ตอนที่ 117 กำไรต่อเดือนมากกว่า 4 ล้าน!

"จำนวนลูกค้าในร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนเป็นยังไงบ้าง ที่นั่นยังเป็นที่นิยมอยู่ไหม?" เฝิงเทียนจวินเอ่ยถาม

ก่อนหน้านี้จางฉินเยว่ก็ได้รายงานบางสิ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน แต่จากการวิเคราะห์ของพวกเขา ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนน่าจะใช้เงินจ้างหน้าม้าไปที่ร้านเพื่อเพิ่มความร้อนแรงมากกว่า

มิฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่ร้านค้าจะเป็นที่นิยมขนาดนี้ โดยที่ไม่ได้จัดกิจกรรมอะไรเลย

แน่นอนว่าเมื่อเผชิญกับข้อสงสัยดังกล่าว ฉินหยุนก็เลือกที่จะยอมรับอย่างเงียบๆ แถมยังแอบกระจายข่าวว่าเขาใช้เงินเพื่อจ้างคนคนมาที่ร้านด้วย

ท้ายที่สุดแล้ว ค่ายกลรวบรวมโชคลาภก็เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดเกินไป ไม่ว่าจะเปิดร้านที่ไหนมันก็เป็นที่นิยมมาก ในช่วงแรกๆมันอาจจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่ในภายหลังจะต้องมีคนเริ่มสงสัยอย่างแน่นอน

ดังนั้นเขาจึงยอมรับอย่างกลายๆว่าเขาใช้เงินจ้างหน้าม้ามาที่ร้านจริงๆ เพื่อที่จะได้อธิบายถึงความนิยมของร้านได้อย่างเต็มที่

อันที่จริงแล้วร้านค้าจำนวนมากก็ทำเช่นเดียวกัน ต่างก็จ้างคนมาเพื่อทำให้เกิดสถานการณ์อันร้อนแรงในร้านค้าของพวกเขา

ต้องเป็นที่นิยมก่อนเท่านั้น ถึงจะสามารถทำให้ร้านค้ากลายเป็นที่นิยมต่อลูกค้าได้

ไม่ว่าจะเป็นที่นิยมจริงๆหรือว่าเพราะหน้าม้าก็ตาม สิ่งเหล่านี้ยากที่จะดูออกได้ง่ายๆ ท้ายที่สุดแล้วในหนึ่งวันร้านค้าเหล่านั้นก็มีคนเข้าออกมากมาย ซึ่งมันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไปไล่ตรวจสอบลูกค้าทีละคนใช่ไหม?

ถึงความแตกขึ้นมาจริงๆ แต่ถ้าพวกเขาไม่ยอมรับล่ะ?

"ดูเหมือนว่าบอสของเทียนหยุนจะร่ำรวยและมีอำนาจมากจริงๆ" เฝิงเทียนจวินถอนหายใจออกมา

จ้างคนจำนวนมากมาที่ร้านทุกวันเพื่อแสร้งทำเป็นว่าร้านค้ากำลังเป็นที่นิยม คาดว่าอาจจะต้องใช้เงินจำนวนมากเลยทีเดียว

เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นมองไปที่จางฉินเยว่พลางเอ่ยถามว่า "คุณมีข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนไหม?"

"มีค่ะ"

จางฉินเยว่พยักหน้า จากนั้นก็กลับไปที่ห้องทำงานของเธอและหยิบเอกสารบางอย่างออกมา

ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลเกี่ยวกับร้านเสื้อผ้าเทียนหยุน

เปิดเอกสารขึ้นมา หน้าแรกเป็นข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าของร้านเสื้อผ้าเทียนหยุน เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์ เฝิงเทียนจวินก็รู้สึกถึงความคุ้นเคยเล็กน้อย

ถึงอย่างไรภายในหนึ่งวันเขาก็ต้องพบปะกับผู้คนมากมาย และตอนที่เขาได้เจอกับฉินหยุนครั้งแรกที่มหาลัยเจียงหยวน ตอนนั้นมันก็ผ่านมาสองเดือนแล้ว เป็นเรื่องปกติที่จะจำไม่ได้หลังจากที่เคยเจอกันแค่ครั้งเดียว

หลังจากนั้น เฝิงเทียนจวินก็มองไปที่ชื่อและข้อมูลอื่นๆของเขา

"ฉินหยุน?"

เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางคิดอย่างรอบคอบอีกที ซึ่งความจำของเขาก็ดีมากจริงๆ หลังจากใช้เวลานึกประมาณสิบวินาที เขาก็จำได้ทันที

"เขานั่นเอง!"

เขานึกถึงชายหนุ่มที่เขาเคยเจอเมื่อตอนที่เขาพาเซียวเฉียนเฉียนไปที่มหาลัยเจียงหยวนครั้งก่อน

"คาดไม่ถึงว่าจะเป็นคนรู้จักกัน"

ในขณะนี้จางฉินเยว่ก็เต็มไปด้วยความรู้สึกประหลาดใจ เธอกล่าวว่า "บอสเฝิงรู้จักฉินหยุนคนนี้เหรอคะ?"

"เราเคยเจอกันครั้งหนึ่ง" เฝิงเทียนจวินกล่าวพลางยิ้มออกมา

ในตอนนั้น เขาคิดว่าฉินหยุนเป็นเพียงแค่คนธรรมดาทั่วไป แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ง่ายอย่างที่เห็นเสียแล้ว

"เรื่องนี้เอาไว้ก่อน ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนสาขาใหม่อยู่ที่ไหน? ผมจะไปดูที่นั่นหน่อย" เฝิงเทียนจวินกล่าวออกมาหลังจากคิดอยู่สักครู่

หลังจากทราบที่ตั้งของร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนสาขาใหม่แล้ว เฝิงเทียนจวินก็เรียกเซียวเฉียนเฉียนมาหา

"ไปที่ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนสาขาใหม่งั้นเหรอ?" เซียวเฉียนเฉียนรู้สึกงงงวย เธอไม่รู้ว่าเฝิงเทียนจวินจะไปทำอะไรที่นั่น

แต่เธอก็ไม่ได้คัดค้าน

ขณะที่ทั้งคู่นั่งอยู่ภายในรถ เฝิงเทียนจวินก็เอ่ยถามว่า "เฉียนเฉียน คุณยังจำฉินหยุนเพื่อนร่วมชั้นมอปลายของเซียวหลาน น้องสาวของคุณได้ไหม คนที่พวกเราเคยเจอตอนที่ไปมหาลัยเจียงหยวนเมื่อสองเดือนก่อนน่ะ"

เขาถามเซียวเฉียนเฉียนเกี่ยวกับฉินหยุน

"จำได้สิ" เซียวเฉียนเฉียนก็พยักหน้า

เหวินหยุนบอกให้เธอจับตาดูฉินหยุนเป็นพิเศษ และห้ามไม่ให้เขาอยู่กับเซียวหลาน

ก่อนหน้านี้พวกเธอก็เพิ่งพบกัน ซึ่งเธอก็ได้รู้ว่าเซียวหลาน น้องสาวของเธอคบกับฉินหยุนไปแล้วจริงๆ เธอจึงโทรหาและบอกเหวินหยุนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งเธอก็มารู้หลังจากโทรไปอีกครั้งว่า ฉินหยุนกับเซียวหลานเลิกกันแล้ว

เธอรู้สึกประทับใจฉินหยุนมาก ที่เขากล้ายอมตัดใจ

เมื่อเห็นเซียวเฉียนเฉียนพยักหน้า เฝิงเทียนจวินก็ถามขึ้นอีกครั้งว่า "แล้วคุณเคยได้ยินจากน้องสาวของคุณไหม ว่าเขามีภูมิหลังยังไง?"

"ทำไมงั้นเหรอ?"

สีหน้าของเซียวเฉียนเฉียนเต็มไปด้วยความสงสัย เธองงนิดหน่อยว่าทำไมเฝิงเทียนจวินถึงถามเกี่ยวกับเรื่องนี้?

เธอคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็กล่าวว่า "ฉันพอรู้บางอย่างเกี่ยวกับเขา แต่ก็ไม่ได้มากนัก เขามาจากเขตชิงอู๋เหมือนกัน ครอบครัวของเขาเปิดร้านขายเสื้อผ้าเล็กๆหลายร้าน ขนาด 40 ตารางเมตรอยู่ที่เขตชิงอู๋ ฐานะครอบครัวของเขาก็ธรรมดาๆทั่วไป"

นี่คือสิ่งที่เหวินหยุนบอกกับเธอ

"ฐานะครอบครัวธรรมดาๆงั้นเหรอ?" ในขณะนี้เฝิงเทียนจวินรู้สึกสับสนเล็กน้อย

คนฐานะธรรมดาที่ไหนจะสามารถทำธุรกิจขนาดใหญ่ และเปิดร้านสาขามากขนาดนี้ได้? แม้ว่าคุณจะเปิดร้านขนาด 200 ตารางเมตรในเมืองจินหลิงแค่ร้านเดียว ค่าเช่าต่อปีก็จะอยู่ที่ 400,000 หยวนแล้ว ดังนั้นจึงสามารถจินตนาการได้เลยว่าฉินหยุนต้องใช้เงินมากเท่าไรในการเปิดร้านมากขนาดนี้

"เทียนจวิน ทำไมคุณถึงถามเรื่องนี้เหรอ?" เซียวเฉียนเฉียนเอ่ยถามอย่างสงสัย

เฝิงเทียนจวินไม่ได้ตอบกลับคำถามของเธอ แต่จู่ๆเขาก็เอ่ยขึ้นว่า "คุณรู้จักร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนใช่ไหม?"

"ใช่ ฉันรู้จักอยู่บ้าง" เซียวเฉียนเฉียนพยักหน้า

เธอไม่ได้สนใจร้านขายเสื้อผ้าเทียนหยุนมากนัก เธอรู้เพียงว่ามันเป็นร้านคู่แข่งของร้านเสื้อผ้าของจวินชิง และเธอก็รู้ว่าเป็นเจ้าของร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนนี่แหละ ที่เป็นคนนำรางวัลรถยนต์คันแรกของพวกเธอไป

"ตอนนี้ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนเปิดร้านไปทั้งหมด 9 สาขาแล้ว โดย 3 สาขาในนั้นมีขนาดพื้นที่มากกว่า 200 ตารางเมตร และอีก 6 สาขามีขนาดพื้นที่ 40 ตารางเมตร"

เฝิงเทียนจวินกล่าวต่อ "และร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนก็เพิ่งเปิดขึ้นในวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมาเท่านั้น ซึ่งก็เป็นวันเดียวกับที่เริ่มเปิดร้านในจินหลิงเป็นครั้งแรกของพวกเขา"

"พวกเขาขยายสาขาเร็วขนาดนั้นเลยเหรอ?" เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวเฉียนเฉียนก็รู้สึกประหลาดใจมาก

แม้ว่าพวกเธอซึ่งเป็นกลุ่มทุนจวินชิง จะเริ่มก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมเสื้อผ้าและเปิดร้านขายเสื้อผ้าร้านแรกในปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา แต่จนถึงตอนนี้พวกเธอก็ยังไม่ได้เริ่มขยายไปสาขาที่สองกันเลย

ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินการด้านเงินทุน การเลือกสถานที่ การเลือกสินค้าจากซัพพลายเออร์ต่างๆและสิ่งอื่นๆที่อยู่เบื้องหลังอีก ทั้งหมดเหล่านี้มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง

เมื่อมองไปที่เซียวเฉียนเฉียนแล้ว เฝิงเทียนจวินก็หยุดไปชั่วขณะ จากนั้นเขาก็กล่าวออกมาว่า "เจ้าของร้านเสื้อผ้าเทียนหยุน ก็คือฉินหยุน เพื่อนร่วมชั้นน้องสาวของคุณ"

เมื่อได้ยินคำกล่าวของเฝิงเทียนจวิน เซียวเฉียนเฉียนก็ผงะไปทันที ทันใดนั้นดวงตาของเธอก็ฉายแววตกใจออกมา

"คุณหมายถึงฉินหยุนคนนั้น?"

ฟังที่เฝิงเทียนจวินกล่าวทีแรก เธอรู้สึกโดยจิตใต้สำนึกว่าน่าจะต้องมีพลังอำนาจมากมายอยู่เบื้องหลังร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนอย่างแน่นอน แต่เธอกลับไม่ได้คาดคิดว่าบอสใหญ่ของมันจะเป็นฉินหยุน ซึ่งเป็นคนที่เหวินหยุนบอกว่ามีฐานะธรรมดาๆและเปิดร้านขายเสื้อผ้าเล็กๆเพียงไม่กี่ร้าน

...

เมืองจินหลิง เขตลี่สุ่ย

ขณะที่ฉินหยุนกำลังรออยู่ ในที่สุดเวลา 12.00 น. ก็มาถึง

"ชื่อ : ฉินหยุน"

"ค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่สอง : 3 จุด"

"ค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่ง : 10 จุด"

"ยอดคงเหลือ : 6,881,000"

เมื่อถึงเวลาเที่ยงตรง ข้อความมากมายตามด้วยเสียงระบบในจิตใจของฉินหยุนก็ดังขึ้น

"ยอดคงเหลือยังไม่ถึง 100 ล้าน ซึ่งไม่เพียงพอที่จะเปิดใช้งานค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่สามได้"

"ในวันที่ 1 ของทุกเดือน โฮสต์จะได้รับค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่สอง 1 จุด และค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่ง 2 จุด"

"ตอนนี้โฮสต์มีค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่สอง 3 จุด ในขณะนี้ใช้งานไปแล้ว 2 จุด และค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่ง 10 จุด ซึ่งในขณะนี้ใช้งานไปแล้ว 8 จุด"

"ข้อมูลของระบบรวบรวมโชคลาภจะได้รับการอัปเดตครั้งต่อไปในวันที่ 1 ธันวาคม เวลา 12.00 น."

เสียงๆหนึ่งดังขึ้นติดต่อกัน หลังจากที่มันหยุดลง ทันใดนั้นในจิตใจของฉินหยุน จุดแสงแปลกๆสามดวงก็ปรากฏขึ้นมา

"ยอดคงเหลือเกือบเจ็ดล้าน!"

เมื่อดูข้อมูลยอดคงเหลือ ฉินหยุนรู้สึกยินดีมาก

ในเดือนตุลาคมเขามีร้านค้าทั้งหมด 10 ร้าน โดยสองร้านในนั้นมีพื้นที่มากกว่า 200 ตารางเมตร ซึ่งกำไรของแต่ละร้านอยู่ที่ประมาณ 1.2 ล้าน เมื่อนับรวมกันกำไรของสองร้านก็จะได้มากถึง 2.4 ล้าน!

นอกจากนี้ยังมีร้านค้าขนาด 40 ตารางเมตรอีก 8 ร้าน ซึ่งทำกำไรรวมเกือบ 2 ล้านให้กับเขา!

เมื่อคำนวนทั้งหมด กำไรสุทธิรวมของเขาในเดือนตุลาคมเกิน 4 ล้านหยวนเลยทีเดียว!

ระบบรวบรวมโชคลาภของเขาเพิ่งถือว่าเริ่มต้นขึ้นอย่างแท้จริงในวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมาเท่านั้น ซึ่งเขาใช้เวลาสี่เดือนในการสะสมยอดคงเหลือให้ได้หนึ่งล้าน

แต่หลังจากเปิดค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่สอง เขาสะสมยอดคงเหลือได้มากกว่า 6 ล้านภายในเวลาเพียงแค่สองเดือน!

(จบตอน)