หลังจากดูคลิปวิดีโอจบ สีหน้าของทั้งคู่ก็เปลี่ยนไปนิดหน่อย
ที่ตั้งของร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้เป็นของหลินต้าเฉียง
"ที่รัก ฉันว่าเราอย่าเช่าต่อเลยดีกว่า บางทีสักวันหนึ่งหลินต้าเฉียงคนนี้ก็น่าจะทำแบบเดียวกันกับร้านของเรา" ฝ่ายภรรยาอดไม่ได้ที่จะกล่าวขึ้น
"โอเค งั้นเราจะไม่ต่อสัญญาเช่าแล้ว ผมจะโทรไปบอกเขาก่อน เราจะออกทันทีเมื่อระยะเวลาเช่าหมดลง" ผู้ชายที่เป็นสามีก็พยักหน้าโดยไม่ลังเล
ในฐานะผู้เช่า สิ่งที่น่ากังวลที่สุดคือการเผชิญหน้ากับเจ้าของที่ที่ไร้ยางอายเหล่านั้น และท่าทีของหลินต้าเฉียงในคลิปวิดีโอก็ทำให้คู่รักหนุ่มสาวรู้สึกรังเกียจมาก
ที่อื่นๆมีร้านค้าว่างอยู่มากมาย ทำไมพวกเขาถึงต้องดันทุรังเช่าของหลินต้าเฉียงต่อ? นี่ไม่เท่ากับว่าเป็นการทำร้ายตัวเองหรอกเหรอ?
เมื่อได้ยินที่พวกเขาพูดคุยกัน มุมปากของลูกค้าคนที่เอาคลิปวิดีโอให้พวกเขาดู ก็ดูเหมือนว่าจะมีรอยยิ้มผุดออกมาให้เห็นจางๆ
ไม่ใช่แค่ที่นี่ แต่สถานการณ์เช่นนี้ก็กำลังเกิดขึ้นกับร้านค้าอีกหนึ่งแห่งที่เป็นของหลินต้าเฉียงด้วยเช่นกัน
เขามีร้านค้าทั้งหมดห้าร้าน โดยสามร้านกำลังถูกปล่อยเช่า และอีกสองร้านยังคงว่างอยู่
ตอนนี้อุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ร้านค้าที่มีหน้าร้านอยู่จริงๆก็ได้รับผลกระทบจากสิ่งนี้เป็นอย่างมาก หลายๆสถานที่ต่างก็มีร้านค้าจำนวนมากมายที่ยังว่างอยู่ ซึ่งมันก็ไม่ง่ายเลยที่เจ้าของที่จะหาผู้เช่ามาเช่าได้สักคน
"อะไรนะ! เดือนหน้าจะไม่เช่าแล้วเหรอ? เรื่องค่าเช่าเราคุยกันก่อนได้นะเฉียนเหิง"
ในเวลานี้ หลินต้าเฉียงกำลังเดินออกมาจากประตูบ้านพลางกดรับสายโทรศัพท์ จากนั้นสีหน้าของเขาเปลี่ยนไป
เฉียนเหิงเป็นผู้เช่าเก่าแก่ของเขา เขาเช่าที่ของร้านค้ามา 7-8 ปีแล้ว ในตอนนี้มันเป็นเรื่องยากที่จะหาผู้เช่าให้ได้สักคน โดยเฉพาะกับผู้เช่าที่มั่นคงเช่นนี้
หลังจากที่เฉียนเหิงโทรมา ผู้เช่ารายอื่นก็โทรมาแจ้งว่าจะไม่ต่อสัญญาเช่าอีกต่อไป พร้อมกับขอเงินค่าเช่าบางส่วนคืนด้วย
ในช่วงเวลาสั้นๆ ผู้เช่าสองคนที่เหลืออยู่ก็เลือกที่จะไม่ต่อสัญญาเช่ากับเขา สุดท้ายแล้วร้านค้าทั้งห้าแห่งของเขาก็ไม่มีใครเช่าอยู่เลย
ในเวลานี้ เมื่อคนอื่นๆที่อยู่รอบข้างเห็นหลินต้าเฉียงปรากฏตัว คนทั้งหมดก็พากันชี้นิ้วไปที่เขา
"ปกติแล้วหลินต้าเฉียงก็ดูดี แต่ฉันไม่คิดเลยว่าเขาจะมีนิสัยแย่ขนาดนี้"
"ต่อไปนี้ของที่ขายให้เขาจะแพงมากขึ้นกว่าคนอื่น"
"ร้านของเขาอยู่ที่ไหนบ้าง เราจะหลงไปเช่าไม่ได้เด็ดขาด"
คำพูดจากเพื่อนบ้านในละแวกนั้นแว่วมาถึงหูของหลินต้าเฉียง ซึ่งมันก็ทำให้ใบหน้าของเขาถึงกับเปลี่ยนสีเลยทีเดียว
เขาอดไม่ได้ที่จะสาปแช่งร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนอยู่ภายในใจอีกครั้ง เขารู้สึกแค้นมาก แต่ที่มากกว่าก็คือความเสียใจ ตอนนี้เขารู้แล้วว่าชื่อเสียงของเขามันป่นปี้ไปหมดแล้วโดยสิ้นเชิง
ทันใดนั้นก็มีรถตำรวจขับมาจอดอยู่ที่นี่
เมื่อเห็นรถตำรวจ คราวนี้ใบหน้าของหลินต้าเฉียงก็เริ่มถอดสีแล้ว
"หลินต้าเฉียง เราสงสัยว่าคุณเข้าข่ายเจตนาข่มขู่ผู้เช่า พฤติกรรมของคุณถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ตอนนี้เราขอเชิญคุณไปให้ปากคำที่สถานีตำรวจหน่อย"
ตำรวจกล่าวออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้มีความประทับที่ดีต่อพฤติกรรมของหลินต้าเฉียงเลย
และแล้วหลินต้าเฉียงก็ถูกคุมตัวเข้าไปในรถตำรวจ
ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเจ้าของที่คนอื่นๆอีกด้วย พฤติกรรมของพวกเขาต่างก็ถูกเปิดเผยบนอินเทอร์เน็ตในเวลาเดียวกัน ราวกับว่าพวกเขานัดหมายกันไว้แล้ว ซึ่งเรื่องของพวกเขาก็กำลังติดเทรนการค้นหาอย่างร้อนแรง และเรื่องการแข่งขันระหว่างร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนกับร้านเสื้อผ้าหานลู่ก็ถูกเปิดเผยออกมาเช่นกัน
ก่อนหน้านี้เทียนหยุนเพียงแค่ยื่นฟ้องธรรมดาๆและไมได้ดำเนินการอะไรอย่างอื่น แต่อันที่จริงแล้วพวกเขากำลังรวบรวมหลักฐานต่างๆอย่างเงียบๆ
เทียนหยุนเช่าร้านค้าทั้งหมด 9 แห่ง แต่หานลู่ซื้อตัวเจ้าของที่ของร้านค้าทั้ง 9 แห่งไป และร่วมมือกันเพื่อปราบปรามเทียนหยุน ซึ่งเทียนหยุนก็ได้ส่งหลักฐานทั้งคลิปวิดีโอและคลิปเสียงจำนวนมากไปยังสถานีตำรวจโดยตรง
"เราถูกแบรนด์เสื้อผ้าหานลู่สั่งให้ทำ"
"ผมไม่มีทางเลือกจริงๆ หานลู่เป็นบริษัทที่ใหญ่ขนาดนั้น ผมจะไปกล้าต่อต้านพวกเขาได้ยังไง"
เมื่อเผชิญกับหลักฐานทุกประเภทเจ้าของที่เหล่านั้นจึงไม่มีทางที่จะปฏิเสธได้ พวกเขาทำได้แค่สารภาพตามความจริงเท่านั้น
ที่พวกเขาเลือกสารภาพความจริงออกมา เพราะในอีกแง่หนึ่งก็รู้สึกเคียดแค้นต่อหานลู่อยู่ในใจด้วย ตอนนี้ในอินเทอร์เน็ตก็ได้เปิดเผยแล้วว่าผู้เช่าร้านค้าร้านอื่นๆของพวกเขากำลังโวยวายเรื่องที่จะให้ยกเลิกสัญญาเช่า และพวกเขาก็ยังโดนผู้คนรอบตัวพากันรุมชี้หน้าด่า จากนี้ไปก็ไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับเรื่องเหล่านี้อย่างไรดี
ถ้าไม่มีหานลู่ พวกเขาจะลงเอยแบบนี้ได้อย่างไร?
และหลังจากนั้นจั่วหาน ปรมาจารย์แห่งการผลาญเงินก็ได้รับเชิญให้ไปที่สถานีตำรวจเพื่อดื่มชายามบ่าย สุดท้ายแบรนด์เสื้อผ้าหานลู่ก็ถูกปรับเงินเป็นจำนวนหลายแสนหยวนเนื่องจากการแข่งขันทางธุรกิจที่ไม่เป็นธรรม
...
เหตุการณ์การปล่อยเซ้งร้านและการแฉเรื่องดำมืดต่างๆได้ยุติลงชั่วคราว ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็ได้ทำให้อุตสาหกรรมเสื้อผ้าในเมืองจินหลิงทั้งหมดถึงกับสั่นคลอนเลยทีเดียว
"ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนนี่โหดเหี้ยมมากจริงๆ เปิดเผยเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนแม้แต่ยักษ์ใหญ่หานลู่ก็ยังต้องถูกเลาะผิวหนังออกมาชั้นหนึ่ง"
"เทียนหยุนไม่กลัวเลยหรือไง"
"จะไปกลัวอะไร ถูกหานลู่ข่มเหงแบบนี้ ใครบ้างจะไม่สู้กลับ?"
"ฉันคิดว่ามันน่าเหลือเชื่อมากจริงๆ ก่อนหน้านี้ที่หานลู่เคยปราบปรามเทียนหยุน ในความเห็นของพวกเรายังไงเทียนหยุนก็ต้านทานไม่ได้แน่นอน แต่ตอนนี้ไม่เพียงแต่จะอยู่อย่างปลอดภัยเท่านั้น พวกเขายังเริ่มที่จะโจมตีโต้กลับด้วย!"
หลายคนที่เฝ้ามองอยู่ก็กำลังพูดคุยกันถึงเรื่องนี้
ขณะที่พูดคุยกัน พวกเขาก็เริ่มรู้สึกถึงความหวาดกลัวต่อเทียนหยุนขึ้นมาเล็กน้อย!
ดูเหมือนว่าเทียนหยุนจะเริ่มผงาดขึ้นแล้ว!
...
ในวิลล่าใจกลางเมืองจินหลิง นี่คือที่พักของจั่วหาน
"ปัง!"
ในขณะนี้ใบหน้าของจั่วหานเต็มไปด้วยความโกรธ ถ้วยชาที่วางอยู่ตรงหน้าเขาถูกเขาหยิบขึ้นมาและขว้างออกไป ซึ่งมันก็แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยกระจายอยู่บนพื้น
"ฉินหยุน!"
ในใจของเขารู้สึกโกรธมาก ตอนนี้เรื่องของแบรนด์เสื้อผ้าหานลู่ถูกโพสต์ลงบนอินเทอร์เน็ตแล้ว และแน่นอนว่ามันก็ถูกเหล่าชาวเน็ตมากมายเข้ามารุมด่า เห็นได้ชัดว่าชื่อเสียงของพวกเขาได้รับผลกระทบอย่างมาก
โชคดีที่พวกเขารับมือได้ทันเวลา สถานการณ์ที่กำลังร้อนแรงจึงค่อยๆสงบลง
ตื้ดๆ...
ในขณะนี้เองจู่ๆโทรศัพท์มือถือของจั่วหานก็ดังขึ้น
"พี่ใหญ่" จั่วหานสูดหายใจเข้าลึกๆ เขาปรับอารมณ์เล็กน้อย จากนั้นก็กดรับสายโทรศัพท์
"เสี่ยวหาน ทางบริษัทได้คุยกันเรื่องสาขาในเมืองจินหลิง มณฑลเจียงซูแล้ว"
เสียงพี่ชายของจั่วหานดังออกมาจากโทรศัพท์ เขากล่าวว่า "คณะกรรมการไม่พอใจกับเรื่องนี้มาก แต่พี่บอกว่านายยังเด็กและประสบการณ์ในการทำธุรกิจยังน้อยอยู่ จึงเป็นเรื่องปกติที่จะทำผิดพลาดบ้าง ดังนั้นทางคณะกรรมการจึงให้โอกาสนายเป็นครั้งสุดท้าย หากเกิดเรื่องขึ้นอีก เราก็ทำได้แค่ส่งคนอื่นไปที่นั่นเท่านั้น"
"ขอบคุณพี่ใหญ่มากครับที่ช่วยพูดให้ผม"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ จั่วหานก็รีบกล่าวขอบคุณขึ้นอย่างรวดเร็ว น้ำเสียงของเขารู้สึกขอบคุณอีกฝ่ายมาก
"เราเป็นพี่น้องกัน ถ้าพี่ใหญ่ไม่ช่วยนายแล้วใครจะช่วยนายล่ะ พี่ใหญ่หวังว่านายจะทำได้ดี และไม่ทำผิดพลาดอีก" พี่ชายของจั่วหานกล่าวเตือนออกมา
หลังจากพูดคุยไม่กี่คำ โทรศัพท์ก็ถูกวางสายไป
"อย่าทำผิดพลาดอีก?"
ถือโทรศัพท์ไว้ในมือ ใบหน้าของจั่วหานเริ่มน่าเกลียดขึ้นอีกครั้ง "ฉันคิดว่านายคงอยากจะให้ฉันทำผิดพลาดซะมากกว่า"
สีหน้าของเขามืดมน "ฉินหยุน ฉันประเมินนายต่ำไปจริงๆ"
ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนดูเหมือนกับพวกที่รักแกได้ง่ายๆ เมื่อเผชิญกับการปราบปรามของเขา พวกเขาทำได้เพียงอดทนและไม่กล้าแม้แต่จะพูดอะไรออกมา
อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้พวกเขาร่วมมือกับจินหยานเพื่อทวงค่าเช่าที่ทั้งหมดคืน จากนั้นก็เริ่มการโจมตีตอบโต้กลับทันที ซึ่งทุกสิ่งก็เริ่มจากการโพสต์คลิปวิดีโอลงอินเตอร์เน็ต
ไม่ใช่แค่หลินต้าเฉียงเท่านั้น แต่ยังมีเจ้าของที่อีกแปดคนที่ถูกแฉพร้อมกัน และทุกสิ่งก็แพร่กระจายไปทั่วอินเทอร์เน็ต
การเปิดเผยเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วในครั้งนี้ ไม่มีใครเชื่อแน่นอนว่าเทียนหยุนไม่ได้เตรียมการไว้ก่อน
และการเปิดเผยเรื่องเหล่านี้ก็ยังส่งผลเสียอย่างมากต่อหานลู่อีกด้วย
ถ้าพวกเขาไม่แก้แค้น ก็ให้คนมาเลาะชั้นผิวหนังของหานลู่ไปอีกชั้นได้เลย
"หึ! ฉันจะไม่โกรธ เมื่อเผชิญหน้ากับทุกสิ่งต้องใช้ความใจเย็น"
สูดหายใจเข้าลึกๆ จั่วหานระงับความโกรธของเขาและพยายามสงบสติอารมณ์อย่างเต็มที่
ในดวงตาของเขามีแสงเย็นวาบส่องประกายออกมา "ฉินหยุน แม้ว่านายจะแก้แค้นสำเร็จ แต่นายก็ได้ทำให้หานลู่ของเราไม่พอใจอย่างมากด้วยการทำเช่นนั้น ฉันสงสัยว่านายจะกล้าเผชิญหน้ากับความโกรธของหานลู่ทั้งหมดที่ฉันจะทุ่มใส่นายหรือเปล่า"
หลังจากเหตุการณ์นี้ถูกเปิดเผยออกมา ทางสำนักงานใหญ่ของหานลู่ก็โกรธเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าในเมืองจินหลิงพวกเขาจะไม่สามารถปราบปรามเทียนหยุนได้ แต่ในอนาคตเทียนหยุนก็จะต้องเผชิญหน้ากับหานลู่ทั้งหมดอย่างแน่นอน
...
ขณะที่จั่วหานกำลังโกรธ ตอนนี้ฉินหยุนก็รู้สึกสบายใจมาก เขากำลังนั่งดื่มชากับชายหนุ่มคนหนึ่งอยู่
ชายหนุ่มคนนี้ดูอายุ 27-28 ปี ใบหน้าของเขาดูธรรมดาๆ ซึ่งเขาก็คือผู้จัดการจินคนนั้นนั่นเอง
(จบตอน)
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved