"ลูกพี่ลูกน้อง ฉันไปก่อนนะ" ในขณะนี้หลินเมิ่งเมิ่งกำลังมีความสุขมาก เธอพูดอะไรบางอย่างกับลูกพี่ลูกน้องของเธอแล้วก็เข้าไปนั่งในรถ
"โอเค ถึงบ้านแล้วอย่าลืมส่งข้อความมาหาฉันนะ"
ลูกพี่ลูกน้องของหลินเมิ่งเมิ่งจ้องมองไปที่ฉินหยุน จากนั้นก็ยิ้มให้หลินเมิ่งเมิ่ง
ภายใต้สายตาของทุกคน พวกหลินเมิ่งเมิ่งทั้งสามคนก็เข้าไปในรถของฉินหยุน จากนั้นรถก็ถูกสตาร์ทและขับออกจากเมืองทันที
ไม่กี่ชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในไม่ช้ารถก็ขับมาถึงเมืองอู๋ซื่อ
เมื่อพวกเขามาถึงในเมือง พ่อแม่ของหลินเมิ่งเมิ่งต้องการเอาเงินให้ฉินหยุนเพื่อเป็นค่ารถ แต่ฉินหยุนไม่ต้องการ
หลังจากนั้นไม่นานรถก็หยุดลงในที่แห่งหนึ่ง
ท้ายที่สุดตอนนี้พวกเขาก็กลับมาที่อูซื่อกันแล้ว และไม่ค่อยเหมาสมเท่าไรที่พวกเขาจะปล่อยให้ฉินหยุนพาพวกเขาไปส่งถึงที่หน้าประตูบ้าน
หลังจากจอดตรงจุดนี้สักครู่ ฉินหยุนก็สตาร์ทรถขึ้นอีกครั้งและขับออกไป
เมื่อเห็นฉินหยุนจากไป พ่อกับแม่ของหลินเมิ่งเมิ่งก็มองไปที่เธอทันที พวกเขารีบถามอย่างรวดเร็วว่า "เมิ่งเมิ่ง ลูกกับฉินหยุนมีความสัมพันธ์กันยังไง?"
พวกเขาสามารถสัมผัสได้ถึงความไม่ชอบมาพากลของท่าทีที่หลินเมิ่งเมิ่งมีต่อฉินหยุน
ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ตอนที่ฉินหยุนปรากฏตัวขึ้นแล้ว ท่าทางมีความสุขของหลินเมิ่งเมิ่งทำให้พวกเขารู้สึกผิดปกติมาก
"โอ้ พ่อคะแม่คะ มันไม่มีอะไรหรอก"
หลินเมิ่งเมิ่งพูดด้วยความเขินอาย
เมื่อเห็นลูกสาวเป็นแบบนี้ คนเป็นพ่อเป็นแม่จะไม่เข้าใจได้อย่างไร ใครไม่เคยผ่านวัยนี้มาบ้าง?
แม่ของหลินเมิ่งเมิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอถามขึ้นพลางสะกิดแขนเบาๆ "เมิ่งเมิ่ง ทำไมฉินหยุนถึงได้มีรถขับล่ะ ครอบครัวของเขามีฐานะร่ำรวยงั้นเหรอ?"
นักศึกษาปีหนึ่งขับรถกลับบ้านเอง สภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวเขาน่าจะดีมาก ก่อนหน้านี้พวกเธอก็อยากจะถามออกมา แต่ก็ได้แค่เก็บมันไว้ในใจ
ตั้งแต่เธอยังเด็กลูกสาวของพวกเธอก็ไร้เดียงสามาก อันที่จริงไม่ว่าหลินเมิ่งเมิ่งจะชอบใครพวกเธอก็ไม่ได้ห้ามเลย พวกเธอแค่กลัวว่าลูกสาวของพวกเธอจะถูกรังแกแค่นั้น
"หนูก็ไม่รู้"
หลินเมิ่งเมิ่งกระพริบตาปริบๆ เธอคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็พูดว่า "ฉินหยุนน่าจะได้มันมาจากการจับรางวัล"
หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็เล่าอย่างตื่นเต้นเกี่ยวกับการที่ฉินหยุนโชคดีจับสลากได้รางวัลรถยนต์จากร้านขายเสื้อผ้า เธอเล่าฉากต่างๆออกมาราวกับว่าเธอได้เห็นมันด้วยตาของตัวเอง
...
ฉินหยุนไม่รู้แน่นอนว่าพวกเขาคุยเรื่องอะไรกัน หลังจากบ่ายสี่โมง ในที่สุดเขาก็กลับมาถึงบ้าน
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้กลับไปที่บ้านในเขตชิงอู๋ แต่ตรงไปที่บ้านเกิดของเขา หมู่บ้านฉินเจีย
ตรุษจีนกำลังจะมาถึงในไม่ช้า และครอบครัวของเขากำลังเตรียมสิ่งต่างๆสำหรับวันปีใหม่
เป็นเวลากว่าสองเดือนแล้วที่เขากลับมาครั้งล่าสุดตั้งแต่วันชาติในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว หมู่บ้านฉินเจียดูเหมือนจะยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง ทั้งบ้านหลังเดิม และผู้คนหน้าเดิมๆในหมู่บ้าน
ก่อนกลับถึงบ้าน ฉินหยุนเห็นลุงใหญ่ฉินกั๋วเหลียงอยู่ระหว่างทาง เขาจึงหยุดรถจากนั้นก็เปิดกระจกแล้วเอ่ยทักทาย
"เสี่ยวหยุน กลับมาแล้วเหรอ?"
เมื่อเห็นฉินหยุน ฉินกั๋วเหลียงก็ยิ้มและเดินเข้าไปหา
"ครับลุงใหญ่ ผมเพิ่งกลับมาถึงเมื่อกี้" ฉินหยุนพูดด้วยรอยยิ้ม
ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกัน คนอื่นๆที่อยู่ในหมู่บ้านก็มองมาทางด้านนี้เช่นกัน
"นั่นฉินหยุน ลูกชายของฉินกั๋วตงกับจ้าวเหมยนี่นา เขากลับมาแล้ว แถมยังขับรถ BMW กลับมาอีก"
"ฉินหยุนเขามีแววดี ตอนนี้ในโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าของเขามีคนงานมากถึง 200 คนเลย พวกเราหลายคนในหมู่บ้านต่างก็ทำงานอยู่ในโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าแห่งนั้น ชั่วโมงการทำงานไม่เยอะและเงินเดือนก็ยังสูงมาก แถมตรุษจีนยังแจกโบนัสสิ้นปีให้กับพนักงานอีกด้วย"
"กั๋วตงกับจ้าวเหมยก็สุขสบายกันทั้งคู่แล้ว กั๋วตงว่างมากซะจนเขาไปเรียนขับรถและซื้อรถมาขับเองเลย"
ผู้คนในหมู่บ้านมองไปทางพวกเขาพลางถอนหายใจออกมา ในสายตาของพวกเขาสิ่งเหล่านี้มันน่าอิจฉามากจริงๆ
ฉินหยุนในตอนนี้ถือว่ามีชื่อเสียงมากที่สุดในหมู่บ้านแห่งนี้เลย ใครๆต่างก็บอกว่าเขาเป็นเด็กมีแวว และในอนาคตเขาจะกลายเป็นคนที่มีความสามารถมากที่สุดในหมู่บ้านฉินเจียอย่างแน่นอน
หลังจากพูดคุยกับฉินกั๋วเหลียงอยู่สักครู่ ฉินหยุนก็ขับรถไปยังที่จอดรถที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษภายในหมู่บ้าน เขาทำการจอดรถและเดินกลับบ้านพร้อมสิ่งของที่เขาซื้อกลับมา
เขาซื้อของมามากมายจนไม่สามารถขนไปคนเดียวหมดได้ ในขณะนี้จ้าวเหมยและฉินลู่ก็กำลังเดินมาที่ลานจอดรถ
"เสี่ยวหยุน กลับบ้านมาทั้งทีลูกจะซื้อของมาทำไมตั้งเยอะตั้งแยะ" จ้าวเหมยอดไม่ได้ที่จะบ่นขณะมองดูของในมือลูกชาย
ฉินหยุนยิ้มและพูดว่า "ตรุษจีนก็ต้องเอาของบางอย่างกลับบ้านมาด้วย นี่เรียกว่ารสชาติของปีใหม่ไงแม่"
หลังจากกลับถึงบ้าน ทั้งครอบครัวก็นั่งทานอาหารดีๆด้วยกัน
ด้วยความกลัวว่าอยู่ที่จินหลิงลูกชายของเธอจะกินอยู่ได้ไม่ดี จ้าวเหมยจึงลงมือทำอาหารเองทั้งโต๊ะ
"พ่อของลูกก็แก่แล้ว แต่เขาก็ยังไปเรียนขับรถพร้อมกับทำใบขับขี่ แถมตอนนี้ก็ซื้อรถให้ตัวเองขับแล้ว"
ที่โต๊ะอาหาร เจ้าเหมยบ่นออกมาอย่างอดไม่ได้ "แม่พูดไปหลายรอบแล้ว หมู่บ้านของเราก็อยู่ไม่ไกลจากเขตชิงอู๋ เราจะซื้อรถมาเพื่ออะไร?"
ฉินหยุนยิ้มและพูดว่า "การมีรถยนต์มันก็เป็นสิ่งที่ดีเหมือนกัน ตอนนี้มันอยู่ในช่วงฤดูหนาว ถ้าเราขับรถออกไปข้างนอกเราก็จะไม่รู้สึกหนาวนะแม่"
รถที่ฉินกั๋วตงซื้อมามีราคาประมาณ 100,000 หยวน ซึ่งมันถือว่าถูกมากถ้าเทียบกับรายได้ของเขาในตอนนี้
"เสี่ยวหยุน แม่ของแกบ่นพ่อทุกวัน แต่พอออกไปข้างนอกเธอก็ไปอวดคนอื่น" ฉินกั๋วตงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
"เหล่าฉิน ฉันไปอวดใครตั้งแต่เมื่อไร? คุณนั่นแหละที่เอาแต่ล้างรถอยู่ข้างนอกทั้งวัน" จ้าวเหมยไม่พอใจเล็กน้อย
ฟังสิ่งที่พ่อกับแม่ของเขาสนทนากันเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ ฉินหยุนรู้สึกอบอุ่นและสุขใจอย่างบอกไม่ถูก
วันต่อมาฉินหยุนขับรถไปที่เขตชิงอู๋
ในเวลานี้ที่เขตชิงอู๋ให้ความรู้สึกของวันปีใหม่อย่างเด่นชัดมาก มีการติดป้ายตรุษจีนอยู่ทั่วทุกที่ และที่ร้านค้าต่างๆก็ติดป้ายอวยพรตรุษจีนไว้ด้วย ผู้คนมากมายเดินผ่านไปมาบนท้องถนนซึ่งดูมีชีวิตชีวามาก หลายๆครอบครัวต่างก็มาเดินซื้อของด้วยกัน
ฉินหยุนแวะไปดูที่ร้านขายเสื้อผ้า ร้านขายรองเท้า โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า ฯลฯ ของเขา
ขณะนี้โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าอยู่ในช่วงวันหยุด และจะหยุดจนถึงวันที่ 6 ของเดือนมกราคม ซึ่งจะเปิดขึ้นอีกครั้งในวันที่ 7 ของเดือน
หลังจากดูร้านขายเสื้อผ้าและสถานการณ์ของกิจการอื่นๆทั้งหมดในเขตชิงอู๋แล้ว ฉินหยุนก็กลับไปที่บ้านอีกครั้ง และในเวลานี้ที่นี่ก็มีคนมากมายมารวมตัวกัน
ลุงใหญ่ฉินกั๋วเหลียงมาพร้อมกับภรรยาจางพ่านตี้ และครอบครัวของลุงสามฉินกั๋วปินก็มาพร้อมกับภรรยาเฝิงหลาน
ตอนนี้จางพ่านตี้และเฝิงหลานต่างก็ทำงานในโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าเทียนหยุน ซึ่งทั้งคู่ก็ยังเป็นหัวหน้าพนักงานอีกด้วย นอกจากเงินเดือนแล้วพวกเธอยังได้รับโบนัสสิ้นปีอีกคนละ 10,000 ถึง 20,000 หยวนเลย
"เสี่ยวหยุน!"
เมื่อเห็นฉินหยุนเดินเข้ามา ทุกคนก็ทักทายเขาด้วยรอยยิ้ม
"พี่ชายฉินหยุน" ฉินเสี่ยวฉี ลูกพี่ลูกน้องของฉินหยุนก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน
หลังจากคุยกับพวกเขาสักพัก โทรศัพท์ของฉินหยุนก็ดังขึ้น เขาจึงเดินออกไปรับสาย
ขณะที่เขากำลังจะเข้าไปในบ้าน โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นอีกครั้ง
หลังจากมองดูแล้ว ฉินหยุนก็เหลือบมองไปทางลุงสามฉินกั๋วปินด้วยความประหลาดใจ แต่ในเวลานี้ฉินกั๋วปินไม่ได้หันมาทางเขาเลย
เสียงที่ดังขึ้นคือเสียงแจ้งเตือนข้อความเข้าจากวีแชตของฉินกั๋วปิน
อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่าโทรศัพท์มือถือไม่ได้อยู่กับตัวของฉินกั๋วปิน
หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง ฉินหยุนก็มองไปที่ลูกพี่ลูกน้องของเขาฉินเสี่ยวฉี และแน่นอนว่าเธอก็กำลังมองมาที่เขาพร้อมกับรอยยิ้ม
ฉินเสี่ยวฉีเป็นน้องคนสุดท้องในรุ่นของฉินหยุน เขายิ้มพลางเดินเข้าไปหาเธอและพูดว่า "เสี่ยวฉี เธอส่งข้อความหาพี่ทำไมเหรอ?"
"พี่ชาย ลองเปิดโทรศัพท์ของพี่ดูสิ" ฉินเสี่ยวฉีรีบกล่าวอย่างรวดเร็ว
ฉินหยุนเปิดวีแชตขึ้นมา แต่เมื่อเห็นข้อความที่ฉินเสี่ยวฉีส่งมาเขาแทบจะอ่านมันไม่ออกเลย
【PjVlKTK6ITkD-CI0ljE1脸浙[emoji]【唞i】[emoji] คุณสามารถรับไพ่ 48 ใบที่ฉันส่งให้คุณ "ความมั่งคั่ง" "จีน" "ชาติ" "ปี"! มาร่วมสนุกกับเราที่นี่ มีโอกาสได้รับรางวัลพิเศษ 10,000 หยวน คุณจะได้รับอีก 5イB ในวันส่งท้ายปีเก่า! 】
"พี่ชาย ตอนนี้โต่วอินได้เริ่มกิจกรรมรับทรัพย์วันตรุษจีนขึ้นอีกครั้งแล้ว หนูยังขาดการ์ดอยู่ พี่กดที่ลิ้งค์ให้หน่อย ถ้ายิ่งชวนคนเยอะก็จะยิ่งมีโอกาสได้ชิงเงิน 10,000 หยวน"
ฉินเสี่ยวฉีพูดด้วยรอยยิ้ม ตอนนี้เธออยู่ชั้นมัธยมต้นปีที่ 3 แล้ว แต่เด็กสมัยนี้จะไม่เล่นโทรศัพท์มือถือได้อย่างไร เมื่อวันหยุดฤดูหนาวมาถึงฉินเสี่ยวฉีก็ทำการบ้านทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นเธอจึงมีเวลาว่างที่จะกระตือรือร้นกับกิจกรรมสะสมการ์ดในโต่วอิน
ขณะที่ฉินหยุนมองดู เขาก็รู้สึกคุ้นเคยกับสิ่งนี้มาก
กิจกรรมแบบนี้เคยจัดขึ้นในโต่วอินมาก่อนเช่นกัน เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเนื่องในโอกาสที่ฮ่องกงกลับคืนสู่มาตุภูมิในรอบ 20 ปี และ 21 ปี เมื่อกิจกรรมนี้เปิดตัวครั้งแรก คลิปวีดีโอต่างๆในโต่วอินก็มีแต่คอมเม้นขอการ์ดเต็มไปหมด
(จบตอน)
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved