ตอนที่ 236 ภัยอันตรายที่ซ่อนเร้นอยู่ในเทียนหยุน

ไม่เพียงแค่หลี่ชิงชิงเท่านั้น แต่ในขณะนี้หญิงสาวที่อยู่รอบๆฉินเสี่ยวหรูก็ตกตะลึงเช่นกัน

ตอนเดินเข้ามาทีแรกพวกเธอยังไม่รู้ว่าใครคือผู้จัดการสวี แต่พวกเธอก็รู้ได้ทันทีเมื่อหลี่ชิงชิงเอ่ยเรียกเธอ

พวกเธอก็ไม่ได้โง่เช่นกัน หลังจากที่ได้เห็นฉากตรงหน้าแต่ละคนต่างก็กำลังคิดในใจ พี่ชายของฉินเสี่ยวหรูคือเจ้าของของเทียนหยุน

"เสี่ยวหรู ฉันไปก่อนนะ มีบางอย่างที่ต้องทำพอดี พวกเธอตามสบายกันเลย" ฉินหยุนกล่าวด้วยรอยยิ้มในขณะที่เขาเอ่ยช่วยฉินเสี่ยวหรูจบ

หลังจากที่เขาพูดจบเขาก็เดินออกจากร้านไป เพราะเขาต้องไปที่ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนอีกสองร้านที่เหลือเพื่อจัดวางค่ายกลรวบรวมโชคลาภ

ในเวลานี้ สาวๆที่อยู่ข้างๆฉินเสี่ยวหรูก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า "เสี่ยวหรู พี่ชายของเธอเป็นบอสของเทียนหยุนงั้นเหรอ?"

พวกเธอรู้สึกไม่อยากจะเชื่อเลย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาเมื่อสักครู่นี้มันก็เป็นเรื่องจริง

ถ้าไม่เช่นนั้นผู้จัดการร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนที่ขนาดใหญ่เช่นนี้จะแสดงความเคารพต่อฉินหยุนได้อย่างไร

"ใช่แล้ว เสี่ยวหลินเธออย่าไปบอกใครนะ"

ฉินเสี่ยวหรูพยักหน้าแล้วรีบเอ่ยเตือน

"เรารู้แล้ว!"

หญิงสาวที่ถูกเรียกว่าเสี่ยวหลินและคนอื่นๆพยักหน้าทันทีเมื่อได้ยินคำตอบยืนยัน ใบหน้าของพวกเธอเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

"เสี่ยวหรู พี่ชายของเธอสุดยอดมาก!"

พวกเธอยังคงอุทานออกมาเรื่อยๆ ดูเหมือนว่าจะตื่นเต้นมากกว่าฉินเสี่ยวหรูเสียอีก

ในอีกด้านหนึ่ง หลี่ชิงชิงมีสีหน้าหมองคล้ำ

"ชิงชิง เป็นอะไรไป เมื่อกี้ลูกพี่ลูกน้องของเธอพูดอะไรเหรอ?"

"พี่ชายของเสี่ยวหรูดูเหมือนจะรู้จักลูกพี่ลูกน้องของเธอเลย"

หญิงสาวคนอื่นๆที่เมื่อสักครู่ยืนมองจากระยะไกล พวกเธอก็มองไปที่หลี่ชิงชิงที่มีท่าทางซึมเซาพลางเอ่ยถามอย่างสงสัย

แต่ไม่ว่าพวกเธอจะถามอะไรหลี่ชิงชิงก็ไม่ตอบเลย เธอมองไปที่ฉินเสี่ยวหรูด้วยสายตาหวาดกลัวและเธอก็ไม่กล้าที่จะยั่วยุอีกฝ่ายอีกต่อไป

...

หลังจากการจัดวางค่ายกลรวบรวมโชคลาภทั้งสามจุดเสร็จสิ้น ฉินหยุนก็เดินทางกลับไปที่จินหลิงอีกครั้ง

เขาแอบคิดในใจว่า "ตอนนี้ในมณฑลเจียงซูมีร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนทั้งหมดยี่สิบเอ็ดสาขาแล้ว ภายใต้อิทธิพลของค่ายกลรวบรวมโชคลาภผลกำไรก็ยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่สิ่งที่ฉันกังวลมันคืออะไรกัน?"

ยิ่งเทียนหยุนพัฒนาขึ้น เขาก็ดูเหมือนว่าจะกังวลมากขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน ราวกับว่ามีอันตรายบางอย่างที่ซุ่มซ่อนอยู่กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

อันที่จริงด้วยค่ายกลรวบรวมโชคลาภมันควรจะไม่มีสิ่งใดให้ต้องกังวลเลย และด้วยร้านค้าที่ซื้อด้วยเงินสดเต็มจำนวน เขาก็ยิ่งถือว่าอยู่ยงคงกระพัน ก่อนหน้านี้หานลู่ก็เคยงัดทุกไม้ตายออกมา แต่มันก็ส่งผลกระทบน้อยมาก

ตรงกันข้าม ตอนนี้เทียนหยุนเป็นฝ่ายที่กดดันพวกเขาทุกย่างก้าว!

จากแนวทางการพัฒนาเช่นนี้ เทียนหยุนจะสามารถขยายตัวต่อไปได้อย่างต่อเนื่องแน่นอน และในอนาคตก็จะกลายเป็นแบรนด์ชั้นนำในที่สุด!

แต่อันตรายที่ซ่อนอยู่นั้นมันคืออะไร?

...

ที่อาคารสำนักงานของหานลู่ ซุนเฉียนมองดูเอกสารที่วางอยู่ตรงหน้าเธอ

เมื่อสักครู่เธอเพิ่งได้ทราบข่าวว่าข้างๆร้านเสื้อผ้าหานลู่ทั้งสองแห่งในเมืองมู่อี้ เทียนหยุนปรากฏตัวขึ้นอีกแล้ว!

ในมณฑลเจียงซู หานลู่มีร้านขายเสื้อผ้าทั้งหมดเกือบ 30 แห่ง 11 แห่งถูกปิดตัวลงเนื่องจากการแข่งขันกับเทียนหยุน และอีก 16 แห่งที่เหลือก็มีประมาณครึ่งหนึ่งที่กำลังถูกรายล้อมไปด้วยร้านขายเสื้อผ้าที่เปิดโดยเทียนหยุน

"ผู้อำนวยการซุน เราจะทำยังไงดีครับ? ถ้าหากเทียนหยุนยังคงขยายตัวเช่นนี้ ภัยคุกคามต่อหานลู่ก็จะยิ่งใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆนะครับ"

ข้างๆเธอ ผู้จัดการหลินหู่เอ่ยถาม

ซุนเฉียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นส่ายหัวแล้วพูดว่า "ไม่ต้องกังวล แม้ว่าเทียนหยุนจะยังพัฒนาต่อไป แต่มันก็อาจจะไม่ใหญ่มากนัก อย่างมากสุดเมื่อไปถึงระดับหนึ่งพวกเขาก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อถึงตอนนั้นก็จะไม่เป็นอันตรายต่อหานลู่ของเราแล้ว"

หลินหู่ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง เขามองไปที่ซุนเฉียนด้วยความสับสน

ซุนเฉียนไม่ได้อธิบายให้เขาฟัง เธอกล่าวถึงอีกเรื่องทันที "แล้วการติดต่อกับผู้คนจากโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าเทียนหยุนเป็นยังไงบ้าง?"

"เราได้ติดต่อพวกเขาแล้วครับ และพวกเขาส่วนใหญ่ก็ยินดีที่จะเข้าร่วมกับหานลู่ของเรา" หลินหู่กล่าว

"ฉันรู้อยู่แล้วว่าเราสามารถเกลี้ยกล่อมพวกเขาได้อย่างง่ายดาย"

ซุนเฉียนยิ้ม

...

หลังจากขับรถกลับมาที่จินหลิงแล้ว ฉินหยุนก็ตรงไปที่ร้านอาหารทันทีเขาได้นัดทานอาหารเย็นกับฉินลู่ไว้

"พี่รอง พี่ยังเหลือเวลาในการฝึกงานอีกสองเดือนใช่ไหม?" ฉินหยุนถามด้วยรอยยิ้ม

ตอนนี้ฉินลู่อยู่ปีสุดท้ายแล้ว โจวซินหยาจากโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าเทียนหยุนและถังเซี่ยวเซี่ยวเพื่อนของเธอก็อยู่ปีสุดท้ายเช่นกัน ตอนนี้พวกเธอต่างก็เป็นนักศึกษาฝึกงาน เมื่อไม่กี่วันก่อนโจวซินหยาได้บอกกับเขาแล้ว และในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมเธอก็จะออกจากโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าสักพัก เพราะต้องกลับไปที่มหาลัยเพื่อเตรียมเขียนวิทยานิพนธ์รับปริญญา

"ใช่ อีกไม่นานพี่ก็จะจบจากมหาลัยแล้ว" ฉินลู่ถอนหายใจ

"พี่รอง ที่มหาลัยพี่มีผู้ชายที่ชอบหรือยัง?"

"นี่แกหาเรื่องทะเลาะเหรอเสี่ยวหยุน แกกล้าแหย่พี่งั้นเหรอ" เมื่อฉินลู่ได้ยินคำถามนี้ เธอก็จ้องเขม็งไปที่น้องชายของเธอ

นอกจากพวกเขาทั้งคู่แล้ว ที่นี่ก็ยังมีหยางเย่เจินและจ้าวเถียนอยู่ด้วย ในใจของพวกเธอรู้สึกอิจฉาฉินลู่มาก ตอนนี้ธุรกิจของฉินหยุนเติบโตขึ้นเรื่อยๆแล้ว เพื่อนของพวกเธอโชคดีมากจริงๆที่มีน้องชายสุดเทพแบบนี้

ตื้ด...

ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกัน จู่ๆโทรศัพท์มือถือของฉินหยุนก็ดังขึ้นขัดจังหวะ เมื่อเขามองดูก็พบว่ามันเป็นสายจากจ้าวเทียนเฉียง

"ฮัลโหล"

หลังจากกดรับสายโทรศัพท์ ฉินหยุนก็ฟังจ้าวเทียนเฉียงเอ่ยรายงานเรื่องต่างๆออกมา ตอนแรกสีหน้าของเขายังเต็มไปด้วยความผ่อนคลายแต่จากนั้นมันก็กลายเป็นจริงจังขึ้น

หลังจากคุยโทรศัพท์ได้สักพักเขาก็กดวางสายไป

"เกิดอะไรขึ้นเหรอเสี่ยวหยุน?" เมื่อเห็นสีหน้าของฉินหยุนเปลี่ยนไป ฉินลู่ก็อดไม่ได้ที่จะถามอย่างเป็นกังวลว่า "มีเรื่องอะไรผิดปกติหรือเปล่า?"

"เปล่าหรอกพี่รอง แค่เรื่องเล็กๆน้อยๆน่ะ"

ฉินหยุนยิ้มพลางพูดว่า "พี่รอง พวกพี่ค่อยๆกินข้าวกันไปก่อนนะ ผมจะเข้าไปดูที่โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าหน่อย"

หลังจากเอ่ยกับพวกฉินลู่แล้ว ฉินหยุนก็มาที่โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว

"บอสฉิน"

ในเวลานี้จ้าวเทียนเฉียงก็อยู่ที่นี่แล้ว เมื่อเขาเห็นฉินหยุนเขาก็รีบเดินเข้ามาหาทันที

"เกิดอะไรขึ้น ทำไมคนในโรงงานถึงลาออกพร้อมกัน?" เขาถาม

ตอนนี้เป็นช่วงเดือนมีนาคมและโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าในจินหลิงได้ทำการขยายฐานการผลิตครั้งแรกเรียบร้อยแล้ว ในเวลานี้ภายในโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้ามีพนักงานมากถึง 100 คน ส่วนจำนวนของดีไซน์เนอร์ก็มีมากถึง 18 คน!

แต่ตอนนี้ดีไซน์เนอร์กลับลาออกพร้อมกันทีเดียว 5 คน แถมพวกเขาก็ไม่ใช่พนักงานใหม่แต่ล้วนเป็นพนักงานเก่า

"บอสฉินครับ หานลู่เป็นคนขุดพวกเขาไป" จ้าวเทียนเฉียงกล่าว

เมื่อได้ยินเช่นนี้ จู่ๆฉินหยุนก็แสดงท่าทางเย้ยหยัน "เหอะ พวกหานลู่นี่ไม่ยอมแพ้เลยจริงๆ"

ก่อนหน้านี้หานลู่ก็เคยขุดคนจากเทียนหยุนไปแล้ว แต่เขาไม่คาดคิดว่าตอนนี้พวกเขาก็ยังจะพยายามขุดต่อ

"บอสฉิน พนักงานเก่าหลายคนลาออกติดต่อกัน ทำให้ดีไซน์เนอร์คนใหม่ๆรู้สึกกระสับกระส่ายและค่อนข้างสับสนเล็กน้อย" จ้าวเทียนเฉียงกล่าวขึ้นอีกครั้ง

"ไม่ต้องกังวล" ฉินหยุนโบกมือพร้อมกับพูดว่า "การลาออกของพนักงานไม่กี่คนไม่สามารถส่งผลกระทบใดๆต่อเราเลย"

ล้อเล่นหรือไง เขามีค่ายกลรวบรวมโชคลาภอยู่กับตัวนะ แม้ว่าเขาจะมีดีไซน์เนอร์อยู่แค่เพียงคนเดียวก็ตาม เสื้อผ้าที่ออกแบบมามันก็จะขายได้แน่นอน ดังนั้นเขาจึงไม่กังวลอะไรทั้งสิ้น

ถึงพนักงานจะพากันลาออก เขาก็ยังสามารถรับสมัครใหม่ได้เรื่อยๆ กำไรของเขาแทบจะไม่ได้รับผลกระทบจากสิ่งนี้เลย!

หลังจากดูที่โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้ารอบหนึ่งแล้ว เขาก็เรียกผู้บริหารระดับสูงมาประชุมนิดหน่อย จากนั้นฉินหยุนก็จากไปอีกครั้ง

ขณะขับรถไปตามถนน ฉินหยุนก็เอาแต่คิดถึงเรื่องที่โรงงาน

"เทียนหยุนไม่ต้องกังวลกับการที่หานลู่มาแย่งคน ถ้าหากขาดคน ฉันก็ยังรับสมัครใหม่ได้ ด้วยค่ายกลรวบรวมโชคลาภ ตราบใดที่ดีไซน์เสื้อผ้าพอดูได้ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีใครซื้อ ต่อให้ผู้จัดการร้านลาออกก็ยังไม่เป็นอะไรเลย"

"แต่เรื่องของผู้มีความสามารถก็ยังต้องค่อยๆจัดการ"

"ในอนาคตเทียนหยุนจะยังคงขยายสาขาและครอบครองตลาดของมณฑลเจียงซูทั้งหมด จากนั้นจึงค่อยๆขยายไปยังเมืองหลวงของมณฑลอื่นๆต่อ เมื่อถึงเวลานั้นเราก็จะสามารถรับสมัครผู้มีความสามารถเพิ่มเติมมาจากบริษัทอื่นๆได้..."

เขากำลังคิดอย่างเงียบๆ

"ด้วยระบบและค่ายกลรวบรวมโชคลาภ เสื้อผ้าที่ออกแบบโดยผู้มีพรสวรรค์เหล่านั้นอาจจะกลายเป็นสินค้ายอดนิยมได้อย่างง่ายดาย... ด้วยระบบและค่ายกล...ระบบและค่ายกล ... "

ฉินหยุนกำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ทันใดนั้นเขาก็ต้องตกตะลึงขึ้น!

(จบตอน)