หนึ่งเดือนต่อมา

หลินอวี่สวมใส่เสื้อคลุมสีฟ้า เขายกหมวกจอมเวทขึ้นสวม จากนั้นจึงหันไปยิ้มให้จั่วมู่เกอและหยานจีที่อยู่ด้านหลัง

"งั้นฉันไปแล้ว"

"อืม....ระวังตัวด้วย"

สองสาวมีสีหน้าที่ดูกังวล

หลินอวี่พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม เขาหันกลับไปและก้าวเท้าออก วินาทีต่อมา ร่างของเขาก็พลันหายไป

ห่างออกมาราวสองสามกิโลเมตร ร่างของหลินอวี่ก็ปรากฏตัวขึ้นในซอยอันเปลี่ยวร้าง

เขาค่อยๆเดินออกจากซอยอย่างผ่อนคลาย

ทุกเท้าที่ก้าวออกเดิน รูปลักษณืของเขาก็ค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปทีละน้อย แม้แต่สีของเสื้อคลุมก็เปลี่ยนเป็นเข้มขึ้น

มื่อเขาเดินออกจากซอย เขาก็กลายเป็นชายที่หน้าตาธรรมดาในเสื้อคลุมสีดำ

แปลงร่าง

สำหรับคนทั่วไปแล้ว สกิลนี้คือเวทมนตร์อย่างแท้จริง

เขาเดินมายังถนนที่มีผู้คนเดินกันขวักไขว่ หลินอวี่หันไปมองรอยๆ จากนั้นจึงเดินไปยังประตูเมือง

เขากำลังจะไปทำภารกิจเลื่อนคลาสเป็นคลาส 2

เมื่อสิบวันก่อน เขาได้เตรียมการทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว

จากนั้นจึงทำการเก็บค่าประสบการณ์จนมีเลเวล 10 และรับภารกิจเลื่อนคลาสระดับอีเทอร์นอลส์

และไม่ผิดจากที่คาด ภารกิจเลื่อนคลาสในครั้งนี้ยังคงโหดหินเหมือนเคย

-----------------------------------------------

ภารกิจเลื่อนคลาสของคลาส 1:

ผู้คนของตระกูลหลี่แห่งเมืองชิงซงหลายร้อยคนตายพร้อมกันอย่างเป็นปริศนา ทิ้งไว้เพียงหนังมนุษย์ผืนหนึ่งในที่เกิดเหตุ

เหตุการณ์โศกนาฏกรรมในครั้งนี้ทำให้ทั่วทั้งเมืองชิงซงเกิดความตื่นตระหนก บางคนกล่าวว่ามีศํตรูต่างเผ่าพันธุ์บุกเข้ามาในเมือง บ้างก็ว่าตระกูลหลี่บูชาปีศาจ ดังนั้นจึงถูกกลายเป็นเหยื่อสังเวย บ้างก็บอกว่าเป็นฝีมือศัตรูของตระกูลหลี่

เหตุการณ์โศกนาฏกรรมครั้งนี้ทำให้เหล่าผู้บังคับใช้กฎหมายพากันตื่นตระหนก แม้จะทำการสืบลงลึกแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่พบเบาะแสใดๆ

ไป จงตามหาตัวการที่แท้จริงของโศกนาฏกรรม

จากนั้นคุณคงทราบว่าต้องทำอะไร

-----------------------------------------------

เมื่อหลินอวี่เห็นรายละเอียดของภารกิจ เขาก็นิ่งอึ้งไป

เมืองชิงซงอยู่ห่างจากเมืองขงหมิงไปไม่ไกลไม่ใช่เหรอ? หลินอวี่ย่อมเคยได้ยินคดีนี้มา

เมืองชิงซงไม่ใช่เมืองใหญ่ ตระกูลหลี่นั้นเป็นตระกูลผู้มีพลังพิเศษที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงภายในเมือง กล่าวได้ว่าเป็นตระกูลผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น

ว่ากันว่าในตระกูลพวกเขามีผู้มีพลังพิเศษคลาส 5 อยู่หลายคน

ในตระกูลเช่นนั้น ผู้คนจำนวนหลายร้อยกลับตกตายภายในคืนเดียว ทั้งยังตายอย่างลึกลับ มองเพียงปราดเดียวก็ทราบได้ว่าเรื่องนี้มีปัญหา

หลินอวี่พูดไม่ออก

ตัวเขาเป็นเพียงผู้มีพลังพิเศษคลาส 1 ตัวเล็กๆเองนะ

ทำไมเขาต้องมาแบกรับความกดดันที่เกินกว่าระดับของเขาไปมากแบบนี้ตลอด?

แต่เขาก็ไม่มีทางเลือก นี่เป้นภารกิจเลื่อนคลาสระดับอีเทอร์นอลส์

เรื่องที่ต้องทำ ยังก็ก็ต้องทำอยู่ดีล่ะนะ

ตัวหลินอวี่ไม่ค่อยมั่นใจกับภารกิจในครั้งนี้สักเท่าไร

เพราะหลักๆก็คือ เขาไม่รู้ว่าศัตรูเป็นใคร

มีหลายปัจจัยที่สามารถทำให้เกิดการตายอันลึกลับแบบนี้ได้ ไม่ว่าจะสกิล ทักษะเฉพาะเผ่าพันธุ์ โพชั่น หรือกระทั่งเป็นฝีมือของเทพมาร และอื่นๆ

ทั้งหมดล้วนมีความเป็นไปได้ทั้งสิ้น

เขาได้แต่ต้องสืบสวนเรื่องนี้อย่างค่อยเป็นค่อยไป

เมืองชิงซงอยู่ห่างจากเมืองขงหมิงราว 3,000 กิโลเมตร

มันตั้งอยู่ใจกลางทะเลทรายอันแห้งแล้ง

แน่นอนว่าระยะทางเพียงเท่านี้ สำหรับนักเวทแล้วไม่นับเป็นอย่างไร

หากว่าหลินอวี่ใช้เทเลพอตอย่างเต็มกำลัง เขาก็จะสามารถเทเลพอตได้ครั้งละ 10 กิโลเมตร

ใช้เทเลพอตเพียง 300 ครั้งก็ถึงที่หมาย

เทเลพอตครั้งนึงมีคูลดาวน์ 10 วินาที ดังนั้นการเทเลพอต 300 ครั้งจึงกินเวลาราว 50 นาทีเท่านั้น

สายลมโชยพัดผ่านร่างของหลินอวี่ ขณะที่เวลาคูลดาวน์ของเทเลพอตยังไม่หมด เขาก็จะใช้ระบำสายลมในการเคลื่อนที่ไปข้างหน้า

…………

ผ่านไปครึ่งชั่วโมง

หลินอวี่ก็ปรากฏตัวขึ้นบนทรายสีเหลือง

เขาใช้ระบำสายลมเคลื่อนที่ไปข้างหน้า ดังนั้นไปว่าเคลื่อนที่ไปี่ใดก็จะไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้

ตอนนี้เอง หลินอวี่ก็หยุดลง เขามองไปทางด้านซ้าย

ที่นั่นมีเมืองขนาดเล็กตั้งอยู่

เพราะเมืองที่ตั้งอยู่กลางทะเลทราย ดังนั้นจึงดูโดดเดี่ยวอยู่บ้าง

หลินอวี่เลิกคิ้ว จากนั้นจึงเปิดแผนที่ขึ้นมาดู

มีเมืองเล็กๆหลายแห่งที่ตั้งอยู่ในทะเลทรายอันร้อนระอุระหว่างเมืองขงหมิงและเมืองชิงซง

ในทะเลทรายนี้ยังมีฝูงมอนสเตอร์อันดุร้ายป้วนเปี้ยนไปมา บางครั้งเขากระทั่งยังพบประตูมิติ

มีนักผจญภัยจำนวนมากที่มายังที่นี่เพื่อหาเงิน

เมืองเล็กๆที่กระจัดกระจายอยู่ตามทะเลทรายเหล่านี้เปรียบเสมือนเหมืองทองสำหรับเหล่านักผจญภัย

นอกจากนี้ ภายในทะเลทรายยังมีสถานีรบตั้งอยู่

นั่นก็เพื่อคอยปราบปรามมอนสเตอร์ไม่ให้พวกมันรวมตัวกันจนกลายเป็นฝูงใหญ่ได้

เมืองเล็กแห่งนี้ก็คือหนึ่งในนั้น

"เริ่มจากที่นี่ก็แล้วกัน"

หลินอวี่ยิ้ม

เหล่านักผจญภัยมักจเดินทางย้ายที่ไปเรื่อยๆ ดังนั้นจึงเป็นแหล่งข้อมูลชั้นดี

บางทีอาจจะพบเบาะแสอะไรเข้าก็ได้?

หลินอวี่มุ่งหน้าไปยังเมืองเล็กนั้น

เมื่อใช้เทเลพอตอีกครั้ง ร่างกายของเขาก็หายไปก่อนจะปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตูเมือง

เมื่อเห็นจู่ๆหลินอวี่ก็ปรากฏตัวขึ้น ทหารยามก็มึนงง

จากนั้นจึงเบิกตากว้างด้วยความตื่นตัว

จอมเวทที่จู่ๆก็ปรากฏขึ้นที่นี่ได้ย่อมไม่ใช่จอมเวทธรรมดาแน่

จะต้องเป็นผู้แข็งแกร่ง!

"สวัสดีครับท่านจอมเวท"

ผู้ที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าทหารยามเดินเข้ามาหาหลินอวี่

หลินอวี่ยิ้มพลางพูดว่า "สวัสดี ฉันอยากจะเข้าเมืองน่ะ"

"โปรดแสดงบัตรประจำตัวด้วยครับ"

หลินอวี่ยิ้ม เขายื่นบัตรประจำตัวปลอมให้หัวหน้าทหารยาม

นี่เป็นสิ่งที่จั่วจิงเย่จัดหามาให้เขา

ด้วยอำนาจของตระกูลจั่วแล้ว การจะปลอมบัตรประจำตัวสักใบย่อมไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร

ยังไม่ต้องกล่าวถึงว่าตระกูลของเขายังมีเทพเจ้า

หลังจากตรวจสอบบัตรประจำตัวของหลินอวี่แล้ว เขาก็ไม่พบปัญหาใดๆ ดังนั้นจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก

จากนั้นเขาก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า

"ยินดีต้อนรับสู่เมืองเฟิงซาครับ ท่านจอมเวทผู้ทรงเกียรติ"

หลินอวี่ขยับหมวกนักเวทคราหนึ่งพลางยิ้มตอบ

"ขอบคุณ"

เมื่อเข้ามาในเมืองแล้ว หลินอวี่ก็พบว่าภายในเมืองมีคนอยู่ไม่น้อย มีนักผจญภัยผ่านเข้าออกเมืองอย่างคึกคัก ตามถนนมีทั้งร้านขายอาวุธ ร้านขายยา ร้านขายสิ่งต่างๆ

มีทั้งนักผจญภัยที่เดินทางเป็นกลุ่มและโดยลำพัง

บนถนนเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเฮฮา

มีผู้คนเดินกันขวักไขว่

หลินอวี่เดินทอดน่องอยู่ภายในเมือง ซึมซับบรรยากาศของการผจญภัย....