"พี่ฉินหยุน" เมื่อเห็นฉินหยุนเดินเข้ามา จ้าวตงเสวี่ยก็รีบเอ่ยทักทายขึ้น
"อืม" ฉินหยุนพยักหน้าให้เธอ
หลังจากเอ่ยทักทายเสร็จ จ้าวตงเสวี่ยก็อ้าปากของเธอขึ้นอีกครั้งราวกับจะกล่าวอะไรบางอย่าง แต่เธอก็ไม่ได้กล่าวอะไรออกมา
ขณะที่เธอทำงานอยู่ในร้านขายเสื้อผ้าแห่งนี้ เธอรู้สึกได้ว่าฉินหยุนไม่ค่อยสนใจเธอมากนัก เขาเพียงแค่หางานให้กับเธอเท่านั้น
พวกเขาสองคนไม่ค่อยได้พูดคุยอะไรกันเลย ดังนั้นความสัมพันธ์ของพวกเขาจึงไม่ได้แน่นแฟ้นมากขนาดนั้น
และตอนนี้เธอก็ตระหนักได้แล้วว่าคำขอครั้งก่อนของเธอนั้นมันมากเกินไป
ความคิดมากมายผุดขึ้นในใจของเธอ ตอนนี้จ้าวตงเสวี่ยทั้งรู้สึกสับสนและเวิ้งว้างเล็กน้อย
แค่คำเรียก ‘พี่ฉินหยุน’ นั้นไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้เลย มันแค่สามารถบอกได้ว่าเธอกับฉินหยุนรู้จักกันเท่านั้น และเธอก็ไม่สามารถขอให้ฉินหยุนช่วยยืนยันความสัมพันธ์ว่าพวกเขาเป็นญาติกันได้ด้วย
ทันใดนั้นจ้าวตงเสวี่ยก็หยุดชะงักไป โดยที่เธอไม่รู้ว่าจะกล่าวอะไรออกมาดี
เฉิงซีและหญิงสาวอีกคนที่มาด้วยกันก็ไม่ได้เอ่ยอะไร แต่พวกเธอกำลังรอให้ฉินหยุนออกไปก่อน จากนั้นก็จะเริ่มหัวเราะเยาะจ้าวตงเสวี่ยอีกครั้ง
"เสี่ยวเสวี่ย ลุงรองบอกให้เธอโทรกลับไปหาเขาหน่อย หลังเลิกงานอย่าลืมโทรไปหาเขาล่ะ" ในตอนนี้เอง ฉินหยุนก็มองไปที่จ้าวตงเสวี่ย และจากนั้นเขาก็กล่าวกับเธอ
เมื่อได้ยินคำกล่าวของเขา หัวใจที่สับสนและเวิ้งว้างของจ้าวตงเสวี่ย ทันใดนั้นก็ตื่นเต้นขึ้นทันที และแววตาของเธอก็เปล่งประกายขึ้นด้วย
"โอเคพี่ฉินหยุน เดี๋ยวหลังเลิกงานฉันจะโทรหาพ่อทันที" หลังจากที่จ้าวตงเสวี่ยกล่าวจบ เธอก็เงยหน้าขึ้นมองไปทางเฉิงซีและหญิงสาวอีกคน ถ้าหากว่าเธอมีหาง เธอก็คงอดใจไม่ไหวที่จะยกมันขึ้นและส่ายไปส่ายมาแน่นอน
ในเวลานี้ เฉิงซีและหญิงสาวอีกคนทั้งคู่รู้สึกตกตะลึงอย่างสมบูรณ์ พวกเธอไม่ได้คาดคิดว่าเจ้าของร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนจะเป็นพี่ชายของจ้าวตงเสวี่ยจริงๆ
...
หลังจากอยู่ในร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนสักพัก ฉินหยุนก็ออกจากร้านไป
ขณะขับรถอยู่ เขาก็ค่อยๆคิดเกี่ยวกับการพัฒนาร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนต่อไปในอนาคต
ด้วยการมีอยู่ของค่ายกลรวบรวมโชคลาภ เส้นทางการพัฒนาของเขาจึงราบรื่นกว่าผู้ประกอบการคนอื่นหลายเท่าเลย แต่ฉินหยุนก็ยังคงก้าวไปข้างหน้าช้าๆทีละก้าวๆ ค่อยๆพัฒนากิจการในแบบถ่อมตัว และรวบรวมความแข็งแกร่งของตนเองอย่างเงียบๆ
"เห้ย!"
ในขณะที่เขากำลังคิดอยู่ ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที
บนถนนที่เขากำลังขับรถอยู่นั้น จู่ๆก็มีรถยนต์คันหนึ่งพุ่งออกมา มันคือรถปอร์เช่ 911 ที่มีสีแดงทั้งคัน
หลังคาของรถคันนั้นถูกเปิดไว้ และก็มีชายหนุ่มผมยาวคนหนึ่งนั่งอยู่ที่ฝั่งคนขับ แถมเขายังสวมแว่นกันแดดสีดำอีกด้วย
"เอี๊ยดดด!"
ฉินหยุนกระแทกเบรกแทบจะทันที ดังนั้นรถของเขาจึงไม่ได้ชนกับอีกฝ่าย
"ปัง!"
แต่หลังจากที่เขาเหยียบเบรก เขารู้สึกว่าตัวรถสั่นและเคลื่อนไปข้างหน้าอีกเล็กน้อย ซึ่งเป็นรถคันหลังที่ไม่ทันตั้งตัวชนเข้าจังๆกับรถของเขาแทน
เจ้าของรถปอร์เช่ 911 ก็ดูเหมือนจะสังเกตเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นที่รถข้างหลังเขา แต่เขาแค่หันกลับมามองด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์และจากนั้นเขาก็ขับรถออกไป
ฉินหยุนสามารถมองเห็นแววตาที่ไม่แยแสของเจ้าของรถคันนั้นได้อย่างชัดเจน
"ให้ตายเถอะ!"
ฉินหยุนสบถออกมา เขาเปิดประตูลงมาจากรถด้วยใบหน้าเย็นชา
ในเวลานี้ ที่ด้านหลังรถของเขาก็มีคนเปิดประตูออกมาเช่นกัน แต่เป็นผู้หญิงสองคนที่ดูเหมือนจะอยู่ในวัยยี่สิบปี
"ขอโทษค่ะ ฉันขอโทษ"
พวกเธอรีบกล่าวขอโทษกันอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นฉินหยุนออกมาจากรถ
ในเวลานี้เจียงถิงรู้สึกรู้สึกหดหู่ใจมาก ในที่สุดเธอก็เรียนจบมหาลัยและก็ขอร้องให้พ่อกับแม่ซื้อรถให้เธอได้ แต่ในวันที่สามของการขับรถ เธอดันไปชนเข้ากับรถของคนอื่นเสียอย่างนั้น
แม้ว่าจะเกิดจากการเบรกอย่างกะทันหันของฉินหยุน แต่เธอก็รู้จากการสอบใบขับขี่ว่า คนที่เป็นคนชนท้ายต้องเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด
ตอนนี้เธอได้แต่ภาวนาว่าฉินหยุนจะไม่อ้าปากกัดเนื้อเหมือนกับสิงโต
"คุณคะ เรายินดีจ่ายค่าซ่อมรถของคุณให้ค่ะ" เจียงถิงมองไปที่ฉินหยุนแล้วกล่าวอย่างรวดเร็ว
"เรียกประกันมาก่อนแล้วกัน" ในตอนแรกฉินหยุนรู้สึกโมโหอยู่บ้าง แต่เมื่อเห็นหญิงสาวสองคนที่เอาแต่ขอโทษไม่หยุด เขาก็ไม่ได้กล่าวอะไรไร้สาระออกมา
สุดท้ายรถของเขาก็ถูกลากออกไป ส่วนเขากับเจียงถิงก็ได้แลกเปลี่ยนวีแชตกันเพื่อรับค่าชดเชยจากเธอ
หลังจากทำสิ่งเหล่านี้เสร็จ ฉินลู่ก็โทรมาพอดี
"เสี่ยวหยุน ตอนนี้แกอยู่ไหนน่ะ?" ฉินลู่ถามจากปลายสายด้วยรอยยิ้ม
ฉินหยุนไม่ได้กล่าวอะไรมาก เขาเรียกแท็กซี่ทันที จากนั้นไม่นานก็ไปถึงที่ที่ฉินลู่อยู่
ขณะที่เขาลงจากรถแท็กซี่ ฉินลู่และคนอื่นๆก็บังเอิญอยู่ตรงนี้พอดี
"เสี่ยวหยุน?"
เมื่อเห็นน้องชายของเธอนั่งแท็กซี่มาที่นี่ ฉินลู่ก็รู้สึกงงทันที เธอเดินเข้าไปหาและถามเขาว่า "แกไม่ได้เอารถมาเหรอ?"
เมื่อเช้าฉินหยุนยังขับรถของเขาอยู่เลย แต่เธอไม่คิดว่าตอนนี้เขาจะเปลี่ยนมานั่งแท็กซี่แทน
"รถผมถูกชนท้ายน่ะ ตอนนี้กำลังถูกลากไปซ่อมอยู่" ฉินหยุนส่ายหัวและกล่าวออกมา
เมื่อเขานึกถึงหน้าเจ้าของรถปอร์เช่คันนั้น เขาก็รู้สึกโกรธขึ้นทันที พูดตรงๆเลย การที่รถของเขาโดนชนท้ายต้นเหตุมันก็มาจากเจ้าของรถปอร์เช่คันนั้น แต่เขาไม่ได้บอกเรื่องนี้กับฉินลู่
"แกถูกชนท้ายงั้นเหรอ?" เมื่อได้ยินเช่นนี้ฉินลู่ก็ตกใจทันที เธอรีบถามว่า "เสี่ยวหยุน แกไม่ได้รับบาดเจ็บตรงไหนใช่ไหม?"
"ไม่" ฉินหยุนส่ายหัว
ฉินลู่มองดูน้องชายของเธออย่างใกล้ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บจริงๆ จากนั้นเธอก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
"เวลาขับรถแกต้องระวังให้มากหน่อยรู้ไหม ขับช้าๆลงบ้าง..." เธออดไม่ได้ที่จะจู้จี้กับเขา
"โอเคๆ ผมเข้าใจแล้ว" เมื่อฉินหยุนเห็นว่าพี่รองของเขา ฉินลู่ กำลังจะกลายเป็นจ้าวเหมยแม่ของเขา เขาก็รีบกล่าวตัดบทเธออย่างรวดเร็ว
"ยังไงก็เถอะพี่รอง พาผมไปดูหน่อยว่าบ้านใหม่ของพี่ตกแต่งกันยังไง" เขาไม่ต้องการให้เธอกล่าวอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับหัวข้อนี้อีก ดังนั้นเขาจึงรีบเปลี่ยนเรื่องทันที
จากนั้นทุกคนก็ไปที่บ้านของฉินลู่
ในเวลาไม่กี่ชั่วโมงในช่วงบ่าย ฉินลู่ หยางเย่เจิน และจ้าวเถียน ซื้อของทั้งหมดที่ต้องใช้และจัดการตกแต่งบ้านหลังใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมันดูดีขึ้นมาก
"เสี่ยวหยุน เจินเจินกับเสี่ยวเถียนอยากจะขอบคุณเรื่องที่ให้พวกเธออาศัยอยู่ที่นี่ด้วย ดังนั้นพวกเธอจึงอยากจะเลี้ยงอาหารเย็นแกน่ะ" หลังจากเดินดูสักพัก ฉินลู่ก็กล่าวขึ้น
แม้ว่านี่จะเป็นบ้านที่เธอเป็นคนเช่า แต่ทุกคนก็รู้ว่าฉินหยุนเป็นคนหาที่แห่งนี้ให้
ตอนนี้ทั้งหยางเย่เจินและจ้าวเถียนต่างก็ได้อาศัยอยู่ที่นี่ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่พวกเธอต้องการจะเชิญฉินหยุนไปทานอาหารเย็นด้วยกัน
"ว่าไงฉินหยุน นายพอมีเวลาไหม?"
หยางเย่เจินถามด้วยรอยยิ้ม
การเชิญฉินหยุนไปทานอาหารเย็น ประการแรกก็เพื่อเป็นการขอบคุณ และประการที่สองก็เพื่อเพิ่มมิตรภาพต่อกัน
เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ในปัจจุบันแล้ว น้องชายของเพื่อนร่วมชั้นฉินลู่คนนี้ น่าจะเป็นคนที่ฟ้าลิขิตมาแน่นอน เพราะเขาเพิ่งเริ่มทำธุรกิจปีนี้ปีแรกเอง!
ถ้าคิดจากการพัฒนาระดับนี้ ในอนาคตฉินหยุนจะเติบโตไปได้ไกลแค่ไหนกัน?
พวกเธอโชคดีมาก เนื่องจากพวกเธออาศัยความสัมพันธ์ของฉินลู่ การหาเพื่อนใหม่เช่นนี้จึงเป็นเรื่องง่ายมาก ซึ่งนี่อาจจะเป็นประโยชน์กับพวกเธอในอนาคต
"ได้สิ" ฉินหยุนคิดอยู่สักครู่ จากนั้นเขาก็พยักหน้า
...
บนถนนย่านการค้าในเมืองจินหลิง ในขณะนี้มีรถคันหนึ่งหยุดลง
"ว้าว ปอร์เช่ 911!"
"รถคันนี้ราคาอย่างต่ำก็หนึ่งล้านหยวนเลยใช่ไหม?"
เมื่อรถจอดสนิท บางคนที่กำลังมองดูอยู่ก็จำแบรนด์ของรถคันนี้ได้ท้นที
มีแม้กระทั่งหญิงสาวรูปร่างสูงและหน้าตาดีสองคนที่เดินเข้าไปหา ยิ้มให้ชายหนุ่มผมยาวสวมแว่นกันแดดที่นั่งอยู่ในรถ จากนั้นเธอก็กล่าวว่า "หนุ่มหล่อ ขอเพิ่มวีแชตหน่อยได้ไหม?"
เมื่อมองไปที่หญิงสาวทั้งสองคนแล้ว ชายหนุ่มผมยาวพยักหน้าพลางกล่าวด้วยรอยยิ้มเล็กน้อยว่า "แน่นอน"
หลังจากเพิ่มวีแชตกันแล้วแล้ว เขาก็ลงจากรถและเดินเข้าไปในร้านขายเสื้อผ้าที่ค่อนข้างใหญ่ตรงหน้า
"บอสจั่ว"
เมื่อเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามา ชายวัยกลางคนในวัยสี่สิบปีที่อยู่ในร้านก็เข้ามาหาพร้อมกับเอ่ยทักทายเขา
ชายหนุ่มถอดแว่นกันแดดออก แล้วออกคำสั่งกับเขาทันที "ร้านขายเสื้อผ้าของเทียนหยุนอยู่ที่ไหน พาผมไปดูหน่อย"
ชายวัยกลางคนพยักหน้าทันที จากนั้นก็นำชายหนุ่มไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง
นี่คือถนนย่านการค้าในเขตลี่สุ่ย เมืองจินหลิง ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนสาขาใหญ่
(จบตอน)
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved