ตอนที่ 105 เหล่ารูมเมทพากันอิจฉา

"ใครบอกให้พวกนายไม่มีวิสัยทัศน์กัน!" โจวผานกล่าวอย่างภาคภูมิใจโดยไม่สนใจสายตาที่อิจฉาของเฉิงต้าสงเลย

"เห้อ ถ้าฉันรู้เร็วกว่านี้ ฉันจะเอาเงินไปลงทุนด้วยแน่นอน" จ้าวคังฮ่าวอดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมาพลางถอนหายใจ

ก่อนหน้านี้เมื่อตอนที่โจวผานเอาเงินไปลงทุน ตอนนั้นเขาเหลือเงินอยู่กับตัวไม่มากนัก ดังนั้นจึงไม่ได้ลงทุนด้วย หลังจากนั้นในช่วงวันหยุดชาติเขาก็กลับบ้านไป ตอนนี้เมื่อเขากลับมาที่มหาลัยอีกครั้งก็ได้รู้ว่าร้านหม่าล่าทั่งของหยูเล่อเหยาตกแต่งเสร็จและเริ่มเปิดร้านแล้ว แถมธุรกิจยังไปได้ดีมาก

"ตอนนี้เสียใจไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก" หลี่หานอวี่ตบไหล่จ้าวคังฮ่าว

สำหรับหลี่หานอวี่ จริงๆแล้วเขาก็มีเงินสำรองอยู่ก้อนหนึ่ง แต่เขาไม่ได้มองร้านหม่าล่าทั่งของหยูเล่อเหยาในแง่ดีสักเท่าไร จึงไม่ได้ลงทุนกับเธอ มาตอนนี้เขาก็รู้สึกเสียใจนิดหน่อย

จ้าวคังฮ่าวถอนหายใจ จากนั้นเขาก็มองไปที่ฉินหยุนและกล่าวว่า "ยังไงก็เถอะ หยูเล่อเหยายังขอให้ฉินหยุนลงทุนกับเธอก่อนด้วย แต่ฉินหยุนก็ปฏิเสธ"

เมื่อเขาเห็นฉินหยุน อารมณ์ของเขาก็ดีขึ้นอีกครั้ง

"ดูเหมือนว่าไม่ใช่แค่ฉันคนเดียวที่ไม่มีวิสัยทัศน์"

เมื่อมีคนที่เป็นเช่นเดียวกับตัวเอง เขาก็ไม่รู้สึกเสียใจอีกต่อไป

"นายจะเสียใจก็เสียใจไปสิ ทำไมต้องมาคิดว่าฉันเสียใจด้วย" เมื่อได้ยินสิ่งที่เขากล่าว ฉินหยุนก็สบถออกมาด้วยรอยยิ้ม

"ไปกันเถอะ วันนี้ฉันจะเป็นเจ้าภาพ ขอเชิญพวกนายออกไปทานอาหารมื้อใหญ่ด้วยกัน" เขากล่าวออกมาทันที

"อาหารมื้อใหญ่งั้นเหรอ ฉินหยุน นายได้มาเงินจากไหนกัน?"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของเฉิงต้าสงก็สว่างขึ้น เขารีบเด้งตัวออกจากเตียงทันทีเมื่อได้ยินว่าฉินหยุนจะเลี้ยงข้าว

"ต้าสง ความจำของนายแย่มาก ไม่ใช่ว่าฉินหยุนเคยจับรางวัลได้รถมาก่อนหรือไง?"

จ้าวคังฮ่าวมองเขาอย่างเหยียดหยาม

"เฮ้ ฉินหยุน เมื่อกี้นายเพิ่งกลับมาถึงที่ห้องพัก นายไม่ได้เอากระเป๋ามาด้วยงั้นเหรอ? ฉันจำได้ว่านายเอากระเป๋าใส่ของติดตัวไปด้วยนี่นา เมื่อตอนที่กลับบ้านน่ะ"

เมื่อเห็นฉินหยุนเดินเข้าห้องมาด้วยมือเปล่า จ้าวคังฮ่าวจึงถามขึ้นด้วยความแปลกใจ

เขาเป็นคนแรกที่กลับมาถึงห้องพักแห่งนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้อีกห้าคนยังมาไม่ถึง

"ฉันไม่ได้เอามันมาด้วย" ฉินหยุนกล่าวด้วยรอยยิ้ม "ฉันวางแผนจะพักอยู่ข้างนอกน่ะ และฉันก็เช่าบ้านที่นอกมหาลัยไว้แล้ว"

"เช่าบ้านงั้นเหรอ?"

"ให้ตายเถอะ พูดจริงหรือเปล่า!"

เมื่อได้ยินคำกล่าวของฉินหยุน ชั่วขณะนั้นทั้งห้องพักก็เงียบลงทันที จากนั้นก็มีเครื่องหมายตกใจเด้งออกมาจากหัวของทุกคน

มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่นักศึกษาบางคนจะไม่ได้อาศัยอยู่ในหอพัก แต่พวกเขาไม่ได้คาดคิดว่าจะมีหนึ่งในนั้นปรากฏตัวขึ้นในห้องพักของพวกเขา

ค่าเช่าข้างนอกนั้นแพงมาก นักศึกษาเหล่านี้ส่วนใหญ่มีฐานะธรรมดาทั่วไป ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะจ่ายค่าเช่าบ้านไหว

"แน่นอนว่าเป็นเรื่องจริง ฉันมาที่ห้องเพื่อเอาของบางอย่าง และต่อจากนี้ฉันจะไม่ได้พักอยู่กับพี่น้องอย่างพวกนายแล้ว" เขากล่าวพลางถอนหายใจออกมา

ทั้งห้าคนในห้องพักแห่งนี้ แต่ละคนต่างก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ถ้าจะกล่าวว่าพวกเขามีความรู้สึกผูกพันธุ์ต่อกันมันก็คงจะเป็นเรื่องไร้สาระเกินไป เพราะพวกเขาเพิ่งอาศัยอยู่ด้วยกันได้แค่หนึ่งเดือนเท่านั้น

เขายังมีร้านขายเสื้อผ้าให้ต้องจัดการดูแล และมันไม่ค่อยสะดวกสักเท่าไรที่จะไปๆมาๆระหว่างร้านค้ากับหอพัก

"โอ้ววว ฉินหยุน นายรวยแล้วนี่ เพราะงั้นนายเลยจะทิ้งพวกเราเหล่าพี่น้องแล้วออกไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุขใช่ไหม"

"อิจฉาโว้ย!"

"ฉันก็อยากอยู่ข้างนอกเหมือนกัน แต่พ่อของฉันไม่ยอม เขาบอกว่าอยากจะให้ฉันได้สัมผัสกับชีวิตของคนธรรมดา"

หลี่หานอวี่และโจวผานอิจฉามาก ในขณะที่จ้าวคังฮ่าวถอนหายใจออกมา และหลังจากที่ถอนหายใจเสร็จ เขาก็มองไปที่ฉินหยุนด้วยสายตาที่น่าโดนต่อยสักที

"ไป ไป ไป! เนื่องจากฉินหยุนจะทิ้งพวกเราเหล่าพี่น้องเพื่อไปมีความสุขคนเดียว เพราะงั้นวันนี้เราต้องจัดการเขาให้ตาย!"

"ใช่ เราต้องทำให้ฉินหยุนกระอักเลือดออกมา!"

จ้าวคังฮ่าวและโจวผาน ทั้งคู่ต่างก็กล่าวออกมา

ทั้งหกคนออกจากหอพักและเดินออกไปที่นอกมหาลัย

แม้ว่าจ้าวคังฮ่าวและคนอื่นๆจะกล่าวเช่นนั้น แต่พวกเขาก็ยังเลือกร้านอาหารร้านเล็กๆเท่านั้น สุดท้ายฉินหยุนก็ใช้เงินไปทั้งหมดแค่ 300 หยวน

หลังจากกินและดื่มกันจนอิ่มหนำแล้ว จ้าวคังฮ่าวกับคนอื่นๆก็เอ่ยถามว่าฉินหยุนเช่าบ้านอยู่ที่ไหน จากนั้นพวกเขาก็ยืนกรานที่จะไปดูให้เห็นกับตา

ฉินหยุนก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร เขาพาพวกเขาทั้งหมดไปที่บ้านใหม่ทันที

"ว้าว! บ้านหลังนี้มีขนาดใหญ่กว่า 120 ตารางเมตรซะอีก!"

"วิวดี แสงสว่างดี ที่สำคัญเงียบสงบ ที่นี่ทำเลดีมาก!"

"ฉินหยุน นายอยู่ที่นี่จ่ายค่าเช่าเดือนเท่าไรเหรอ"

เมื่อได้เห็นบ้านหลังนี้ โจวผาน เฉิงต้าสงและคนอื่นๆ ก็พากันอุทานออกมาเป็นครั้งคราว โดยเฉพาะเฉิงต้าสง เขารู้สึกอิจฉายิ่งกว่าเดิมเสียอีก

บ้านที่บ้านเกิดของเขาก็อยู่ในเมืองเช่นกัน แต่มันไม่ได้ใหญ่เท่ากับบ้านที่ฉินหยุนเช่าอยู่ตอนนี้

หลังจากอยู่ในบ้านหลังนี้เป็นเวลาสักพัก จ้าวคังฮ่าวและคนอื่นๆก็จากไปอย่างไม่เต็มใจ

"ยังไงก็ตาม ฉันฝากพวกนายดูแลโต๊ะเตียงให้หน่อยนะ วันไหนมีเรียนเดี๋ยวฉันเข้าไป ไว้เดี๋ยวจะเลี้ยงข้าว" ฉินหยุนกล่าวกับพวกเขาด้วยรอยยิ้ม

สำหรับหลักสูตรของทางมหาลัย บางครั้งก็มีเรียนเพียง 2 ชั่วโมงต่อวัน และบางครั้งก็ 8 ชั่วโมงเต็มในหนึ่งวัน ดังนั้นจึงต้องมีบางวันที่ฉินหยุนกลับไปที่หอพักในตอนเที่ยง

"เข้าใจแล้ว"

จ้าวคังฮ่าวกับคนอื่นๆโบกมือ จากนั้นก็ออกจากที่นี่ไป

เมื่อเดินอยู่บนถนน หลี่หานอวี่อดไม่ได้ที่จะกล่าวว่า "ฉันได้ยินมาว่ามีนักศึกษาบางคนที่ครอบครัวฐานะดี พวกเขาไม่ได้อาศัยอยู่ในหอพัก แต่ไปอาศัยอยู่ข้างนอกมหาลัย ไม่คิดเลยว่าจะมีหนึ่งในนั้นอยู่ใกล้ตัวพวกเรา"

หลังจากเขากล่าวจบ เฉิงต้าสงก็เอ่ยขึ้นทันที "ถ้านายมีเงินนายก็ทำได้ ถึงแม้ฉินหยุนจะบอกว่าให้รถคันนั้นกับญาติไปแล้ว แต่ฉันแน่ใจว่าเขาต้องขายรถคันนั้นแล้วล่ะ ถ้าฉันมีเงินเป็นแสน ฉันก็อาจจะเลือกเช่าบ้านสักหลังเหมือนกันก็ได้"

เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไร

"การที่ฉินหยุนจับรางวัลรถยนต์ได้ มันก็เป็นเพราะความสามารถของเขา ไม่ว่าเขาจะมอบมันให้กับญาติหรือขายมันไปแล้ว มันก็เป็นเรื่องของเขา ถ้านายมีความสามารถ นายก็ลองไปทำแบบเขาดูสิ"

เมื่อจ้าวคังฮ่าวได้ยินน้ำเสียงที่ค่อนข้างไม่พอใจของเฉิงต้าสง เขาก็ชำเลืองมองอีกฝ่ายพลางกล่าวออกมา

"เหอะ ฉันทำไม่ได้หรอก"

เฉิงต้าสงกล่าวออกมาพร้อมกับหัวเราะเบาๆ เขาไม่ได้โต้เถียงกับจ้าวคังฮ่าวต่อ

...

หลังจากเห็นว่าจ้าวคังฮ่าวและคนอื่นๆจากไปแล้ว ฉินหยุนก็ตรงไปที่ร้านขายเสื้อผ้า ในเวลานี้ ภายในร้านไม่ได้มีแค่จ้าวเทียนเฉียงเท่านั้น แต่ฉินเสี่ยวเทาก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน

"บอสฉิน"

เมื่อเห็นฉินหยุนมา ทั้งสองคนก็เอ่ยทักทายทันที

จากนั้นพวกเขาก็พูดคุยกันเรื่องร้านค้าที่จะเช่าเหล่านั้น

แม้ว่าจะยังเป็นช่วงต้นเดือนตุลาคมอยู่ แต่พวกเขาก็เตรียมที่จะเปิดร้านอีกสามสาขาในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้แล้ว

หลังจากยืนยันตำแหน่งที่ตั้งของร้านค้าทั้งสามเสร็จ ฉินหยุนก็กล่าวว่า "นอกเหนือจากร้านสาขาแล้ว ผมวางแผนที่จะเปิดโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าขนาดใหญ่ในจินหลิงอีกด้วย"

โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าที่เขตชิงอู๋เพิ่งขยายฐานการผลิตไป ในระยะเวลาสั้นๆนี้จำนวนเสื้อผ้าที่ผลิตออกมาเพียงพอต่อความต้องการของร้านค้าแน่นอน อย่างไรก็ตาม เมืองจินหลิงค่อนข้างอยู่ห่างไกลจากเขตชิงอู๋ ดังนั้นโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าที่นี่ยังคงต้องสร้างขึ้นโดยเร็วที่สุด

เมื่อได้ยินเช่นนี้ จ้าวเทียนเฉียงก็คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้สักครู่ จากนั้นเขาก็กล่าวว่า "บอสฉินต้องการพื้นที่เท่าไหร่ครับ?"

เขารู้เช่นกันว่าฉินหยุนเปิดโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าที่เขตชิงอู๋ เมืองอู๋ซื่อ ในมณฑลอานฮุย และเสื้อผ้าทั้งหมดในร้านขายเสื้อผ้า ต่างก็ถูกส่งมาจากที่นั่น

อันที่จริงเขาคิดว่าการตั้งโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าในจินหลิงเป็นเรื่องที่ดีมากเช่นกัน

แม้ว่าค่าเช่าในจินหลิงจะแพง แต่ที่ตั้งของโรงงานสามารถเลือกสร้างในพื้นที่นอกตัวเมือง หรือที่นอกเขตของจินหลิงได้

"ยิ่งกว้างเท่าไรก็ยิ่งดี!" ฉินหยุนเอ่ยขึ้นตรงๆ

ฐานลูกค้าในจินหลิงนั้นถือว่ามีขนาดที่ใหญ่มาก หากเขาเลือกโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าขนาดเล็กก่อน เขาก็จะต้องเริ่มสร้างโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าแห่งใหม่เมื่อไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้ เห็นได้ชัดว่านี่เป็นปัญหาที่ไม่เล็กเลย

"แน่นอน ไม่ใช่แค่ขนาดพื้นที่ แต่ยังรวมถึงค่าเช่าด้วย ถ้าหากค่าเช่าแพงเกินไป คุณสามารถขยายขอบเขตไปยังเมืองซูโจวได้"

อย่างมากสุดไม่เกินครึ่งปี ร้านขายเสื้อผ้าของเขาจะเริ่มดำเนินการเปิดสาขานอกเมืองจินหลิง และจะเปิดไปเรื่อยๆจนกว่าจะสามารถครอบครองตลาดในมณฑลเจียงซูได้!

ฉินหยุนกล่าวต่อ "เราจะพิจารณาเรื่องของโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้ากันอย่างเต็มที่ ช้าสุดต้องรู้ผลภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้ และการดำเนินการตามแผนจะเริ่มขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน"

เมื่อได้ยินแผนการของฉินหยุน จ้าวเทียนเฉียงก็พยักหน้าออกมา เวลาเกือบสองเดือนที่ฉินหยุนกำหนดให้นั้นถือว่าเพียงพอแล้ว เขาสามารถทำสิ่งเหล่านี้ให้เสร็จได้อย่างง่ายดาย

(จบตอน)