ตอนที่ 64

"คุณอาจั่วชมเกินไปแล้วครับ"

หลินอวี่ยิ้ม

"หนุ่มน้อย เธอเป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของหยานจี?"

หยานอวี้เท้าคางมองดูหลินอวี่

"ใช่ครับ คุณอาหยาน"

"ชิ....." หยานอวี้เดาะลิ้นพลางขยี้ผมสีแดงที่กระเซอะกระเซิงอยู่แล้ว

"มานั่งสิ"

หลินอวี่พยักหน้าก่อนจะเดินไปนั่งเก้าอี้

ที่บนโต๊ะมีอาหารเรียงรายอยู่ก่อนแล้ว

อย่างไรก็ตาม ทั้งจั่วจิงเย่และหยานอวี้ต่างก็ไม่มีใครลงมือรับประทาน ราวกับกำลังรอคอยหลินอวี่อยู่

จั่วจิงเย่ยิ้มพูดว่า

"กินสิ ฉันบอกให้พ่อครัวทำโดยเฉพาะ"

หลินอวี่ยิ้มพยักหน้า

"ครับ"

จั่วมู่เกอบอกเขาแล้วว่าภัตตาคารหนานหลี่เป็นกิจการของตระกูลจั่ว

หลินอวี่เริ่มหยิบช้อนส้อม

เขาค่อยๆกินอาหารด้วยสีหน้าเรียบเฉย หยานอวี้และจั่วจิงเย่คอยเหลือบมองเขาเป็นครั้งคราว

เมื่อเห็นว่าหลินอวี่ลงมือรับประทานอย่างผ่อนคลายโดยไม่มีท่าทางจะพูดคุย ทั้งสองก็หันไปมองหน้ากัน

จั่วจิงเย่ยิ้มอย่างจนใจ

"อาหวี่ นายรู้รึเปล่าว่าที่พวกเราเชิญนายมาวันนี้เพราะเรื่องอะไร?"

หลินอวี่เงยหน้าขึ้นมองชายทั้งสองด้วยสีหน้าใสซื่อ

"ไม่ใช่เพราะอยากจะเลี้ยงข้าวงั้นเหรอครับ?"

หยานอวี้ "........"

บนหน้าผากมีเส้นเลือดปูดโปน

จั่วจิงเย่เองก็พูดอะไรไม่ออก

"แค่กๆ....เกี่ยวกับเรื่องเทือกเขาเป่ยเย่ ฉันจะช่วยเธอกำจัดหลักฐานให้"

หลินอวี่ดูเหมอืนจะคาดเดาเรื่องนี้ไว้นานแล้ว ดังนั้นจึงไม่ได้แสดงความประหลาดใจใดๆ

เขายิ้มและพูดว่า

"ขอบคุณครับคุณอาจั่ว"

หยานอวี้ยกมือเกาหัว เขาเงยหน้าขึ้นจิบไวน์และกล่าวเสียงหนัก

"เจ้าเด็กตัวเหม็น ฉันจะไม่อ้อมค้อมกับนายอีก นายเดินทางไปที่เทือกเขาเป่ยเย่เพื่อทำภารกิจเลื่อนคลาสระดับอีเทอร์นอลส์ใช่ไหม?"

เมื่อเห็นว่าหยานอวี้เอ่ยถามตรงๆ จั่วจิงเย่ก้หันไปมองหลินอวี่ด้วยสายตาลึกล้ำ

"ฉันตรวจสอบทุกคนที่เข้าไปในเทือกเขาเป่ยเย่ในช่วงที่เกิดเรื่องกับป้อมปราการจอมเชือดแล้ว มีเพียงแค่เธอเท่านั้นที่ฉันไม่แน่ใจ"

หลินอวี่ยิ้ม

"ลำบากให้คุณอาจั่วตรวจสอบแล้ว"

"ใช่ครับ ผมเอง"

เขาไม่คิดจะปกปิดอะไร

เมื่อได้ยินคำยืนยันจากปากของหลินอวี่ ทั้งหยานอวี้และจั่วจิงเย่ต่างก็หยุดหายใจไปชั่วขณะ จากนั้นจึงมองดูหลินอวี่ด้วยดวงตาร้อนแรง

หยานอวี้ที่นั่งตามสบายพลันเหยียดหลังตรง แม้แต่จั่วจิงเย่ที่มีท่าทางสุขุมก็ยังทำเช่นเดียวกัน

เห็นท่าทางตกตะลึงของชายทั้งสอง หลินอวี่ก็ยิ้มพูดว่า

"คุณอาทั้งสองไม่ต้องประหลาดใจขนาดนั้นก็ได้นี่ครับ? ก็แค่ภารกิจระดับระดับอีเทอร์นอลส์เองไม่ใช่เหรอครับ?"

"แค่ภารกิจระดับอีเทอร์นอลส์งั้นเหรอ?!"

หยานวอี้คำรามจนเสียงแหบแห้ง

จั่วจิงเย่เองก็ส่ายหน้า

หลินอวี่มองทั้งสองแล้วจึงพูดด้วยรอยยิ้ม

"ความหมายของผมคือ ไม่ใช่ว่าเผ่าพันธุ์มนุษยืเราก็แข็งแกร่งเป็นอันดับต้นๆอยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับ?"

ชายทั้งสองหันไปมองหน้ากันด้วยความรู้สึกพูดอะไรไม่ออก

หยานอวี้ขยี้หัวตัวเอง

"เจ้าหนู.....ตาแก่จั่วพูดถูกแล้ว นายมันเป็นจอมวางแผน"

"เช่นนั้นเธอคงรู้อยู่แล้วว่าความปลอดภัยของเธอมีความสำคัญมาก"

จั่วจิงเย่มองหลินอวี่ด้วยสีหน้าจริงจัง

หลินอวี่มองดูจั่วจิงเย่และหยานอวี้ที่มีสีหน้าจริงจังแล้วก็นิ่งเงียบ จากนัน้จึงพูดขึ้นว่า

"คุณอาทั้งสอง ในระหว่างภารกิจเลื่อนคลาสนั้นสามารถรับความช่วยเหลือจากภายนอกได้รึเปล่าครับ?"

ทั้งสองต่างผงะ

"แน่นอนว่าไม่ได้"

"ถ้าเกิดว่าผมเติบโตขึ้นในสภาพแวดล้อมที่ได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่ แล้วผมจะสามารถกลายเป็นผู้แข็งแกร่งที่กล้าจะท้าทายผู้ที่แข็งแกร่งกว่าได้มั้ยครับ?"

ทั้งสองหันไปมองหน้ากันด้วยความตกตะลึง

พวกเขาเข้าใจสิ่งที่หลินอวี่จะสื่อแล้ว

ที่เรียกว่าผู้แข็งแกร่งไม่เพียงแต่ต้องแข็งแกร่ง แต่ยังต้องมีความกล้าที่จะท้าทายโดยไม่เกรงกลัวต่อความตาย

และหากว่าต้องการจะทำภารกิจระดับระดับอีเทอร์นอลส์ บางทีอาจจะต้องใช้ยิ่งกว่านั้น

แม้แต่ภารกิจระดับวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นความท้าทายที่ต้องเอาชีวิตเข้าเสี่ยงแล้ว ดังนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึงระดับอีเทอร์นอลส์

หากว่ากลัว ก็มีแต่จะต้องตายเท่านั้น

บนใบหน้าของหลินอวี่ประดับไว้ด้วยรอยยิ้ม

"หากว่าผมไม่มีความกล้าที่จะท้าทายผู้ที่แข็งแกร่งกว่า แล้วผมจะผ่านภารกิจระดับอีเทอร์นอลส์ได้ยังไง?"

ชายทั้งสองนิ่งเงียบ มองดูหลินอวี่ที่มีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าแล้ว พวกเขาก็พูดอะไรไม่ออกไปครู่ใหญ่

หลังจากผ่านไปพักหนึ่ง พวกเขาก็สูดหายใจเข้าลึก

"เจ้าหนู ขอเพียงนายไม่ตายไปซะก่อน ในอนาคตจะต้องได้เป็นผู้ปกครองสูงสุดของทุกมิติอย่างแน่นอน"

หยานอวี้จ้องหลินอวี่ก่อนจะพูดออกมา

จั่วจิงเย่ที่อยู่ด้านข้างก็ยิ้มบาง

"ฉันเชื่อว่าเธอจะไม่ตาย"

หยานอวี้ยกแก้วไวน์ขึ้น "มา ดื่มกันหน่อย!"

พูดจบ เขาก็กำลังจะรินไวน์ให้หลินอวี่

หลินอวี่รีบหยุดเขาไว้แล้วจึงรินด้วยตัวเอง

ล้อเล่นน่า นี่พ่อของหยานจีเชียวนะ

ไม่มีเหตุผลที่จะให้ผู้อาวุโสรินไวน์ให้ผู้เยาว์

หยานอวี้และจั่วจิงเย่ต่างยกชูแก้วไวน์ขึ้น

"แก้วนี้พวกเราดื่มให้นาย"

หลินอวี่ก็ยกแก้วขึ้น

ทั้งสองมองดูหลินอวี่อย่างลึกล้ำ

"หวังว่านายจะได้ขึ้นเป็นผู้ปกครองจักรวาล!"

"หวังว่าถึงตอนนั้นทุกเผ่าพันธุ์จะต้องยกย่องบูชามนุษย์!"

หลินอวี่ยิ้ม

"หวังให้เป็นเช่นนั้นครับ"

ทั้งสามชนแก้วแล้วจึงดื่ม

ความร้อนแรงของไวน์ไหลผ่านไปตามลำคอ มีรสชาติเผ็ดร้อนเล็กน้อย แต่มันก็ทำให้เลือดลมสูดฉีด

หลังจากดื่มไวน์แล้ว จั่วจิงเย่ก็มองหลินอวี่

"ฉันจะบอกผู้พิทักษ์เกี่ยวกับเรื่องของเธอ ตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ว่านายทำภารกิจได้สำเร็จ และในเวลาอันใกล้นี้จะไม่มีใครได้รู้ เว้นแต่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก"

"แน่นอน ทุกเผ่าพันธ์จากทุกดวงดาวต่างก็กำลังสืบหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังนั้นจึงต้องระมัดระวัง เมื่อมีเหล่าผู้พิทักษ์ก็ไม่ต้องกังวลว่าความลับจะถูกเปิดเผยง่ายๆ"

"ในทำนองเดียวกัน ภายในดาวเคราะห์สีน้ำเงินแห่งนี้ เธอก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีตัวตนที่ทรงพลังจากเผ่าพันธุ์อื่นบุกรุกมา เว้นแต่ว่าเหล่าผู้พิทักษ์จะถูกสังหารลงจนหมด"

หลินอวี่ไม่ได้ประหลาดใจอะไร "ครับ"

หยานอวี้ยิ้มมองหลินอวี่

"แล้วชื่อลอร์ดอีเทอร์นอลส์บ้าบอคอแตกอะไรกัน? ฟังดูขัดหูชะมัด"

หลินอวี่ "แค่ก!"

ให้ตายสิ เขาคิดว่าชื่อนี้มันก็ฟังดูเท่แล้วไม่ใช่รึไงกัน?!.....