ตอนที่ 101 จัดการเรื่องงานให้ลูกพี่ลูกน้อง

ณ ป้ายรอรถข้างถนนในเมืองจินหลิง ในขณะนี้มีหญิงสาวสองคนกำลังรออะไรบางอย่าง ซึ่งหญิงสาวหนึ่งในนั้นกำลังคุยโทรศัพท์อยู่

หญิงสาวคนนี้ดูสวยมาก เธอสูงประมาณ 1.6 เมตร สวมเสื้อยืดแขนสั้นและกางเกงขาสั้น แถมยังเคี้ยวหมากฝรั่งไว้ในปากอีกด้วย ในเวลานี้เธอดูหงุดหงิดนิดหน่อย

"หนูเข้าใจแล้ว พ่อพูดไปกี่ครั้งแล้วเนี่ย! หนูรู้อยู่แล้วว่าต้องทำยังไง!"

หญิงสาวกล่าวออกมาอย่างหมดความอดทนและในที่สุดเธอก็กดวางสายไป

หญิงสาวอีกคนมองมาที่เธอ คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยถามว่า "เสี่ยวเสวี่ย ลูกพี่ลูกน้องของเธอใกล้จะมารับเราแล้วใช่ไหม?"

หญิงสาวคนนี้ดูอวบเล็กน้อย หน้าตาดูจิ้มลิ้ม บนใบหน้าเล็กๆของเธอมีไขมันวัยเยาว์[1]อยู่บางส่วน เธอไม่ได้ดูสวยงามเหมือนกับหญิงสาวอีกคน แต่เธอกลับดูน่ารักมาก

"อืม อีกไม่กี่นาทีก็จะถึงแล้ว" จ้าวตงเสวี่ยพยักหน้าพลางตอบ

หญิงสาวคนนี้ชื่อหยูเสี่ยวถิง เธอถามอย่างอยากรู้อยากเห็นว่า "แล้วเธอรู้ไหมว่าลูกพี่ลูกน้องของเธอเปิดร้านเสื้อผ้าแบบไหน?"

เธอรู้ว่าต่อจากนี้พี่สาวที่แสนดีของเธอกำลังจะได้เข้าไปทำงานในร้านขายเสื้อผ้าแล้ว

"ไม่รู้สิ แต่ฉันคิดว่ามันน่าจะไม่ใหญ่มาก" จ้าวตงเสวี่ยคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวออกมาอย่างเฉยเมย

ก่อนหน้านี้พ่อของเธอโทรมาหา และเล่าเรื่องของฉินหยุนให้เธอฟัง โดยบอกว่าลูกพี่ลูกน้องของเธอคนนั้นเขามีความสามารถมาก ตอนนี้เขาได้เปิดร้านค้าและโรงงานหลายแห่งในเขตชิงอู๋

อย่างไรก็ตาม เธอไปลองสืบดูแล้ว และพบว่าพื้นที่ร้านค้าหลายแห่งของเขาในเขตชิงอู๋ มีขนาดแค่ประมาณ 40 ตารางเมตรเท่านั้น ซึ่งมันไม่ได้ใหญ่มาก

แถมตอนนี้เขาก็ยังเปิดร้านขายเสื้อผ้าในจินหลิงอีกด้วย พ่อของเธอจึงขอให้เธอไปทำงานกับที่นั่นกับฉินหยุน ลูกพี่ลูกน้องของเธอ

และมันบังเอิญว่าตอนนี้เธอว่างงานอยู่พอดี ดังนั้นเธอจึงตกลงจะไปที่นั่น

ในความคิดของเธอ พื้นที่ร้านค้าของฉินหยุนที่ตั้งอยู่ในจินหลิงน่าจะไม่ใหญ่มาก น่าจะแค่ประมาณ 40 ตารางเมตรได้

แต่พวกเธอก็ยังเด็กเกินไป และสถานที่ที่พวกเธอเคยทำงานมาก่อนก็ล้วนเป็นสถานที่เล็กๆเช่นกัน

"แล้วลูกพี่ลูกน้องของเธอเป็นคนแบบไหนล่ะ เขาเป็นนักศึกษาใช่ไหม?"

หยูเสี่ยวถิงรู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก เธอจึงเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง

เมื่อได้ยินหยูเสี่ยวถิงเอ่ยถามเรื่องนี้ จ้าวตงเสวี่ยก็คิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็กล่าวว่า "ฉันไม่ได้เจอฉินหยุนที่เป็นลูกพี่ลูกน้องคนนั้นมาหลายปีแล้ว และฉันก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นคนแบบไหน"

ฉินหยุนมาที่บ้านของพวกเธอปีละหนึ่งครั้งเท่านั้น เมื่อตอนที่ฉินหยุนและคนอื่นๆไปอวยพรปีใหม่ ในช่วงสองปีที่ผ่านมานั้นเธอไม่ได้กลับไปที่บ้านเลย ดังนั้นเธอจึงไม่ได้มีความประทับใจอย่างลึกซึ้งต่อฉินหยุนมากนัก

"ส่วนเรื่องที่เขาเป็นนักศึกษามหาลัย ฉินหยุนลูกพี่ลูกน้องของฉันเป็นนักศึกษาในมหาลัยเจียงหยวน! เผื่อเธอไม่รู้ นั่นคือมหาลัยที่ติดอันดับประเทศ 211 แห่งเลย" น้ำเสียงของจ้าวตงเสวี่ยเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจอย่างเห็นได้ชัด

อันที่จริงแล้วก่อนหน้านี้เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามหาลัยเจียงหยวนคืออะไร แต่พ่อของเธอเอาแต่พูดกรอกหูเธอทางโทรศัพท์อยู่เสมอว่า ฉินหยุนได้เข้าเรียนในมหาลัยที่ดีและเขาเป็นคนที่มีความสามารถ ดังนั้นให้เธอติดตามฉินหยุนและทำสิ่งต่างๆให้ดี ไม่ใช่ไปสร้างความเดือดร้อนให้เขา

ดังนั้นเธอจึงได้รู้เรื่องนี้ และตอนนี้เธอก็ถือโอกาสอวดมันต่อหน้าน้องสาวคนเล็กของเธอ

"ว้าว ผลการเรียนของลูกพี่ลูกน้องเธอดีมาก!" หยูเสี่ยวถิงอุทานออกมา

ในสายตาของเธอมีทั้งความชื่นชมและความอิจฉา จริงๆแล้วเธอก็ใฝ่ฝันที่จะเข้ามหาลัยเช่นกัน แต่ผลการเรียนของเธอไม่ดี เธอจึงไม่ได้ไปโรงเรียนหลังจากจบมัธยมต้นปี 3 จากนั้นจ้าวตงเสวี่ยก็พาเธอออกไปทำงานด้วยกัน

"ก็ไม่มีอะไรมากหรอก เอาจริงๆแล้วฉันคิดว่าเกรดดีๆนั้นไม่มีประโยชน์อะไรเลย ถึงยังไงก็ต้องออกไปทำงานหลังเรียนจบอยู่ดี"

จ้าวตงเสวี่ยตอบกลับไป

ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังพูดคุยกัน จู่ๆก็มีรถคันหนึ่งมาจอดไม่ไกลจากพวกเธอ

จากนั้นประตูรถก็เปิดออก และชายหนุ่มคนหนึ่งก็ก้าวออกมา

ชายหนุ่มคนนี้ดูหล่อ เขาสูงประมาณ 1.8 เมตร เมื่อเขาสังเกตเห็นพวกเธอทั้งคู่ เขาก็เดินตรงมาหา

"นายคือ...ลูกพี่ลูกน้องฉินหยุนใช่ไหม?" เมื่อเห็นชายหนุ่มคนนั้นเดินมาหาพวกเธอ จ้าวตงเสวี่ยจึงเอ่ยถามออกมาอย่างลังเล

อันที่จริงเธอยังมีภาพจำของฉินหยุนอยู่ในใจ แต่สิ่งที่เธอเห็นตอนนี้แตกต่างจากภาพจำในใจของเธออย่างมาก

"เธอคือลูกพี่ลูกน้องเสี่ยวเสวี่ย ลูกของลุงรองใช่ไหม?" ฉินหยุนเอ่ยถาม

เมื่อเห็นจ้าวตงเสวี่ยพยักหน้า เขาก็กล่าวขึ้นทันทีว่า "ขึ้นรถเลย ฉันจะพาเธอไปที่ร้านขายเสื้อผ้า"

หลังจากกล่าวจบแล้ว ฉินหยุนก็เดินกลับไปที่รถ

แม้ว่าก่อนหน้านี้จ้าวตงเสวี่ยจะดูเหมือนจะไม่ได้สนใจฉินหยุนมากนัก แต่เมื่อได้เห็นลูกพี่ลูกน้องของเธอ เธอก็ยังรู้สึกประหม่าเล็กน้อยอยู่ดี ท้ายที่สุดฉินหยุนก็เปิดร้านค้าเอง และไม่ว่าร้านค้าจะมีขนาดแค่ไหนแต่เขาก็ถือว่าเป็นเจ้านาย

เธอรีบดึงหยูเสี่ยวถิงและตามไปจากด้านหลัง

ฉินหยุนนั่งอยู่ในที่นั่งข้างคนขับ เขามองหญิงสาวสองคนที่นั่งอยู่เบาะหลังพลางกล่าวแนะนำฉินเสี่ยวเทา "นี่คือลูกพี่ลูกน้องของฉัน ฉินเสี่ยวเทา เธอเรียกเขาว่าลูกพี่ลูกน้องเสี่ยวเทาก็ได้"

หลังจากที่เขาและฉินเสี่ยวเทามาถึงจินหลิง พวกเขาขับรถตรงมารับจ้าวตงเสวี่ยทันที

"ลูกพี่ลูกน้องเสี่ยวเทา" จ้าวตงเสวี่ยเอ่ยเรียกออกมา

หลังจากแนะนำเสร็จ ฉินหยุนก็เอ่ยถามว่า "เสี่ยวเสวี่ย ตอนนี้เธออาศัยอยู่ที่ไหน?"

เห็นได้ชัดว่าในขณะนี้จ้าวตงเสวี่ยกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ และเมื่อได้ยินฉินหยุนเอ่ยถาม เธอก็กล่าวทันทีว่า "ฉันอาศัยอยู่ในชุมชนจินหยาง"

หลังจากกล่าวจบ เธอก็เสริมขึ้นว่า "ฉันพักอยู่กับเสี่ยวถิง"

เมื่อได้ยินคำกล่าวของเธอ ฉินหยุนก็ชำเลืองมองไปที่หยูเสี่ยวถิง

หยูเสี่ยวถิงมาจากหมู่บ้านของลุงของเขาเช่นกัน และเธอก็ไม่ได้ไปโรงเรียนเลยหลังจากที่เรียนจบมัธยมต้นปี 3 เมื่อตอนที่จ้าวตงเสวี่ยออกไปทำงานคนเดียว หยู เสี่ยวถิงจึงไปกับเธอด้วย

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาปกติแล้วพวกเธอต่างก็อยู่ด้วยกันตลอด เพราะฉะนั้นแล้ว เมื่ออีกคนไปที่ใหม่ อีกคนก็จะตามไปด้วยเสมอ

ก่อนหน้านี้ฉินหยุนก็ได้ยินมาจากจ้าวเหมยแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นหยูเสี่ยวถิง

ในเวลานี้ หยูเสี่ยวถิงรู้สึกประหม่ามากอย่างเห็นได้ชัด เธอมีนิสัยที่ค่อนข้างขี้อาย และการได้เห็นฉินหยุนก็เหมือนกับการได้เห็นอดีตครูประจำชั้นของเธออีกครั้งเลย ตอนนี้เธอไม่กล้ากล่าวอะไรออกมาด้วยซ้ำ

หลังจากนั้นฉินหยุนก็ถามคำถามเพิ่มเติม และจ้าวตงเสวี่ยก็ตอบคำถามทีละข้อ

ผ่านไปสิบนาที ในที่สุดรถก็มาจอดที่สถานที่แห่งหนึ่ง

หลังจากลงจากรถและมองไปที่ร้านค้าข้างหน้าเธอ จ้าวตงเสวี่ยก็เริ่มประหม่าอีกครั้ง

"ลูกพี่ลูกน้อง นี่คือร้านของนายเหรอ?"

เมื่อมองเข้าไปในร้านจากนอกประตู เห็นได้ชัดว่าขนาดพื้นที่ของร้านก็ไม่ได้เล็กเลยสักนิด

เธอคิดว่าร้านค้าที่ฉินหยุนเปิดเป็นเพียงร้านค้าเล็กๆที่มีลูกค้าไม่กี่คนเท่านั้น แต่ตอนนี้มีภายในร้านแห่งนี้มีลูกค้าอยู่เต็มไปหมด

"เข้าไปดูกันก่อน" ฉินหยุนกล่าวหลังจากลงจากรถ

เขาพาจ้าวตงเสวี่ยและหยูเสี่ยวถิงเดินเข้าไปในร้าน

หลังจากเข้าไปในร้านแล้ว พวกจ้าวตงเสวี่ยก็ยิ่งประหม่ามากขึ้นไปอีก ในร้านเสื้อผ้าแห่งนี้มีเสื้อผ้าใหม่ๆวางโชว์อยู่มากมาย และทั้งร้านก็ดูใหญ่กว่าทุกร้านที่พวกเธอเคยเข้าไปทำงานเสียอีก

นี่คือร้านใหม่ของฉินหยุนที่มีขนาดพื้นที่ 230 ตารางเมตร และยังเป็นร้านขายเสื้อผ้าที่ใหญ่ที่สุดของเขาในเมืองจินหลิงอีกด้วย

เมื่อเห็นฉินหยุนเดินเข้ามาในร้าน หญิงสาวในชุดสูททางการและรองเท้าส้นสูงก็เดินเข้ามาหา

"บอสฉินคะ" เธอมองไปที่ฉินหยุนและเอ่ยทักทายขึ้นอย่างรวดเร็ว

นี่คือโจวจินหลัน ผู้จัดการของร้านขายเสื้อผ้าขนาด 200 ตารางเมตรสาขาแรกที่เปิดขึ้นก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้เมื่อมีสาขาที่พื้นที่ใหญ่ขึ้น เธอจึงถูกดึงตัวมาไว้ที่นี่ และเงินเดือนของเธอก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อยด้วย

ส่วนในร้านขนาดใหญ่สาขาที่เปิดก่อนหน้านั้น หูเชียนทำหน้าที่เป็นผู้จัดการร้านแทนเธอ

โจวจินหลันยังมีความสามารถมาก เธอเคยเปิดร้านของตัวเองมาก่อน แต่เธอก็ยังขาดทุนอยู่เรื่อยๆ หลังจากแต่งงานเธอก็หยุดพักไปและไม่ได้เปิดร้านเองอีก แต่ออกมาหางานทำ

เงินเดือนของร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนนั้นสูงมาก เมื่อเดือนที่แล้วเธอได้รับค่าจ้าง 8,000 หยวน และอั่งเปาอีก 1,000 หยวน รวมกันเป็น 9,000 หยวน!

แถมในร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนยังมีโอกาสให้เติบโตอีกมากมาย ตอนนี้เธอรู้สึกพอใจกับงานของเธอที่นี่มาก

เธอถูกย้ายมาที่ร้านนี้ในช่วงต้นเดือน และคาดว่าเงินเดือนของเธอต่อจากนี้ก็น่าจะได้ประมาณเกือบๆ 10,000 หยวนเลยทีเดียว

(จบตอน)

————————————————————————-

[1] Baby fat หรือไขมันวัยเยาว์ คือไขมันกรรมพันธุ์ที่พบมากในเด็กวัยทารกและจะลดน้อยลงไปเรื่อยๆ เมื่ออายุมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมีอายุเกิน 30–40 ปีขึ้นไป ไขมันวัยเยาว์จะน้อยลงไปมากจนสังเกตได้ชัดเจน เมื่อคนที่มีสิ่งนี้ ใบหน้าของพวกเขาจะดูมีน้ำมีนวล สักเกตได้จากบางคนที่ตอนเด็กๆแก้มดูหน้าหยิก