ในเวลานี้ฉินหยุนที่น่าจะต้องกำลังเสื่อมโทรมอย่างที่ทุกคนคิด เขากลับอยู่ในร้านอาหารจีน
ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงฉินลู่และฉินเสี่ยวเทาด้วย
ที่นั่งข้างๆฉินเสี่ยวเทาก็คือหูซานซาน แฟนสาวของเขา
"พี่เสี่ยวเทา สองวันนี้พักผ่อนให้เต็มที่เลย อย่าลืมใช้เวลากับแฟนของพี่ด้วยนะ" ฉินหยุนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ข้างๆฉินเสี่ยวเทา หูซานซานกำลังมองไปที่ฉินหยุน
เธอทำงานอยู่ในร้านขายเสื้อผ้ามาเป็นเวลาสองเดือนแล้ว และสิ่งที่เธอได้ยินมากที่สุดในร้านก็คือคำว่าฉินหยุนสุดยอดมาก ไม่มีพนักงานสาวๆคนไหนในร้านเลยที่จะไม่ซูฮกฉินหยุน
ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ แม้ว่าเธอจะเป็นแฟนของฉินเสี่ยวเทา แต่เธอก็ต้องสำรวมและอดรู้สึกประหม่าไม่ได้เมื่อเผชิญหน้ากับฉินหยุน
นักศึกษาปี 1 อายุ 18 ปีคนนี้มีอาชีพการงานที่ยอดเยี่ยมมาก และไม่ว่าใครๆต่างก็สามารถจินตนาการถึงรัศมีที่แผ่ออกมาอยู่รอบๆตัวเขาได้
ในความรู้สึกของเธอ เธอและฉินหยุนเหมือนกับว่าเป็นคนจากสองโลก
เช่นเดียวกับที่คนส่วนใหญ่ได้เห็นแจ็คหม่าเดินอยู่บนท้องถนน โดยปกติแล้วพวกเขาต่างก็รู้สึกว่าทั้งสองต้องไม่ได้อยู่ในโลกใบเดียวกัน
แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาฉินหยุนในตอนนี้ไปเปรียบเทียบกับแจ็คหม่า แต่เธอก็รู้สึกว่าพวกเขาคล้ายกันเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าตอนนี้ฉินหยุนก็ไม่ได้แตกต่างจากคนทั่วไป
ก่อนหน้านี้ตอนที่ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนแข่งขันกับแบรนด์เสื้อผ้าหานลู่อยู่ หลายๆคนในร้านได้ตรวจสอบข้อมูลของแบรนด์เสื้อผ้าหานลู่คร่าวๆ และเมื่อพวกเธอได้รู้ คนทั้งหมดต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนอาจจะอยู่ได้อีกไม่นาน
แบรนด์เสื้อผ้าในเครือของบริษัทที่มีมูลค่าตลาดมากกว่าหนึ่งพันล้าน สิ่งนี้คืออะไร?
เจอคู่ต่อสู้แบบนี้จะมีสักกี่คนที่จะสามารถต้านทานการปราบปรามจากพวกเขาได้?
แน่นอน หลังจากยืนหยัดมาเป็นเวลา 20 วัน ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนก็ปิดตัวลง และร้านขายเสื้อผ้าทั้ง 9 สาขาก็ปิดตัวไปเกือบจะพร้อมๆกัน ซึ่งตอนนี้ทางร้านก็ได้ประกาศปล่อยเซ้งเรียบร้อยแล้ว
เจ้าของที่ของร้านค้าก็ไม่เต็มใจที่จะคืนเงินค่าเช่าให้ ดังนั้นฉินหยุนจึงทำได้เพียงหาคนมาเซ้งต่อ
พวกเธอรู้เรื่องเหล่านี้เช่นกัน เมื่อตอนที่พนักงานในร้านได้ยินการสนทนาระหว่างเจ้าของที่กับฉินหยุน
ในมุมมองของหูซานซาน เมื่อมีแบรนด์เสื้อผ้าหานลู่อยู่เบื้องหลัง เป็นไปไม่ได้เลยที่ฉินหยุนจะหาคนมารับช่วงต่อร้านค้าได้ ดังนั้นเงินค่าเช่าเหล่านั้นจึงไร้ประโยชน์ไปแล้ว
หลังจากการแข่งขันครั้งนี้ ไม่รู้ว่าตอนนี้ฉินหยุนจะยังเหลือเงินอีกเท่าไร
ชายหนุ่มที่ได้ก้าวขึ้นไปบนจุดสูงสุด กลับตกลงมาจากที่ตรงนั้นในเวลาอันสั้น
ในเวลานี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาที่แสดงออกมา หูซานซานสังเกตเห็นว่ามันเป็นรอยยิ้มที่ฝืนๆเล็กน้อย
"เสี่ยวหยุน" ขณะที่มองไปที่ฉินหยุน ฉินเสี่ยวเทาก็กล่าวว่า "ตอนนี้เงินในร้านอาจจะไม่พอใช้จ่าย ทำไมนายไม่ขายรถคันที่ฉันขับอยู่ตอนนี้ล่ะ?"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินหยุนก็ยิ้มและกล่าวว่า "พี่เสี่ยวเทา สถานการณ์ในร้านไม่ได้แย่อย่างที่คิด เดี๋ยวอีกสองวันพี่ก็รู้เอง"
ยกเว้นฉินลู่ เขาไม่ได้เปิดเผยเรื่องการซื้อร้านค้าทั้ง 12 แห่งกับใครเลย
มันเป็นช่วงเวลาสุดท้ายแล้ว ‘ความประหลาดใจครั้งใหญ่’ สำหรับแบรนด์เสื้อผ้าหานลู่นี้ จะถูกเปิดเผยก่อนที่จะเตรียมการให้พร้อมอย่างเต็มที่ได้อย่างไร?
เมื่อได้ยินสิ่งที่ฉินหยุนกล่าว ฉินเสี่ยวเทาก็ได้แต่พยักหน้า
หลังจากทานอาหารกันเสร็จ ฉินเสี่ยวเทาและหูซานซานก็จากไป
ขณะเดินอยู่บนถนน หูซานซานก็เอ่ยถามว่า "เสี่ยวเทา ตอนนี้ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนก็ปิดไปแล้ว ต่อจากนี้นายจะไปหางานอะไรทำ?"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินเสี่ยวเทาก็ผงะไปทันที เขากล่าวว่า "ซานซาน เสี่ยวหยุนไม่ได้บอกให้เรารอเขาแจ้งหรอกเหรอ ฉันจะยังทำงานอยู่ที่ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนต่อ"
เมื่อได้ยินสิ่งที่เขากล่าว หูซานซานก็ไม่พอใจและกล่าวสวนว่า "นายยังดูสถานการณ์ไม่ออกอีกเหรอ ถ้ายังมีร้านเสื้อผ้าหานลู่ตั้งอยู่ที่นี่ ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนก็จะไม่สามารถเปิดได้อย่างแน่นอน ถ้านายไม่รีบหางานตอนนี้ นายจะมัวเสียเวลาอยู่ทำไม"
สำหรับฉินเสี่ยวเทา เธอตกลงเป็นแฟนกับเขาหลังจากที่พิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว
ในความคิดของเธอ ฉินเสี่ยวเทาถือว่าเป็นผู้สมัครที่ค่อนข้างเหมาะสม เขาซื่อสัตย์และปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี โดยทั่วไปแล้ว เขาจะฟังทุกอย่างที่เธอพูด
นอกจากนี้ ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว และเงินเดือนของฉินเสี่ยวเทาก็เพิ่มขึ้นมากเช่นกัน ซึ่งตอนนี้ก็อยู่ที่ 8,000 หยวนต่อเดือนแล้ว
ในอนาคตเมื่อดูจากความสัมพันธ์ของเขากับฉินหยุน เงินเดือนของเขาก็น่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่านี้อย่างแน่นอน
ตอนแรกที่เธอตกลงยอมคบกับฉินเสี่ยวเทา ก็เพราะศักยภาพของเขา
แต่หลังจากที่เธอได้อยู่กับเขาแล้ว เธอก็รู้สึกพอใจกับฉินเสี่ยวเทามาก
อย่างน้อย ถ้าพวกเขาทั้งคู่แต่งงานกันจริงๆ คนอย่างฉินเสี่ยวเทาก็จะดูแลเอาใจใส่เธอ และมอบทุกอย่างที่เขามีให้เธอแน่นอน
เมื่อก่อน ศักยภาพเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่ตอนนี้ถ้ามองในแง่มุมอื่นๆพวกมันก็สำคัญไม่แพ้กันเลย
ดังนั้นแม้ว่าร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนจะปิดตัวลงและฉินเสี่ยวจะกลายเป็น ‘คนว่างงาน’ เธอก็ไม่ได้ที่จะบอกเลิกเขาทันที
เมื่อได้ยินคำกล่าวของหูซานซาน ฉินเสี่ยวเทาก็รีบกล่าวว่า "ซานซาน เธอยังไม่รู้เกี่ยวกับสถานการณ์ของเสี่ยวหยุนทั้งหมด เขายังเปิดร้านขายเสื้อผ้าที่เขตชิงอู๋อีกด้วย"
ในเขตชิงอู๋ ร้านเสื้อผ้าหานลู่ไม่สามารถไปเปิดร้านที่นั่นได้ ดังนั้นมันจึงไม่มีทางที่จะเกิดสถานการณ์เดียวกันอย่างในตอนนี้ ใช่ไหม?
"ที่เขตชิงอู๋?"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หูซานซานก็ขมวดคิ้วและกล่าวขึ้นทันทีว่า "ฉินเสี่ยวเทา ถ้านายอยากจะกลับไปทำงานที่เขตชิงอู๋ นายก็กลับไปคนเดียวเลย ฉันจะไม่กลับไปกับนายหรอก"
หลังจากจากเรียนจบเธอก็มาที่จินหลิงที่เธอใฝ่ฝัน เธอต้องการจะใช้ชีวิตและทำงานหนักอยู่ที่นี่ และในอนาคตเธอก็จะกลายเป็นชาวจินหลิง อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่แห่งนี้ไปตลอดชีวิตของเธอ ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่เธอจะกลับไปที่เขตชิงอู๋หรือที่อื่นๆในเมืองชนบทเล็กๆนั่น
ถ้าเธอไม่มีความคิดเช่นนี้ ป่านนี้เธอก็คงจะกลับไปที่บ้านเกิดและเธอก็อาจจะแต่งงานไปนานแล้ว
เมืองใหญ่แห่งนี้คือที่ที่เธอต้องการจะอยู่
เมื่อได้ยินคำกล่าวของหูซานซาน ซึ่งฟังดูแล้วมีความหมายคลุมเครืออย่างกับจะเลิกรากัน ฉินเสี่ยวเทาก็กังวลขึ้นทันที เขารีบกล่าวว่า "ซานซาน ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น"
"เอาล่ะ ไว้เราค่อยคุยกัน ฉันจะกลับคนเดียว"
หูซานซานกล่าวว่า "ลองกลับไปคิดดู ถ้าหากนายวางแผนที่จะกลับไปที่เขตชิงอู๋ และยังคงยึดติดอยู่กับร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนนั่น ความสัมพันธ์ของเราก็สามารถยุติลงได้เช่นกัน"
หลังจากกล่าวจบ หูซานซานก็จากไปทันที ทิ้งฉินเสี่ยวเทาให้ยืนอยู่ที่นั่นด้วยความงุนงง
...
หลังจากทานอาหารเสร็จ ฉินหยุนก็พาพี่รองฉินลู่มาส่ง
"เสี่ยวหยุน คดีเกี่ยวกับร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนและร้านเสื้อผ้าหานลู่ที่สำนักงานกฎหมายสิ้นสุดลงแล้ว พี่สาวจางบอกให้แกไปทำตามขั้นตอนสุดท้าย" ฉินลู่มองไปที่น้องชายของเธอแล้วกล่าวออกมา
ก่อนหน้านี้ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนได้ดำเนินการยื่นฟ้องร้านเสื้อผ้าหานลู่ แต่น่าเสียดายที่มันไม่ได้ผลมากนัก จริงๆแล้วฉินหยุนก็ไม่ได้คาดหวังกับเรื่องนี้มากเท่าไร
ท้ายที่สุดแล้วการแข่งขันทางธุรกิจและการลอกเลียนแบบกันระหว่างร้านเสื้อผ้าทั้งสองแห่งนั้นยากที่จะแก้ไข
แน่นอน ไม่ว่าผลกระทบของมันจะมากหรือน้อยเพียงใด เขาก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก
ด้วยค่ายกลรวบรวมโชคลาภที่เขามี เขาไม่กังวลเลยว่าธุรกิจของเขาจะได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้มากเกินไปหรือไม่
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากแบรนด์เสื้อผ้าหานลู่ใช้วิธีเช่นนี้ เขาจึงต้องตอบโต้กลับพอเป็นพิธี ดังนั้นเขาจึงเลือกสำนักงานกฎหมายที่ฉินลู่ทำงานอยู่
"ผมเข้าใจแล้ว" ฉินหยุนพยักหน้า
หลังจากส่งฉินลู่เสร็จแล้ว เขาก็ขับรถกลับไปที่บ้านเช่าของเขา
แต่เมื่อเขาขับรถผ่านไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง เขาก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที
มีหลายคนอยู่ที่นั่นในขณะนี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือจ้าวตงเสวี่ย ลูกพี่ลูกน้องของเขา
…
เมื่อพูดถึงการปิดตัวลงของร้านเสื้อผ้าเทียนหยุน เกือบทุกคนที่เป็นพนักงานต่างก็รู้สึกไม่สบายใจเพราะเรื่องค่าจ้าง แต่นอกเหนือจากเรื่องค่าจ้าง คงมีคนไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้สึกเศร้าเพราะร้านต้องปิดตัวลงจริงๆ
และหนึ่งในนั้นต้องเป็นจ้าวตงเสวี่ยอย่างแน่นอน
หลายคนรอบๆตัวเธอต่างก็เอาแต่พูดถึงเรื่องหางานใหม่
"ตงเสวี่ย ไปหางานใหม่ด้วยกันเถอะ"
"ใช่ๆ ถึงยังไงตอนนี้ร้านก็ปิดไปแล้ว"
พวกเธอพยายามเกลี้ยกล่อมจ้าวตงเสวี่ย
อันที่จริงแล้วไม่ใช่ทุกคนในร้านขายเสื้อผ้าที่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างจ้าวตงเสวี่ยและฉินหยุน ซึ่งก็มีบางคนที่ไม่ทราบ
จ้าวตงเสวี่ยโกรธมากเมื่อเธอได้ยินสิ่งที่หญิงสาวคนอื่นกล่าว และเธอก็เริ่มทะเลาะกับพวกเธอเพราะเรื่องนี้ทันที
เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องของฉินหยุน แม้ว่าฉินหยุนจะไม่ได้ให้เงินเดือนเธอสูงมากกว่าคนอื่นๆในร้าน แต่เมื่อได้ยินเรื่องที่พนักงานคนอื่นกล่าว เธอก็รู้สึกไม่พอใจมาก ในใจของเธอถือว่านี่เป็นร้านของเธอเอง ใครอยากจะออกไป ก็ออกไปได้ แต่เธอจะไม่ออกไปอย่างเด็ดขาด
หลังจากทะเลาะกัน เธอและหยูเสี่ยวถิงก็ออกไปข้างนอกร้าน
ขณะที่กำลังจะทานอาหารกัน แต่ในเวลานี้เอง พวกเธอก็ได้พบกับกลุ่มคนที่นำมาโดยหญิงสาวคนหนึ่ง
หญิงสาวคนนี้สวมชุดเสื้อผ้าแบรนด์ดัง เธอสูงพอๆกับจ้าวตงเสวี่ย แต่ไม่ได้สวยเท่าเธอ เธอก็คือเฉิงซี คนที่เคยสู้กับจ้าวตงเสวี่ยมาก่อนนั่นเอง
"เฮ้ๆ ไม่ใช่จ้าวตงเสวี่ยหรอกเหรอเนี่ย คนที่เป็นถึงนายหญิงของร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนทำไมถึงได้มากินข้าวที่นี่ล่ะ"
เมื่อเห็นจ้าวตงเสวี่ย เฉิงซีก็ยิ้มและเดินเข้าไปหา
(จบตอน)
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved