ตอนที่ 69

ขณะที่ทุกคนกำลังตกตะลึง หลินอวี่ก็ถามขึ้นด้วยรอยยิ้ม

"ผู้คุมเถียน ผู้คุมลู่ อยากจะกำจัดศัตรูทั้งหมดมั้ยครับ?"

"ห้ะ?"

เถียนหยวนหลงและลู่เหยาต่างมึนงง ทั้งสองมองหลินอวี่ด้วยสีหน้าว่างเปล่า

ไม่เพียงแต่ผู้คุมทั้งสองเท่านั้น นักเรียนหลายคนต่างก็มึนงง

"หลินอวี่ นายกำลังพูดเรื่องอะไรน่ะ?! ถ้าพวกเราไม่หนี เดี๋ยวจะถูกตามทันเอานะ!"

เด็กหนุ่มที่หน้าขาวซีดคนหนึ่งหันมาตะคอกใส่หลินอวี่

เขากำลังหวาดกลัวจนฉี่แทบราด

ถ้าเกิดว่าคลาสสามคลาสสี่กลุ่มนั้นตามาทัน พวกเราไม่ถูกฆ่ากันหมดเหรอ?!

"นายเงียบไปเลย!"

ดวงตาสีแดงเพลิงของหยานจีหันไปมองเด็กหนุ่มนั้น รอบร่างเริ่มแผ่ซ่านกลิ่นอายแห่งการต่อสู้ออกมา

จั่วมู่เกอเองก็หรี่ตาลง

เธอจ้องหน้าเด็กหนุ่มที่ตะคอกใส่หลินอวี่ สีหน้าเปลี่ยนเป็นดุดันขึ้นเรื่อยๆ

"ฉันพูดผิดตรงไหน?! ถ้าพวกเราไม่หนี ไม่นานก็คงถูกตามทัน! ฉันคิดว่าหลินอวี่เป็นผู้ทรยศ! เขาพยายามจะถ่วงเวลาพวกเรา เพื่อให้ศัตรูกลุ่มนั้น....."

เพี๊ยะ!

ก่อนที่เขาจะทันได้พูดจนจบ เขาก็ถูกตบจนลงไปกองกับพื้น

เด็กหนุ่มยกมือกุมแก้ม เขาเงยหน้าขึ้นมองเถียนหยวนหลงที่มายืนอยู่เบื้องหน้าของเขาอย่างมึนงง

เถียนหยวนหลงมองเด็กหนุ่มด้วยดวงตาเฉยชา ขณะที่พูดขึ้นว่า

"นักเรียนคนนี้ อย่าได้กล่าวหาผู้อื่นโดยไร้หลักฐาน นอกจากนี้ ในการเผชิญกับศัตรูต่างเผ่าพันธ์ุ เธอสามารถหนี หรือแม้แต่กลัว ทว่า.....เธอจะคงสติเอาไว้ให้ได้"

"ต่อให้เธอต้องตาย! ก็ต้องตายอย่างมีศักดิ์ศรี!"

วาจาของเถียนหยวนหลงแหลมคมประดุจใบมีด

นักเรียนหลายคนต่างก็มองเด็กหนุ่มที่นั่งกองอยู่บนพื้นด้วยสีหน้ารังเกียจ

แม้ใครบ้างที่ไม่กลัวกับเหตุการณ์เมื่อครู่

แม้ว่าจะรู้สึกกลัวจนแทบบ้า

แต่ก็ไม่ควรแสดงความขี้ขลาดออกมา จะยังมีใครกล้าตั้งทีมกับคนขี้ขลาดแบบนี้กัน?

เมื่อเผชิญกับอันตราย เขาจะไม่ทิ้งเพื่อนร่วมทีมแล้วหนีเอาตัวรอดไปคนเดียวเอาเหรอ?

แน่นอนว่าก็มีนักเรียนบางคนที่รู้สึกว่าคำพูดของเด็กหนุ่มฟังดูมีเหตุผล

แต่แม้จะรู้สึกเห็นด้วย แต่พวกเขาก็ไม่ตีโพยตีพายเหมือนกับเด็กหนุ่ม

หลินอวี่เหลือบมองเด็กหนุ่มแต่ไม่ได้พูดอะไร

ไม่จำเป็นต้องเอ่ยวาจาไร้สาระกับคนแบบนี้

เถียนหยวนหลงหันมามองหลินอวี่อย่างลึกล้ำ เขาสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะหันไปหาลู่เหยา

"ฉันจะล่อพวกมันไปอีกทาง เธอก็พาพวกนักเรียนไปต่อ!"

แม้ว่าหลินอวี่จะเป็นอัจฉริยะที่ทรงพลังอย่างมาก

แต่คู่ต่อสู้คราวนี้ล้วนแต่เป็นคลาสสามคลาสสี่!

แม้จะเชื่อใจหลินอวี่ แต่เขาก็ไม่อาจเสี่ยงให้เกิดเรื่องขึ้นได้

และหากว่าเกิดเรื่องแทรกซ้อน นั่นก็จะเป็นอันตรายต่อชีวิตของนักเรียนทั้งหมด

เขายังต้องรับผิดชอบชีวิตของนักเรียนคนอื่นๆด้วย!

ลู่เหยาพยักหน้า "ระวังตัวด้วย!"

เถียนหยวนหลงพยักหน้า จากนั้นร่างกายของเขาก็หายไปในอากาศ

ล่องหน

ลู่เหยาหันมามองหลินอวี่ เมื่อเห็นว่าหลินอวี่ไม่มีท่าทีไม่พอใจอะไร เธอก็โล่งอก

เวลานี้ สิ่งต้องห้ามที่สุดก็คือความขัดแย้งภายใน

"ไปกันต่อ!"

พูดจบเธอก็พาพวกนักเรียนมุ่งหน้าเข้าไปในป่า

เด็กหนุ่มที่ถูกตบหน้าเมื่อครู่หันมามองหลินอวี่ด้วยท่าทางของผู้ชนะ

หลินอวี่อดกลอกตามองบนไม่ได้

เขาคร้านจะสนใจคนเช่นนี้

จั่วมู่เกอและหยานจีมองดูท่าทางกระหยิ่มยิ้มย่องของเด็กหนุ่มนั้น จากนั้นจึงหันมามองหลินอวี่ด้วยแววตาเสียใจ

"อาหวี่ ไม่เป็นไรนะ?"

พวกเธอย่อมทราบความแข็งแกร่งของหลินอวี่ดี

ตอนอยู่ระดับฝึกหัด หลินอวี่ก็สามารถสังหารอาชีพหายากคลาสสามลงได้แล้ว

ตอนนี้ยิ่งเมื่อกลายเป็นคลาสหนึ่ง หากมีคลาสสี่จำนวนสองคนให้ความร่วมมือ การจะกำจัดกลุ่มศัตรูคลาสสามและสี่ที่ตามมาก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

เพียงแต่มีแค่พวกเธอเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้

ทั้งยังไม่สามารถพูดออกไปได้

ได้แต่หวังว่าหลินอวี่จะไม่ขุ่นเคืองใจอะไร

เมื่อเห็นสีหน้าที่ดูกังวลของสองสาว หลินอวี่ก็ยิ้มให้

"ไม่เป็นไรหรอก คิดไว้แล้วล่ะนะ"

ถึงยังไงเถียนหยวนหลงและลู่เหยาก็มีหน้าที่ต้องปกป้องนักเรียนทุกคนไม่ใช่แค่พวกเขา

ขอเพียงผ่านพ้นสี่นาทีนี้ไป กำลังเสริมก็จะมาถึง

จากนั้นหน้าที่ของพวกเขาก็จะจบลง

หากว่าพวกเขาทำตามแผนการของหลินอวี่แล้วเกิดมีนักเรียนเสียชีวิตขึ้นมา นั่นก็จะเป็นเรื่องใหญ่แล้ว

ดังนั้นการตัดสินใจหลบหนีต่อไปจึงเป็นตัวเลือกที่สมเหตุสมผลกว่า

เขากลัวว่าจะเกิดปัญหาใหญ่กว่านี้ ดังนั้นจึงคิดทดลองตัดไฟแต่ต้นลมดู

แต่ดูเหมือนว่าจะไม่สำเร็จแฮะ

สวีเผิงเทียนที่อยู่ด้านข้างวิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าลังเล จากนั้นจึงพูดขึ้นเบาๆ

"พี่ใหญ่ ถึงแม้ว่าผมจะไม่รู้ว่าพี่คิดจะใช้วิธีไหน แต่ผมรู้ว่าพี่ไม่ได้พูดโกหกแน่นอน!"

หลินอวี่หันมามองเขาอย่างประหลาดใจ

"ทำไมถึงคิดงั้น?"

สวีเผิงเทียนปั้นหน้าขรึมพลางพูดด้วยความชอบธรรม

"นี่เป็นสัญญาชาตญาณของบุรุษ! ผมคิดว่าพี่ใหญ่จะต้องแข็งแกร่งเอามากๆ!"

ไม่อย่างนั้นจะทำให้ทั้งจั่วมู่เกอและหยานจียังเยือกเย็นแบบนี้ได้เหรอ?

เขาย่อมเห็นสายตาของสองสาวที่มองดูเด็กหนุ่มคนนั้น นึกถึงตรงนี้อยู่ๆเขาก็รู้สึกขนลุกขึ้นมา

เขาทราบว่าเจ้าหนุ่มนั่นคงจะชะตาขาดแน่แล้ว

เมื่อผู้หญิงโกรธแค้นขึ้นมา นั่นยังน่ากลัวกว่าผู้ชายหลายร้อยหลายพันเท่า!

เมื่อเห็นสวีเผิงเทียนมองมาด้วยสีหน้าแววตาที่กำลังมองดูเจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ หลินอวี่ก็ยิ่งรู้สึกว่าเจ้าหมอนี่และคอลลินนั้นจะต้องเข้ากันได้ดีแน่ๆ

ทั้งสองต่างก็เป็นพวกขี้ประจบเหมือนกันเด๊ะ

เขาหรี่ตาลงแต่ไม่ได้ตอบอะไร จากนั้นจึงหันไปหาจั่วมู่เกอและหยานจี

"หยานจี มู่เกอ กลบเกลื่อนให้ฉันหน่อย"

ทั้งสองต่างเข้าใจ ดังนั้นจึงก้าวออกมาอยู่ด้านหน้าของหลินอวี่

ฝีเท้าของหลินอวี่ค่อยๆช้าลง และหลังจากผ่านต้นเมเปิ้ลแดงต้นหนึ่ง ร่างของหลินอวี่ก็หายไป

เมื่อเห็นว่าจู่ๆหลินอวี่ก็หายตัวไป สวีเผิงเทียนที่เดินอยู่ด้านข้างก็เบิกตาอ้าปากค้าง

ขณะที่เขากำลังจะพูดอะไรออกมา จั่วมู่เกอที่อยู่ด้านข้างก็หันมามองเขาด้วยรอยยิ้ม

"ถ้านายกล้าพูดอะไรแม้แต่คำเดียว ฉันจะส่งนายไปอยู่กับพี่ชายนาย"

สวีเผิงเทียน "??!"

เขารีบยกมือปิดปากด้วยสีหน้าหวาดกลัวพลางส่ายหน้าซ้ำๆ เป็นการรับปากว่าเขาจะไม่ปากโป้งอย่างแน่นอน......