ตอนที่ 203 เหวินหยุนและครอบครัว

ณ สถานที่แห่งหนึ่งภายในเมืองจินหลิง ในขณะนี้มีคนกลุ่มหนึ่งกำลังเดินเล่นกันอยู่

ใบหน้าของหญิงสาวคนหนึ่งในกลุ่มนั้นดูคุ้นเคยมาก เธอก็คือเซียวหลาน

และข้างๆเซียวหลานก็ยังมีอีกสองคนที่ดูคุ้นหน้าคุ้นตากันดี พวกเขาก็คือพ่อกับแม่ของเธอ เซียวผิงจุนและเหวินหยุนนั่นเอง

นอกจากพวกเขาทั้งสามคนแล้ว ยังมีชายหญิงชราอีกคู่หนึ่ง ซึ่งพวกเขาก็คือปู่และย่าของเซียวหลาน

ช่วงนี้เป็นช่วงวันหยุดฤดูหนาวและบังเอิญว่าในโรงงานไม่ได้มีเรื่องด่วนอะไรที่ต้องรีบจัดการ ดังนั้นเซียวผิงจุนและภรรยาของเขา เหวินหยุน จึงพาคนชราสองคนนี้มาที่จินหลิงเพื่อเยี่ยมหลานสาว

หญิงชรายังคงจับมือของเซียวหลานไว้ขณะที่พูดคุยกับเธอ

"คุณแม่คะ หนูว่าคุณแม่กับคุณพ่อควรออกมาเดินเล่นให้บ่อยขึ้น วิธีนี้จะช่วยทำให้สุขภาพดีขึ้นมาก" เหวินหยุนพูดด้วยรอยยิ้ม

"สุขภาพฉันก็ยังดีอยู่" หญิงชรากล่าว แม้ว่าเธอจะอายุมากแล้ว แต่สภาพจิตใจของเธอก็ดูเหมือนว่าจะดีมากเช่นกัน

"หลานหลาน อยู่ในมหาลัยหนูมีคนที่ชอบหรือยัง?" หญิงชราเอ่ยถามออกมา เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นห่วงเรื่องตลอดทั้งชีวิตของหลานสาวมาก

เมื่อได้ยินเช่นนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเหวินหยุนก็กระตุก แต่เธอก็ยิ้มและพูดขึ้นว่า "แม่คะ หลานหลานยังเด็กอยู่เลย"

"เหวินหยุน แม้ว่าเธอจะหวังดีต่อหลานหลาน แต่เธอก็เจ้ากี้เจ้าการมากเกินไป"

หญิงชราแทบไม่ได้สนทนากับเหวินหยุนเลย แต่เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายเธอก็เอ่ยตำหนิออกมาทันที

"คุณย่าคะ หนูยังไม่มีคนที่ชอบ" ในเวลานี้เซียวหลานก็ส่ายหัวพลางกล่าวออกมา

"หลานหลานของย่าสวยขนาดนี้ ต้องมีเด็กผู้ชายหลายคนตามจีบแน่นอน" หญิงชราจับมือของเซียวหลานไว้ เธอพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ไม่ต้องกังวล ค่อยๆหาไปก็ได้ ถ้ามีคนที่ชอบแล้วเดี๋ยวย่าจะช่วยดูให้อีกที"

ขณะที่เธอกำลังพูด จู่ๆหญิงก็ชรามองไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง จากนั้นดวงตาของเธอก็แสดงความประหลาดใจออกมา เธอเอ่ยขึ้นว่า "นั่นร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนงั้นเหรอ?"

เธอรู้สึกประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด เธอกล่าวขึ้นต่อ "ฉันจำได้ว่าในเขตชิงอู๋ของเราก็มีร้านขายเสื้อผ้าสองแห่งที่เป็นของเทียนหยุนอยู่ ร้านตรงหน้านี้มีโลโก้เหมือนกันทุกอย่างเลย พวกเขาเป็นร้านเดียวกันหรือเปล่า?"

เธอเคยซื้อเสื้อผ้าที่ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนในเขตชิงอู๋เช่นกัน ร้านของพวกเขาเป็นที่นิยมมาก แถมเสื้อผ้าก็มีคุณภาพดีที่สำคัญราคาถูกอีกด้วย

ดังนั้นเธอจึงมีความประทับใจอย่างลึกซึ้งต่อร้านนี้ และเธอไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นมันอีกครั้งเมื่อมาถึงจินหลิง

ในขณะนี้เหวินหยุนก็ผงะเช่นกัน โดยไม่ได้คาดคิดว่าพวกเธอจะเดินมาถึงที่หน้าร้านเสื้อผ้าเทียนหยุน ที่เปิดโดยฉินหยุนเสียอย่างนั้น

เธอรู้ว่าฉินหยุนเปิดร้านขายเสื้อผ้าในจินหลิง แต่เธอไม่รู้ว่าร้านเหล่านั้นมันอยู่ที่ไหน

ทั้งเธอและเซียวผิงจุนไม่ได้พูดอะไร สายตาของทั้งคู่รู้สึกซับซ้อนนิดหน่อย ขณะที่เซียวหลานพยักหน้าและพูดว่า "เป็นร้านเดียวกันค่ะคุณย่า"

"ดูเหมือนว่ากิจการของเทียนหยุนจะใหญ่โตมาก"

หญิงชราอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา "ในเขตชิงอู๋ ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนมีขนาดประมาณ 40 ตารางเมตรเท่านั้น แต่ร้านตรงหน้านี้คาดว่าน่าจะมีขนาดมากกว่า 200 ตารางเมตรเลย"

เมื่อเห็นหญิงชราเริ่มพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากขึ้นเรื่อยๆ เหวินหยุนจึงจงใจกล่าวออกมาเพื่อเปลี่ยนเรื่อง "แม่คะ เราไปซื้อของที่อื่นกันเถอะ"

จากนั้นคนทั้งกลุ่มก็ออกจากที่นี่และขับรถไปยังสถานที่ที่น่าสนใจอีกแห่ง แต่ไม่นานหลังจากมาถึงที่นี่ พวกเขาก็บังเอิญเจอร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนอีกแห่งที่มีพื้นที่มากกว่า 200 ตารางเมตรตั้งอยู่

"ดูเหมือนว่าฐานลูกค้าหลักของแบรนด์เสื้อผ้าเทียนหยุนจะอยู่ที่เมืองจินหลิงมากกว่าในเขตชิงอู๋" หญิงชราวิเคราะห์

ร้านขายเสื้อผ้าทั้งสองแห่งในเขตชิงอู๋มีขนาดเล็กๆ แต่ร้านขายเสื้อผ้าที่นี่มีขนาดใหญ่มาก เห็นได้ชัดว่าพวกเขาให้ทางฝั่งจินหลิงเป็นเป็นจุดศูนย์กลางของบริษัท

เซียวผิงจุน เหวินหยุน และเซียวหลาน ทุกคนต่างก็รู้รายละเอียดกันทั้งหมด เมื่อเห็นว่าย่าของเธอพูดถึงอะไร เซียวหลานก็อธิบายว่าให้เธอฟังว่า "คุณย่าคะ เทียนหยุนมาจากเขตชิงอู๋ และคนที่เปิดร้านนี้ก็คือเพื่อนร่วมชั้นของหนูเอง"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หญิงชราก็แสดงท่าทีประหลาดใจทันที เธอกล่าวว่า "เรื่องจริงเหรอหลานหลาน เพื่อนร่วมชั้นของหนูเขายังเป็นแค่นักศึกษาปีหนึ่งอยู่ใช่ไหม ทำไมเขาถึงเปิดร้านขายเสื้อผ้าได้มากมายขนาดนี้ล่ะ?"

เธอมองไปที่เซียวผิงจุนและเหวินหยุนที่มีท่าทางนิ่งสงบ จากนั้นเธอก็ถามขึ้นทันทีว่า "พวกลูกก็รู้ด้วยงั้นเหรอ?"

เมื่อพิจารณาจากท่าทางสงบของพวกเขา เดาว่าพวกเขาก็น่าจะรู้เรื่องนี้อยู่แล้วเช่นกัน

"หนูพอรู้นิดหน่อยค่ะ" เหวินหยุนฝืนยิ้มพลางเอ่ยออกมา

ร้านขายเสื้อผ้าที่อยู่ตรงหน้าเธอถูกสร้างขึ้นโดยชายหนุ่มคนนั้นทั้งหมด

แค่ช่วงเวลาสั้นๆเขาก็เปิดร้านค้าขึ้นมามากถึง 15 สาขา และในการแข่งขันกับหานลู่ เขาก็สามารถเอาชนะแบรนด์ในเครือเสื้อผ้าที่มีมูลค่าตลาดมากกว่าหนึ่งพันล้านหยวนได้โดยไม่คาดคิด สุดท้ายก็ได้กลายเป็นผู้ชนะหนึ่งเดียวภายในเมืองจินหลิงได้อย่างแท้จริง!

มีคนรุ่นเดียวกันกี่คนที่สามารถเทียบเคียงความสำเร็จดังกล่าวได้?

แต่กลับเป็นตัวเธอเองที่เคยดูถูกดูแคลนตัวเอกหนุ่มคนนี้ แถมเธอยังโทรไปหาเขาเป็นพิเศษเพื่อเตือนว่าเขาไม่คู่ควรกับลูกสาวของเธอ

ก่อนหน้านี้ตอนที่เธอได้ยินข่าวจากเซียวเฉียนเฉียนเรื่องที่หานลู่เป็นฝ่ายปิดร้านและเทียนหยุนเป็นฝ่ายชนะ เธอตกตะลึงอยู่เป็นเวลานาน และใช้เวลาสักพักเลยกว่าที่เธอจะเรียกสติสัมปชัญญะกลับมาเข้าร่างได้

เซียวผิงจุนมองไปที่เหวินหยุน เขารู้สึกอยากจะถอนหายใจออกมา

เขาเคยพูดไปหลายครั้งแล้วว่าเรื่องของลูกสาวก็ควรจะให้เธอจัดการด้วยตัวเอง แต่เหวินหยุนก็ยังยืนกรานที่จะเข้าไปแทรกแซงให้ได้ ผลสุดท้ายมันก็ทำให้เกิดสถานการณ์ที่น่ากระอักกระอ่วนอย่างในตอนนี้

สิ่งที่ฉินหยุนแสดงออกมาให้เห็นตอนนี้ ไม่ได้เลวร้ายไปกว่าที่เฝิงเทียนจวินทำได้อย่างแน่นอน

ในเวลานี้ เหวินหยุนเองก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดเล็กน้อย

ขณะที่กำลังพูดคุยกัน เหวินหยุนก็มองออกไปในที่ไม่ไกล ทันใดนั้นก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามา ใบหน้าของเขาดูคุ้นเคยมาก

"ฉินหยุน!"

เมื่อเห็นใบหน้าของเขาอย่างชัดเจน สีหน้าของเหวินหยุนก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

ในเวลานี้เซียวหลานก็เห็นเขาแล้วเช่นกัน เธอรีบเอ่ยทักทายเขาอย่างมีความสุขทันที

ฉินหยุนก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม "เซียวหลาน"

จากนั้นเขาก็เหลือบมองไปที่เซียวผิงจุนและเหวินหยุนอีกครั้ง เขาเอ่ยทักทายทั้งคู่ด้วยความสงบ "คุณลุง คุณป้า"

"อื้ม"

เซียวผิงจุนพยักหน้าให้ฉินหยุน เขารู้สึกชื่นชมคนหนุ่มคนนี้มากจริงๆ

"หลานหลาน นี่คือ... "

เมื่อได้เห็นฉินหยุนเดินเข้ามาใกล้ และท่าทีที่เปลี่ยนไปของเซียวหลานกับคนอื่นๆ หญิงชราก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม

เซียวหลานก็เอ่ยแนะนำว่า "คุณย่าคะ นี่คือฉินหยุน เจ้าของร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนที่เราเพิ่งเห็นไป"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หญิงชราก็เพ่งมองไปที่ฉินหยุนทันที เธอมองดูเขาอยู่อีกหลายครั้งราวกับว่ากำลังแสกนหาบางอย่าง

"เซียวหลาน ฉันมีเรื่องต้องทำพอดี งั้นเดี๋ยวฉันขอตัวก่อนนะ"

เขามาเพื่อทักทายคนรู้จักกันเฉยๆ ฉินหยุนไม่ได้กล่าวอะไรมาก เขาเพียงแค่หันหลังและเดินจากไป

เมื่อมองดูเขาจากไป หญิงชราก็อุทานว่า "ฉินหยุนคนนี้ดูดีมากจริงๆ ที่สำคัญเขายังหน้าตาดีด้วย เขาเหมาะสมกับหลานหลานของฉันที่สุด"

"เอ่อ..แม่คะ"

เมื่อได้ยินสิ่งที่หญิงชราพูด เหวินหยุนก็รู้สึกอึดอัดนิดหน่อย เธอกล่าวว่า "มีคนที่ยอดเยี่ยมอยู่มากมาย หลานหลานจะหาคนที่เหมาะสมกับเธอเจอแน่นอน"

ก่อนหน้านี้เธอเคยพูดไปว่าลูกสาวของเธอและฉินหยุนไม่เหมาะกัน แต่ตอนนี้เมื่อฉินหยุนกำลังเติบโตขึ้นในวงการธุรกิจ จะให้เธอกลับคำและพูดว่าทั้งสองคนเหมาะสมกันงั้นเหรอ?

เหวินหยุนส่ายหัวทันที เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนที่เธอจะมีความคิดเช่นนี้

เธอยอมรับว่าเธอเคยตัดสินฉินหยุนผิด แต่เธอจะยอมรับว่าเธอดูคนผิดเท่านั้น และจะไม่เสียใจที่เธอโทรไปหาครั้งนั้นหรืออะไรก็ตาม

ร้านขายเสื้อผ้าทั้ง 11 แห่งในเมืองจินหลิงของแบรนด์เสื้อผ้าหานลู่ เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของพวกเขาในสาขาที่มณฑลเจียงซูเมืองจินหลิงเท่านั้น ในขณะที่ตลาดที่พวกเขาครอบครองนั้นอยู่ในมณฑลเจ้อเจียงเป็นหลัก

หากหานลู่ใช้กำลังทั้งหมดของพวกเขาเข้าบดขยี้จริงๆ เธอไม่คิดว่าเทียนหยุนจะต้านทานมันได้แน่นอน

ถ้าฉินหยุนต้องการที่จะเติบโตขึ้น ในอนาคตเขาก็จะต้องเผชิญกับความยากลำบากอีกมากมาย

...

การได้บังเอิญพบปะกับเหวินหยุนและครอบครัวของเธอ มันไม่เพียงพอที่จะส่งอิทธิพลต่อจิตใจของฉินหยุนได้อีกแล้ว

แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะเกลียดเหวินหยุนมาก แต่เมื่อเทียนหยุนแข็งแกร่งขึ้น จิตใจของเขาก็สงบมากขึ้นเช่นกัน ถ้าเป็นตัวเขาตอนที่อยู่ในช่วงเดือนตุลาคม เขาอาจจะไม่ได้เอ่ยทักทายตัวของเหวินหยุนเลยด้วยซ้ำ

แน่นอนว่าความเกลียดชังนี้ยังคงมีอยู่

"ตอนนี้ฉันกำลังจะกลับบ้านแล้ว แวะไปซื้อของกลับบ้านหน่อยก็แล้วกัน"

ในขณะนี้ฉินหยุนคิดกับตัวเอง

ฉินลู่ พี่รองของเขากลับไปที่บ้านก่อนแล้ว ถึงอย่างไรเธอก็ไม่ได้กลับบ้านนานกว่าครึ่งปีเลย และเพื่อนร่วมชั้นของเธอก็ได้นัดรวมตัวกันก่อนวันตรุษจีน

ดังนั้นจึงเหลือฉินหยุนอยู่แค่คนเดียว แม้ว่าเขาจะกลับไปที่บ้านเขาก็ขับรถกลับแค่คนเดียว

เมื่อมาถึงถนนย่านการค้า ฉินหยุนก็เดินไปรอบๆและเลือกซื้อของบางอย่างด้วยท่าทางง่ายๆสบายๆโดยไม่ได้รีบร้อน

"บอสฉิน"

ขณะที่กำลังเดินไปรอบๆ จู่ๆก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นไม่ไกล

เมื่อมองไปตามต้นเสียง คนที่เรียกฉินหยุนก็คือจ้าวเทียนเฉียงนั่นเอง ในเวลานี้ใบหน้าของเขาไม่สามารถซ่อนรอยยิ้มดีใจเอาไว้ได้เลย ราวกับว่าตอนนี้เขากำลังมีความสุขกับอะไรบางอย่าง

ด้านหลังเขายังมีอีกหลายคนยืนอยู่ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็เป็นตัวแทนจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์

(จบตอน)