"ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ?" เมื่อเห็นเจียงเสี่ยวเว่ยมีสีหน้าหงุดหงิด ซุนเซียงก็เอ่ยถามด้วยความสงสัย
"อย่าพูดถึงมันเลยลูกพี่ลูกน้อง เมื่อกี้ฉันเพิ่งเจอพวกคนเถื่อนมาน่ะ" เจียงเสี่ยวเว่ยอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา ยิ่งนึกถึงเรื่องเมื่อสักครู่นี้เธอก็ยิ่งรู้สึกโมโห
"คนเถื่อน?"
ทั้งซุนเซียงและซุนเจียเจียต่างก็พากันผงะ
"ยังไงก็เถอะลูกพี่ลูกน้อง ฉันเห็นเสื้อผ้าที่เธอออกแบบทางอินเทอร์เน็ตแล้ว"
เมื่อมองไปที่ซุนเซียง เจียงเสี่ยวเว่ยก็พูดว่า "เสื้อผ้าเหล่านั้นเป็นที่นิยมมากจริงๆ ฉันยังซื้อมาสองตัวเลย"
"เสี่ยวเว่ย เธอก็รู้อยู่แล้วนี่นาว่าฝีมือพี่สาวของฉันน่ะสุดยอดมาก" ซุนเจียเจียกล่าวออกมาอย่างภาคภูมิใจ
"ห้วหน้าซุน"
ในขณะนี้เอง ผู้หญิงผมสั้นอีกคนที่อายุประมาณสามสิบก็เดินเข้ามาและเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจเมื่อเธอเห็นซุนเซียง
"ซ่งอวี่" เมื่อมองไปที่ผู้หญิงอีกคน ซุนเซียงก็ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
ซ่งอวี่ก็เป็นดีไซน์เนอร์ของโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าเทียนหยุนในจินหลิงเหมือนกัน และเธอยังเคยทำงานให้กับยูนิโคล่มาก่อนด้วย แต่ความสามารถของเธอนั้นด้อยกว่าซุนเซียงอย่างเห็นได้ชัด และตอนนี้เธอก็มีตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าแผนกออกแบบของโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าเทียนหยุน
"หัวหน้าทีมซ่ง วันนี้มาดูยอดขายเสื้อผ้าที่คุณออกแบบเหรอคะ?" ซุนเจียเจียมองไปที่ซ่งอวี่พลางเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม
คำพูดของเธอฟังดูแล้วเป็นกันเองมากซึ่งดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่รอยยิ้มของซ่งอวี่กลับหายไปเล็กน้อย และเธอก็รู้สึกอึดอัดนิดหน่อย
เธอกับซุนเซียงไม่เคยมีความขัดแย้งระหว่างกัน แต่เมื่อต้องทำงานด้วยกันก็เป็นเรื่องปกติที่จะมีบางจังหวะที่ความคิดเห็นไม่ตรงกันบ้าง แน่นอนว่าน้องสาวของซุนเซียงก็รู้เช่นกัน แต่เธอมีซุนเซียงคอยหนุนหลังอยู่ ดังนั้นเธอจึงไม่กลัวซ่งอวี่เลย ทันทีที่ทั้งคู่พบกันอีกฝ่ายก็มักจะพูดแซะเธออยู่สองสามคำเป็นประจำ
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะดีไซน์เสื้อผ้าที่เธอออกแบบนั้นขายได้ไม่ดีเท่ากับดีไซน์ของซุนเซียง
"ใช่แล้ว พอดีฉันแวะเข้ามาดูว่าลูกค้าตอบสนองกับดีไซน์ที่ฉันออกแบบยังไงน่ะ เผื่อจะได้เอาไปปรับปรุงเพิ่มเติม" ซ่งอวี่พูดด้วยรอยยิ้ม
"เอาล่ะ ไม่รบกวนหัวหน้าซุนแล้ว ตามสบายเลยนะคะ ฉันขอตัวก่อน" ซ่งอวี่หันหลังกลับและจากไปโดยไม่พูดอะไรอีก
เมื่อเห็นเธอจากไป ซุนเจียเจียก็พูดขึ้นทันทีว่า "หึ พี่สาว ซ่งอวี่คนนี้อยากจะเหนือกว่าพี่มาตลอด แต่น่าเสียดายที่เธอถูกพี่สะกดไว้หลายปีแล้ว ถ้าเธอต้องการประสบความสำเร็จ เธอก็อาจจะต้องรอชาติหน้าเลย"
เธอพูดออกมาด้วยความหยาบคาย
"เจียเจีย ซ่งอวี่เธอก็มีความสามารถมากเช่นกัน" ซุนเซียงกล่าวด้วยนำ้เสียงทุ้มต่ำ "อย่าพูดจาไม่ดีให้ซ่งอวี่ต่อหน้าคนอื่นอีก"
"พี่สาวไม่ต้องห่วง หนูก็รู้ขีดจำกัดอยู่"
เมื่อได้ยินคำพูดของซุนเซียง ซุนเจียเจียก็พูดขึ้นอีกครั้ง "หนูพูดแค่ต่อหน้าพี่เท่านั้นแหละ"
จากนั้นทั้งสามก็เดินไปรอบๆร้านขายเสื้อผ้าสักพัก
"ลูกพี่ลูกน้อง เจียเจีย พวกเธอเพิ่งมาที่นี่ได้แค่สองวัน เราไปหาอะไรกินกันเถอะ" ข้างๆพวกเธอ เจียงเสี่ยวเว่ยพูดด้วยรอยยิ้ม
ขณะที่ซุนเซียงกำลังจะพยักหน้า โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นก่อน
ซุนเซียงกดรับสาย แต่ไม่นานเธอก็วางสายไป
"เสี่ยวเว่ย เจ้าของโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าของเรากลับมาแล้ว ฉันต้องขอตัวกลับก่อน"
"งั้นเราก็ไปด้วยกันเถอะ ฉันต้องการเห็นว่าลูกพี่ลูกน้องของฉันทำงานอยู่ในที่แบบไหนพอดี" เมื่อได้ยินสิ่งที่ซุนเซียงพูด เจียงเสี่ยวเว่ยก็พูดด้วยรอยยิ้ม
...
เมื่อฉินหยุนมาถึงโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า ผู้จัดการจูจื้อหยงก็รีบเข้าไปหา
"ซุนเซียงอยู่ที่ไหน" ฉินหยุนถาม
"บอสฉินครับ ซุนเซียงกำลังมา น่าจะมาถึงในอีกประมาณห้านาที" จูจื้อหยงพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว
ฉินหยุนพยักหน้า เขามองไปที่จูจื้อหยงและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ "ผู้จัดการจู คุณกับซุนเซียงพูดคุยอะไรกันระหว่างการสัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ เธอผ่านการประเมินและผมก็เห็นด้วยกับการขอขึ้นเงินเดือน 4,000 หยวนของเธอไปแล้ว แต่ทำไมตอนนี้เธอถึงอยากจะเปลี่ยนข้อตกลงอีกครั้ง?"
เขาจ่ายค่าจ้างค่อนข้างสูงเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ที่เคยทำงานในบริษัทขนาดใหญ่ เขาให้ค่าจ้างสูงกว่าที่เธอเคยได้รับมาก
ก่อนหน้านี้จูจื้อหยงได้บอกเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ของซุนเซียง เขาก็ได้ตกลงเกี่ยวกับการขอค่าจ้างเพิ่มของเธอ แต่เขาก็แนบเงื่อนไขบางอย่างไปด้วย
ตอนนี้ซุนเซียงสามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขได้แล้ว ซึ่งเขาก็จะทำตามสัญญาที่เขาเคยให้ไว้
แต่คำขอของซุนเซียงกลับเปลี่ยนไปอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเสื้อผ้าของเธอขายดี เธอจึงวางแผนที่จะขอค่าคอมมิชชั่นตามยอดขายของเสื้อผ้าที่เธอออกแบบ
อันที่จริงเมื่อตอนที่ลงนามในสัญญาว่าจ้าง มันมีการระบุไว้อย่างชัดเจนว่าค่าจ้างของพนักงานในแผนกออกแบบของโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าจะไม่ถูกหักจากค่าคอมมิชชั่น
"นี่..."
จูยื้อหยงพูดอย่างตะกุกตะกักว่า "บอสฉินครับ เสื้อผ้าที่ซุนเซียงออกแบบแค่คนเดียว คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของเสื้อผ้าในโรงงานที่ขายได้เลยนะครับ"
ความสามารถในการออกแบบเสื้อผ้าของซุนเซียงนั้นแข็งแกร่งมาก และในความคิดของเขาตำแหน่งของเธอก็ถือว่าเป็นอันดับหนึ่ง แม้แต่เขาซึ่งเป็นผู้จัดการโรงงานก็ยังต้องพูดกับซุนเซียงด้วยความสุภาพ
ท้ายที่สุดแล้วหากซุนเซียงไม่พอใจและออกจากโรงงานไปโดยตรง โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าก็อาจจะเป็นอัมพาตทันที
ความหมายของเขาชัดเจนมาก ซึ่งเขาก็ไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำขอของซุนเซียง
"ด้วยตำแหน่งของคุณ แต่คุณกลับไม่สามารถทำให้เธอปฏิบัติตามสัญญา แถมยังปล่อยให้เธอมาเรียกร้องตามที่ต้องการอีกงั้นเหรอ" ฉินหยุนชำเลืองมองที่จูจื้อหยงพลางพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
เหตุผลส่วนใหญ่ที่เสื้อผ้าขายได้ก็เป็นเพราะค่ายกลรวบรวมโชคลาภของเขา
ถ้าเธอมีความสามารถในการออกแบบเสื้อผ้าที่จะเป็นที่นิยมได้ตามใจจริงๆ เธอก็คงจะไม่ลาออกจากยูนิโคล่หรอก
"นี่..."
จูจื้อหยงปาดเหงื่อออกจากหน้าผาก เขาอ้ำๆอึ้งๆอยู่เป็นเวลานาน
เมื่อเห็นท่าทางของเขา ฉินหยุนก็รู้สึกไม่พอใจทันที
เขาจ้างจูจื้อหยงมาเพื่อให้เขาจัดการดูแลโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องมาคอยจัดการเรื่องต่างๆและปัญหาในอนาคตด้วยตัวเอง แต่กฎระเบียบที่เขาตั้งไว้กลับไม่ได้ถูกนำมาใช้อย่างเหมาะสม
เขาเคยคิดว่าจูจื้อหยงมีความสามารถมาก แต่ตอนนี้ความประทับใจของเขาที่มีต่อจูจื้อหยงลดน้อยลงแล้ว
‘ยังมีบุคลากรด้านการบริหารจัดการไม่เพียงพอ บางครั้งตำแหน่งผู้จัดการโรงงานก็อาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน’ ฉินหยุนคิดในใจโดยไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก
เขาเข้าไปในห้องทำงานจากนั้นก็นั่งลง และภายในไม่กี่นาทีผู้หญิงอายุประมาณสามสิบก็เดินเข้ามา
"บอสฉิน"
ซุนเซียงมองไปที่ชายหนุ่มตรงหน้าเธอพลางเอ่ยทักทาย
"หัวหน้าซุน นั่งก่อนสิ"
ฉินหยุนมองไปที่ซุนเซียงโดยที่สีหน้าไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรออกมา ทำให้ยากที่จะรู้ว่าในใจของเขาคิดอะไรอยู่ เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยว่า "หัวหน้าซุน ผมได้เห็นเอกสารเกี่ยวกับการขอค่าคอมมิชชั่นของคุณแล้ว"
ฉินหยุนกล่าวว่า "ตามสัญญาว่าจ้างที่เราลงนามกันก่อนหน้านี้ คุณได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ผมตั้งไว้แล้วเรียบร้อย ดังนั้นการเสนอขึ้นเงินเดือน 4,000 หยวนของคุณจึงสามารถตกลงได้ สำหรับค่าคอมมิชชั่นทางโรงงานยังไม่มีแผนการดังกล่าว"
"แต่อย่างไรก็ตาม โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าของเรามีแผนจะขยายฐานการผลิตขึ้นอีกครั้งในเร็วๆนี้ และเงินเดือนของคุณจะเพิ่มขึ้นอีกครั้งตามสัดส่วนเสื้อผ้าที่คุณออกแบบ"
เขาไม่ใช่คนโง่ เมื่อตอนที่เขาได้ยินว่าซุนเซียงต้องการค่าคอมมิชชั่นจากการขายเสื้อผ้า เขาก็เกือบจะไล่ซุนเซียงออกด้วยความโมโหทันที
ตอนนี้เสื้อผ้าทั้งหมดของโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า ดีไซน์ที่ออกแบบโดยซุนเซียงถือว่าขายได้มากที่สุด จากมุมมองของทางโรงงานถ้าหากซุนเซียงออกไป คาดว่าตอนนี้โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าเทียนหยุนในจินหลิงจะได้รับผลกระทบในระดับหนึ่งแน่นอน
เดิมทีแล้วการขยายฐานการผลิตและการเพิ่มค่าจ้างเป็นแผนการในอนาคตของเขา
แต่ตอนนี้เขานำมาบอกกับซุนเซียงก่อน ซึ่งก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร
"บอสฉินคะ"
เมื่อได้ยินคำพูดของฉินหยุน ซุนเซียงก็คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "ฉันอยากจะได้ค่าจ้างในรูปแบบของค่าคอมมิชชั่น"
บริษัทแบรนด์เสื้อผ้าแต่ละแห่งต่างก็มีมาตรฐานการจ่ายเงินเดือนของตัวเอง โดยทั่วไปแล้วเงินเดือนของดีไซน์เนอร์จะได้เป็นจำนวนคงที่เท่าๆกันทุกเดือน อย่างไรก็ตาม บริษัทบางแห่งจะใช้มาตรการบางอย่างเพื่อกระตุ้นความกระตือรือร้นของพนักงาน เช่น โบนัสสิ้นปี ค่าคอมมิชชั่นการขาย หรืออื่นๆ
โดยทั่วไปแล้วค่าคอมมิชชั่นการขายจะคำนวณตามปริมาณการขายของผลิตภัณฑ์ที่ออกใหม่ และค่าคอมมิชชั่นนี้จะคิดตามจำนวนชิ้นหรืออาจจะเป็นสัดส่วนโดยรวมของยอดขายก็ได้
ดีไซน์เนอร์ที่มีฝีมือเก่งๆหลายคนส่วนมากจะได้รับเงินเดือนตามค่าคอมมิชชั่น ยิ่งเสื้อผ้าดีไซน์ต่างๆของพวกเขาขายได้มากเท่าไร เงินเดือนของพวกเขาก็จะยิ่งสูงขึ้นมากเท่านั้น
นี่เทียบได้กับเงินปันจากหุ้นที่ลงทุนไว้เลย
(จบตอน)
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved