หยานจีเหลือบมองเธอก่อนจะพูดว่า
"ไม่ต้องห่วง ทุกอย่างจะเรียบร้อย"
"ทุกคนระวังด้วย อย่าแตกกลุ่ม คอยระวังพวกมอนสเตอร์ในป่าเมเปิ้ลแดงด้วย!"
จั่วมู่เกอเอ่ยเตือน
ซึ่งความจริง การต่อสู้อันรุนแรงที่เกิดขึ้นได้ทำให้พวกมอนสเตอร์ที่อยู่ใกล้เคียงเตลิดหนีไปจนหมดแล้ว
การต่อสู้ดำเนินไปสักพัก จากนั้นภายในป่าก็กลับคืนสู่ความสงบ
ทุกคนต่างไม่กล้าหายใจแรง พวกเขาหันมองไปทางทิศทางที่ได้ยินเสียงการต่อสู้ด้วยแววตาที่ฉายแววกังวล
หากว่าผู้คุมทั้งสองและหลินอวี่พ่ายแพ้ พวกเขาก็จะตกอยู่ในอันตราย
หากแต่หยานจีและจั่วมู่เกอนั้นยังคงมีสีหน้าเยือกเย็นดังเดิม
พวกเธอเชื่อมั่นในตัวหลินอวี่
แค่คลาสสามคลาสสี่ไม่กี่คน หลินอวี่จะแพ้ได้ยังไง?
ไม่นานก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากที่ห่างออกไป
ที่ปรากฏตัวขึ้นก็คือ หลินอวี่ เถียนหยวนหลง และลู่เหยา
เมื่อเห็นว่าเป็นทั้งสามทุคนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
หลังจากนั้น ดวงตาของพวกเขาก็ฉายแววประหลาดใจ
"ชนะ....ชนะแล้ว?"
มีบางคนพึมพำกับตัวเอง
จั่วมู่เกอและหยานจีต่างยิ้มออกมาเมื่อเห็นหลินอวี่
พวกหลินอวี่เดินเข้ามาภายใต้สายตาที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นของทุกคน
เถียนหยวนหลงกวาดมองเหล่านักเรียนที่กำลังจ้องมองมาก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้ม
"เอาล่ะ ผู้ไล่ล่าถูกกำจัดหมดแล้ว พวกเรากลับกันได้แล้ว"
เยี่ยมไปเลย!
ได้ยินแบบนี้ พวกนักเรียนก็ส่งเสียงตะโกนด้วยความดีใจ
"สุดยอด พวกเราชนะแล้ว!"
"แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!"
"ดีชะมัด พวกเราปลอดภัยสักที!"
"......"
เมื่อเห็นเหล่านักเรียนต่างแสดงความดีใจ ลู่เหยาก็ยิ้มพลางพูดว่า
"ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณหลินอวี่ ไม่อย่างนั้นเรื่องราวคงไม่ราบรื่นขนาดนี้"
ทุกคนต่างหันไปมองหลินอวี่ด้วยความตกตะลึงแกมสงสัย
หลินอวี่เป็นนักเรียนเหมือนๆกับพวกเขาไม่ใช่เหรอ? เขาทำได้ยังไงกัน?
ตอนนี้เองก็เกิดเสียงคำรามอันทรงพลังดังมาจากระยะไกล
หลินอวี่และคนอื่นๆได้สติก่อนจะหันมองไปทิศทางที่เสียงดังมา
ลู่เหยาตาเป็นประกายก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มว่า
"ดูเหมือนว่ากำลังเสริมจะมาแล้ว! ไป พวกเรากลับไปดูกันเถอะ"
ทั้งกลุ่มเริ่มเดินกลับไปยังรถหุ้มเกราะ
ไม่นาน พวกเขาก้ได้พบกับจางหงไช่และผู้คุมคนอื่นๆที่กำลังออกตามหาพวกเขา
ทั่วร่างของจางหงไช่เต็มไปด้วยบาดแผลน้อยใหญ่ สภาพดูโทรมไม่น้อย
แต่ดีที่ไม่ได้บาดเจ็บร้ายแรงอะไร
นอกจากพวกเขาแล้ว ยังมีชายวัยกลางคนซึ่งสวมเสื้อคลุมสีแดงเข้มอยู่อีกคน
บนใบหน้าของชายวัยกลางคนที่ดูสูงสง่าผู้นี้เต็มไปด้วยความกังวล
เมื่อได้เห็นว่าพวกนักเรียนยังปลอดภัยกันดี และเถียนหยวนหลงกับลู่เหยาก็ไม่ได้บาดเจ็บอะไร เขาก็ชะงักไป
"อาสาม!"
มู่เห็นชายวัยกลางคน จั่วมู่เกอก็เอ่ยทักทาย
ชายวัยกลางคน จั่วเล่อเฉิง เป็นอาสามของจั่วมู่เกอ เขาไม่ได้ปลุกพลังและกลายเป็นนักบวชวจนะศักดิ์สิทธิ์ตามสายเลือดของตระกูล แต่เป็นนักเวท
หลังจากเห็นว่าจั่วมู่เกอไม่ได้บุบสลายใดๆ เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
"มู่เกอ หลานปลอดภัยดีนะ?"
จั่วมู่เกอเป็นรุ่นเยาว์เพียงคนเดียวของตระกูลที่ปลุกพลังและได้รับอาชีพนักบวชวจนะศักดิ์สิทธิ์มา ทั้งยังเป็นผู้ที่ผ่านภารกิจเลื่อนคลาสระดับวิญญาณศักดิ์สิทธิ์เพียงคนเดียว
เธอก็คือรุ่นเยาว์ที่มีพรสวรรค์มากที่สุดของตระกูลจั่ว
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่อาจให้เกิดเรื่องขึ้นกับเธอได้เป็นอันขาด
หลังจากได้รับข่าว จั่วเล่อเฉิงที่เคลื่อนไหวได้รวดเร็วที่สุดก็รีบมุ่งหน้ามาที่นี่ทันที
"ไม่เป็นอะไรค่ะคุณอา หนูปลอดภัยดี"
จั่วเล่อเฉิงพยักหน้า
ขณะที่จั่วเล่อเฉิงพูดคุยกับจั่วมู่เกอ จางหงไช่ก็อุทานด้วยความงุนงง
"พวก.....พวกเธอ ไม่ได้เกิดอะไรขึ้นกับพวกเธองั้นเหรอ?"
เขามองดูเถียนหยวนหลงและลู่เหยา จากนั้นจึงเบนสายตาไปดูพวกนักเรียนที่ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
ใบหน้าที่เรียบเฉยของเถียนหยวนหลงกระตุกเบาๆ
ลู่เหยาเองก้อดกลอกตาไม่ได้
"ท่านคะ มีอะไรรึเปล่าคะ? หรือถ้าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเราจะดีกว่านี้?"
"เปล่า.....ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น"
จากนั้นจางหงไช่ถึงรู้สึกตัวว่าเขาเหมือนจะใช้คำพูดผิดไป
เขาชี้ไปยังพวกนักเรียนที่อยู่ด้านหลังเถียนหยวนหลงก่อนจะถามด้วยความสับสน
"พวกนายถูกเมอร์ล็อคมากมายขนาดนั้นไล่ตามไป ฉันคิดว่าพวกนักเรียนจะได้รับบาดเจ็บกันแล้ว แต่ทำไมถึงยังปลอดภัยดีกันทุคน?"
เหล่าผู้คุมที่เหลือเองก็มองดูด้วยความสงสัย
สีหน้าของเถียนหยวนหลงเปลี่ยนเป็นจริงจัง เขาค่อยๆพูดขึ้นว่า
"มีนักเรียนเสียชีวิตหนึ่งคนครับ และเขาก็เป็นคนทรยศ"
เหล่าผู้คุมรวมถึงจั่วเล่อเฉิงต่างก็หน้าเครียดเมื่อได้ยิน
"เกิดอะไรขึ้น?"
เถียนหยวนหลงจึงเริ่มเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น
"อะไรนะ?! พวกที่ไล่ตามไปตายหมดแล้ว?! นักเรียนหลินอวี่ช่วยพวกนาย?"
จางหงไช่และผู้คุมที่เหลือต่างหันไปมองหลินอวี่ด้วยความตกตะลึง
พวกเขานึกไม่ถึงเลยว่าหลินอวี่จะมีม้วนเวทที่น่ากลัวไว้มากมายเช่นนี้
จั่วเล่อเฉิงมองประเมินหลินอวี่ขึ้นลงก่อนจะยิ้มให้อย่างอบอุ่น
"เธอคือหลินอวี่? พี่ใหญ่ของฉันเคยพูดถึงเธออยู่"
จั่วมู่เกอยื่นมือไปกุมมือหลินอวี่ไว้พลางพูดด้วยรอยยิ้ม
"อาหวี่ นายเองก็ทักทายอาสามด้วยสิ"
จั่วเล่อเฉิงมองดูมือที่เกาะกุมกันไว้ของจั่วมู่เกอและหลินอวี่ขณะมุมปากกระตุกเบาๆ
นี่ไม่โจ่งแจ้งไปหน่อยเหรอ?
หลินอวี่เอ่ยทักทายจั่วเล่อเฉิงด้วยรอยยิ้ม
"สวัสดีครับอาสาม ไม่ทราบว่าพี่ใหญ่ที่พูดถึงคือ?"
"ฮ่าๆ ก็ต้องเป็นพ่อของมู่เกอน่ะสิ"
จั่วเล่อเฉิงอธิบายด้วยรอยยิ้ม
"อ๋อครับ"
หลินอวี่พยักหน้าเป็นเชิงรับรู้
ที่แท้ก็เป็นคุณอาที่เจ้าเล่ห์คนนั้นนี่เอง
"เขาชื่นชมเธอเอาไว้เยอะทีเดียว ดูเหมือนสายตาของเขาจะแม่นยำจริงๆ"
จั่วเล่อเฉิงมองประเมินหลินอวี่อีกครั้งพลางพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
ดูเหมือนว่าเขาจะรู้สึกพึงพอใจกับหลินอวี่จริงๆ
นักเรียนคนอื่นๆมองดูจั่วเล่อเฉิงและหลินอวี่พูดคุยกันด้วยความอิจฉา
นั่นตระกูลจั่วที่เป็นตระกูลชั้นนำเชียวนะ!
ตระกูลที่ทรงอำนาจเอามากๆ!
ดูเหมือนพวกเขาจะชื่นชมหลินอวี่ไม่น้อยเลย
และเมื่อฟังจากคำพูดและท่าทีของจั่วเล่อเฉิงแล้ว ดูเหมอืนพวกเขาจะยอมรับในความสัมพันธ์ระหว่างหลินอวี่และจั่วมู่เกอแล้ว?
ปู้เจิ่งซิ่นที่อยู่ท่ามกลางกลุ่มนักเรียนพลันหน้าขาวซีด
ดวงตาของเขาฉายแววสิ้นหวัง เขาเลือกที่จะยอมแพ้โดยสมบูรณ์
เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เขายังจะทำอะไรได้อีก?
แม้จางหงไช่ก็ยังมองหลินอวี่ด้วยความอิจฉา
เมื่อได้รับการสนับสนุนจากตระกูลจั่ว ทั่วทั้งดาวเคราะห์สีน้ำเงินนี้ หลินอวี่ก็สามารถเดินทอดน่องได้อย่างสบายใจ
นั่นเพราะตระกูลจั่วมีบรรพชนที่เป็นเทพเจ้า!
เมื่อบรรพชนของตระกูลรวบรวมค่าศักดิ์สิทธิ์และกลายเป็นเทพได้แล้ว พกวเขาก็จะสามารถแปรเปลี่ยนพลังให้กลายเป็นอาชีพหายากและส่งต่อไปยังลูกหลาน
จั่วเล่อเฉิงพูดคุยกับหลินอวี่อีกหลายคำ เมื่อหันมาเห็นหยานจีที่อยู่ด้านข้าง เขาก็ยิ้มพยักหน้าให้
"หลานสาวหยาน พ่อของหนูเองก็ฝากอามาดูหนูด้วย หนูปลอดภัยดีใช่ไหม?"
หยานจียิ้มตอบ
"สบายดีค่ะคุณอาจั่ว"
จั่วเล่อเฉิงพยักหน้า จกานั้นจึงหันไปหาจางหงไช่
"แต่นี้ไป ฉันจะรับผิดชอบดูแลพวกนักเรียนระหว่างที่เดินทางไปยังเมืองสวรรค์เจิดจรัสเอง"
หลังจากนี้จะปล่อยให้เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นอีกไม่ได้
เมื่อได้ยินเช่นนั้น จางหงไช่ก็พยักหน้าซ้ำๆด้วยความยินดี
"ครับ"
เมื่อมีจั่วเล่อเฉิงประจำการอยู่ที่นี่ พวกเขาก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดเรื่องแล้ว
ทุกคนออกจากป่าเมเปิ้ลแดงและกลับไปยังรถหุ้มเกราะ
แม้ว่าภายนอกของรถหุ้มเกราะจได้รับความเสียหาย หากแต่เครื่องยนต์และส่วนอื่นๆยังคงสมบูรณ์ดี
หลังจากขึ้นรถเรียบร้อย รถหุ้มเกราะก็เคลื่อนที่อีกครั้ง
เป้าหมายยังคงเป็นเมืองสวรรค์เจิดจรัส
.............................
ดาวเคราะห์สีน้ำเงิน ภายในป่าแห่งหนึ่ง
พุ่มไม้ที่หนาทึบได้บดบังแสงอาทิตย์ส่วนใหญ่เอาไว้ ทำให้ภายในป่าดูมืดมน
ในป่ามีทั้งมอนสเตอร์ที่กำลังออกล่าหรือว่าพักผ่อนอยู่มากมาย
บรรยากาศดูสงบเหมือนปกติ
ตอนนั้นเอง จู่ๆก็มีแสงสีขาวสว่างขึ้นวูบ
มอนสเตอร์ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงพลันสะดุ้งตกใจ จากนั้นพวกมันก็รีบวิ่งหนีไปด้วยความแตกตื่น
ประตูมิติบานหนึ่งปรากฏขึ้นมาจากอากาศ จากนั้นเงาร่างที่มีสภาพทุลักทุเลก็โผล่ออกมาจากประตูมิติ
พวกเขาเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็ล้มลงอย่างอ่อนแรงราวกับดินเหลว
ผู้นำของคนกลุ่มนี้ก็คือ แบร์รี่บัส
ตอนนี้แขนของเขาข้างหนึ่งถูกเผาจนไหม้เกรียม สีหน้าเองก็ไม่สู้ดีสักเท่าใด
สำหรับพวกคลาสสี่จำนวนสิบคนที่เคยเข้าต่อสู้กับเหล่าผู้คุมนั้น มาบัดนี้หลงเหลือเพียงแค่สาม
และทั้งสามต่างก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส
หลังจากจั่วเล่อเฉิงมาถึง พวกเขาก็ไม่มีเวลาจะรอให้พวกลิซซี่กลับมา ทำได้แค่หนีออกมาก่อน
แม้จะเป็นเช่นนั้น แต่จั่วเล่อเฉิงที่ชำนาญการใช้เวทไฟก็ยังสังหารคลาสสี่ไปได้เจ็ดคน ส่วนที่เหลืออีกสามคน แม้จะรอดมาได้ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส
หลังจากพวกเขาพักเหนื่อยได้สักพัก แบร์รี่บัสก็เปิดรายชื่อเพื่อนขึ้นดู และเมื่อพบว่าลิซซี่ตายไปแล้ว สีหน้าของเขาพลันบิดเบี้ยว
"บัดซบ! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?! พวกนั้นไปเจออะไรเข้ากันแน่? ก็แค่คลาสสี่สองคน และพวกคลาสหนึ่งไม่ใช่รึไง? ทำไมถึงได้ถูกกำจัดจนหมด?!"
"สวะ! ล้วนเป็นพวกสวะ!!"
เขาหอบหายใจพลางคำรามอย่างเกรี้ยวกราด
หลังจากคำรามอยู่สักพัก เขาก็รู้สึกเหนื่อย
ดังนั้นจึงได้แต่พักอยู่เงียบๆ
หลังจากเกิดความเงียบขึ้นสักพัก เมอร์ล็อคนักรบตัวหนึ่งก็หันไปถามแบร์รี่บัสด้วยสีหน้าย่ำแย่
"ท่านครับ พวกเราควรทำเช่นไรดีครับ?"
"ทำเช่นไรงั้นรึ?!"
แบร์รี่บัสคำราม
"หลังจากการต่อสู้อันอัปยศในครั้งนี้ พวกเจ้ายังคิดจะกลับไปที่โลกของพกวเราในสภาพที่น่าอดสูเช่นนี้น่ะรึ?!"
"พวกเราย่อมต้องล้างอัปยศ!"
เขาสูดหายใจเพื่อสงบใจลง จากนั้นจึงค่อยๆพูดว่า
"ติดต่อไปยังพวกมนุษย์หนู มนุษย์แมว และปีศาจวายุ บอกว่าจั่วเล่อเฉิงเองก็อยู่ด้วย พวกเราไม่มีจังหวะลงมือ ได้แต่ต้องรอโอกาสอื่น"
เขาก้มลงมองดูท่อนแขนที่ดำสนิท เขาสูดหายใจเข้าปอดก่อนจะค่อยพูดขึ้นว่า
"ไปตามนักบวชมารักษาตัวกันก่อน!"
"ครับ!"
ทั้งสี่ลุกขึ้นยืนและมุ่งหน้าออกจากป่า
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved