ตอนที่ 208 เปรียบเทียบเงินเดือน

ฉินเซี่ยหลันกล่าวด้วยรอยยิ้มว่าลูกชายของเธอคือความภาคภูมิใจที่สุดของเธอ และทุกครั้งที่เธอกล่าวออกมา เหล่าญาติๆก็มักจะรู้สึกอิจฉาเธออยู่เสมอ

"ถ้าเป็นแบบนี้ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะได้ค่าจ้างต่อปี 300,000 หยวนเลยงั้นเหรอ?" ฉินกั๋วเหลียงถามหลังจากที่เขาคำนวณเสร็จ

"ไม่เยอะขนาดนั้นหรอกครับลุง"

หลังจากพูดจบ อู๋หมิงเฟิงก็ยิ้มออกมาเจื่อนๆ

เขาก็ทำอะไรไม่ถูกนิดหน่อย แม่ของเขาเป็นคนชอบโอ้อวดมาก แต่เขาไม่คิดว่ามันจำเป็นเท่าไร

ครอบครัวของพวกเขาจะกลับมาที่นี่แค่ปีละครั้งเท่านั้น ก่อนหน้านี้ระหว่างทางเมื่อเธอเจอคนรู้จักเธอก็พูดเรื่องเหล่านี้ไปแล้ว แต่ตอนนี้แม่ของเขาเริ่มพูดขึ้นอีกครั้งแล้ว

ฉินเซี่ยหลันยิ้มและพูดว่า "ไม่มากขนาดนั้น แต่ก็ไม่แย่ไปกว่านี้แน่นอน"

"หมิงเฟิงมีความสามารถ แต่ฉันช่วยอะไรไม่ได้มากนัก ทำได้แค่ช่วยเขาดูแลเด็กๆที่บ้านเท่านั้น"

เธอมองไปที่ฉินกั๋วเหลียง ฉินกั๋วตงและคนอื่นๆพลางพูดว่า "กั๋วเหลียง แกยังทำงานอยู่ในไซต์ก่อสร้างอยู่หรือเปล่า?"

ฉินกั๋วเหลียงพยักหน้าและพูดว่า "กั๋วปินกับผมเรายังทำงานอยู่ที่ไซต์ก่อสร้างกันทั้งคู่ และเราก็ต้องทำงานทุกวัน"

ในขณะนี้เอง ฉินเฝิงอวี่ที่กำลังเอาโทรศัพท์ให้ฉินหยุนดู เขาก็แก้ไขข้อความบนโทรศัพท์อย่างเงียบๆแล้วเอาให้ฉินหยุนดูอีกครั้ง "ป้าใหญ่จะถามพี่เสี่ยวเทาเป็นคนต่อไป"

และก็เป็นอย่างที่เขาทำนายไว้ หลังจากที่ฉินกั๋วเหลียงพูดจบ ฉินเซี่ยหลันก็พูดขึ้นว่า "ตอนนี้แกก็อายุมากแล้ว แกควรจะพักได้แล้วนะกั๋วเหลียง แล้วเสี่ยวเทาล่ะเป็นยังไงบ้าง เธอทำงานที่ไหนเหรอ หาแฟนได้หรือยัง?"

ฉินเสี่ยวเทาชำเลืองมองที่ฉินหยุน จากนั้นก็มองไปที่ฉินเซี่ยหลันแล้วพูดว่า "ป้าใหญ่ ตอนนี้ผมทำงานอยู่ในจินหลิง ส่วนแฟนผม ผมเพิ่งกลับมาจากบ้านของเธอเอง"

เขารู้ว่าป้าใหญ่เป็นคนชอบอวด และทุกครั้งที่เธอกลับมาในช่วงตรุษจีนเธอก็มักจะพูดกับเขาด้วยคำเดิมๆ

"นั่นไม่เลวเลย"

ฉินเซี่ยหลันมองไปที่ฉินเสี่ยวเทาด้วยความประหลาดใจ เธอพูดกับเขาด้วยรอยยิ้ม "หมิงเฟิงมีเพื่อนร่วมชั้นอยู่ที่จินหลิงเหมือนกัน และเขาก็มีธุรกิจเล็กๆน้อยๆอยู่ ตอนนี้เงินเดือนของเธอเท่าไรล่ะ เดี๋ยวป้าจะให้หมิงเฟิงลองติดต่อเพื่อนร่วมชั้นคนนั้นดู ถ้าเขายังต้องการคนเพิ่มเธอก็อาจจะทำงานที่นั่นได้ เงินเดือนที่ได้ก็น่าจะสูงกว่าตอนนี้"

"ไม่เป็นไรครับป้าใหญ่"

ฉินเสี่ยวเทาส่ายหัวและพูดออกมาตรงๆ "ตอนนี้ผมได้เงินเดือนประมาณ 9,000 กว่าหยวนแล้วครับ"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ฉินเซี่ยหลันก็ผงะไปทันที "เยอะขนาดนั้นเลยเหรอ"

เธอรู้เรื่องเกี่ยวกับฉินเสี่ยวเทาแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ฉินเสี่ยวเทาจบการศึกษาจากวิทยาลัยวิชาชีพด้วยบุคลิกที่น่าเบื่อและไม่ได้มีทักษะที่ยอดเยี่ยมอะไรเลย เขาเคยทำงานอยู่ในโรงงานที่เขตชิงอู๋โดยมีรายได้แค่สามหรือสี่พันต่อเดือน แต่ตอนนี้เขาได้เก้าพันกว่าหยวนแล้ว?

ตอนนี้ลูกชายของเธออายุ 34 ปี และเขาต้องทำงานหนักอยู่ในปักกิ่งมากว่าสิบปีเพื่อให้ได้เงินเดือนเท่ากับปัจจุบัน

อันที่จริงในปักกิ่งเงินเดือน 20,000 หยวนถือว่าอยู่ในระดับกลางๆค่อนไปทางบนเลย

และในปักกิ่ง ได้เงินเดือน 9,000 กว่าหยวนก็ถือว่าไม่เลวแล้ว

"เสี่ยวเทา เธอทำงานอะไรอยู่ ได้รับเงินเดือนหรือยัง อย่าปล่อยให้คนอื่นหลอกเธอได้นะ" ฉินเซี่ยหลันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ดังนั้นเธอจึงอดไม่ได้ที่จะถามออกมา

ปีที่แล้วในเขตชิงอู๋ฉินเสี่ยวเทายังได้แค่สามสี่พันอยู่เลย และปีนี้เขาได้ไปที่จินหลิงโดยไม่มีรากฐานใดๆแต่กลับได้เงินเดือนมากถึงเก้าพันกว่า? บริษัทไหนที่มีเงื่อนไขดีขนาดนี้กัน?

เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ จางพ่านตี้แม่ของฉินเสี่ยวเทาก็รู้สึกไม่พอใจทันที

ฉินเซี่ยหลันเป็นคนชอบโอ้อวด ซึ่งเธอก็รู้เรื่องนี้เช่นกัน เมื่อก่อนฉินเสี่ยวเทาไม่ได้เป็นแบบตอนนี้ เขาในตอนนั้นเงินเดือนน้อยแถมยังไม่มีแฟนอีก ในเวลานั้นเธอก็ไม่สามารถพูดอะไรเกี่ยวกับการอวดลูกชายของฉินเซี่ยหลันได้เลย เธอได้แค่อิจฉาอีกฝ่ายที่มีลูกชายแบบอู๋หมิงเฟิงเท่านั้น

แต่ตอนนี้ลูกชายของเธอสามารถหาเงินได้มากมายและหาแฟนได้แล้ว คาดว่าเขาจะแต่งงานในปีนี้เช่นกัน ที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นตัวตนหรือนิสัยของเขามันก็เปลี่ยนไปมาก

ในใจของเธอเริ่มรู้สึกภาคภูมิใจในตัวของฉินเสี่ยวเทา แต่ตอนนี้ฉินเซี่ยหลันกลับมาสงสัยเขาเสียได้

"พี่ใหญ่ สิ่งที่พี่พูดมันผิดไปนิดหน่อย เสี่ยวเทาทำงานอยู่ที่จินหลิงมาหลายเดือนแล้ว และค่าจ้างของเดือนธันวาคมเขาก็ได้รับไปแล้วเช่นกัน ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีโบนัสสิ้นปีอีก 50,000 หยวนด้วย"

จางพ่านตี้กล่าว

"โบนัสสิ้นปี 50,000 หยวน?"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินเซี่ยหลันก็รู้สึกประหลาดใจมากยิ่งขึ้น โบนัสสิ้นปีของอู๋หมิงเฟิงลูกชายของเธอในปีนี้ได้เพียงแค่ 40,000 เท่านั้น ซึ่งเทียบไม่ได้กับของฉินเสี่ยวเทาเลย

"ไม่ใช่แค่เสี่ยวเทาเท่านั้น แต่ฉันก็ยังได้เงินเดือน 7,000 กว่าหยวนด้วย"

จางพ่านตี้เสริม "และไม่ใช่แค่ฉันด้วยนะ น้องสะใภ้สามก็ได้เหมือนกัน ตงเหม่ยก็ยังได้เหมือนกันด้วย"

"เธอก็ได้เงินเดือน 7,000 กว่าหยวนด้วยงั้นเหรอ?"

ฉินเซี่ยหลันรู้สึกว่าเธอได้ยินผิดไป ทำไมจู่ๆกลับมาปีนี้ทุกคนถึงเปลี่ยนไปหมด? ในเวลานี้เธอไม่ได้อิจฉา แต่แค่รู้สึกสับสนเล็กน้อย

เธอถามออกมาโดยไม่รู้ตัวว่า "แล้วจ้าวเหมยล่ะ?"

"น้องสะใภ้รองดีกว่าแน่นอน เพราะว่าเงินเดือนของเราน้องสะใภ้รองเป็นคนจ่ายให้" จางพ่านตี้พูดด้วยรอยยิ้ม

"อะไรนะ?" ฉินเซี่ยหลันผงะ

เมื่อเห็นท่าทางงุนงงของฉินเซี่ยหลัน ปู่ของฉินหยุนก็กล่าวขึ้นมาว่า "เอาล่ะๆ พวกแกนี่เป็นอะไรกัน ครอบครัวเดียวกันก็ควรจะคุยกันดีๆ"

"กั๋วเหลียง เล่าให้พี่สาวของแกฟังสิว่าเกิดอะไรขึ้น" ผู้เฒ่าฉินสั่ง

"ครับพ่อ"

ฉินกั๋วเหลียงพยักหน้า จากนั้นเขาก็พูดว่า "พี่ใหญ่ เรื่องมันเป็นแบบนี้ เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้วเสี่ยวหยุนเปิดร้านขายเสื้อผ้าขึ้น แล้วก็เปิดโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า..."

เขาอธิบายเรื่องนี้คร่าวๆ

ฟังที่ฉินกั๋วเหลียงเล่าให้ฟัง ฉินเซี่ยหลันก็มองไปที่ฉินหยุนด้วยท่าทางไม่อยากจะเชื่อ

หลานชายของเธอเปิดร้านขายเสื้อผ้าตั้งแต่ตอนอยู่ชั้นมัธยมปลายปีที่สาม จากนั้นเขาก็ขยายสาขาไปเรื่อยๆ ตอนนี้เขาได้เปิดร้านขายเสื้อผ้า 2 ร้าน ร้านขายรองเท้า 2 ร้าน โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าและโรงงานผลิตรองเท้าอย่างละแห่งในเขตชิงอู๋ โดยมีพนักงาน 200 กว่าคนแล้ว

จางพ่านตี้ เฝิงหลาน ฉินตงเหมย และคนอื่นๆต่างก็ทำงานอยู่ในโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า และเงินเดือนของพวกเธอก็มากกว่า 7,000 หยวน แถมยังมีโบนัสสิ้นปีอีกด้วย

ไม่เพียงแค่นี้เท่านั้น ฉินหยุนยังเปิดร้านขายเสื้อผ้าและโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าในเมืองจินหลิงอีกด้วย และขนาดของมันก็ยังใหญ่กว่าที่อยู่ในเขตชิงอู๋เสียอีก ดังนั้นฉินเสี่ยวเทาจึงไปช่วยฉินหยุนจัดการสิ่งต่างๆที่นั่น

เธอมีความประทับใจบางอย่างเกี่ยวกับฉินหยุนในฐานะหลานชายเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้ลึกซึ้งมากนัก เธอรู้ว่าเขาเข้าเรียนที่มหาลัยเจียงหยวนในเมืองจินหลิง ช่วงวันหยุดฤดูร้อนพวกเขาก็โทรมาชวนเธอให้กลับมาร่วมฉลองเช่นกัน แต่พวกเธอตอบว่าติดธุระบางอย่างและไม่ได้กลับมา

เหตุผลหลักคือพวกเธอไม่ได้ให้ความสนใจกับฉินหยุนมากนัก แถมหลานชายของพวกเธอก็ไม่ค่อยพูดเท่าไร

ถ้าหากต้องกลับมาจากปักกิ่งจริงๆ แค่เดินทางไปกลับก็หมดไปแล้วสองวันเต็มๆ ไหนจะค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับอีกหลายพันหยวน พวกเธอจึงไม่ต้องการที่จะกลับมาเพราะเรื่องแค่นี้

และเมื่อสักครู่เมื่อตอนที่เธอเดินเข้ามา เธอก็มองข้ามฉินหยุนไปอย่างง่ายดาย

อย่างไรก็ตาม หลานชายคนนี้ที่เธอไม่ค่อยสนใจ กลับซุ่มทำธุรกิจพวกนี้อย่างเงียบๆ!

ฉินเซี่ยหลันรู้สึกตกใจมาก และตอนนี้เธอก็รู้สึกร้อนที่ใบหน้าเล็กน้อย เมื่อสักครู่นี้เธอเพิ่งจะคุยโม้เกี่ยวกับลูกชายของเธอไป แต่เมื่อเทียบกับฉินหยุนแล้ว ลูกชายของเธอเทียบเขาไม่ติดเลย

โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าที่มีพนักงาน 200 คนในเขตชิงอู๋ แค่สิ่งนี้ก็เกินจินตนาการของพวกเธอแล้ว

เมื่อมองไปที่ฉินเซี่ยหลันที่กำลังตกตะลึง ในใจของจางพ่านตี้ก็รู้สึกมีความสุขมาก แม้แต่จ้าวเหมย เฝิงหลาน และฉินตงเหมยก็ยังรู้สึกเหมือนกันนิดหน่อย

พวกเธอทั้งหมดต่างก็เคยได้รับการชี้แนะโดยฉินเซี่ยหลันในช่วงตรุษจีนที่ผ่านๆมา

ได้ไปอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่อย่างปักกิ่งกับลูกชายที่มีความสามารถของเธอ ฉินเซี่ยหลันดูเหมือนจะกลายเป็นคนที่มีท่าทางสูงส่งกว่าตลอดเมื่อตอนที่พูดคุยกับพวกเธอ ใครบ้างอยากจะเป็นคนที่ถูกเธอพูดถึงเช่นนี้?

แต่ตอนนี้ฉินเซี่ยหลันมีท่าทางราวกับลูกโป่งแฟบไปแล้ว

นอกจากฉินเซี่ยหลันแล้ว อู๋ข่ายและอู๋หมิงเฟิงก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งอู๋ข่าย อันที่จริงฐานะครอบครัวของเขาดีมาก มิฉะนั้นตอนที่พวกเขาย้ายไปอยู่ปักกิ่งช่วงแรกๆ พวกเขาจะไม่สามารถหาที่อยู่ได้แน่นอนถ้าพวกเขามีเงินไม่มากพอ

ดังนั้นเขาจึงรู้สึกดูถูกคนจากครอบครัวของภรรยาของเขานิดหน่อย

ท้ายที่สุดแล้วทั้งฉินกั๋วเหลียง ฉินกั๋วตง และครอบครัวอื่นๆเมื่อก่อนต่างก็มีชีวิตที่น่าสังเวชมาก แต่เขาไม่ได้คาดคิดว่าพวกเขาจะสามารถพึ่งพาฉินหยุนหลานชายของภรรยาเขาเพื่อลุกขึ้นได้

(จบตอน)