ขณะที่จางเสี่ยวเยว่กำลังกล่าวออกมา จ้าวฉิงที่ยืนอยู่ข้างๆเธอก็เต็มไปด้วยความอิจฉา
จ้าวคังฮ่าวส่ายหัวและกล่าวว่า "มันเทียบกันไม่ได้หรอก ฉินหยุนเขาโชคดีมากจริงๆ ถ้าเราถูกรางวัลใหญ่บ้าง เราก็จะมีเงินหลายแสนหยวนอยู่ในมือเหมือนกัน และเราก็จะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสุขสบายแน่นอน"
แม้ว่าครอบครัวของเขาจะมีฐานะร่ำรวย แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะร่ำรวยด้วย และพ่อกับแม่ของเขาก็คงจะไม่ยอมให้เขาย้ายออกไปอยู่ข้างนอกมหาลัยแน่นอน
หลังจากคำกล่าวของจ้าวคังฮ่าวจบลง หลี่หานอวี่ก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวว่า "ฉันรู้สึกว่าฉินหยุนใช้เงินสิ้นเปลืองมากเกินไป ทั้งค่าเช่าบ้านและค่าผ่อนรถ รวมกันแล้วน่าจะต้องจ่ายอย่างน้อย 5,000 หยวนต่อเดือนเลย แถมรถคันนั้นก็เป็นรถ BMW ด้วย แม้ว่ามันจะเป็นรุ่นที่ราคาถูกที่สุด แต่ก็ต้องใช้เงินถึงสามแสนหยวนในการซื้อมัน ซึ่งราคาก็แพงกว่ารถคันที่เขาเคยจับรางวัลได้อีก เงินก้อนนั้นของเขาน่าจะไม่เพียงพอที่จะใช้ผ่อนรถแน่"
จากมุมมองของพวกเขา ฉินหยุนใช้จ่ายเงินสิ้นเปลืองไปมากจริงๆ
"ใครจะไปรู้ บางทีฉินหยุนอาจจะเป็นคนรวยรุ่นที่สองก็ได้" จ้าวฉิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
หลายคนพูดคุยเกี่ยวฉินหยุนกันสองสามคำ แต่ก็ไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดีอะไร
"เอาล่ะๆ หยุดพูดได้แล้ว เรากลับกันเถอะ" เจียงอีกล่าวออกมา
ตอนนี้เธอรู้สึกหดหู่ใจมาก เดิมทีเป็นเพราะจ้าวคังฮ่าวที่ทำให้เธอกลายเป็นจุดสนใจของทุกคนในครั้งนี้ แต่ฉินหยุนได้ดึงความสนใจนั้นออกไปแล้ว
...
ในอีกด้านหนึ่ง หลินเมิ่งเมิ่งนั่งอยู่ในรถ เธอมองไปที่ฉินหยุนที่กำลังขับรถอยู่ ใบหน้าของเธอแดงเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด และหัวใจของเธอก็เต้นเร็วขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
เธอเป็นคนที่สวยมาก แถมเธอก็ยังเป็นหนึ่งในคนที่เรียนเก่งที่สุดในชั้นเรียนอีกด้วย นอกจากหยูเล่อเหยาแล้ว นับว่าเธอสามารถอยู่ในสามอันดับแรกได้เลย
และเพราะความสวยของเธอ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่จะมีบางคนตามมาจีบเธอเช่นกัน นอกจากชายหนุ่มสองสามคนในชั้นเรียนเดียวกันแล้ว ยังมีคนจากคณะอื่นๆที่มาสารภาพรักกับเธออีกด้วย ซึ่งหลายคนในจำนวนนี้ก็ทั้งสูงและหล่อ
อย่างไรก็ตาม เธอไม่มีความรู้สึกใดๆกับคนเหล่านี้เลย คนที่เธอคิดถึงอยู่เสมอก็มีแต่ฉินหยุนเท่านั้น และเธอก็ไม่ได้ต้องการติดต่อกับผู้ชายคนอื่นเลย
ก่อนหน้านี้เธอคิดว่าเซียวหลานเป็นแฟนของฉินหยุนมาโดยตลอด และเธอก็รู้สึกเสียใจอยู่เป็นเวลานาน แต่จากนั้นเธอก็ได้รู้ว่าเซียวหลานกับฉินหยุนพวกเขาดูเหมือนจะเลิกกันแล้ว และตอนนี้พวกเขาทั้งคู่ก็เป็นแค่เพื่อนกันด้วย ดังนั้นเธอจึงรู้สึกมีความสุขอย่างอธิบายไม่ได้
"ฉินหยุน ฉันอยากถามอะไรนายหน่อย" หลังจากเงียบมานาน ในที่สุดหลินเมิ่งเมิ่งก็รวบรวมความกล้าเพื่อจะกล่าวออกมา
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินหยุนก็ถามเธอตรงๆว่า "มีอะไรงั้นเหรอ?"
หลังจากมองไปที่ไฟเขียวด้านหน้า ซึ่งมันยังเหลือเวลาอีกสามวินาที และรถของเขาก็ลดความเร็วลงพร้อมที่จะจอดรอสัญญาณไฟแดง
"ฉันอยากถามว่าตอนนี้นายมีแฟนหรือยัง?" หลินเมิ่งเมิ่งลังเลอยู่สองสามวินาที ก่อนที่จะเธอถามออกมาในที่สุด
หลังจากที่เธอเอ่ยถามจบ เธอก็รู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองเริ่มแสบร้อนเล็กน้อย
"แฟน?"
ฉินหยุนผงะไปครู่หนึ่งทันที แต่จากนั้นเขาก็กล่าวว่า "ไม่มี"
หลินเมิ่งเมิ่งรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งเมื่อได้ยินคำตอบนี้ และเธอก็รวบรวมความกล้าพลางกล่าวขึ้นอีกครั้งว่า "ฉินหยุน ฉันชอบนาย ให้ฉันเป็นแฟนของนายได้ไหม?"
ทันทีที่เธอกล่าวจบ เธอรู้สึกว่าหัวใจของเธอเต้นเร็วขึ้นมาก และเธอก็สัมผัสได้ถึงจังหวะการเต้นที่รุนแรงของมัน
เธอไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันนี้ วันที่เธอกล้าสารภาพรักกับผู้ชายคนหนึ่ง
เมื่อได้ยินคำสารภาพรักอย่างกะทันหันของหลินเมิ่งเมิ่ง ฉินหยุนก็ผงะไปอีกรอบทันที ในขณะนี้เขาไม่รู้ว่าเขาควรจะรู้สึกอย่างไร
สำหรับเขาแล้ว เขาก็ชอบหลินเมิ่งเมิ่งเช่นกัน สาวสวยคนนี้ทั้งขี้อายและมีนิสัยนุ่มนวล แต่แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ความชอบระหว่างชายหญิง
เขาเงียบไปและไม่ได้กล่าวอะไรออกมาเป็นเวลาหลายวินาที
แต่ในที่สุดเขาก็กล่าวขึ้นว่า "หลินเมิ่งเมิ่ง ตอนนี้ฉันยังไม่ได้คิดเรื่องที่จะมีแฟนเลย"
เมื่อเห็นท่าทางที่เงียบไปของฉินหยุน ในขณะนี้หลินเมิ่งเมิ่งก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย ซึ่งเธอกังวลว่าฉินหยุนจะปฏิเสธเธอโดยตรง ถ้าเป็นอย่างนั้นในอนาคตเธอก็ไม่รู้แล้วว่าจะพูดคุยกับเขาได้ปกติอย่างไร
แต่ตอนนี้เมื่อเธอได้ยินคำตอบของฉินหยุน แม้ว่าเธอจะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ถึงกระนั้นเธอก็รู้สึกโล่งใจมากกว่า
อย่างน้อยก็ไม่ใช่การปฏิเสธโดยตรง
"งั้นในอนาคต ถ้านายอยากมีแฟนเมื่อไร นายมาหาฉันได้ไหม?" หลินเมิ่งเมิ่งรู้สึกว่าความกล้าของเธอเพิ่มมากขึ้น เธอจึงถามออกมาอีกครั้งด้วยใบหน้าสีแดง
เธอรู้สึกแปลกมาก เมื่อตอนที่เธอเห็นฉินหยุนเป็นครั้งแรก และได้ยินเขาบอกว่าเขามาจากอู๋ซื่อเช่นกัน ตอนนั้นเธอรู้สึกว่าเธอถูกเขาดึงดูดด้วยบางอย่าง และอดไม่ได้ที่จะพยายามเข้าใกล้เขา
เมื่อได้ยินคำถามของเธอ ฉินหยุนก็รู้สึกปวดหัวเล็กน้อย
เขาถูกสารภาพรักอย่างกระทันหันแบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเลย ซึ่งเขาไม่เคยสังเกตท่าทีของเธอมาก่อนเลยจนกระทั่งตอนนี้ ฉินหยุนรู้สึกว่าสิ่งที่เขากล่าวไปเมื่อสักครู่นี้นั้นสุภาพเกินไป ซึ่งมันยิ่งทำให้หลินเมิ่งเมิ่งเข้าใจผิดมากขึ้นไปอีก
หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง ฉินหยุนก็กล่าวออกมาว่า "ถ้าเธอเจอผู้ชายที่เธอชอบ เธอก็ลองติดต่อกับเขาดูได้ ไม่จำเป็นต้องรอฉัน"
"ฉันจะไม่ติดต่อกับคนอื่น ฉันชอบนายแค่คนเดียวเท่านั้น" หลินเมิ่งเมิ่งตอบกลับโดยทันที
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินหยุนก็ยิ่งรู้สึกปวดหัวหนักกว่าเดิมอีก ปกติหลินเมิ่งเมิ่งคนนี้ก็ดูน่ารักและฉลาดอยู่ แต่ทำไมตอนนี้เขาถึงรู้สึกว่าเธอดูสมองทึบเล็กน้อย
จากนั้นเขาก็ไม่ได้กล่าวอะไรออกมาอีก เขาไม่มีประสบการณ์ในเรื่องเหล่านี้มากนัก และเขาก็ไม่รู้วิธีจัดการกับหลินเมิ่งเมิ่งที่จู่ๆก็สารภาพรักออกมาด้วย
แต่จากมุมมองของเขา เมื่อเวลาผ่านไปและหลินเมิ่งเมิ่งได้พบเจอกับผู้ชายมากขึ้น บางทีในตอนนั้นเธออาจจะไม่ได้คิดแบบนี้อีกแล้ว
รถขับไปถึงมหาลัยอย่างรวดเร็ว แต่ฉินหยุนไม่ได้ขับเข้าไป เขาหยุดรถที่ประตูทางเข้ามหาลัย
มีนักศึกษาบางคนอยู่นอกประตูมหาลัย ซึ่งบางคนก็มองมาทางรถของฉินหยุน ในหมู่พวกเขาก็คือรุ่ยเฉินฉี คนคุ้นเคยจากห้องพักของจางเสี่ยวเยว่ ซึ่งเป็นคนที่เฉิงต้าสงล้มเหลวในการสารภาพรักไป
ในเวลานี้รุ่ยเฉินฉีกำลังยืนถัดจากชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังไล่ตามจีบเธออยู่
เธอยังมีความประทับใจที่ดีต่อชายหนุ่มคนนี้ ดังนั้นเธอจึงเต็มใจที่จะให้โอกาสเขา
"BMW คันนี้เป็นรุ่นธรรมดาที่สุด ราคาประมาณ 300,000 หยวน"
เมื่อเห็นรุ่ยเฉินฉีมองดูรถที่กำลังขับเข้ามา ชายหนุ่มข้างๆเธอก็เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม
หญิงสาวหลายคนไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับรุ่นรถ ราคารถ หรืออะไรพวกนี้มากนัก ซึ่งพวกเธออาจจะรู้จักยี่ห้อรถเพียงไม่กี่แบรนด์เท่านั้น เช่น BMW ออดี้ และเมอร์เซเดส-เบนซ์ แต่ชายหนุ่มส่วนใหญ่ พวกเขาจะสนใจเรื่องเหล่านี้มากกว่า
เมื่อเห็นว่าประตูรถเปิดออกและมีหญิงสาวคนหนึ่งออกมาจากด้านใน รุ่ยเฉินฉีก็เหลือบไปมองโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่จู่ๆเธอก็ผงะและอุทานออกมาว่า "เมิ่งเมิ่ง!"
คนที่ออกมาจากรถกลับกลายเป็นหลินเมิ่งเมิ่งเสียอย่างนั้น
เธอรีบเดินไปหาอย่างรวดเร็ว ดึงหลินเมิ่งเมิ่งเข้ามาหาแล้วเอ่ยถามว่า "ไม่ใช่ว่าเธอออกไปกับพวกอีอีและเสี่ยวเยว่หรอกเหรอ ทำไมถึงนั่งรถคันนี้กลับมาล่ะ?"
"เสี่ยวฉี ฉินหยุนเขามาส่งฉันน่ะ" หลินเมิ่งเมิ่งกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เมื่อเห็นเงาร่างที่คุ้นเคยจากนอกรถ ฉินหยุนก็เปิดประตูรถเดินออกมา และก็พยักหน้าไปทางรุ่ยเฉินฉี
ด้วยรูปร่างที่สูงและหน้าตาหล่อเหลา เขาจึงดูสดใสมาก เมื่อเขาลงมาจากรถ สาวๆหลายคนที่อยู่รอบๆประตูทางเข้ามหาลัยก็มองมาที่เขาทันที
"ฉินหยุน"
เมื่อเห็นฉินหยุน รุ่ยเฉินฉีก็ถามด้วยความประหลาดใจ "นี่รถของนายงั้นเหรอ?"
ก่อนที่ฉินหยุนจะได้เอ่ยตอบ หลินเมิ่งเมิ่งก็ช่วยเขากล่าวขึ้นก่อนว่า "นี่คือรถที่ฉินหยุนเพิ่งซื้อมา"
เธอรู้สึกมีความสุขเมื่อได้เป็นคนพูดถึงเรื่องนี้เอง แม้ว่าฉินหยุนจะไม่ได้ตกลงที่จะให้เธอเป็นแฟน แต่เมื่อคนที่เธอชอบซื้อรถใหม่ ในใจของเธอจึงรู้สึกภูมิใจเล็กน้อย
เมื่อได้ยินเช่นนี้ รุ่ยเฉินฉีก็รู้สึกอิจฉามาก ถ้าก่อนหน้านี้ไม่ใช่เฉิงต้าสงที่สารภาพรักกับเธอ แต่เป็นฉินหยุนแทน มันจะเป็นเรื่องดีมาก
"หลินเมิ่งเมิ่ง ฉันไปก่อนนะ"
ฉินหยุนกล่าวกับหลินเมิ่งเมิ่ง จากนั้น เขาก็กลับเข้าไปในรถอีกครั้ง
รถสตาร์ทขึ้น และก็ขับออกไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว
มองดูรถแล่นออกไป รุ่ยเฉินฉีดึงหลินเมิ่งเมิ่งเข้ามา เธออดไม่ได้ที่จะถามว่า "เมิ่งเมิ่ง ตอนนี้ความสัมพันธ์ของเธอกับฉินหยุนไงบ้าง?"
ตอนที่ฉินหยุนขับรถมาส่งหลินเมิ่งเมิ่งเมื่อสักครู่นี้ ดูเหมือนว่าระหว่างพวกเขาจะมีเรื่องผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้น
หลินเมิ่งเมิ่งชะงักไปชั่วขณะ จากนั้นก็กล่าวอย่างเขินอายว่า "ฉันสารภาพรักกับฉินหยุนไปแล้ว"
"สารภาพรัก?" เมื่อได้ยินเช่นนี้ รุ่ยเฉินฉีก็เข้าโหมดซุบซิบอีกครั้ง เธอถามว่า "แล้วเขาตกลงไหม?"
"ไม่"
หลินเมิ่งเมิ่งรู้สึกเศร้าเล็กน้อยขณะที่กล่าวออกมา "ฉินหยุนบอกว่าเขายังไม่อยากมีแฟน"
(จบตอน)
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved