"โฮกกกกกก!"
เกิดเสียงมังกรคำรามดังขึ้น จากนั้นตามผิวหนังของมังกรดินก็ปรากฏเพลิงลุกไหม้
เพลิงนี้ไม่ได้ทำอันตรายพวกหลินอวี่ทั้งสาม แต่กลับห่อหุ้มพวกเขาเอาไว้ด้วย
ผิวที่เดิมทีออกไปทางเข้มก็ค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงราวกับเปลวเพลิง
ขนาดร่างกายของมันขยายใหญ่ขึ้นอีกเล็กน้อย
หลังจากเสียงคำรามดังขึ้นอยู่ราวสองสามนาที การเปลี่ยนแปลงก็หยุดลง
"โฮกกกกกก!!!"
มังกรดินคำรามด้วยความตื่นเต้น
"เป็นยังไงบ้าง?"
หลินอวี่มองดูมังกรดินที่กำลังส่ายหางไปมา
หยานจีเปิดข้อมูลของสัตว์ขี่ขึ้นมาดู จากนั้นจึงพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
"ตอนนี้มันพัฒนากลายเป็นสัตว์ขี่ระดับจักรพรรดิแล้ว"
"ไม่เลว"
หลินอวี่พยักหน้า เขาตบลงบนเกราะของมังกรดินเบาๆ
มังกรดินนี้ดูเหมือนจะฉลาดไม่น้อย มันย่อมทราบว่าหัวใจมังกรนี้เป็นหลินอวี่ที่มอบให้ ดังนั้นมันจึงหันมามองหลินอวี่ด้วยท่าทางประจบประแจง
หางของมันกวัดแกว่งไปมาด้วยความรวดเร็ว
"ไปกันเถอะ!"
หยานจียิ้มขณะลูบหัวมังกรดินเบาๆ
มังกรดินคำรามก่อนจะเริ่มออกวิ่ง
หลินอวี่ที่นั่งอยู่บนหลังของมังกร ครุ่นคิด จากนั้นจึงโบกมือวูบ
ประตูโลกแห่งความตายปรากฏขึ้น จากนั้นอัศวินแห่งฝันร้ายที่รอบตัวปกคลุมด้วยหมอกดำก็ปรากฏตัวออกมา
หลังจากหลินอวี่เลื่อนคลาสเป็นคลาส 1 อัศวินแห่งฝันร้ายก็แข็งแกร่งกว่าเดิมมาก
-----------------------------------------------
อัศวินแห่งฝันร้าย ( B- )
ระดับ: คลาส 1 เลเวล 4 (เท่าผู้เล่น)
พลังชีวิต: 40,200
พลังมานา: 12,000
พลังโจมตีกายภาพ: 4,140
พลังโจมตีเวทมนตร์: 1,500
พลังป้องกันกายภาพ: 3,540
พลังป้องกันเวทมนตร์: 3,016
สกิล: การพุ่งชาร์จแห่งฝันร้าย, เสียงคำรามแห่งความกลัว, การโจมตีแห่งความตาย, ดูดวิญญาณ
คำอธิบาย: ยามเสียงกีบเท้าม้าของอัศวินแห่งฝันร้ายดังขึ้น นั่นคือฝันร้ายของศัตรู
-----------------------------------------------
นี่เพียงแค่คลาส 1 เท่านั้น แต่มันก็มีพลังชีวิตเกิน 40,000 หน่วยไปแล้ว นับเป็นมอนสเตอร์ที่ทรงพลังมาก
การโจมตีทางกายภาพเองก็ทะลุ 4,000 หน่วย ขณะที่ทางด้านการโจมตีด้วยเวทมนตร์เองก็ไม่ได้ต่ำ
แม้ว่าจะเทียบกับหลินอวี่ไม่ได้แล้ว แต่ก็ยังไม่ด้อยกว่าผู้มีพลังพิเศษที่ผ่านภารกิจเลื่อนคลาสระดับจักรพรรดิที่สวมใส่อุปกรณ์ระดับสูงทั้งตัว
เมื่อเห็นว่าจู่ๆก็มีอัศวินแห่งฝันร้ายสองตัวโผล่ออกมา ทั้งจั่วมู่เกอและหยานจีก็ประหลาดใจ
นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเธอได้เห็นสกิลนี้ของหลินอวี่
"กลิ่นอายแข็งแกร่งมาก"
มังกรดินที่เพิ่งเลื่อนคลาส เมื่อเห็นอัศวินแห่งฝันร้ายปรากฏตัว ร่างกายของมันก็พลันเขม็งเกร็งและตื่นตัวขึ้นมา
หยานจีตบลงบนเกราะของมังกรดินเบาๆเพื่อปลอบให้มันวิ่งต่อ
หลินอวี่ยิ้มพลางพูดขึ้นว่า
"แยกย้ายกันออกไปล่า"
"กรร!"
อัศวินแห่งฝันร้ายทั้งสองคำราม พวกมันแยกย้ายกันออกไปคนละทิศด้วยความเร็วจนคลฃ้ายกลายเป็นเงาดำสายหนึ่ง
ด้วยค่าสติปัญญาของหลินอวี่ในปัจจุบัน อัศวินแห่งฝันร้ายจะสามารถอยู่ห่างจากเขาได้ราวห้าถึงหกกิโลเมตร
เมื่อแยกย้ายกันออกไปด้านละตัว นั่นก็จะครอบคลุมพื้นที่สิบกว่ากิโลเมตร ทำให้พื้นที่ทั้งหมดอยู่ในรัศมีการล่าของเขา!
หลังจากอัศวินแห่งฝันร้ายแยกย้ายกันออกไปไม่นาน หลินอวี่ก็มองเห็นการแจ้งเตือนจากระบบ
"ติ๊ง! ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น หลินอวี่ สำหรับการสังหารลิซาร์ดลาวา คลาส 1 เลเวล 3 ได้รับ 3 คะแนน"
"ติ๊ง! ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น หลินอวี่ สำหรับการสังหารมนุษย์ศิลาคลาส 1 เลเวล 4 ได้รับ 4 คะแนน"
"......."
คะแนนในการสอบระดับหัวกะทิได้รับยากกว่าการสอบระดับทั่วไปมาก
คลาส 1 เป็นแค่ระดับพื้นฐานเท่านั้น
ในมิติลับแห่งนี้ไม่มีคู่ต่อสู้ที่อยู่ระดับกว่าคลาส 1
ด้วยอัศวินแห่งฝันร้ายสองตัวและมังกรดิน พวกของหลินอวี่ก็ไม่จำเป็นจะต้องลงมือด้วยตนเอง เพียงปล่อยให้สมุนจัดการไปตลอดทาง
มอนสเตอร์ทั้งหมดถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นคะแนนและกองไอเท็ม
หลังจากผ่านไปครึ่งวัน พวกหลินอวี่ทั้งสามก็เข้ามาในเขตแดนอันรกร้าง
ตอนนั้นเองก็มีเสียงคำรามดังมาจากระยะไกล
ทั้งสามคนที่กำลังพูดคุยกันอยู่พลันหยุดชะงัก
"บอส! เร็วเข้า รีบไปเร็ว! อย่าให้ใครแย่งไปได้!"
จั่วมู่เกอหันมองไปยังทิศทางที่ได้ยินเสียงก่อนจะพูดด้วยความตื่นเต้น
หลินอวี่กำลังนอนหนุนตักจั่วมู่เกอ เมื่อจั่วมู่เกอเอี้ยวตัว ใบหน้าของหลินอวี่ก็อยู่ในตำแหน่งที่ไม่สะดวกนัก
เขาได้ต้องลุกขึ้นนั่งด้วยความจำใจ
"ไปดูกันเถอะ"
..........................
คะแนนที่ได้จากบอสย่อมมากกว่าได้จากมอนสเตอร์ทั่วไปอยู่แล้ว
หยานจีพยักหน้าและสั่งให้มังกรดินมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่เกิดเสียงคำราม
..........................
ภายในหุบเขาที่มีธารลาวา ที่นั่นมียักษ์ศิลาที่ตัวสูงกว่าสิบเมตรกำลังยืนอยู่
ทั่วร่างของยักษ์ศิลานี้เป็นสีแดงเข้มที่ปลดปล่อยความร้อนออกมา
มันกำมือแน่นพลางเงยหน้าขึ้นคำราม ภายใต้การล้อมโจมตีของผู้มีพลังพิเศษกลุ่มหนึ่ง
ผู้มีพลังพิเศษกลุ่มนี้มีคนอยู่สิบกว่าคน
ที่ล้อมยักษ์ศิลาอยู่มี พวกนักรบ อัศวิน ที่ด้านหลังยังมี นักธนู นักเวท และนักบวชอีกหลายคน
"สกัดไว้! อย่าให้มันพุ่งเข้ามาได้!"
"นักเวท นักธนู นักบวช กระจายกันออกไป!"
"ไม่ว่ามันตามใครไป ให้วิ่งเป็นเส้นตรง คนอื่นๆให้ช่วยใช้สกิลเพิ่มความเร็วให้กับคนที่ถูกไล่ตาม"
ชายหนุ่มหล่อเหลาที่สวมใส่เสื้อคลุมสีฟ้าครามออกคำสั่งอย่างเป็นขั้นตอน
แม้ว่ายักษ์ศิลาตัวนี้จะเป็นบอสคลาส 3 แต่ก็ไม่อาจสังหารอัศวินที่อยู่เบื้องหน้าได้ในพริบตา มันต้องการจะโจมตีนักเวทที่อยู่แถวหลัง แต่เพราะเคลื่อนที่ได้ช้า มันจึงตามมนุษย์ที่ได้รับการบัฟเพิ่มความเร็วไม่ทัน
มันได้แต่ติดอยู่ในวงล้อมของพวกมนุษย์
แม้ว่าจะวุ่นวายไปสักนิด แต่สถานการณ์ก็ถูกควบคุมเอาไว้ได้
ปัญหาเพียงอย่างเดียวก็คือ ยักษ์ศิลามีพลังป้องกันสูงเกินไป ต่อให้จะถูกสกิลลดพลังป้องกันไปแล้ว แต่ก็สามารถสร้างค่าความเสียหายให้กับมันได้เพียงเลขหลักเดียวเท่านั้น
มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถสร้างค่าความเสียหายหลักสิบใส่มันได้
ยักษ์ศิลาตัวนี้จัดการได้ยากมาก
มองดูปริมาณพลังชีวิตที่ลดลงไปแล้ว นักธนูหญิงที่ยืนอยู่ด้านข้างนักเวทก็ขมวดคิ้ว
"พี่จ้าว ทำไมพวกเราไม่ยอมแพ้แล้วไปหาตัวอื่น? บอสตัวนี้มีพลังป้องกันสูงเกินไป คงอีกนานกว่าพวกเราจะจัดการมันได้ และพวกนักบวชก็คงมีพลังมานาไม่มากขนาดนั้น"
"ยิ่งกว่านั้น หากเกิดข้อผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว คนในทีมก็อาจจะลดลง"
นี่ไม่ใช่เกม
หากไม่ระวังแลเสียค่าพลังชีวิตไปจนหมด นั่นก็จะเป็นการตายจริงๆ
จ้าวเทียนอวี่มองดูยักษ์ศิลาที่กำลังไล่ตามคนในทีมอยู่ เขายกมือขึ้นและยิงศรน้ำแข็งออกไป
-102
เกิดตัวเลขค่าความเสียหายสามหลักลอยขึ้นมา
นี่คือค่าความเสียหายที่มากที่สุดที่พวกเขาจะทำได้แล้ว
ในแววตาของชายหนุ่มปรากฏความลังเลขึ้นมา
บอสตัวนี้ยังเหลือค่าพลังชีวิตอีกมหาศาล
เขาเองก็ทราบว่าการล่าบอสตัวนี้มีความเสี่ยงสูง แต่หากว่าล่าได้สำเร็จ คะแนนของเขาก็จะเหนือกว่าคนอื่นๆมาก!
ความเย้ายวนของมันสุดที่จะตัดใจจากไปได้
ชายหนุ่มอยากจะทดลองอีกสักพัก
"โฮก!"
ตอนนั้นเอง ยักษ์ศิลาที่รับการโจมตีมาโดยตลอดก็พลันเงยหน้าขึ้นคำราม
มันยกมือทุบลงบนพื้นอย่างรุนแรง พื้นดินสั่นสะเทือนและเกิดรอยแตกร้าวลุกลามออกไป เหล่าผู้มีพลังพิเศษสายต่อสู้ระยะประชิดต่างติดสถานะมึนงง
เมื่อเห็นฉากนี้ รูม่านตาของจ้าวเทียนอวี่ก็หดตัววูบ
"ใช้สกิลสลัดหลุด!"
เหล่าอัศวินและนักรบต่างใช้สกิลสำหรับสลัดหลุมการควบคุมออกมา ขณะเดียวกัน ยักษ์ศิลาก็ฉวยโอกาสนี้วิ่งฝ่าวงล้อมออกมา
ฉากนี้ทำให้จ้าวเทียนอวี่หลั่งเหงื่อเย็นเยียบ
"พี่จ้าว!"
นักธนูสาว กุ้ยอิงเล่ยตะโกนออกมา
"ไม่อาจปล่อยให้มีคนมาตายอยู่ที่นี่!"
หญิงสาวตัดสินใจ
ตอนนั้นเอง ศรน้ำแข็งที่มีความมืดปกคลุมดอกหนึ่งก็พุ่งเข้าใส่ร่างของยักษ์ศิลาจากระยะไกล
-41012
ค่าความเสียหายที่ดูเกินจริงทำให้ทุกคนต่างนิ่งอึ้ง และยังไม่ทันที่พวกเขาจะทันได้ตอบสนองใด สายฟ้าสีดำก็พุ่งลงมาจากฟ้าและผ่าเข้าใส่ยักษ์ศิลา
เปรี้ยง!!
-60102
ยักษ์ศิลาพลันชะงักนิ่งก่อนจะล้มฟาดลงกับพื้น
ทุกคนมองดูยักษ์ศิลาที่นอนล้มคว่ำไปกับพื้นด้วยสีหน้าราวกับวิญญาณหลุดลอยออกจากร่าง
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved