หลังจากที่ได้รับแอปเปิ้ลแล้ว ฉินหยุนก็กล่าวออกมาว่า "โอเค ขอบคุณมากนะ งั้นฉันขอตัวก่อน"
"อื้ม"
เมื่อเห็นฉินหยุนรับมันไว้ หลินเมิ่งเมิ่งก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ และเธอก็จากไปด้วยสีหน้ามีความสุข
ฉินหยุนถือแอปเปิ้ลไว้ในมือและกำลังจะกัดมัน แต่ในขณะที่เขายื่นมันเข้าปาก เขาก็ผงะไปทันที
"อะไรเนี่ย? ทำจากพลาสติกหรอกเหรอ?"
แอปเปิ้ลในมือของเขาเป็นงานฝีมือที่ทำขึ้น มันไม่สามารถกินได้ แต่รูปร่างและหน้าตาของมันเหมือนกับแอปเปิ้ลของจริงทุกประการ ไม่น่าแปลกใจที่ฉินหยุนจะเผลอเอามันเข้าปาก
หลังจากใส่แอปเปิ้ลที่หลินเมิ่งเมิ่งมอบให้ลงในกระเป๋าของเขา ฉินหยุนก็ไปหาหยูเล่อเหยาที่ร้านหม่าล่าทั่งต่อ
ที่ร้านของหยูเล่อเหยา เขายังได้รับของขวัญมาอีกชิ้นจากเธอด้วย
"เล่อเหยา ดูท่าเธอจะชอบฉินหยุนมากจริงๆ"
ขณะมองดูฉินหยุนเดินจากไป ที่ข้างๆหยูเล่อเหยา เสี่ยวเฟยอดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมาเมื่อเห็นเธอมอบของขวัญให้กับฉินหยุน
"แน่นอน"
หยูเล่อเหยาตอบด้วยรอยยิ้ม ชอบก็คือชอบ เรื่องแบบนี้มักจะไม่มีเหตุผล และเธอก็ไม่มีอะไรต้องปิดบัง
ในเวลานี้เซียวหลานก็ได้เตรียมของขวัญบางอย่างไว้เช่นกัน แต่ข้อความที่พิมพ์ไว้ในช่องแชทกลับถูกลบออกไป จากนั้นก็พิมพ์ขึ้นมาใหม่แล้วก็ลบออกไปอีกครั้ง สุดท้ายเซียวหลานก็ถอนหายใจออกมา
เธอและฉินหยุนไม่ได้มีความสัมพันธ์กันแบบคนรัก มันจึงไม่เหมาะสมสักเท่าไรที่เธอจะมอบของขวัญให้เขาในวันคริสต์มาสอีฟ
ในที่สุดฉินหยุนก็มาถึงร้านขายเสื้อผ้าพร้อมกับของขวัญสองชิ้นจากหลินเมิ่งเมิ่งและหยูเล่อเหยา
ในเวลานี้ภายในร้านขายเสื้อผ้าได้รับการตกแต่งให้มีบรรยากาศเกี่ยวกับการฉลองเทศกาลมากขึ้นอย่างชัดเจน ยังมีการมอบส่วนลดต่างๆสำหรับการซื้อเสื้อผ้าและสินค้าอื่นๆอีกด้วย ซึ่งบรรยากาศในวันคริสต์มาสอีฟก็ร้อนแรงมาก
เมื่อเขาเห็นหญิงสาวคนหนึ่งในร้าน ฉินหยุนก็เอ่ยถามด้วยความแปลกใจ "โจว เสี่ยวเค่อ เธอยังไม่เลิกงานอีกเหรอ?"
หญิงสาวคนนี้ก็คือโจวเสี่ยวเค่อนั่นเอง
"ยัง พอดีว่าฉันขอทำโอทีน่ะ" โจว เสี่ยวเค่อมองไปที่ฉินหยุน น้ำเสียงของเธอดูเกร็งๆเล็กน้อย
วันนี้เป็นวันเสาร์ ซึ่งปกติเธอจะมาทำงานที่ร้านขายเสื้อผ้าทุกสุดสัปดาห์ ตอนนี้ผ่านมามากว่า 2 เดือนติดต่อกันแล้วที่เธอมีรายได้มากกว่าครึ่งหนึ่งของค่าขนมที่ได้
เขาพยักหน้าและไม่ได้ถามอะไรเธออีก
ไม่นานวันคริสต์มาสอีฟก็ผ่านไป
...
วันรุ่งขึ้น ฉินหยุนและจ้าวเทียนเฉียงมาที่ร้านเสื้อผ้าหานลู่ตั้งแต่เช้าตรู่
ในเวลานี้มีบางคนยืนอยู่หน้าร้านเสื้อผ้าหานลู่ ซึ่งคนเหล่านี้ต่างก็มีสีหน้าที่ดูตื่นเต้น
เพราะเขากำลังจะต่อสู้อย่างหนักในศึกสุดท้ายนี้ ดังนั้นจั่วหานจึงไม่ได้จ้างหน้าม้าเหล่านั้นมาไว้ในร้านแล้ว ถึงอย่างไรกิจกรรมขนาดใหญ่เช่นนี้ก็เพียงพอที่จะดึงดูดผู้คนได้มากมาย เช่นเดียวกับร้านเสื้อผ้าจวินชิงในตอนนั้น
"ร้านเสื้อผ้าหานลู่นี่ร่ำรวยและสุดยอดจริงๆ พวกเขาเตรียมของรางวัลมูลค่าตั้ง 3 ล้านหยวนไว้ แถมยังร่วมกิจกรรมได้ที่ร้านค้าทั้งสิบเอ็ดสาขาในจินหลิงอีก"
"การจับสลากลุ้นของรางวัลมูลค่าสูงเสียดฟ้าของหานลู่กำลังเป็นกระแสในโต่วอินมาก ที่จินหลิงไม่ค่อยมีกิจกรรมใหญ่ๆแบบนี้จัดขึ้นมากนัก!"
"ไปกันเถอะ ฉันจะลองซื้อเสื้อผ้าสักตัวดูก่อน แค่ซื้อเสื้อผ้าหนึ่งตัวในร้านนี้ก็สามารถจับสลากได้อย่างน้อยหนึ่งครั้ง แม้ว่าจะไม่ได้รางวัล แต่ก็ยังสามารถเอาตั๋วลอตเตอรี่ไปลุ้นรอบสุดท้ายได้ ยิ่งมีตั๋วลอตเตอรี่มากเท่าไร โอกาสในการจับได้ของรางวัลในวันสุดท้ายก็จะมากขึ้น"
ทุกคนตื่นเต้นมาก เห็นได้ชัดว่าพวกเขารู้สึกกระตือรือร้นกับกิจกรรมแบบนี้ที่มีรางวัลมากมายให้ลุ้น
เมื่อเขามาถึงร้านขายเสื้อผ้า ฉินหยุนก็เดินดูรอบๆด้วยความสบายใจ
"ผู้จัดการจ้าว เหมือนกับตอนที่อยู่ร้านเสื้อผ้าจวินชิง คุณสามารถซื้อเสื้อผ้าได้" ฉินหยุนยิ้ม
จ้าวเทียนเฉียงพยักหน้า แต่เขาไม่ได้เข้าไปเลือกซื้อมัน
ครั้งที่แล้วฉินหยุนก็ไปเอารถยนต์ที่อยู่ในร้านเสื้อผ้าจวินชิงมา ครั้งนี้เขายังต้องการที่จะมาเอาของรางวัลจากที่นี่อีกงั้นเหรอ?
โดยไม่ได้คำนึงจ้าวเทียนเฉียง ฉินหยุนมองดูเสื้อผ้าและซื้อพวกมันทันที สุดท้ายแล้วเขาก็ใช้เงินไปทั้งหมด 50,000 หยวนและได้ตั๋วลอตเตอรี่มา 250 ใบ
"ว้าว ชายหนุ่มคนนี้ซื้อเสื้อผ้าหมดไป 50,000 หยวนเลย!"
"ตอนนี้เขามีตั๋วลอตเตอรี่อยู่ 250 ใบ และของรางวัลที่แพงๆน่าจะออกในวันสุดท้ายของกิจกรรม เขาอาจได้เงินคืน"
เมื่อเห็นฉินหยุนเอาตั๋วลอตเตอรี่จำนวนมากไปภายในครั้งเดียว ผู้คนที่อยู่รอบๆก็อุทานออกมา
"ฉินหยุน?"
ผู้จัดการร้านเสื้อผ้าหานลู่สาขานี้คือจางอี้อี้ เมื่อเธอเห็นฉินหยุนมาชำระเงินค่าเสื้อผ้าเป็นจำนวนเงินมากถึง 50,000 หยวนพร้อมกับรับตั๋วลอตเตอรี่ไป 250 ใบ สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
ไม่ว่าใครก็รู้เกี่ยวกับการแข่งขันระหว่างเทียนหยุนและหานลู่ แต่ตอนนี้ฉินหยุนกลับมาที่นี่เพื่อเพิ่มยอดขายให้กับหานลู่เสียอย่างนั้น
"ผู้จัดการจาง จำเป็นต้องฉีกตั๋วลอตเตอรี่พวกนี้ทันทีเลยไหม?" ฉินหยุนถามด้วยสีหน้าสงบ
ตั๋วลอตเตอรี่เหล่านี้ถูกปิดผนึกไว้ทั้งหมด และมันสามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ด้านในได้โดยการฉีกชั้นกระดาษด้านนอกออกเท่านั้น
เมื่อเปิดออกมาก็อาจจะเป็นชื่อของรางวัลหรือไม่ก็อาจจะเป็นแค่ตัวเลขบางตัวเท่านั้น
เมื่อได้ยินคำถามของฉินหยุน เจียงอี้อี้ก็เริ่มเกร็งเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว เสมือนว่าฉินหยุนยังคงเป็นเจ้านายของเธออยู่
เธอกล่าวขึ้นอย่างรวดเร็ว "ไม่ต้องก็ได้ค่ะ ในช่วงแปดวันนี้ตั้งแต่วันคริสต์มาสจนถึงวันปีใหม่ คุณสามารถลุ้นรับรางวัลในวันไหนก็ได้"
ฉินหยุนพยักหน้าแล้วออกจากร้านไปทันที
เมื่อเจอสถานที่ที่ไม่มีคนอยู่รอบๆ เขาก็เริ่มฉีกเปิดตั๋วลอตเตอรี่ทั้งหมดนี้โดยตรง
"จับได้ของรางวัลสองใบ และคูปองส่วนลดสิบสามใบ ดูเหมือนว่าอัตราการจับได้ของรางวัลพวกนี้จะไม่สูงมากนัก" ฉินหยุนคิดกับตัวเอง
ไม่ต้องถามเลยว่าโชคของเขาดีขนาดไหน แต่มีเพียงแค่ 15 ใบจาก 250 ใบเท่านั้นที่ถูกรางวัล ซึ่งแสดงให้เห็นว่าโอกาสที่จะจับได้ของรางวัลนั้นมีน้อยมาก
อย่างไรก็ตาม เป้าหมายของฉินหยุนไม่ใช่ของรางวัลเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ แต่เป็นตัวเลขที่อยู่ในตั๋วทั้ง 250 ใบเหล่านี้ต่างหาก
"ผู้จัดการจ้าว เดี๋ยวคุณให้คนเอาคูปองพวกนี้ไปใช้ซื้อเสื้อผ้าของหานลู่หน่อยนะ" ฉินหยุนสั่งออกมา
เกี่ยวกับเรื่องที่ฉินหยุนจับได้รางวัล จ้าวเทียนเฉียงไม่ได้เอ่ยถามอะไร และเขารีบไปจัดการให้ทันที สุดท้ายฉินหยุนก็ได้ตั๋วลอตเตอรี่มาอีก 37 ใบ
ท้ายที่สุดแล้ว หากคุณซื้อเสื้อผ้าด้วยคูปอง คุณก็ยังสามารถมีโอกาสที่จะจับสลากเพิ่มได้
...
"ฉินหยุนปรากฏที่ร้านเสื้อผ้าหานลู่ และซื้อเสื้อผ้าไปทั้งหมด 50,000 หยวน พร้อมกับเอาตั๋วลอตเตอรี่ไป 250 ใบ?"
ในเวลานี้จั่วหานกำลังตกตะลึง เมื่อเขาได้รู้ข่าวจากจางอี้อี้
ครั้งล่าสุดที่เรื่องการปราบปรามเทียนหยุนโดยใช้การแข่งขันแบบไม่เป็นธรรมถูกแฉออกไป หานลู่ของพวกเขาได้รับผลกระทบด้านลบอย่างมาก และยอดขายของพวกเขาก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง
ถ้าสถานการณ์นี้ยังดำเนินต่อไป ไม่ช้าก็เร็วหานลู่ก็คงจะต้องปิดตัวลงด้วยน้ำมือของเขาแน่นอน ดังนั้นครั้งนี้เขาจึงเลือกที่จะต่อสู้อย่างหนักและเริ่มจัดกิจกรรมบ้าๆแบบนี้ขึ้น เพื่อเป็นการกระตุ้นหานลู่ที่เริ่มถดถอยและกำจัดผลกระทบด้านลบที่เกิดขึ้นให้หายไป
นี่ถือว่าเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของหานลู่
พูดตรงๆมันน่าจะเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของจั่วหานมากกว่า
"เขาคิดอะไรอยู่?"
จั่วหานพยายามคิดหาเหตุผลของการกระทำนี้ ในเมื่อทั้งสองเป็นศัตรูกัน อีกฝ่ายจะทำเช่นนี้ไปทำไม หรือว่าฉินหยุนจะใจดีช่วยเพิ่มยอดขายให้เขา?
คิ้วของจั่วหานขมวดเข้าหากันเล็กน้อย โดยที่เขาไม่สามารถเข้าใจอีกฝ่ายได้เลย
ข้างๆเขา ชายวัยกลางคนเอ่ยถามออกมาว่า "บอสจั่วครับ เราควรจะทำยังดี?"
จั่วหานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาโบกมือพลางกล่าวว่า "ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเขา
ระยะเวลาในการจับรางวัลคือแปดวัน ต่อให้ฉินหยุนได้ตั๋วลอตเตอรี่ไปจำนวนมากก็ไม่มีประโยชน์อะไร"
เขาไม่เชื่อว่าฉินหยุนจะโชคดีจับได้ของรางวัลจำนวนมาก มีผู้คนมากมายที่ซื้อเสื้อผ้าเช่นกัน และตั๋วลอตเตอรี่สองร้อยกว่าใบของฉินหยุนก็เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น
...
เมื่อเวลาผ่านไป การจับสลากลุ้นรับของรางวัลมูลค่าสูงเสียดฟ้าของหานลู่ก็ทำให้เกิดกระแสความนิยมอย่างเห็นได้ชัด และจำนวนลูกค้าในร้านเสื้อผ้าหานลู่ทั้ง 11 สาขาก็เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ก็ใกล้จะถึงวันปีใหม่แล้ว มีคนจำนวนมากที่ต้องการจะซื้อเสื้อผ้าให้กับคนในครอบครัว ซึ่งจริงๆแล้วซื้อที่ไหนมันก็เหมือนๆกัน
แต่เมื่อสามารถมีโอกาสจับสลากลุ้นรางวัลได้หนึ่งครั้งเมื่อซื้อเสื้อผ้าครบ 300 หยวน แล้วทำไมจะไม่เอา 300 หยวนไปซื้อเสื้อผ้าที่นั่นล่ะ?
สิ่งนี้ทำให้ร้านเสื้อผ้าหานลู่กลายเป็นที่นิยมในทันที
แม้จะดูเหมือนกับว่าไม่มีความแตกต่างจากการจ้างหน้าม้ามาไว้ในร้านคราวก่อน แต่ตอนนี้คนเหล่านี้มาที่นี่เพื่อซื้อเสื้อผ้ากันจริงๆ
ไม่ว่าใครที่มีตั๋วลอตเตอรี่ ต่างก็ตั้งหน้าตั้งตารอวันปีใหม่ที่จะมาถึงนี้!
และจั่วหานก็ตั้งหน้าตั้งตารอเช่นกัน
(จบตอน)
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved