เมื่อได้ยินเช่นนี้ หยูเล่อเหยาก็กล่าวว่า "ค่าเช่ายังขาดอยู่อีกหนึ่งแสน และสิ่งอื่นๆที่จำเป็นต้องซื้อด้วย ทั้งหมดนี้รวมแล้วก็ประมาณสามถึงสี่แสนหยวน"
"นายถามทำไมเหรอ หรือว่าบอสฉินต้องการจะลงทุนในร้านหม้อไฟด้วย?" เธอพูดด้วยรอยยิ้ม
อันที่จริงเธอพาฉินหยุนมาที่นี่เพื่อดูร้านหม้อไฟแห่งนี้เท่านั้น สำหรับการลงทุน เธอไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ซึ่งวันนี้เธอก็บังเอิญได้พบกับหูกงหรงและคนอื่นๆเช่นกัน
หากเธอตั้งใจอยากจะได้เงินลงทุนในส่วนของฉินหยุนจริงๆ เธอสามารถขอเงินศาสตราจารย์จ้าวผู้เป็นย่าของเธอได้โดยตรง
ฉินหยุนผงกหัวพลางยิ้ม เขากล่าวว่า "เอาล่ะ ฉันจะเป็นคนจ่ายเงินในส่วนที่เหลืออีก 400,000 หยวนเอง โดยแลกกับผลกำไรของร้านส่วนหนึ่ง"
ก่อนหน้านี้เขาได้ชิมเบสน้ำซุปหม้อไฟที่ทำขึ้นโดยหยูเล่อเหยาแล้ว ซึ่งรสชาติของมันก็ดีมากจริงๆ และเมื่อตอนนี้เขามีเงินมากขึ้นเรื่อยๆถึงอย่างไรในอนาคตเขาก็จะต้องเอาเงินไปลงทุนอย่างอื่นแน่นอน
ร้านหม้อไฟแห่งนี้ก็น่าลงทุนเช่นกัน
"ถ้าอย่างนั้นเงินทุนของร้านเราก็จะมีครบพอดี" เมื่อหยูเล่อเหยาได้ยินว่าฉินหยุนต้องการที่จะลงทุน 400,000 หยวน เธอก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม
"ไปคุยกับพวกพี่สาวหูกันเถอะ"
ทั้งสองเดินกลับมาที่ที่หูกงหรงและคนอื่นๆอยู่อีกครั้ง
"เล่อเหยา พาฉินหยุนไปเดินเล่นเป็นไงบ้าง" หลินอวี่พูดด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นว่าคนอื่นไม่ได้เอ่ยอะไร
เธอและหยูเล่อเหยารู้จักกันมานานแล้ว เมื่ออีกฝ่ายตั้งใจพาฉินหยุนมาที่นี่ เห็นได้ชัดว่าในใจของหยูเล่อเหยานั้นฉินหยุนต้องไม่ได้อยู่ในสถานะธรรมดาๆแน่นอน
อีกสองสามคนไม่ได้พูดอะไร ตอนนี้ในใจของพวกเขากำลังกังวลเรื่องเงินทุนกันอยู่ นอกจากค่าเช่าที่ต้องจ่ายแล้ว เงินทุนที่ใช้ซื้ออุปกรณ์และวัตถุดิบต่างๆก็ต้องหาทางเช่นกัน
วิธีที่ดีที่สุดคือหานักลงทุนรายอื่นเพิ่มเข้ามา
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะสามารถหาพวกเขาได้ง่ายๆ ไม่ว่าในธุรกิจใดๆก็ตาม ความเป็นไปได้ของความล้มเหลวก็มักจะมีมากกว่า
หลายๆคนเคยลองเปิดร้านหม้อไฟแบบนี้เช่นกัน แต่พวกเขาก็ต้องปิดตัวลงหลังจากเปิดได้แค่สองสามเดือน แม้จะผ่านช่วงแรกมาได้ส่วนใหญ่ก็ปิดตัวลงในภายหลัง
หลังจากเปิดร้านไปแค่ไม่กี่เดือน การลงทุนอย่างน้อยหลายแสนหยวนหรือแม้แต่หลายล้านหยวนก็อาจสูญเปล่า
นี่จึงเป็นเรื่องยากในการหาคนมาลงทุน เมื่อยังไม่ได้เห็นผลตอบแทนที่แน่นอน จะมีสักกี่คนที่กล้าลงทุนจริงๆ?
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินอวี่หยูเล่อเหยาก็ยิ้มออกมา จากนั้นเธอก็ถามว่า "ปัญหาเรื่องเงินทุนของเราเป็นยังไงบ้าง?"
หลังจากที่คำพูดของเธอจบลง ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ก็ส่ายหัวกันทันที
"มันยากมาก แม้ว่าเราจะหาค่าเช่าได้ แต่ก็ยังต้องหาเงินทุนสำหรับของอย่างอื่นอีก"
"ฉันจะลองไปคุยกับอีกสักสองสามคน เผื่อจะชวนพวกเขามาลงทุนได้"
ทุกคนต่างก็ร่วมปรึกษากัน
กุญแจสำคัญคือพวกเขายังมีทัศนคติที่ดีต่อร้านหม้อไฟแห่งนี้ และเป็นไปไม่ได้ที่จะขอเงินจากครอบครัวเพื่อมาลงทุน ดังนั้นพวกเขาควรจะพานักลงทุนรายอื่นมาร่วมรับความเสี่ยงด้วยดีกว่า
"เล่อเหยา เธอมีความคิดเห็นอะไรไหม?"
หูกงหรงมองไปที่หยูเล่อเหยาและถามออกมาทันที
ในเวลานี้ท่าทางของหยูเล่อเหยาดูไม่มีความกังวลเลย และดูเหมือนว่าเธอจะมีวิธีแก้ปัญหาแล้ว
"มีค่ะ"
เมื่อมองไปที่กลุ่มคน หยูเล่อเหยาก็พยักหน้าและพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ฉันเพิ่งคุยกับฉินหยุนเกี่ยวกับร้านหม้อไฟของเรา ฉินหยุนเขาคิดว่าร้านหม้อไฟของเราจะสามารถพัฒนาขึ้นได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะใช้เงิน 400,000 หยวนลงทุนในร้านหม้อไฟแห่งนี้"
เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ ทุกคนที่อยู่รอบๆก็ผงะไป
"ฉินหยุนจะลงทุน 400,000 หยวน!?"
สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกใจ
เมื่อพวกเขาได้แนะนำตัวกันก่อนหน้านี้ พวกเขาก็ได้รู้ว่าฉินหยุนยังเป็นนักศึกษาปีหนึ่ง
คนส่วนใหญ่ที่เป็นนักศึกษาปีหนึ่งต่างก็กำลังกังวลกับเรื่องค่าใช้จ่าย เพราะงั้นฉินหยุนจะเอาเงินจำนวนมากออกมาใช้จ่ายทีเดียวแบบนี้ได้อย่างไร?
"หรือว่าฉินหยุนจะเป็นคนรวยรุ่นที่สอง?" ทันใดนั้นความคิดมากมายก็ปรากฏขึ้นในใจของทุกคน
หลังจากคำพูดของหยูเล่อเหยาจบลง ดวงตาของหูกงหรงก็สว่างขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เธอมองไปที่ฉินหยุนพลางถามว่า "ฉินหยุน นายจะใช้เวลานานแค่ไหนในการนำเงินก้อนนี้มา?"
ฉินหยุนยิ้มและพูดว่า "ตอนนี้เลยก็ได้"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของทุกคนก็ยิ่งเปลี่ยนไปมากขึ้น
ทีแรกพวกเขาต่างก็คิดว่าฉินหยุนเป็นพวกความคิดตื้นเขินเล็กน้อยและชอบที่จะดึงดูดความสนใจของผู้อื่น แต่พวกเขาไม่ได้คาดคิดว่าเขาจะซ่อนฐานะของตัวเองไว้ลึกขนาดนี้
"ว้าว คิดไม่ถึงเลยว่าฉินหยุนจะร่ำรวยขนาดนี้" หลี่ตันตันกล่าวด้วยรอยยิ้ม
พวกเขาทุกคนเอาเงินออกมารวมกันได้ทั้งหมด 450,000 หยวน แต่ฉินหยุนคนเดียวกลับสามารถเอาเงินออกมาได้ถึง 400,000 หยวน! แถมยังไม่ต้องขออนุญาตจากครอบครัวอีก
จากมุมมองนี้ ฐานะครอบครัวของฉินหยุนจะต้องดีมากอย่างแน่นอน
ในความคิดของเธอ ฉินหยุนเป็นคนประเภทที่ชอบดึงดูดความสนใจและพอมีเงินอยู่บ้าง
แต่ในฐานะนักศึกษาปีหนึ่ง บุคลิกเช่นนี้ก็ถือเป็นเรื่องปกติ
"งั้นก็ดีเลย เมื่อมีเงินทุน 400,000 หยวนก้อนนี้แผนทั้งหมดของร้านหม้อไฟของเราสามารถดำเนินการต่อได้"
หลังจากฉินหยุนพูดจบ หูกงหรงก็มีความสุขมากอย่างเห็นได้ชัด เธอกล่าวว่า "เมื่อฉินหยุนเข้าร่วมกับเราในฐานะหุ้นส่วน ปัญหาทางด้านเงินทุนของเราก็จะได้รับการแก้ไขทันที ตอนนี้มีเงินทุนเพียงพอแล้ว ดังนั้นร้านหม้อไฟของเราจะเปิดขึ้นโดยเร็วที่สุด! นอกจากนี้ยังต้องเริ่มโปรโมทและโฆษณาร้านด้วย!"
"ร้านของเราตั้งอยู่ใกล้กับมหาลัย ดังนั้นลูกค้าส่วนใหญ่จึงเป็นเหล่านักศึกษา เพราะงั้นทุกคนต้องช่วยกันโฆษณาในมหาลัยของตัวเองให้ดีที่สุด"
ดูเหมือนว่าหูกงหรงจะวางแผนจัดการเรื่องต่างๆไว้เรียบร้อยแล้ว เธอกล่าวออกมาอย่างรวดเร็วและชัดเจน
"ยังมีเวลาอีกสามหรือสี่วันก่อนที่มหาลัยจะเปิด เดี๋ยวฉันค่อยเอาใบปลิวโฆษณาร้านให้ทุกคน..."
หลังจากอยู่ที่นี่ต่อสักพัก ฉินหยุนและหยูเล่อเหยาก็จากไป
ฉินหยุนไม่คาดคิดว่าเมื่อเขามาที่นี่เพื่อดูร้านหม้อไฟ เขาจะได้ลงทุนกับมันโดยตรง
"ฉินหยุน ดูแล้วนายค่อนข้างมั่นใจในร้านหม้อไฟของเราเลยนะ" หยูเล่อเหยาพูดด้วยรอยยิ้ม
ฉินหยุนพูดอย่างจริงจัง "ฉันได้ชิมเบสน้ำซุปที่เธอทำแล้ว และมันก็ดีมาก ฉันคิดว่าหลังจากเปิดร้านแล้วลูกค้าก็ต้องบอกว่ามันอร่อยแน่นอน"
"ฉันก็หวังว่ามันจะเป็นแบบนั้น" หยูเล่อเหยากล่าวด้วยความคาดหวัง
...
เวลาไหลผ่านไปอย่างรวดเร็ว และภายในไม่กี่วันมหาลัยที่ว่างเปล่าก็กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง เหล่านักศึกษาที่พากันกลับบ้านเนื่องจากวันหยุดฤดูหนาวก็เริ่มทยอยกลับมาที่มหาลัย
ฉินหยุนกลับไปที่หอพักชายห้อง 305 ของมหาลัยเจียงหยวน
ห้องพักสะอาดมาก เห็นได้ชัดว่ามีคนทำความสะอาดไปแล้วรอบหนึ่ง ในเวลานี้หลิวซินกำลังทำความสะอาดโต๊ะให้เขาอยู่
เมื่อเห็นเช่นนี้ฉินหยุนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า "หลิวซิน เดี๋ยวฉันทำต่อเอง"
หลิวซินพยักหน้า น้องสาวของเขายังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล แต่อาการของเธอดีขึ้นมากแล้ว
ด้วยความช่วยเหลือจากเทียนหยุน ความตึงเครียดของเขาจึงลดลงอย่างมาก และเขาก็กลับมาที่มหาลัยเพื่อเริ่มเรียนตามปกติแล้ว
"ฉันจะบอกพวกนายให้ ตอนตรุษจีน ฉันจัดการคนไปเยอะมาก ทั้งพ่อ แม่ พี่สาว ลุงและป้าของฉันเสียเงินกันทั้งหมด และฉันก็เป็นคนเดียวที่ชนะ" จ้าวคังฮ่าวกำลังคุยโม้อยู่
ข้างๆเขาเฉิงต้าสงกำลังถามเขาว่าเขาชนะได้เงินมาเท่าไร ในขณะที่โจวผานพูดว่าพี่จ้าวสุดยอดมาก ต้องดูแลเขาด้วยอาหารดีๆสักมื้อ
ในขณะที่กำลังโม้ จ้าวคังฮ่าวก็เห็นฉินหยุนเดินเข้ามา เขาอดไม่ได้ที่จะถามว่า "ฉินหยุน นายถืออะไรมาน่ะ?"
ฉินหยุนวางของในมือลงและพูดว่า "ใบปลิวของร้านหม้อไฟชิงอู้"
"ร้านหม้อไฟชิงอู้? ฉันไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเลย"
"ฉินหยุน นายทำงานพาร์ทไทม์แจกใบปลิวงั้นเหรอ?"
เมื่อได้ยินคำอธิบายของฉินหยุน จ้าวคังฮ่าวและคนอื่นๆก็พากันพูดขึ้น
สำหรับโจวผานและเฉิงต้าสง พวกเขากำลังคิดไปถึงก่อนหน้านี้ที่ฉินหยุนจับสลากได้รางวัลรถยนต์ จากนั้นก็ขายแล้วไปเช่าบ้านพร้อมกับซื้อรถใหม่ ตอนนี้คงไม่ใช่ว่าเขากำลังขาดเงินใช่ไหม?
อย่างไรก็ตาม ด้วยค่าเช่าบ้านและค่าผ่อนรถที่ต้องจ่ายในช่วงที่ผ่านมา เป็นไปได้มากจริงๆว่าเงินพวกนั้นมันจะถูกใช้จนหมดแล้ว
พวกเขาต่างก็คิดกับตัวเองว่าฉินหยุนนี่ไม่รู้จักวิธีใช้เงินเลย เจียงอีและสาวๆคนอื่นในห้องพักของจางเสี่ยวเยว่ก็กล่าวเช่นกันว่าฉินหยุนใช้จ่ายเงินมากเกินตัว
สุดท้ายตอนนี้ก็มีเงินไม่พอจนได้
(จบตอน)
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved