ตอนที่ 92

เช้าตรู่วันต่อมา

หลินอวี่ลืมตาขึ้นก่อนจะนวดหน้าผากเบาๆ จากนั้นจึงสูดหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่

เมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เขาก็อดยิ้มมุมปากไม่ได้

เมื่อคืน หลังจากเขาลงมือปรุงอาหารเสร็จและกำลังจะเริ่มกินพร้อมกับหยานจีและจั่วมู่เกอ จั่วจิ่งเย่และหยานอวี้ก็มาที่บ้านของเขา

ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นพ่อของจั่วมู่เกอและหยานจี เขาจึงไม่อาจเอ่ยปากไล่คนทั้งสองไป

เขาจึงทำได้แค่ทำอาหารเพิ่มอีกสองที่

แต่นึกไม่ถึงเลยว่าสองคนนั้นจะนำไวน์มาด้วย!

แม้ว่าร่างของของหลินอวี่จะแข็งแกร่งมาก เทียบได้กับอาชีพอัศวินในคลาสเดียวกันก็ไม่ได้ด้อยกว่าแต่อย่างใด

แต่มีหรือที่จะคอแข็งได้เท่าสองบุรุษเจนโลก?

เขาไม่รู้ว่าตัวเองดื่มไวน์ไปมากเท่าไหร่ก่อนที่จะหมดสติไป

หลินอวี่รู้สึกพูดไม่ออก

เขาถอนหายใจก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง

เดิมทีเขาคิดจะใช้โอกาสเมื่อคืนนี้ในการพัฒนาความสัมพันธ์ไปอีกขั้นแท้ๆ

นึกไม่ถึงว่าจะถูกว่าที่พ่อตาทั้งสองขัดขวางเอาซะได้

หลังจากอาบน้ำแต่งตัว หลินอวี่ก็ออกจากห้องไป

ยังเหลือเวลาอีกราวสองสัปดาห์

ในระหว่างนั้นเขายังสามารถอัพเลเวลขึ้นอีกได้

..........................

เมืองประกายแสง ที่ประตูเมือง

หลินอวี่เดินมายังร้านขายซาลาเปาและกล่าวกับเถ้าแก่ของร้านที่มีหน้าตาสัตย์ซื่อว่า

"เถ้าแก่ ขอซาลาเปาไส้เนื้อสองลูก"

"ล่ายๆ!"

เถ้าแก่มองหลินอวี่ด้วยรอยยิ้มที่ซื่อสัตย์ใจดี เขาทำการแพคซาลาเปาอย่างเรียบร้อยก่อนจะยื่นส่งให้หลินอวี่

หลินอวี่รับกล่องซาลาเปาอุ่นๆมาด้วยรอยยิ้ม

ต้องบอกเลยว่าซาลาเปาร้านนี้อร่อยจริงๆ

ตอนที่ออกไปเก็บเลเวล เขาเคยแวะมาที่นี่ครั้งหนึ่ง นับจากนั้นเขาก้แวะมากินซาลาเปาที่นี่ทุกครั้งที่ออกจากเมือง

หลังจากจ่ายเงินแล้ว หลินอวี่ก็เดินกินซาลาเปาออกจากร้านไป

เจ้าของร้านซาลาเปามองดูซาลาเปา จากนั้นจึงมองไปทางประตูเมือง

จากนั้นเขาก็เปิดระบบขึ้นมาส่งข้อความ

"เป้าหมายออกจากเมืองไปแล้ว มีคนคอยติดตามคุ้มครอง สมควรเป็นคลาสสี่"

...........................

ภายในป่าที่อยู่ใกล้เคียงกับเมืองประกายแสง

ภายในเหมืองที่ถูกทิ้งร้าง

แบร์รี่บัสกำลังนั่งอยู่บนหินก้อนหนึ่ง แขนข้างที่เคยถูกไฟไหม้เกรียมได้รับการรักษาจนฟื้นฟูกลับมาดังเดิมแล้ว

ที่ด้านข้างของแบร์รี่บัส มีหนึ่งมนุษย์แมว หนึ่งมนุษย์หนู และปีศาจสายลมตัวเล็กที่มีผมสีฟ้า

แบร์รี่บัสกล่าวด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย

"หลินอวี่ออกจากเมืองมาแล้ว คงคิดจะไปเก็บเลเวล แต่ว่ามีผู้คุ้มกันอยู่ด้วย"

มนุษย์แมวที่สวมเกราะหนังสีดำสนิทหรี่ตาลง

เขาคือ ไรท์ มนุษย์แมวนักฆ่าคลาส 5

"เขาได้รับดันดับที่หนึ่งในการสอบระดับหัวกะทิครั้งล่าสุดของพวกมนุษย์ และเมืองประกายแสงก็ให้ความสำคัญกับเขามาก"

สวิฟท์ ปีศาจสายลมที่สวมเสื้อคลุมสีฟ้าพยักหน้าเบาๆ

"อืม ใช่ หากว่าต้องการจะลงมือกับเขา เกรงว่าคงยาก"

เบธ มนุษย์หนูมือธนูเพศหญิงกลอกตาก่อนจะค่อยๆพูดขึ้นว่า

"ไม่ต้องพูดถึงเรื่องลงมือกับเขาแล้ว ด้วยระดับการป้องกันของเมืองประกายแสง ขอเพียงพวกเราเฉียดเข้าใกล้เมือง พวกเราก็จะถูกพบตัวทันที"

ทั้งสี่ต่างนิ่งเงียบ

หลังจากเกิดความเงียบขึ้นพักหนึ่ง แบร์รี่บัสก็ต่อยหินที่อยู่ใกล้ๆจนกระจุย

เศษหินกระเด็นไปโดยรอบ

สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นดุร้าย

"บัดซบ! หรือพวกเราจะไม่มีโอกาสลงมือเลยรึไง?"

เบธเหลือบมองเขา

"เจ้าก็รู้ว่าอัศวินมังกรไฟ หยานอวี้ และนักบวชวจนะศักดิ์สิทธิ์จั่วจิงเย่ต่างก็อยู่ภายในเมืองนี้ หากว่าเจ้าอยากฆ่าตัวตาย ก็เชิญเจ้าไปคนเดียวเถอะ"

อีกสองคนก็พยักหน้าเห็นด้วยก่อนจะได้ข้อสรุป

"รอคอยจังหวะและโอกาส"

..........................

มิติลับสำหรับคลาส 3 ป่าราตรี

ภายในป่าที่มืดมิด เกิดเสียงคำรามดังขึ้น จากนั้นก็มีแสงอันเจิดจ้าส่องทะลุผ่านป่าในรัศมีเกือบหนึ่งกิโลเมตร

จากนั้นเปลวเพลิงก็ลุกโชติช่วง

และค่อยๆมอดดับลง

หลินอวี่มองดูซากศพไหม้เกรียมที่กระจัดกระจายอยู่ตามพื้นพลางค่อยๆรั้งมือกลับมา

ซากศพไหม้เกรียมทั้งห้าซากนี้ เดิมเป็นมอนสเตอร์ที่อาศัยอยู่ภายในป่าเรียกว่า หมาป่าราตรี

เมื่อกองไฟมอดดับลง ซากศพก็ถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน

พลังทำลายล้างของหลินอวี่ในตอนนี้แข็งแกร่งมาก

เหลือบมองดูหลอดค่าประสบการณ์ที่กระเตื้องขึ้นมาแล้ว หลินอวี่ก็ยกมือเกาหัว

"ในที่สุดก็เลเวลอัพสักที ไม่ง่ายเลยจริงๆ"

ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์แล้ว

เลเวลของเขาเพิ่งอัพจากเลเวล 5 เป็นเลเวล 6

สาเหตุหลักๆก็เป็นเพราะไม่มีมอนสเตอร์เลเวลสูงๆอยู่ในละแวกใกล้เคียง

มิติลับที่มีมอนสเตอร์คลาส 3 ก็คือมิติลับที่ทรงพลังที่สุดในละแวกเมืองประกายแสงแล้ว

มอนสเตอร์ของที่นี่แข็งแกร่งกว่าในมิติสงครามหรือตามป่าเขานอกเมือง

แต่ว่ามิติลับนั้นมีมอนสเตอร์อยู่อย่างจำกัด

นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมมิติลับของมหาวิทยาลัยขงหมิงจึงล้ำค่า

มอนสเตอร์ในมิติลับเองก็รู้จักความกลัว พวกมันซ่อนตัวเป็น ดังนั้นการล่าในแต่ละครั้งของหลินอวี่จึงต้องใช้เวลาไม่น้อย

โดยเฉพาะยามที่เขายิงระเบิดไฟออกไป มอนสเตอร์ที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงก็จะพากันหลบหนีไปโดยไม่เหลือร่องรอย

มอนสเตอร์เองก็ไม่ได้โง่

เมื่อเห็นศัตรูที่น่ากลัวเช่นนี้ พวกมันยังจะอยู่ให้ฆ่าหรือ?

เรื่องนี้ทำให้การเพิ่มเลเวลของหลินอวี่ยิ่งยากมากขึ้น

หลินอวี่ส่ายหน้าพลางสลัดความคิดฟุ้งซ่านทิ้งไป

เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไปยังมิติที่กำลังเกิดสงคราม

หากว่าเขาจะไป ก็ต้องรอให้เขารับภารกิจเลื่อนคลาสเสียก่อน

แต่ตอนนี้เขาทำได้แต่เก็บเลเวลไปก่อน

โดยเน้นความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง

หลังจากอัพเลเวลและเพิ่มแต้มคุณสมบัติแล้ว หลินอวี่ก็มีค่าสติปัญญาเกิน 10,000

เกรงว่าแม้แต่ในคลาส 4 ก็ยังมีไม่กี่คนที่จะมีค่าสติปัญญาสูงขนาดนี้

ขณะที่หลินอวี่ยังอยู่แค่คลาส 1 เท่านั้น

หลินอวี่ยิ้มก่อนจะหายตัวไป เขายังต้องเก็บค่าประสบการณ์อีกสักพัก

..........................

ขณะที่หลินอวี่กำลังเก็บเลเวล แบร์รี่บัสและคนอื่นๆก็จับจ้องเมืองประกายแสงอย่างใจจดจ่อ

ทุกเช้า เถ้าแก่ร้านซาลาเปาจะรายงานว่าหลินอวี่ออกจากเมือง

อย่างไรก็ตาม หลินอวี่ไม่เคยเหยียบย่างไปในพื้นที่ที่ล่อแหลมอันตรายเลย

ทุกครั้งเขาจะเดินทางไปยังมิติลับเพื่อเก็บเลเวล

เรื่องนี้ทำให้พวกแบร์รี่บัสตาแดงฉาน

"บัดซบ!"

ทำไมกัน?

"เด็กนั่นแข็งแกร่งมากไม่ใช่รึไง? เดินเลยออกมาอีกนิดหน่อยจะตายรึไง?!"

แบร์รี่บัสต่อยผนังถ้ำ

โครม!

ทั้งถ้ำสั่นสะเทือนขณะมีกรวดหินตกลงมา

สวิฟท์ปัดหินที่เกือบจะตกใส่หน้าของเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย

"แบร์รี่บัส เจ้าต้องควบคุมอารมณ์เอาไว้ พกวเราย้ายกันมาสี่ถ้ำแล้ว"

ไรท์ควงมีดสั้นในมือสองเล่นพลางพูดขึ้นว่า

"ในฐานะมือสังหารแล้ว สิ่งสำคัญคือไม่ถูกอารมณ์ความรู้สึกชี้นำ รักษาสติเอาไว้ในสภาพที่สมบูรณ์ ไม่ลงมือเมื่อโอกาสไม่เอื้ออำนวย แต่ถ้ามีโอกาส ก็จงคว้าเอาไว้"

เขากล่าวพลางเบนสายตามามองแบร์รี่บัส

"เห็นได้ชัดว่าโอกาสนั้นยังมาไม่ถึงพวกเรา"

เบธบิดยืดลำตัว หางอันเรียวยาวของเธอแกว่งไปมา

"ทำไมพวกเราไม่ถอยกันก่อนล่ะ? ข้าอยากกลับแล้ว"

แบร์รี่บัสนิ่งเงียบอยู่ครู่ จากนั้นจึงแค่นเสียง

"เมื่อถึงตอนที่พวกมันต้องเดินทางไปยังมหาวิทยาลัย หากว่าไม่มีโอกาสจริงๆ ข้าก็จะไม่ดันทุรัง"

คนอื่นๆต่างยักไหล่อย่างไม่มีความเห็นอื่นใด

"งั้นก็ทำได้แค่รอ"

หากว่ามีโอกาส พวกเขาย่อมต้องกำจัดหลินอวี่ทิ้งให้ได้

ถึงอย่างไร อันดับหนึ่งในการสอบระดับหัวกะทิก็ถือได้ว่าหลินอวี่เป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของรุ่น

การกำจัดเขาได้จะเป็นผลดีต่อทุกเผ่าพันธ์ุที่มีข้อบาดหมางกับเผ่าพันธุ์มนุษย์

ขอเพียงสบโอกาส พวกเขาจะต้องไม่ปล่อยหลินอวี่ไปอย่างแน่นอน.....