อีกเรื่องก็คือเขาต้องเปิดร้านสาขาใหม่ 3 ร้านต่อเดือน ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นร้านค้าที่มีพื้นที่ขนาด 240 ตารางเมตร และอีกสองร้านที่มีขนาด 40 ตารางเมตร ค่าใช้จ่ายในการซื้อร้านค้าเหล่านี้คือ 16 ล้านหยวน!
ตอนนี้ฉินหยุนมีร้านค้าอยู่มากมาย และภายใต้อิทธิพลของค่ายกลรวบรวมโชคลาภที่มีจำนวนนับโหล ถึงแม้เขาจะมีรายได้มากกว่า 4 ล้านหยวนต่อเดือน แต่มันก็ยังน้อยกว่าหนึ่งในสี่ของราคาที่เขาต้องจ่ายเพื่อซื้อร้านค้าในทุกๆเดือนอยู่ดี ดังนั้นในตอนแรกเขาจึงไม่ได้จะซื้อร้านสาขาใหญ่ก่อน แต่จะซื้อแค่ร้านค้าขนาด 40 ตารางเมตรสองร้านเล็กๆเท่านั้น
ซึ่งฉินหยุนรู้ว่าการซื้อร้านค้าทั้งหมดด้วยเงินสดนั้นเป็นเรื่องดีแน่นอน แต่มันติดที่ว่าเขาไม่มีเงิน
ในแผนการของฉินหยุน ต่อไปเมื่อเขาเปิดร้านสาขาใหม่ขึ้น พื้นที่ของร้านค้าทั้งหมดก็จะถูกซื้อด้วยเงินสด เพราะกำไรที่เขาได้รับในแต่ละเดือนจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ก่อนหน้านี้เขาพร้อมที่จะเปิดร้านขายเสื้อผ้าสาขาที่ 10, 11 และสาขาที่ 12 แล้วในเมืองจินหลิงแห่งนี้ แต่แค่ยังไม่ได้รับการยืนยันที่ตั้งของร้านเท่านั้น และเขาวางแผนที่จะซื้อร้านเสื้อผ้าขนาดเล็กสองร้านที่มีขนาดพื้นที่ 40 ตารางเมตรด้วยเงินสดอีกด้วย
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะต้องเปลี่ยนแผน
แค่ร้านค้าร้านเล็กๆ 2 ร้านไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ตรงหน้าเขาได้เลย
"ผู้จัดการจ้าว ตอนนี้เรามีเงินให้ใช้ได้เท่าไร?" ฉินหยุนเอ่ยถามออกมา
เมื่อได้ยินคำถามของฉินหยุน จ้าวเทียนเฉียงก็ผงะไปครู่หนึ่ง เขาคิดอยู่สักครู่จากนั้นก็กล่าวว่า "เงินทุนของเราในร้านมีประมาณสิบเอ็ดล้านหยวนครับ ซึ่งเดือนหน้าต้องนำเงินบางส่วนในจำนวนนี้ไปจ่ายเป็นเงินเดือนของพนักงาน ภาษี และค่าใช้จ่ายจำเป็นอื่นๆอีกนิดหน่อย คำนวนแล้วเรามีเงินให้ใช้ได้ประมาณเก้าล้านหยวนครับ"
ตอนนี้เกือบจะถึงวันที่ 10 พฤศจิกายนแล้ว ร้านเสื้อผ้าของฉินหยุน 3 สาขาแรกเปิดได้นานกว่าสองเดือนแล้ว และ 3 สาขาต่อมาก็เปิดได้ประมาณเดือนกว่า ส่วน 3 สาขาที่เพิ่งเปิดใหม่เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ยังเปิดได้เพียงไม่ถึงสิบวันเท่านั้น
แต่ในช่วงเวลาสั้นๆนี้ เขาสามารถสะสมเงินได้หลายล้านหยวนแล้ว!
แน่นอนว่าเงินเหล่านี้บางส่วนจะต้องเก็บสำรองไว้ ไม่สามารถใช้ได้ทั้งหมด
ฉินหยุนพยักหน้า จากนั้นเขาก็โทรหาฉินซวนเพื่อสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ในเขตชิงอู๋
"เสี่ยวหยุน เงินทั้งหมดในบัญชีของร้านเราตอนนี้มีห้าล้านหยวน หลังจากหักค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่างๆออก เงินที่ใช้ได้ก็มีประมาณสี่ล้านหยวน" ฉินซวนกล่าว
"เสี่ยวหยุน สถานการณ์ฝั่งแกเป็นยังไงบ้าง?" ฉินซวนเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง
ก่อนหน้านี้ฉินลู่ได้โทรไปเล่าเรื่องทั้งหมดให้เธอฟังแล้ว และเธอก็รู้เกี่ยวกับสถานการณ์ของของฉินหยุนในฝั่งจินหลิงเช่นกัน
นั่นเป็นบริษัทแบรนด์เสื้อผ้าที่ใหญ่มาก และตอนนี้พวกเขาก็กำลังพยายามปราบปรามน้องชายของเธออยู่
"ไม่ต้องห่วงครับพี่ใหญ่ ผมมีวิธีรับมือ" ฉินหยุนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
หลังจากพูดคุยกันสองสามคำ เขาก็วางสาย
‘เก้าล้านกับสี่ล้าน เงินทั้งหมดที่ฉันสามารถใช้ได้ตอนนี้มีประมาณสิบสามล้านแล้ว แต่มันก็ยังไม่พอ’
ฉินหยุนคำนวณอย่างเงียบๆในใจของเขา
พื้นที่ของร้านค้าขนาด 200 ตารางเมตรนั้นมีราคามากกว่า 10 ล้านหยวน และตอนนี้ด้วยเงินทั้งหมดที่เขามี แทบจะไม่สามารถซื้อร้านค้าขนาด 200 ตารางเมตรได้เลย
อันที่จริงเขาสามารถขอสินเชื่อจากธนาคารได้ แต่ด้วยร้านค้าที่เขาซื้อด้วยเงินสดเต็มจำนวนและเอาไปเป็นหลักค้ำประกัน คาดว่าเขาจะสามารถกู้เงินได้เพียง 10 ล้านหยวนเท่านั้น
รวมกับที่มีอยู่ก็ประมาณ 20 ล้านหยวน
แต่จำนวนเงินที่เขาต้องการนั้นคือ 46 ล้านหยวน!
และในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ เขาจะเปิดร้านเพิ่มอีก 3 สาขา เมื่อเป็นแบบนี้จำนวนเงินที่เขาต้องการจึงเพิ่มขึ้นอีก 16 ล้านหยวน!
รวมแล้วต้องใช้เงินมากถึง 62 ล้านหยวนเลย!
ถ้าเขามีเงินไม่พอ เขาก็ทำได้แค่เช่าร้านต่อไป
"บอสฉินครับ" ข้างๆเขา จ้าวเทียนเฉียงรู้สึกกังวลอย่างเห็นได้ชัด
เขาพอใจกับงานในปัจจุบันของเขามาก ถ้าหากร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนหายไป เขาจะกลายเป็นคนตกงานแน่นอน
"ผู้จัดการจ้าว"
หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง ฉินหยุนก็ออกคำสั่ง "สิ่งที่เราต้องทำในตอนนี้ก็คือการรักษากำลังใจของพนักงานในร้านไว้ให้มั่นคง ผมให้สัญญาเลยว่า ถึงแม้ร้านขายเสื้อผ้าจะต้องปิดกิจการลงจริงๆ และในอนาคตอาจจะไม่ได้เปิดขึ้นอีก แต่ผมจะจ่ายเงินชดเชยให้เท่ากับการทำงานสองเดือนอย่างแน่นอน"
เมื่อได้ยินคำกล่าวของฉินหยุน จ้าวเทียนเฉียงก็ทำได้เพียงพยักหน้าพลางกล่าวว่า "ผมจะจัดการให้ทันที"
เมื่อจ้าวเทียนเฉียงจากไป ฉินหยุนก็สูดหายใจเข้าไปลึกๆ
"ตอนนี้เงินทุนยังมีไม่พอ และต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองสามเดือนเลยกว่าจะสะสมเงินให้ครบได้ เพราะงั้นตอนนี้ฉันมีแค่วิธีเดียวแล้ว"
เขามองไปในทิศทางระยะไกล ซึ่งตรงนั้นมีร้านขายลอตเตอรี่ตั้งอยู่
ในวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นวันที่ค่ายกลรวบรวมโชคลาภได้เปิดใช้งานขึ้นเป็นครั้งแรก ตอนนั้นฉินหยุนมีเงินไม่มากนัก ซึ่งไม่เพียงพอที่จะเปิดร้านขายเสื้อผ้าได้ อย่างไรก็ตาม เขาซื้อตั๋วลอตเตอรี่และถูกรางวัลได้เงินมามากกว่า 100,000 หยวน จากนั้นเขาจึงเริ่มเปิดร้านขายเสื้อผ้าแห่งแรกของเขาขึ้น และเงินก้อนนั้นมันก็คือทุนเริ่มต้นของการเปิดร้าน
แล้วก็ดำเนินการขยายสาขามาเรื่อยๆจนมาถึงในปัจจุบันนี้
นั่นคือตอนที่เขาเพิ่งเปิดใช้งานค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่งเท่านั้น! ดังนั้นโบนัสโชคติดตัวของเขาในตอนนั้นจึงเทียบเท่ากับค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่ง
แต่ตอนนี้ฉินหยุนได้เปิดใช้งานค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่สองขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว! อย่างน้อยค่าโชคดีของเขาต้องเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวแน่นอน!
ส่วนเรื่องการซื้อลอตเตอรี่ ถ้าหากเขาซื้อมากเกินไป มันก็จะไปดึงดูดความสนใจของผู้อื่นได้อย่างแน่นอน ดังนั้นฉินหยุนจึงซื้อแค่เพียงครั้งเดียวในตอนแรก และไม่เคยซื้อมันอีกเลยหลังจากนั้น
แต่ในสถานการณ์นี้มีเพียงลอตเตอรี่เท่านั้นที่สามารถช่วยเขาสะสมเงินทุนจำนวนมากได้ในคราวเดียว เพื่อใช้แก้ปัญหาความกังวลใจของเขาในขณะนี้
ฉินหยุนคิดอยู่ในใจ แต่เขาไม่ได้เข้าไปซื้อที่ร้านลอตเตอรี่ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากร้านเสื้อผ้าเทียนหยุน
จะต้องมีผู้คนจากร้านเสื้อผ้าหานลู่คอยสอดส่องอยู่รอบๆร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนอย่างแน่นอน และพวกเขาอาจจะสังเกตเห็นตอนที่เขาซื้อลอตเตอรี่ได้
หลังจากขับรถออกจากที่นี่ ในไม่ช้าฉินหยุนก็มาถึงร้านลอตเตอรี่ในใจกลางเมือง
ในขณะนี้ ฉินหยุนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าขนาดใหญ่ สวมหมวกแก๊บไว้บนหัว และใสแว่นกันแดดสีดำปิดบังหน้าตา
แม้แต่คนที่คุ้ยเคยกับเขาก็อาจจะจำเขาไม่ได้เมื่อมองแวบแรก
"ผมมาซื้อลอตเตอรี่"
เมื่อเห็นฉินหยุนเดินเข้ามา เจ้าของร้านลอตเตอรี่ก็ยิ้มพลางถามว่า "คุณจะซื้อเท่าไร?"
"15 บวก 8 คู่" ฉินหยุนกล่าว
"15 บวก 8 คู่?" เมื่อเจ้าของร้านลอตเตอรี่ได้ยินเช่นนั้นเขาก็เริ่มรู้สึกประหลาดใจ
สิ่งนี้เกือบจะเหมือนกับการทายผลของลูกบอลสองสี โดยทายให้สีแดงและสีน้ำเงินออกมาเท่ากันอย่างละครึ่ง ซึ่งมีการวางเดิมพันทั้งหมด 40,040 หยวน และมีค่าใช้จ่ายถึง 80,080 หยวนในการวางเดิมพันต่อหนึ่งลูกเลย!
แม้ว่าเขาจะเคยได้ยินเรื่องที่มีคนรวยในชนบทซื้อลอตเตอรี่ด้วยเงินหลายแสนหยวนในครั้งเดียวอยู่บ้าง ซึ่งก็เป็นเพราะว่าอัตราการถูกรางวัลจะสูงมาก แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นกับตาตัวเอง
"นอกจากนี้ ผมจะเพิ่มอีกห้าเท่า!"
ฉินหยุนกล่าวต่อ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เจ้าของร้านลอตเตอรี่ก็ยิ่งประหลาดใจมากขึ้นอีก
เพิ่มอีก 5 เท่า ก็คือการใช้เงินซื้อลอตเตอรี่ทั้งหมด 400,000 หยวน!
ถึงแม้ว่ามันจะน่าตกใจ แต่ทุกวันนี้ก็มีข่าวต่างๆมากมายที่แสดงให้เห็นว่ามีคนประเภทนี้อยู่ คนที่ซื้อหวยทีเป็นล้าน
เจ้าของร้านลอตเตอรี่ดีใจขึ้นทันที เมื่อธุรกิจขนาดใหญ่เข้ามาถึงหน้าประตูบ้านของเขา
เขารีบพิมพ์ตั๋วลอตเตอรี่ออกมาอย่างรวดเร็ว
"นี่คือตั๋วลอตเตอรี่ของคุณ เก็บไว้ให้ดีนะ" เจ้าของร้านกล่าวพลางยิ้มออกมา
ในที่สุดฉินหยุนก็จ่ายเงินและออกจากที่นี่ไปทันที
‘ใช้เงินจำนวนมากขนาดนี้เพื่อซื้อลอตเตอรี่ในครั้งเดียว คนๆนี้มีข้อมูลจากวงในหรือเปล่า?’ ขณะที่มองดูฉินหยุนจากไป เจ้าของร้านลอตเตอรี่ก็อดไม่ได้ที่จะพึมพำอยู่ในใจ
"หรือว่าฉันควรซื้อตามเขาดี?"
ถ้าหากเขาซื้อตามชายคนนั้น เขาก็อาจจะถูกลอตเตอรี่ขึ้นมาจริงๆ
ทันใดนั้นก็มีแรงกระตุ้นบางอย่างเกิดขึ้นในใจของเขา
แต่จู่ๆหญิงวัยกลางคนรูปร่างอ้วนก็เดินเข้ามาก่อน
"ยอดขายทะลุเป้าหรือไง ทำไมดูมีความสุขจัง?"
หญิงวัยกลางคนมองไปที่สามีแล้วกล่าวออกมา
เจ้าของร้านลอตเตอรี่จึงเล่าเรื่องที่ฉินหยุนเพิ่งซื้อลอตเตอรี่ไป 400,000 หยวนเมื่อสักครู่นี้ ทันใดนั้นหญิงวัยกลางคนก็มีความสุขขึ้นทันทีเช่นกัน
ค่าคอมมิชชั่นจากการขายลอตเตอรี่เหล่านี้มากถึง 8%! และตอนนี้พวกเขาทำเงินได้มากกว่า 30,000 หยวนแล้ว!
"ที่รัก ผมสงสัยว่าเราควรจะซื้อเลขเดียวกับเขาดีไหม?" ทันใดนั้นเจ้าของร้านลอตเตอรี่ก็กล่าวขึ้น
"คุณบ้าหรือเปล่า?" เมื่อได้ยินเช่นนี้ หญิงวัยกลางคนก็ชี้ไปที่เจ้าของร้านลอตเตอรี่และด่าออกมา "ลอตเตอรี่พวกนั้นที่เขาซื้อไปมีราคาตั้ง 80,000 กว่าหยวน เงินฝากของเราสองคนรวมกันก็มากกว่า 200,000 หยวนนิดหน่อยเอง ถ้าเราซื้อ เราก็ซื้อได้แค่ตั๋วลอตเตอรี่เพียงสามใบเท่านั้น!"
(จบตอน)
————————————————————————
เรื่องหวย สลากกินแบ่ง หรือลอตเตอรี่ของจีน ถ้าแปลผิดพลาดก็ขออภัยด้วยนะครับ ไม่มีข้อมูลให้เทียบเคียงเลย มันคนละแบบกับของไทย เลยงงนิดหน่อย
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved