้นได้พอดี

ก่อนหน้านี้เขายุ่งอยู่กับกิจการของตัวเอง จนเกือบลืมเรื่องที่หยูเล่อเหยาเปิดร้านหม่าล่าทั่งเลย

"ใช่ เราไปดูมาเมื่อตอนที่เพิ่งกลับมาถึงมหาลัย ธุรกิจกำลังร้อนแรงมาก!" โจวผานกล่าวอย่างตื่นเต้น

เฉิงต้าสงชำเลืองมองเขาและกล่าวอย่างอิจฉานิดหน่อยว่า "เฮ้เสี่ยวพั่ง นายพูดไปหลายรอบแล้วนะรู้ไหม พวกเราก็รู้ว่านายลงทุนกับมันไป ดังนั้นไม่ต้องพูดซ้ำไปซ้ำมาได้ไหม?"

โจวผานก็ลงทุนในร้านหม่าล่าทั่งของหยูเล่อเหยาเช่นกัน ดังนั้นเมื่อร้านได้กำไร หลังจากหักทุกอย่างแล้ว เขาก็จะได้เงินปันผลเช่นกัน

(จบตอน)