ตอนที่ 173 สัมภาษณ์

"เยว่ซาน เธอใจดีเกินไปหรือเปล่า เธอถูกไล่ออกจากบริษัทเพราะไปรับผิดชอบแทนพนักงานใหม่เนี่ยนะ?"

เจียงเล่ยมองหน้าเพื่อนของเธอ เธอรู้สึกทำอะไรไม่ถูกนิดหน่อย

หลินเยว่ซานส่ายหัวและกล่าวว่า "เรื่องนี้มันเป็นความรับผิดชอบของฉัน"

"ฉันถึงบอกไงว่าเธอใจดีเกินไป เธอใจดีกับคนอื่น แต่คนอื่นไม่ได้ใจดีกับเธอนะ" เจียงเล่ยรู้สึกปวดหัว ข้อดีของเพื่อนสนิทของเธอคนนี้อาจถือได้ว่าเป็นข้อบกพร่องด้วยเช่นกัน และเธอก็ไม่สามารถแก้ไขสิ่งนี้ได้เลย

ทั้งสองกำลังพูดคุยกัน "ถ้าเธอสมัครงานครั้งนี้ผ่าน ก็อย่าไปใจดีจนคนอื่นเอาเปรียบอีกล่ะ"

เธอเกลี้ยกล่อมอีกฝ่าย และหลังจากที่เธอกล่าวจบ เจียงเล่ยก็มองเข้าไปในระยะไกลพร้อมๆกับสีหน้าที่เผยให้เห็นถึงความประหลาดใจ

"ฉินหยุน?"

เธอมองไปที่ชายหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าเธอ

"อาจารย์เจียง" ฉินหยุนเดินไปและเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้ม

"เสี่ยวเล่ย นี่ใครเหรอ?" เมื่อมองไปที่ทั้งสองคน หลินเยว่ซานเอ่ยถามด้วยความสงสัย

"นักศึกษาที่ฉันดูแลอยู่น่ะ" เจียงเล่ยเอ่ยแนะนำด้วยรอยยิ้ม

อันที่จริง ที่ปรึกษาชั้นเรียนในมหาลัยมักจะไม่ค่อยสนใจเหล่านักศึกษามากนัก บางครั้งก็เป็นเรื่องปกติที่จะไม่เห็นหน้าอาจารย์ที่ปรึกษาสองถึงสามวัน

แต่เธอค่อนข้างคุ้นเคยกับฉินหยุน

นักศึกษาฉินหยุนมักจะเป็นคนเงียบๆ และเขาไม่ค่อยกระตือรือร้นในการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆของชั้นเรียนมากเท่าไร จริงๆแล้วระหว่างทั้งสองคนก็ไม่ได้มีการติดต่อกันมากนัก

เหตุผลที่เธอคุ้นเคยกับฉินหยุน ก็เป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้เธอได้ยินมาว่าฉินหยุนเคยจับรางวัลใหญ่ได้รถยนต์

ในตอนนั้นเธอรู้สึกประหลาดใจมาก จากนั้นเธอก็รู้ว่าฉินหยุนได้ย้ายออกไปอยู่นอกมหาลัย และไม่ได้อาศัยอยู่ในหอพักแล้ว

"นักศึกษาในชั้นเรียนของเธองั้นเหรอ?"

เมื่อได้ยินคำกล่าวของเจียงเล่ย หลินเยว่ซานก็มองไปที่ฉินหยุนและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า "สวัสดี"

หลังจากพูดคุยกันสองสามคำ ฉินหยุนก็เดินจากไปโดยไม่ได้กล่าวอะไรมาก

ท้ายที่สุดมันก็เป็นเพียงการทักทายเล็กๆน้อยๆเมื่อเขาได้พบกับที่ปรึกษาระหว่างทาง

"ได้เป็นอาจารย์รู้สึกยังไงบ้าง?"

เมื่อเห็นฉินหยุนจากไป หลินเยว่ซานก็ถอนหายใจพลางกล่าวออกมา "หลังจากจบปริญญาตรีเธอก็เข้าสอบเพื่อเรียนในระดับที่สูงกว่าทันที และตอนนี้เธอก็ได้กลายเป็นที่ปรึกษาของนักศึกษาแล้ว ฉันอิจฉาเธอมากจริงๆ"

เมื่อได้ยินเช่นนี้เจียงเล่ยก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวว่า "ฉันก็บอกให้เธอเรียนต่อ แต่เธอกลับปฏิเสธไปนี่นา"

"ก็ฉันไม่อยากเป็นครู" หลินเยว่ซานกล่าวด้วยรอยยิ้ม

จากนั้นทั้งสองก็เดินไปที่สถานที่แห่งหนึ่ง

"หืม? ที่นี่มีบริษัทของเทียนหยุนอยู่ด้วยงั้นเหรอ?"

เมื่อมาถึงสถานที่แห่งหนึ่ง เจียงเล่ยก็มองไปรอบๆพลางกล่าวว่า "เยว่ซาน ที่ๆเธอมาสัมภาษณ์งานคือบริษัทเทียนหยุนใช่ไหม?"

"ใช่แล้ว"

หลินเยว่ซานพยักหน้า เธอกล่าวว่า "เทียนหยุนเป็นแบรนด์ในเครือเสื้อผ้าที่เปิดร้านสาขามาแล้วมากกว่า 12 แห่ง มีชื่อเสียงในด้านค่าจ้างของพนักงานในร้านขายเสื้อผ้าที่สูงมาก ตอนนี้เมื่อบริษัทถูกก่อตั้งขึ้น ค่าจ้างสำหรับตำแหน่งต่างๆก็สูงมากเช่นกัน ค่าจ้างของพนักงานฝ่ายการเงินที่นี่สูงกว่าที่ที่ฉันเคยทำงานอยู่มากกว่าครึ่งด้วยซ้ำ บางคนที่ฉันรู้จักยังมาที่เทียนหยุนเพื่อขอสัมภาษณ์งานเลยด้วย โดยหวังว่าจะสามารถเปลี่ยนมาทำงานที่นี่ได้"

สำหรับแรงงานต่างๆ ค่าจ้างสูงๆเป็นสิ่งที่น่าดึงดูดมากที่สุด และค่าจ้างของเทียนหยุนนั้นถ้าเทียบกับบริษัทอื่นๆก็ถือว่าสูงมาก อย่างน้อยมันก็อยู่ในอันดับต้นๆแน่นอน เพราะอย่างนั้นหลายคนจึงต้องการเข้าร่วมกับพวกเขา

"ฉันรู้สึกกังวลนิดหน่อย กลัวว่าพวกเขาจะไม่เลือกฉัน" หลินเยว่ซานกล่าวออกมาอย่างไม่ค่อยมั่นใจ

"เยว่ซาน ฉันเชื่อว่าด้วยสามารถของเธอ เธอจะต้องผ่านการสัมภาษณ์ครั้งนี้แน่นอน" เจียงเล่ยกล่าวให้กำลังใจเธอ

ตื้ด...

ในตอนนี้เอง จู่ๆโทรศัพท์มือถือของเจียงเล่ยก็ดังขึ้น

หลังจากกล่าวกับปลายสายไม่กี่คำ เจียงเล่ยก็กดวางสายโทรศัพท์ไป

"เยว่ซาน ขอโทษนะ ฉันมีเรื่องด่วนที่ต้องจัดการที่มหาลัย ฉันต้องรีบกลับไปตอนนี้" มองไปที่เพื่อนสนิทของเธอ ในเวลานี้เจียงเล่ยรู้สึกเสียใจเล็กน้อย

เธอตกลงไว้ก่อนแล้วว่า เธอจะมาเป็นเพื่อนหลินเยว่ซวนในตอนที่อีกฝ่ายมาสัมภาษณ์งาน

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเยว่ซานก็ยิ้มและกล่าวว่า "ไม่เป็นไร เรื่องที่มหาลัยของเธอก็สำคัญเหมือนกัน"

"ถ้างั้นสัมภาษณ์เสร็จแล้วเธอบอกฉันนะ เดี๋ยวตอนเย็นเราไปกินข้าวด้วยกัน" เจียงเล่ยกล่าว

หลังจากเธอกล่าวจบ เธอก็รีบออกไปทันที

จากนั้นหลินเยว่ซานก็เดินมาที่อาคารสำนักงานเพียงลำพัง เธอเงยหน้าขึ้นมองและก้าวขาเดินเข้าไป

...

นี่คืออาคารสำนักงานที่มีพื้นที่เกือบ 1,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่ใกล้กับเขตเจียงหนิงของเมืองจินหลิง ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทเทียนหยุน

"บอสฉิน"

เมื่อเห็นการมาถึงของฉินหยุน พนักงานที่อยู่ข้างในก็รีบเอ่ยทักทายด้วยความเคารพ

ฉินหยุนพยักหน้าให้พวกเขา หลังจากที่ประกาศรับสมัครพนักงานมาระยะหนึ่ง โครงสร้างพื้นฐานของบริษัทเทียนหยุนในปัจจุบันก็ได้ถูกสร้างขึ้นแล้ว

ตอนนี้อาคารสำนักงานของเทียนหยุนทั้งหมดแบ่งออกเป็นแผนกต่างๆ

ฝ่ายธุรการ ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ฝ่ายการเงิน ฝ่ายตรวจสอบคุณภาพ ฝ่ายขาย ฯลฯ

เทียนหยุนกำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นแผนกต่างๆของบริษัทจึงต้องได้รับการจัดตั้งให้ดี

ก่อนหน้านี้เจียงอี้อี้อดีตผู้จัดการร้านเคยลาออกอย่างกะทันหัน ซึ่งถ้าหากว่าเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นอีก พนักงานฝ่ายทรัพยากรบุคคลก็จะสามารถเอาคนใหม่เข้าไปแทนได้ทันที

นอกจากนี้หลังจากการขยายสาขาในเมืองจินหลิงสิ้นสุดลง ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนก็จะเริ่มขยายสาขาไปยังเมืองหรงหยางที่อยู่ติดกับเมืองจินหลิง ในเวลานั้นก็ต้องมีผู้รับผิดชอบอยู่ประจำที่นั่นด้วย ซึ่งก็เป็นไปไม่ได้ที่จะให้จ้าวเทียนเฉียงเดินทางไปมาอยู่ระหว่างสองเมือง

นอกจากนี้เทียนหยุนก็ยังเปิดร้านขายเสื้อผ้า 3 สาขาขึ้นทุกเดือน ซึ่งก็มีความต้องการพนักงานเป็นจำนวนมาก การสรรหาบุคลากรจึงจำเป็นต้องดำเนินการอยู่เสมอ

และยิ่งมีสาขาของร้านขายเสื้อผ้ามากขึ้น บัญชีการเงินต่างๆก็จะยิ่งซับซ้อน ซึ่งต้องใช้บุคลากรทางการเงินมืออาชีพในการเข้ามาจัดการกับมัน

ถ้าเปิดร้านขายเสื้อผ้าแค่ไม่กี่แห่งก็ไม่เป็นอะไร สิ่งเหล่านี้อาจจะยุ่งยากเล็กน้อย แต่ถ้าคุณเปิดสาขาจำนวนมาก และหากคุณไม่เตรียมตัวล่วงหน้าให้ดี ทุกอย่างมันจะต้องวุ่นวายอย่างแน่นอน

อันที่จริงแล้วก่อนหน้านี้มีบุคลากรพิเศษที่เป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้อยู่ แต่ตอนนั้นพวกเขายังไม่ค่อยเป็นแบบแผนกันสักเท่าไร ซึ่งตอนนี้พวกเขาได้รวมเป็นหนึ่งและเริ่มเป็นระดับมาตรฐานแล้ว

"คนที่กำลังจะมาสัมภาษณ์งาน ให้พวกเขาเข้าไปที่ห้องทำงานของผมเลย เดี๋ยวผมจะสัมภาษณ์พวกเขาเอง" ฉินหยุนสั่ง

ตอนนี้แต่ละแผนกยังมีพนักงานไม่มากนัก ซึ่งส่วนใหญ่ก็ยังไม่ได้รับสมัครเข้ามา

ฝ่ายบุคคลพยักหน้าอย่างรวดเร็ว

ฉินหยุนนั่งอยู่ในห้องทำงาน ขณะที่กำลังรอผู้สัมภาษณ์เข้ามาเขาก็พลิกดูเรซูเม่ที่ผู้มาสัมภาษณ์งานส่งมาพลางๆ

หลังจากนั่งอยู่ในห้องทำงานได้ไม่นาน ผู้สัมภาษณ์คนแรกก็เดินเข้ามา

นี่คือชายหนุ่มคนหนึ่ง เขาดูอายุยังน้อย อายุประมาณ 23-24 ปี ซึ่งเขาก็น่าจะเพิ่งจบจากมหาลัยได้ไม่นาน

"คุณเคยดำรงตำแหน่งประธานสหภาพนักศึกษาที่มหาลัยหนานลี่งั้นเหรอ?" ฉินหยุนเอ่ยถามขณะที่ดูเรซูเม่ของชายหนุ่ม

มหาลัยหนานลี่ก็อยู่ในเมืองจินหลิงเช่นกัน ซึ่งมันก็มีระดับเทียบได้กับมหาลัยเจียงหยวนที่ฉินหยุนศึกษาอยู่

"ใช่ครับบอสฉิน" ชายหนุ่มคนนี้ไม่ได้สูงมากนัก เขาสูงประมาณ 1.7 เมตร แต่สีหน้าท่าทางของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ

ประธานสหภาพนักศึกษา เขาเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในมหาลัยมาก

"คุณมาขอสมัครเป็นผู้จัดการฝ่ายสรรหาบุคลากรของแผนกทรัพยากรบุคคลของแบรนด์เสื้อผ้าเทียนหยุนใช่ไหม?" ฉินหยุนถามต่อทันที "คุณยังไม่เคยมีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องในบริษัทอื่นเลย และดูเหมือนว่าตำแหน่งนี้จะไม่เหมาะกับคุณในช่วงแรก"

ในแผนกทรัพยากรบุคคล ฝ่ายบริหารคือผู้จัดการทั่วไปของแผนก ตามด้วยผู้จัดการฝ่ายสรรหาบุคลากร ผู้จัดการฝ่ายฝึกอบรม ผู้จัดการฝ่ายค่าตอบแทน ฯลฯ ซึ่งผู้จัดการฝ่ายสรรหาบุคลากรถือว่าเป็นตำแหน่งที่สำคัญมากอย่างเห็นได้ชัด

"บอสฉิน ผมมีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องมากมายในตอนที่อยู่ในสหภาพนักศึกษา และผมมั่นใจว่าผมมีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับตำแหน่งนี้" ชายหนุ่มกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินหยุนก็ยิ้มขึ้นมา เขาคิดไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็กล่าวว่า "ถ้าคุณยินดีเข้าร่วมกับบริษัทเรา ผมสามารถจัดให้คุณอยู่ในฝ่ายบุคคลก่อนได้"

นอกจากการเป็นประธานของสหภาพนักศึกษา ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่มีคุณสมบัติอื่นใดเลย ไม่มีแม้กระทั่งประสบการณ์ในการทำงาน แต่พอเปิดปากเขาก็ถามหาตำแหน่งผู้จัดการทันทีที่เข้ามา เห็นได้ชัดว่าเขาค่อนข้างโลภเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม การได้เป็นประธานสหภาพนักศึกษาในมหาลัยก็ถือว่าเป็นความสามารถอย่างหนึ่งเช่นกัน ถ้าเขาทำงานในตำแหน่งนี้ได้ดี เขาก็จะได้เลื่อนตำแหน่งภายในระยะเวลาอันสั้นอย่างแน่นอน

"พนักงานฝ่ายบุคคล?"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ชายหนุ่มก็ไม่คาดคิดว่าตนเองจะถูกปฏิเสธ

เขาเคยตรวจสอบเทียนหยุนมาก่อน ซึ่งบริษัทนี้เป็นแบรนด์ในเครือเสื้อผ้าที่มีสาขามากกว่า 12 แห่ง

ในความคิดของเขา มันง่ายมากสำหรับเขาที่จะมาที่นี่เพื่อสมัครเป็นผู้จัดการฝ่ายสรรหาบุคลากร

ที่ๆเขาต้องใช้ความพยายามในการเข้าไปจริงๆ มันคือบริษัทใหญ่อย่าง Tencent Alibaba พวกนั้นมากกว่า

"บอสฉิน ผมไม่สนใจตำแหน่งพนักงานฝ่ายบุคคล" ชายหนุ่มส่ายหัว

"งั้นก็น่าเสียดาย"

เห็นได้ชัดว่าในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายไม่ได้มีความคิดเห็นที่ตรงกัน

หลังจากนั้นฉินหยุนก็ได้พบกับผู้สัมภาษณ์คนต่อไป

ด้านนอกห้องทำงาน หลินเยว่ซานกำลังให้ใจตัวเอง

"หลินเยว่ซาน เธอจะต้องประสบความสำเร็จในการสัมภาษณ์งานครั้งนี้อย่างแน่นอน"

เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องทำงานที่ใช้สัมภาษณ์

แต่เมื่อเธอเห็นฉินหยุนนั่งอยู่ในห้อง เธอก็ตกตะลึงไปทันที

(จบตอน)