ตอนที่ 47

ณ ส่วนที่ลึกที่สุดของนรก ภายในห้องโถงขนาดใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายชั่วร้าย ดวงตาสีเขียวเข้มคู่หนึ่งเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า

"อีเทอร์นอลส์....มีสิ่งมีชีวิตที่สามารถสำเร็จภารกิจเลื่อนคลาสระดับอีเทอร์นอลส์......"

หลังจากพึมพำเบาๆ ดวงตาคู่นั้นก็ฉายแววเคร่งขรึม

"ไปตรวจสอบ!"

..........................

บนสรวงสวรรค์อันศักดิ์สิทธิ์ ในสิ่งก่อสร้างที่สูงเทียมฟ้า เงาร่างที่ปกคลุมไปด้วยแสงสว่างกำลังเงยหน้าขึ้นมองดูท้องฟ้าที่สูงยิ่งกว่า

"มีคนสำเร็จภารกิจเลื่อนขั้นระดับอีเทอร์นอลส์"

"หวังว่าจะไม่ใช่เผ่าพันธุ์ปีศาจ....."

"ไป จงไปตรวจสอบดู ให้ดวงตาแห่งสวรรค์สอดส่องหาว่าเป็นผู้ใด"

..........................

ภายในเกาะมังกรที่กว้างใหญ่ไร้ที่สิ้นสุด ร่างกายใหญ่ตัวราวขุนเขาของมังกรตัวขึ้นสั่นสะเทือนขึ้นเบาๆ จากนั้นศีรษะของมังกรผู้ทรงพลังก็เงยขึ้น จ้องมองแสงสว่างที่สาดส่องอยู่บนท้องฟ้า

"ผ่านมาไม่รู้กี่ปี ในที่สุดก็มีคนทำภารกิจเลื่อนคลาสระดับอีเทอร์นอลส์ได้สำเร็จ?"

"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ผู้ที่สำเร็จภารกิจที่เป็นไปไม่ได้นั่นจะต้องเป็นลูกหลานของเผ่าพันธุ์มังกรของข้าแน่ จงไปพาตัวมา!"

..........................

ภายในพงไพรแห่งชีวิต หุบเขารกร้าง และห้วงหมอกอนธการนิรันดร์...

แห่งแล้วแห่งเล่าภายในห้วงมิติอันไม่รู้จบ เหล่าตัวตนที่ทรงอำนาจต่างก็ออกคำสั่ง

"ไปตรวจสอบ!"

"จงทุ่มกำลังตามหาผู้ที่ทำภารกิจสำเร็จมาให้จงได้!"

"..........."

ทุกขุมกำลังต่างก็ตกตะลึง คลื่นลมที่เคยเงียบสงบพลันเริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง

ภายในอวกาศเหนือดาวเคราะห์สีน้ำเงิน

ภายในห้องโถงอันวิจิตรงดงามแห่งหนึ่ง ร่างที่แข็งแกร่งร่างหนึ่งก้าวออกมาในห้วงอวกาศ ร่างนั้นมองดูแสงสว่างที่สว่างไสวนั้นด้วยดวงตาตกตะลึง

"ภารกิจระดับระดับอีเทอร์นอลส์.....มีคนทำสำเร็จจริงๆ?!"

บุรุษผู้นี้มีเส้นผมสีแดงฉาน หน้าตาดูหล่อเหลา บนหน้าผากของเขามีสัญลักษณ์รูปเปลวไฟ บนร่างของเขาสวมเสื้อคลุมสีแดงทั้งร่าง

ด้วยระดับตัวตนของเขาแล้ว เขาย่อมทราบดีว่าภารกิจระดับอีเทอร์นอลส์นั้นมีความยากปานใด!

ต่อให้เป็นภารกิจเลื่อนคลาสของระดับฝึกหัด แต่มันก็มีความเป็นไปได้เพียงทางทฤษฎีเท่านั้น

และต่อให้จะมีความเป็นไปได้ในทางทฤษฎี แต่นั่นก็ยังเป็นโอกาสหนึ่งในพันล้าน และขึ้นอยู่กับว่านั่นจะเป็นภารกิจแบบใด!

ตอนนี้กลับมีคนทำสำเร็จจริงๆ?!

หญิงงามในชุดสีดำที่มีแสงส่องประกายเล็กน้อยขมวดคิ้วมุ่น

"ไม่รู้ว่าเป็นอัจฉริยะของเผ่าไหน? ได้แต่หวังว่าจะไม่ใช่ฝ่ายที่เป็นศัตรูกับพวกเรา"

บุรุษที่สวมใส่เกราะหนักอันสง่างามถอนหายใจเบาๆ

"นี่เป็นเรื่องสำคัญ ต้องส่งคนไปตรวจสอบ"

"ทันทีที่ปรากฏแสงอีเทอร์นอลส์ พวกเทพมารเหล่านั้นก็คงจะมีความเคลื่อนไหว"

เงาร่างที่รายล้อมไปด้วยห้วงอากาศที่ผันผวนเปิดปากกล่าวขึ้น

"ฮึ่ม!" ชายที่สวมชุดเกราะสง่างามแค่นเสียงอย่างเย็นชา จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้พลันลุกโชน

"หากพวกมันกล้ายื่นมือโสโครกมายังดาวเคราะห์สีน้ำเงินของข้า ข้าจะตัดมันทิ้งซะ!"

ขณะที่ลมหายใจของผู้พูดหนักหน่วงขึ้น ห้วงอากาศโดยรอบก็เกิดการสั่นสะเทือนเบาๆ เผยให้เห็นบาเรียที่ห่อหุ้มทั้งดาวเอาไว้

ที่ด้านนอกของบาเรีย บนกลุ่มดาวที่อยู่ห่างออกไป ออร่าที่ชั่วร้ายพลันพุ่งสูงขึ้น

ดาวเคราะห์เหล่านั้นปรากฏดวงตาที่เต็มไปด้วยความชั่วร้าย สายตาจับจ้องมาที่ดาวเคราะห์สีน้ำเงินด้วยความเฉยเมย

และเมื่อกลุ่มของผู้ทรงพลังจ้องมองพวกมันกลับไป ดวงตาเหล่านั้นก็ค่อยๆสลายหายไป

พวกเขาก็คือเพทเจ้าของเผ่าพันธ์ุมนุษย์ เป็นเทพผู้คอยปกปักษ์มนุษยชาติ

..........................

ณ ศูนย์กลางของทวีปรอสซี่

บนยอดเขาที่สูงที่สุด เหล่าเทพเจ้าของมนุษย์หนูต่างทยอยลืมตาขึ้นมา

ดวงตาที่ดูเก่าแก่โบราณเกิดการสั่นไหวเมื่อได้เห็นแสงสว่างที่อยู่บนท้องฟ้า

"มีคนทำภารกิจระดับอีเทอร์นอลส์ได้สำเร็จ!"

"ไม่รู้ว่าเป็นเผ่าพันธุ์ของพวกเราหรือไม่?"

"มีความเป็นไปได้ไม่มาก เผ่าพันธุ์เราสมควรไม่มีอัจฉริยะเช่นนี้อยู่"

"เฮ้อ.....ช่วงเวลาแห่งความวุ่นวายใกล้เข้ามา พวกเราจะต้องเร่งสะสมกำลัง"

"พวกเราต้องเร่งมือในการบุกโจมตีโลกที่อยู่ใกล้เคียง พยายามปล้นชิงทรัพยากรและเสริมความแข็งแกร่งให้ตัวเอง!"

"หากสามารถคว้ากุมจุดอ่อนของเผ่าพันธุ์อื่นได้ นั่นจะยิ่งวิเศษ"

"ช่วงนี้ แดนดาราสงบสุขยิ่ง....."

เหล่าเทพเจ้ามนุษย์หนูต่างเงยหน้าขึ้น มองดูห้วงจักรวาลอันมืดมิดไร้ที่สิ้นสุด

"ให้คนของเราเริ่มลงมือ"

"อืม"

...........................

เทือกเขาเป่ยเย่ หุบเขามังกรดิน

ขณะที่หลินอวี่กำลังจะออกไป เขาก็พลันนึกอะไรขึ้นมาได้

มุมปากของเขากระตุกก่อนจะเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา

"พูดก็พูดเถอะ นี่เราลำบากทำลายทั้งปรากการจอมเชือดทั้งที ก็ควรจะเหลือร่องรอยเอาไว้บ้างสินะ?"

เขาหรี่ตาลงอย่างใช้ความคิด

จากนั้นเขาก็ค้นช่องกระเป๋าและพบกับกระดาษแผ่นหนึ่ง

เขายิ้ม เขียนข้อความลงบนกระดาษแผ่นนั้นเล็กน้อย จากนั้นจึงโยนไปคลุมหน้าแม็กซ์เวลล์เอาไว้

หลินอวี่ยิ้มอย่างพึงพอใจ จากนั้นร่างกายของเขาจึงหายไปจากที่นี่

วินาทีถัดมา ร่างของหลินอวี่ก็ปรากฏตัวขึ้นภายในตรอกแห่งหนึ่งของเมืองรุ่งอรุณแห่งสงคราม

เป็นจุดที่เขาได้ทำเครื่องหมายเทเลพอตเอาไว้

สายตากวาดมองโดยรอบ เขาจัดแต่งเสื้อคลุมให้เข้าที่ จากนั้นจึงเดินฮัมเพลงออกจากตรอก

......................

หลังจากที่หลินอวี่จากไปไม่นาน คนกลุ่มหนึ่งก็มาถึงหุบเขามังกรดิน

ไหลหมิงที่เดินนำหน้าหันมาพูดกับหลินหยวนตงที่อยู่ด้านข้าง

"ท่านครับ เป็นที่นี่! ท่านจอมเวทพาแม็กซ์เวลล์มาที่นี่ จากนั้นก็เกิดการต่อสู้ขึ้นอย่างรุนแรง จากนั้นเขาก็หายตัวไปครับ"

หลินตงหยวนหรี่ตาลง สายตากวาดมองหุบเขาที่เต็มไปด้วยความเงียบ จากนั้นจึงพูดขึ้นว่า

"เข้าไปดูกัน"