ตอนที่ 91 ทายสิว่าฉันไปเจอใครมา

ผู้คนส่วนมากมักจะพยายามขวนขวายหาสิ่งที่ดีกว่าอยู่เสมอ ในเมื่อเธอได้เจอกับที่ทำงานที่ได้เงินเดือนดีกว่า หูซานซานจึงต้องการคว้าโอกาสไว้แน่นอน

"สำหรับการรับพนักงานของร้านเรานั้น เอาจริงๆก็ค่อนข้างจะเข้มงวดเลย" ฉินเสี่ยวเทาคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวออกมา

เงินเดือนของพนักงานทั่วไปในร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนคือ 5,000 หยวน ซึ่งถือว่าสูงมากกว่าทุกๆที่

ด้วยเงินเดือนที่มากขนาดนี้ แน่นอนว่าจะต้องมีหลายคนที่ถูกล่อลวงมา มีคนมากมายที่มาหาจ้าวเทียนเฉียงเพื่อสมัครงานกับเขา แต่ส่วนใหญ่กลับไม่ผ่านเกณฑ์ ซึ่งผู้ที่สามารถเข้าทำงานได้นั้นต่างก็มีรูปลักษณ์ที่ดี อายุยังน้อย และพวกเธอต่างก็มีประสบการณ์ทำงานในร้านขายเสื้อผ้ามาก่อน

เมื่อเทียบกับร้านขายเสื้อผ้าร้านอื่นๆ มาตรฐานการรับเข้าทำงานของร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนนั้นได้รับการยกระดับขึ้นอย่างมาก ดังนั้นจึงไม่ใช่ว่าใครก็ตามจะสามารถเข้าไปได้

สิ่งเหล่านี้ก็เหมือนกันเกือบทุกที่ เมื่อเงินเดือนสูงก็เป็นธรรมดาที่จะเกิดการแข่งขันแย่งชิงกันของผู้คนจำนวนมาก ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่เกณฑ์การรับสมัครพนักงานจะสูงมากขึ้น

เมื่อได้ยินสิ่งที่ฉินเสี่ยวเทากล่าว หูซานซานก็เอ่ยถามอีกครั้งว่า "ถ้าอย่างนั้น ฉันจะมีโอกาสได้ทำงานในร้านขายเสื้อผ้าของนายไหม?"

เธอมองไปที่ฉินเสี่ยวเทาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวัง

"เธออยากทำงานที่ร้านงั้นเหรอ?"

หลังจากที่หูซานซานกล่าวจบ ฉินเสี่ยวเทาก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่เขาก็รีบพยักหน้าอย่างรวดเร็วพลางกล่าวว่า "แน่นอนว่ามีโอกาส ร้านขายเสื้อผ้าของเราจะเปิดร้านใหม่สามสาขาในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ตอนนี้เราก็ยังรับสมัครพนักงานกันอยู่ ซานซาน ถ้าเธอมาสมัคร เธอจะเข้าทำงานได้อย่างแน่นอน"

ฉินเสี่ยวเทาเชื่อว่าถ้าเขาคุยกับฉินหยุน ฉินหยุนจะไม่คัดค้านเรื่องนี้อย่างแน่นอน

หูซานซานเป็นพนักงานขาย ไม่ว่าเธอจะเคยทำงานในร้านขายเสื้อผ้าหรือไม่ก็ตาม ตราบใดที่เธอมีประสบการณ์ในการขายของ คุ้นเคยกับราคาของเสื้อผ้าต่างๆ เธอจะไม่มีปัญหาใดๆในการขายเสื้อผ้าแน่นอน

เหตุผลหลักคือ มันเป็นครั้งแรกที่หูซานซานเอ่ยปากขอให้เขาช่วย ดังนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเขาจะต้องทำให้ดีที่สุด

เมื่อได้ยินคำกล่าวยืนยันของฉินเสี่ยวเทา หูซานซานก็เม้มริมฝีปากของเธอจากนั้นก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม "โอเค ฉันคงต้องขอรบกวนนายแล้วล่ะ"

"ไม่มีปัญหา" ฉินเสี่ยวเทาโบกมือของเขาอย่างรวดเร็วพลางกล่าวอีกครั้งว่า "ซานซาน ที่เธอต้องทำก็แค่รอรับการแจ้งผลการสมัครเท่านั้น"

ถ้าหากหูซานซานได้เข้าทำงานในร้านขายเสื้อผ้า เขาก็มีโอกาสที่จะได้ติดต่อกับเธอมากขึ้น

เมื่อได้ยินที่ฉินเสี่ยวเทากล่าว หูซานซานก็หัวเราะออกมาเบาๆ เธอกล่าวว่า "ฉินเสี่ยวเทา นายยังไม่ได้กินข้าวใช่ไหม เพื่อเป็นการขอบคุณ งั้นฉันเลี้ยงมื้อค่ำนายก็แล้วกัน"

"โอ้..เอ่อ..ได้!" เมื่อได้ยินหูซานซานเอ่ยปากชวนเขาไปทานข้าว ฉินเสี่ยวเทาก็ตื่นเต้นขึ้นทันที เห็นได้ชัดว่าโอกาสของเขากับหูซานซานใกล้เข้ามาแล้ว

...

ณ ชั้นที่สิบสามของอาคารสำนักงาน ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่บริษัทจวินชิง นี่คือถนนย่านที่พลุกพล่านที่สุดในเมืองจินหลิง

ในเวลานี้ เฝิงเทียนจวินซึ่งสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกำลังคุยโทรศัพท์กับบางคนอยู่ เมื่อพนักงานคนอื่นๆในบริษัทเดินมาเห็นเฝิงเทียนจวิน แววตาของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความเคารพยกย่อง

ชายหนุ่มคนนี้สามารถสร้างกำไรให้บริษัทได้นับสิบล้านภายในเวลาสามปี และความสามารถทางธุรกิจของเขาไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาได้จากคนหนุ่มทั่วไป

แต่ในเวลานี้ คิ้วของเฝิงเทียนจวินกำลังขมวดมุ่นเล็กน้อย

หลังจากพูดคุยกับปลายสายอีกสองสามคำเขาก็กดวางสายไป

"เกิดอะไรขึ้นเหรอ?" ไม่ไกลนัก เซียวเฉียนเฉียนก็เดินถือถ้วยกาแฟเข้ามา จากนั้นก็ส่งมันให้เฝิงเทียนจวิน

เฝิงเทียนจวินขมวดคิ้วเล็กน้อยและกล่าวว่า "เมื่อครู่นี้จางฉินเยว่โทรมา เธอบอกว่ารางวัลรถยนต์ของร้านเสื้อผ้าจวินชิงถูกจับออกไปแล้ว และคนที่ได้ไปคือเจ้าของร้านเสื้อผ้าเทียนหยุน"

"ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุน?"

หลังจากที่ได้ยิน เซียวเฉียนเฉียนก็กล่าวว่า "นี่ใช่ร้านขายเสื้อผ้าที่คุณพูดถึงก่อนหน้านี้ไหม ที่ว่ามีธุรกิจดีที่สุดในถนนย่านการค้าน่ะ?"

ตอนนี้เธอรับผิดชอบดูแลร้านอาหารส่วนใหญ่ภายใต้แบรนด์จวินชิงอยู่ และเธอก็ไม่ได้เข้าไปแทรกแซงในเรื่องร้านขายเสื้อผ้าเลย ซึ่งเรื่องนี้เฝิงเทียนจวินเป็นคนจัดการเอง และเขาได้มอบอำนาจส่วนใหญ่ให้กับจางฉินเยว่เป็นคนจัดการดูแลด้วย เพราะอย่างนั้นเธอจึงไม่ค่อยรู้รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก

"เป็นร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนร้านนั้นนั่นแหละ"

เฝิงเทียนจวินส่ายหัวพลางกล่าวว่า "ถ้าเป็นคนอื่นได้มันไป จางฉินเยว่มีหลายวิธีที่จะทำให้ผู้ที่จับรางวัลได้ร่วมมือกับเราในการโฆษณาร้าน แต่กับร้านขายเสื้อผ้าเทียนหยุนนั้นเป็นไปไม่ได้เลย"

ทั้งสองฝ่ายต่างก็เป็นคู่แข่งกัน ถ้าหากว่าร้านเสื้อผ้าจวินชิงเกิดปัญหาบางอย่างขึ้น มันก็ดีเท่าไรแล้วที่ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนจะไม่สร้างปัญหาให้เพิ่ม เพราะงั้นจะหวังให้พวกเขามาช่วยโฆษณาร้านได้อย่างไร?

"เมื่อกี้จางฉินเยว่โทรมา เธอถามว่าเราจะให้รางวัลเป็นรถยนต์อีกคันกับเธอได้ไหม" กล่าวจบเฝิงเทียนจวินก็รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย

สำหรับคนอื่นเป็นเรื่องยากมากที่จะกล้าแจกรถยนต์หนึ่งคันตั้งแต่เปิดร้านครั้งแรก นับประสาอะไรกับแจกรถเพิ่มคันที่สอง

อย่างไรก็ตาม นี่คือการก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมเสื้อผ้าครั้งแรกของบริษัทจวินชิง และจะต้องใช้ความนิยมของลูกค้า เพื่อให้แผนการขยายตัวที่ตามมาสามารถดำเนินการไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น

"คุณจะทำยังไงต่อ?" เซียวเฉียนเฉียนเอ่ยถาม

เฝิงเทียนจวินนั้นยอดเยี่ยมมากจริงๆ แม้แต่เธอเองก็ยังไม่เคยเห็นว่าเขาแสดงความหงุดหงิดออกมาเลยสักครั้ง

เฝิงเทียนจวินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็กล่าวว่า "ไม่ว่ายังไงก็ตาม ชื่อของร้านเสื้อผ้าจวินชิงจะต้องดังก้องและติดหูอยู่ได้นานหนึ่งเดือน!"

"ดังนั้นต้องใช้รถคันที่สอง! นอกจากนี้ให้แผนกประชาสัมพันธ์ทางช่องทางออนไลน์ของเราติดต่อนักรีวิวชื่อดังในเมืองจินหลิง ให้พวกเขาไปที่ร้านเพื่อถ่ายทอดสดและโปรโมทร้านเสื้อผ้าจวินชิงผ่านทางโต่วอิน!"

ตอนนี้เป็นยุคอินเทอร์เน็ต และการติดต่อสื่อสารของผู้คนในแพลตฟอร์มต่างๆก็เป็นลักษณะเฉพาะของยุคอินเทอร์เน็ตนี้ ถ้าใช้งานมันได้ดี จวินชิงก็จะเหมือนกับคนดังทางอินเทอร์เน็ตเหล่านั้น ร้านขายเสื้อผ้าของเขาก็จะระเบิดความนิยมขึ้น ดังนั้นเฝิงเทียนจวินจึงมีความมั่นใจมากที่จะเร่งดำเนินการตามแผนของเขาให้เร็วขึ้น

"ตกลง ฉันจะจัดการให้เดี๋ยวนี้" เซียวเฉียนเฉียนพยักหน้า

...

มหาลัยเจียงหยวน ห้องพัก 406 ในหอพักนักศึกษาหญิง

ในเวลานี้ จางเสี่ยวเยว่และคนอื่นๆ ต่างก็อยู่ในห้องพักกันทั้งหมดยกเว้นจ้าวฉิงคนเดียว

จางเสี่ยวเยว่กำลังสนทนากับหลี่หานอวี่ ขณะที่เจียงอีกำลังสนทนากับจ้าวคังฮ่าว พวกเขาพูดคุยกันผ่านทางวีแชต

ทันใดนั้นจางเสี่ยวเยว่ก็มองไปที่เจียงอีและเอ่ยถามว่า "อีอี ตอนนี้เธอกำลังคบกับจ้าวคังฮ่าวอยู่ใช่ไหม?"

เมื่อได้ยินคำกล่าวของเธอ หลายคนในห้องพักก็มองไปที่เธอทันที

"อีอี เธอกำลังมีความรักงั้นเหรอ?"

"เธอปกปิดมันไว้ดีเกินไปไหมเนี่ย! เราแทบไม่รู้เลยด้วยซ้ำ"

หลินเมิ่งเมิ่งและคนอื่นๆกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เจียงอีนั่งไขว่ห้างอยู่บนเตียง เอ่ยเสียงเรียบๆว่า "เอะอะอะไรกัน ก็แค่มีแฟนเอง"

"ว้าว เรื่องจริงสินะ!"

"จ้าวคังฮ่าวสารภาพรักเมื่อไร บอกมาเร็วๆเลย!"

เมื่อได้ยินคำกล่าวของเจียงอี ห้องพัก 406 ก็เดือดปุดๆขึ้นทันที ตอนแรกหลินเมิ่งเมิ่งกับคนอื่นๆก็แค่ถามเล่นๆเท่านั้น แต่พวกเธอไม่คิดว่ามันจะเป็นจริง

ใบหน้าของพวกเธอเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นเรื่องซุบซิบพวกนี้ และพวกเธอก็พากันเอ่ยถามออกมาเรื่อยๆ

"เมื่อวาน เราคุยกันตั้งแต่หลายวันก่อน ฉันเห็นว่าเขานิสัยดี ดังนั้นก็เลยให้โอกาสเขา" เจียงอีกล่าวด้วยรอยยิ้มโดยไม่ออกอาการเขินอายเลยสักนิด

"ว้าว!"

เมื่อได้ยินคำกล่าวของเธอ เหล่าสาวๆในห้องพักก็ยิ่งตื่นเต้นขึ้นมากกว่าเดิม

"ถ้าเป็นแบบนี้ก็หมายความว่า ห้องพักของเราและห้องพักทางฝั่งของหลี่หานอวี่ก็มีคู่รักสองคู่แล้วน่ะสิ" รุ่ยเฉินฉีหญิงสาวตัวเล็กและน่ารักถอนหายใจออกมา

จางเสี่ยวเยว่กับหลี่หานอวี่เป็นคู่รักกัน และตอนนี้เจียงอีกับจ้าวคังฮ่าวก็กลายเป็นคู่รักกันอีกคู่แล้ว

หลังจากที่เธอกล่าวจบเธอก็มองไปที่หลินเมิ่งเมิ่ง น่าเสียดายที่หลินเมิ่งเมิ่งกับฉินหยุนเกือบจะได้เป็นคู่รักกัน

ในเวลานี้ เจียงอีก็มองไปที่หลินเมิ่งเมิ่งเช่นกัน แต่ในใจของเธอรู้สึกถอนหายใจเล็กน้อย

เมื่อวานนี้เธอกับจ้าวคังฮ่าวได้ยืนยันความสัมพันธ์ของพวกเขาเรียบร้อยแล้ว เธอลองสืบดูและพบว่าเขาเป็นคนนิสัยค่อนข้างดี ที่สำคัญคือ สภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวของเขาก็ดีมากเช่นกัน

ในความคิดของเธอ สาวๆเหล่านี้ในห้องพักยังคงไร้เดียงสาเกินไป และพวกเธอไม่รู้จักการมองหาหุ้นที่มีศักยภาพเลย

เช่นเดียวกับฝั่งหอพักของฉินหยุน หลี่หานอวี่สามารถเขียนนิยายจนมีรายได้ประมาณ 6,000 หยวนต่อเดือน นี่ก็ถือว่าพอใช้ได้ ถ้าคำนวนรายปีมันก็จะได้ประมาณ 70,000 หยวน และภายในสี่ปีมันก็จะได้ประมาณ 300,000 หยวน

แต่ที่จินหลิงมีเงิน 300,000 เอาไปทำอะไรได้บ้าง? ในเมืองจินหลิงเงินจำนวนนี้ใช้จ่ายค่าดาวน์สำหรับซื้อบ้านยังไม่ได้เลยด้วยซ้ำ!

ส่วนฉินหยุน เขาหล่อก็จริง แต่เมื่อดูจากเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ สภาพครอบครัวของเขาน่าจะอยู่แค่ระดับปานกลางเท่านั้น ก่อนหน้านี้เธอก็ยังเคยถามหลินเมิ่งเมิ่งเกี่ยวกับเขตชิงอู๋มาแล้วด้วย

นั่นเป็นแค่สถานที่เล็กๆที่ไม่ถือว่าเป็นเมืองชั้น 5 ด้วยซ้ำ จะมีคนรวยสักกี่คนที่จะปรากฏตัวขึ้นในสถานที่แห่งนั้น?

ในทางตรงกันข้าม ถ้าไม่นับรูปร่างหน้าตาที่ดูธรรมดาของเขานิดหน่อยแล้ว จ้าวคังฮ่าวนั้นดีกว่าเฉิงต้าสงและโจวผานมาก ส่วนในด้านอื่นๆ แม้แต่ฉินหยุนและหลี่หานอวี่ เธอก็คิดว่าพวกเขาด้อยกว่าจ้าวคังฮ่าวด้วยเช่นกัน

หลินเมิ่งเมิ่งต้องเศร้าไปหลายวันเพราะฉินหยุน แม้แต่ตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าเธอจะยังไม่ยอมแพ้ ซึ่งเจียงอีรู้สึกว่าเธอไร้เดียงสาเกินไป

ทันใดนั้นประตูห้องพักก็เปิดออกอย่างรวดเร็ว

"จ้าวฉิง กลับมาแล้วเหรอ?" เมื่อมองไปที่หญิงสาวที่เดินเข้ามา จางเสี่ยวเยว่ก็ยิ้มพลางเอ่ยถาม

"อ่าาา ขนมของฉัน!" รุ่ยเฉินฉีโห่ร้องพลางลุกขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็ว

จ้าวฉิงยิ้มและยื่นถุงขนมในมือไปให้รุ่ยเฉินฉี จากนั้ก็กล่าวว่า "เสี่ยวฉี เธอบอกว่าอยากลดน้ำหนักไม่ใช่เหรอ กินขนมเยอะขนาดนี้ ระวังน้ำหนักจะขึ้นเอานะ"

"เหอะ! ถ้าฉันไม่กินอาหารให้เพียงพอ ฉันก็จะไม่มีแรงไว้ใช้ลดน้ำหนักไงล่ะ" รุ่ยเฉินฉีฮัมเพลงพลางฉีกซองบิสกิตแล้วกินอย่างเอร็ดอร่อย

เมื่อมองดูผู้คนในหอพัก จู่ๆจ้าวฉิงก็กล่าวขึ้นอย่างลึกลับว่า "วันนี้ฉันไปที่ย่านถนนการค้ามา พวกเธอรู้ไหมว่าฉันไปเจอใคร?"

(จบตอน)