ตอนที่ 106 มอบโทรศัพท์มือถือให้

หลังจากกล่าวอีกสองสามคำ จ้าวเทียนเฉียงก็ขอตัวจากไป

ภายในร้านจึงเหลือแค่เพียงฉินหยุนกับฉินเสี่ยวเทา และพนักงานไม่กี่คนเท่านั้น

"พี่เสี่ยวเทา วันนี้ก็ดึกมากแล้ว ทำไมพี่ยังอยู่ในร้านเสื้อผ้าอีกล่ะ?"

ขณะนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้ว เมื่อเห็นว่าฉินเสี่ยวเทายังอยู่ในร้าน ฉินหยุนก็เอ่ยถามด้วยความสงสัย

ฉินเสี่ยวเทาวิ่งไปวิ่งมาอยู่ตลอดทั้งวัน แต่ตอนกลางคืนเขาไม่ได้มีอะไรให้ทำเป็นพิเศษ

เมื่อได้ยินคำถามของฉินหยุน ฉินเสี่ยวเทาก็แสดงสีหน้าที่ดูเขินๆออกมา เขากล่าวว่า "ฉันกำลังรอบางคนอยู่น่ะ"

ฉินหยุนรู้สึกประหลาดใจ จากนั้นก็มองไปที่หูซานซานที่กำลังทำงานอยู่ในร้านขายเสื้อผ้า ทันใดนั้นแววตาของเขาก็สว่างขึ้นทันทีเมื่อได้เข้าใจบางสิ่ง

"งั้นก็โอเค ผมไม่รบกวนพี่เสี่ยวเทาแล้ว" ฉินหยุนยิ้มออกมา

เขารู้ว่าเช่นกันว่าฉินเสี่ยวเทารู้สึกชอบหูซานซาน ซึ่งตอนนี้ฉินเสี่ยวเทาก็อายุ 30 ปีแล้ว เป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะพบกับผู้หญิงที่ตรงเสปคได้บ่อยนัก ดังนั้นเขาจึงสนับสนุนฉินเสี่ยวเทาอย่างเต็มที่

หลังจากสี่ทุ่ม ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนก็ปิดร้านลง และพนักงานสาวๆก็พากันเดินออกมาจากร้าน

"ผู้อำนวยการฉิน ขอตัวก่อนนะคะ"

"ผู้อำนวยการฉิน กลับแล้วนะคะ"

เมื่อสาวๆพนักงานเดินออกมาแล้วมองเห็นฉินเสี่ยวเทา พวกเธอจึงกล่าวลาด้วยรอยยิ้ม

และในที่สุดคนที่ฉินเสี่ยวเทารอก็ออกมา เธอก็คือหูซานซานนั่นเอง

"เสี่ยวเทา นายยังไม่กลับอีกงั้นเหรอ?" หูซานซานเอ่ยถามด้วยความสงสัย

"ฉันกำลังรอเธออยู่ไง" ฉินเสี่ยวเทากล่าวด้วยรอยยิ้ม "ให้ฉันไปส่งเธอที่บ้านนะ"

"ก็ได้"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หูซานซานก็ไม่ได้ปฏิเสธ เธอพยักหน้าพลางยิ้มออกมา

หลังจากทั้งคู่เข้าไปนั่งในรถแล้ว ฉินเสี่ยวเทาก็ขับรถพาหูซานซานไปที่บ้านของเธออย่างรวดเร็ว

"เสี่ยวเทา ฉันไปก่อน" หูซานซานเปิดประตูรถจากนั้นก็ยิ้มพลางกล่าวว่า "ขอบคุณที่มาส่งฉันนะ"

ขณะที่เธอกำลังจะหันหลังไป จู่ๆฉินเสี่ยวเทาก็เอ่ยขึ้นว่า "รอเดี๋ยวก่อนซานซาน"

หูซานซานก็หยุดลงและมองเขาอย่างสงสัยเล็กน้อย

ขณะที่กำลังเอ่ยออกมา ฉินเสี่ยวเทาก็หยิบกล่องเล็กๆออกมาจากที่ไหนสักที่ในรถ จากนั้นเขาก็กล่าวว่า "นี่คือโทรศัพท์มือถือของเธอ คราวที่แล้วเธอบอกว่าโทรศัพท์มือถือเสียใช่ไหม เอาเครื่องนี้ไปใช้สิ"

"นายซื้อให้ฉันงั้นเหรอ?" หูซานซานตกตะลึง จากนั้นก็มองไปที่ฉินเสี่ยวเทาอย่างงงๆ เธอมองไปที่เขาพลางส่ายหัวและเอ่ยปฏิเสธออกมา "ของขวัญชิ้นนี้แพงเกินไป  ฉันรับไว้ไม่ได้หรอก"

ในขณะนี้เอง เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ฉินเสี่ยวเทาค่อนข้างประหม่าเล็กน้อย หลังจากอดกลั้นมาเป็นเวลานาน ในที่สุดเขาก็กล่าวขึ้นว่า "ซานซาน ฉันชอบเธอ!"

หลังจากที่กล่าวคำนี้ออกไป เขาก็มองไปที่หูซานซานอย่างประหม่าอีกครั้งราวกับกังวลว่าจะถูกเธอปฏิเสธ

ในเวลานี้หูซานซานก็ดูเหมือนจะตกใจกับคำกล่าวของฉินเสี่ยวเทาอยู่เช่นกัน จนถึงตอนนี้เธอยังคงเงียบอยู่

หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ดูเหมือนเธอจะกลับมามีสติอีกครั้ง เธอกล่าวว่า "เสี่ยวเทา เราเพิ่งเริ่มติดต่อกันแค่ช่วงสั้นๆเองนะ"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินเสี่ยวเทาจึงรีบกล่าวขึ้นทันที "ฉันชอบเธอตั้งแต่ที่เราเจอกันที่วิทยาลัยแล้ว"

"ตอนนั้นเราเจอกันครั้งแรกก็จริง แต่เราไม่ได้พูดคุยอะไรกันเลยสักคำ แถมฉันยังไม่รู้จักนายเลยด้วยซ้ำ"

หูซานชานคิดอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากนั้นเธอก็กล่าวออกมาอย่างช่วยไม่ได้ว่า "เราเพิ่งเริ่มติดต่อกันจริงๆแค่เดือนกว่าๆเท่านั้น ฉันรู้สึกว่ามันเร็วเกินไป"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินเสี่ยวเทาก็รู้สึกท้อแท้เล็กน้อย เขามักจะทักไปหาหูซานซานอยู่เกือบทุกวันติดต่อกันเป็นเวลามากกว่าหนึ่งเดือน ครั้งนี้เขายอมควักเงินมากกว่าครึ่งหนึ่งจากเงินเดือนของเขา เอาไปซื้อโทรศัพท์มือถือและรวบรวมความกล้าเพื่อสารภาพรักในวันนี้

เมื่อเทียบกับเมื่อก่อน ตอนนี้เขามีความมั่นใจขึ้นมาก

เมื่อเห็นท่าทางท้อแท้ของฉินเสี่ยวเทา หูซานซานก็กล่าวว่า "เหตุผลหลักคือระยะเวลาที่เราติดต่อกันมันน้อยเกินไป ฉันรู้สึกว่าวันนี้มันกะทันหันไปสักนิด ขอเวลาให้ฉันหน่อยนะ"

เธอยื่นโทรศัพท์มือถือในมือคืนไปให้อีกฝ่าย จากนั้นก็กล่าวว่า "โทรศัพท์เครื่องนี้แพงเกินไป นายเอาคืนไปเถอะ"

เมื่อได้ยินเธอกล่าวเช่นนี้ ความมั่นใจของฉินเสี่ยวเทาดูเหมือนจะฟื้นกลับมาในทันที เขารีบกล่าวว่า "โทรศัพท์เครื่องนี้เหมาะกับเธอแล้ว โทรศัพท์ของเธอพังอยู่ไม่ใช่เหรอ ถึงยังไงหลังจากนี้เธอก็ต้องเปลี่ยนอยู่ดี เพราะงั้นรับไปเถอะ"

หูซานซานลังเลเล็กน้อย ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจรับไว้ "งั้นก็ได้ ขอบคุณนะเสี่ยวเทา"

"ไม่เป็นไร"

ฉินเสี่ยวเทาโบกมือเขาพลางกล่าวว่า "วันนี้เธอเหนื่อยมากแล้ว เข้าบ้านไปพักผ่อนก่อนเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะขับรถมารับนะ"

หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง หูซานซานก็ก็พยักหน้า

เมื่อเห็นว่าหูซานซานยินยอมให้เขามารับเธอในวันพรุ่งนี้ ฉินเสี่ยวเทาก็ตื่นเต้นขึ้นอีกครั้ง

ในเวลานี้เขาไม่หลงเหลือความท้อแท้อีกแล้ว แม้ว่าตอนนี้หูซานซานจะยังไม่ยอมรับเขา แต่เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธเขาเช่นกัน เธอแค่บอกว่าต้องการเวลามากกว่านี้

เขารอด้วยความหวังมานาน รออีกสักนิดจะเป็นไรไป

...

ฉินหยุนกลับไปที่บ้านเช่าหลังใหม่ตามลำพัง ขณะนอนอยู่บนเตียง เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดวีแชต จากนั้นก็ส่งข้อความไปหาเซียวหลาน

"เธอกลับมาถึงที่หอพักหรือยัง?"

เซียวหลานบอกไว้ก่อนหน้านี้ว่า เธอจะกลับมาถึงที่จินหลิงในช่วงเย็นๆ

ภายในไม่กี่วินาทีก็มีข้อความตอบกลับมาจากอีกฝ่าย "อีกประมาณห้านาที แม่กับพี่สาวของฉันเพิ่งกินข้าวนอกบ้านกันเสร็จ"

...

วันรุ่งขึ้น เช้าช่วงของวันนี้ ฉินหยุนมาที่ชั้นเรียนในมหาลัย

ในเวลานี้ ภายในชั้นเรียนต่างก็มีเสียงดังแว่วออกมาที่ข้างนอก ซึ่งฉินหยุนก็ได้ยินหลายๆคนเอ่ยถึงหม่าล่าทั่ง

หลังจากนั้นไม่นาน หยูเล่อเหยาก็เดินเข้ามาในชั้นเรียน จากนั้นเกือบทุกคนในชั้นเรียนก็มองไปที่เธอทันที

"หัวหน้าชั้นเรียน ฉันได้ยินมาว่าร้านหม่าล่าทั่งของคุณเปิดแล้ว!"

"ฉันไปกินมาแล้ว รสชาติของหม่าล่าทั่งอร่อยมาก!"

"หัวหน้าชั้นสุดยอดไปเลย!"

ทันใดนั้นก็มีเสียงของหลายๆคนกล่าวขึ้น

การเปิดร้านด้วยตัวเอง แม้จะเป็นเพียงร้านเล็กๆทั่วไป แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะถูกคนอื่นดูถูก ซึ่งทุกคนต่างก็มองว่ามันเป็นเรื่องที่สุดยอดมาก

ท้ายที่สุดไม่ว่าร้านจะเล็กขนาดไหน แต่คนที่เป็นเจ้าของก็ยังถือว่าเป็นเถ้าแก่

เมื่อได้ยินคำกล่าวของทุกคน หยูเล่อเหยาก็เดินไปที่เวทียกสูงและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า "ในเมื่อนักศึกษาทุกคนรู้ว่าร้านของฉันเปิดแล้ว ทุกคนก็ควรจะมาอุดหนุนฉันด้วยนะ"

"ไปแน่นอน!"

"หัวหน้าชั้น ถ้าเราไปกันหลายคนจะมีส่วนลดให้ไหม?"

เพื่อนร่วมชั้นเรียนคนหนึ่งเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม

บนเวทียกสูง หยูเล่อเหยายิ้มพลางกล่าวว่า "ต้องมีส่วนลดอยู่แล้ว พวกนายจะได้ส่วนลด 20% ถ้าไปกินหม่าล่าทั่งที่ร้านแล้วโชว์บัตรนักศึกษาของพวกนาย!"

"โว้ววว หัวหน้าชั้นใจป้ำมาก!"

"ตอนเที่ยงฉันจะแวะไปที่นั่นเพื่อยกหม้อน้ำซุปมาซด!"

เสียงเชียร์ดังขึ้นทันที

ท้ายที่สุดแล้ว ยังไงก็เป็นร้านที่เปิดโดยหัวหน้าชั้นเรียนของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงสนใจที่จะไปลองชิมรสชาติของหม่าล่าทั่งเป็นอย่างมาก

ในเวลานี้ฉินหยุนก็เริ่มสนใจมันเช่นกัน

"ถ้ากิจการดี ก็แสดงว่ารสชาติของหม่าล่าทั่งน่าจะดีด้วยเช่นกัน"

ตอนเด็กๆเขาชอบกินหม่าล่าทั่งมาก แต่ตอนนั้นเพราะครอบครัวยากจนเกินไป แม้แต่ซาลาเปาสักก้อนยังได้กินยากเลย บางครั้งเมื่อเขาได้ออกไปกินหม่าล่าทั่งร้อนๆแค่หม้อเดียวเขาก็รู้สึกมีความสุขมากแล้ว

เมื่อถึงตอนเที่ยง และไม่มีเรียนในช่วงบ่าย ฉินหยุนจึงเอ่ยทักทายคนสองสามคนในหอพัก จากนั้นเขาก็ออกจากมหาลัยทันที

"หานอวี่ ฉันไปซื้อของก่อนนะ กลับมาแล้วค่อยเจอกัน" จางเสี่ยวเยว่ยิ้มให้หลี่หานอวี่

วันนี้เธอนัดกับเพื่อนๆในห้องพักเพื่อจะไปซื้อของด้วยกัน

"โอเค บ่ายนี้ฉันก็ว่าจะพิมพ์งานอยู่ในห้อง" หลี่หานอวี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม

เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เงินที่ได้รับจากการเขียนนิยายของเขาสูงถึง 7,000 หยวน ซึ่งมากกว่าเดือนที่แล้วถึง 1,000 หยวนเลย

เมื่อเห็นหลี่หานอวี่เดินกลับหอพัก จ้าวฉิงก็เอ่ยถามด้วยความสงสัย "ทำไมฉินหยุนไม่กลับไปที่หอพักพร้อมกับพวกหลี่หานอวี่งั้นเหรอ?"

ในขณะนี้ หลี่หานอวี่กับเพื่อนๆในห้องพักทั้งสี่คนต่างก็อยู่ด้วยกัน แต่ฉินหยุนกลับเดินออกไปทันทีที่ชั้นเรียนเลิก

"เธอยังไม่รู้งั้นเหรอ?"

จางเสี่ยวเยว่มองไปที่เธอพลางอธิบายว่า "ฉินหยุนย้ายออกจากห้องพักของหานอวี่แล้วล่ะ ตอนนี้เขาเช่าบ้านอยู่นอกมหาลัยคนเดียว"

"เช่าบ้านงั้นเหรอ?" เมื่อได้ยินเช่นนี้ จ้าวฉิงก็ผงะ เธอไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ

"เขาเอาเงินมาจากไหนเหรอ?" เธอเอ่ยถามออกมาโดยไม่รู้ตัว

ในฐานะมหานคร ค่าเช่าที่จินหลิงจึงแพงมาก หลายคนที่ทำงานอย่างหนักในจินหลิงต่างก็เช่าบ้านในที่สถานที่ห่างไกลเพื่อประหยัดเงิน

แต่ตอนนี้ฉินหยุน ในฐานะนักศึกษาใหม่ เขาได้ย้ายออกไปเช่าบ้านอยู่แล้ว

"เธอลืมแล้วหรือไง?"

เจียงอีผู้ซึ่งสวมกางเกงยีนส์ขาสั้นสีน้ำเงินและแต่งหน้าด้วยเครื่องสำอางบางๆกล่าวอย่างใจเย็น "ไม่ใช่ว่าฉินหยุนเคยจับรางวัลได้รถยนต์มาก่อนหรือไง? ถ้าเขาขายมัน ไม่ต้องพูดถึงราคาเต็มตอนซื้อเลย อย่างน้อยๆต้องได้เงินสัก 100,000 หยวนแน่นอน ด้วยเงิน 100,000 หยวน มันก็เป็นเรื่องง่ายจะตายที่จะเช่าบ้านอยู่นอกมหาลัย"

(จบตอน)