ตอนที่ 48

ภายในหุบเขามังกรดิน

หลินตงหยวน ไหลหมิง และคนอื่นๆที่เพิ่งเข้ามาจ้องมองไปข้างหน้าด้วยสายตาที่ว่างเปล่า

บนพื้นดินเต็มไปด้วยหลุมบ่อและรอยแตกร้าว มีแอ่งลาวากระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกหนแห่ง เช่นเดียวกับซากศพขนาดใหญ่ของมังกรดิน ที่ด้านข้างกันนั้นมีร่างที่เหลือแต่กระดูกของมนุษย์หนูตัวใหญ่นอนแน่นิ่งอยู่

มีเหตุการณ์ใหญ่เกิดขึ้นที่นี่!

หลินตงหยวนและคนอื่นๆต่างตกตะลึง

"ไปตรวจสอบดู!"

หลินตงหยวนและพวกรีบวิ่งเข้าไป

"นี่ร่างของมังกรดิน มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะ ศีรษะของมันคล้ายถูกอาวุธที่คมกริบผ่าแยก"

"เป็นขวานศึกกระหายเลือดของจอมเชือด"

"แล้วขวานศึกนั่นอยู่ไหนแล้ว? ถูกเอาไปแล้ว?"

ทุกคนพยายามมองหาขวานศึกกระหายเลือด แต่ก็ไม่พบเห็นแม้แต่ร่องรอย

จากนั้นทั้งหมดจึงหันมามองดูซากโครงกระดูกที่อยู่บนพื้น

สีหน้าของพวกเขาพลันเปลี่ยนเป็นซับซ้อน

"นะ...นี่คือ....แม็กซ์เวลล์?"

"ที่ร่างกายของเขากลายเป็นแบบนี้ได้ คงต้องใช้แก่นโลหิตไปจนหมด"

"แม็กซ์เวลล์สู้จนเกือบตาย หรืออาจกระทั่งตาย อีกฝ่ายจะต้องแข็งแกร่งถึงขนาดไหนกัน?"

"เดี๋ยว.....มีกระดาษอยู่ตรงนั้น"

จากนั้นพวกเขาก็พบว่ามีกระดาษตกอยู่ด้านข้างศพของแม็กซ์เวลล์

เป็นกระดาษที่หลินอวี่โยนไปคลุมหน้าแม็กซ์เวลล์ก่อนหน้านี้ แต่มันก็ถูกลมพัดจนปลิวตกลงมา

หลินตงหยวนเดินเข้าไปหยิบกระดาษขึ้นมา

หลังจากเห็นข้อความบนกระดาษ ลมหายใจของหลินตงหยวนก็ชะงักค้าง ดวงตาของเขาเบิกกว้าง

เมื่อเห็นสีหน้าที่ตกตะลึงของหลินตงหยวน คนอื่นๆก็เผยสีหน้าสงสัย

เหยาหยางชิวเอ่ยถามขึ้น

"ท่านผบ. มีอะไรเหรอครับ?"

หลินตงหยวนสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามสงบใจลง จากนั้นจึงยื่นกระดาษให้

"ดูเอาเอง"

เหยาหยางชิวรับกระดาษไปดูด้วยความสงสัย หลังจากได้เห็นข้อความแล้ว มือของเขาก็สั่นอย่างไม่อาจควบคุม

"นี่.........."

บนกระดาษเขียนเอาไว้ว่า

'สรรเสริญลอร์ดอีเทอร์นอลส์ ตุลาการลำดับที่สิบเจ็ด'

ลอร์ดอีเทอร์นอลส์?!

ตุลาการ???

งั้นนี่ก็คือ การพิพากษา?

พิพากษาป้อมปราการจอมเชือด พิพากษาจอมเชือดแม็กซ์เวลล์!?

เหยาหยางชิวรู้สึกเหมือนกับเขาเพิ่งได้เข้ามาพัวพันกับกลุ่มองค์กรอันลึกลับ

"รองผบ.เหยา มีอะไรเหรอครับ?"

เมื่อเห็นว่าเยาหยางชิวนิ่งค้างไปอีกคน เหล่าผู้บัญชาการและไหลหมิงก็เกิดความสงสัยอย่างมาก

เหยาหยางชิวหันมามองพวกเขา จากนั้นจึงยื่นกระดาษให้

"ลอร์ดอีเทอร์นอลส์?! นั่นคือใครกัน? เป็นเทพองค์ไหน?"

"ตุลาการลำดับที่สิบเจ็ด.....หรือจะเป็นท่านจอมเวทผู้นั้น??"

หลังจากได้อ่านข้อความ พวกเขาก็รู้สึกชาหนึบไปทั้งร่าง พวกเขาตกตะลึงอย่างไม่อาจบ่งบอกบรรยาย

ไหลหมิงมองดูข้อความบนกระดาษ สายตาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

"จอมเวททรงพลังที่ทำลายป้อมปราการจอมเชือดและสังหารจอมเชือดโดยลำพัง ก็คือตุลาการลำดับที่สิบเจ็ด??"

"แม้แต่ลำดับที่สิบเจ็ดยังแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ แล้วตุลาการที่อยู่ในลำดับก่อนๆล่ะ??"

ไหลหมิงพูดสิ่งที่ทุกคนคิดออกมา

แม้แต่ลำดับที่สิบเจ็ดยังทรงพลังขนาดนี้

แล้วหากเป็นสิบลำดับแรกล่ะ?

แล้วห้าลำดับแรกล่ะ?

แล้วลำดับแรกล่ะ?

นั่นจะแข็งแกร่งเหนือจินตนาการขนาดไหน??

"แล้วก็......ลอร์ดอีเทอร์นอลส์ นั่นใครกัน?"

หลินตงหยวนสูดหายใจเข้าปอด สีหน้าเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด

"เทพเจ้าของพวกเราไม่มีผู้ที่มีนามนี้"

"หรือว่าจะเป็นเทพมาร??"

เหยาหยางชิวแทบจะหยุดหายใจ

ภายในจักรวาลและห้วงมิติจำนวนนับไม่ถ้วน ที่นั่นมีเทพและมารอยู่มากมาย ยังไม่ต้องพูดถึงเทพมารที่อยู่ในแดนดารา

มีมนุษย์ไม่น้อยที่เคารพบูชาเทพนอกรีตและเทพมารเหล่านั้น

"สาวกของลัทธินอกรีต ทำไมถึงได้ยื่นมือช่วยพกวเรา?"

ทุกคนต่างไม่ก็ไม่อาจคลายความสงสัยในข้อนี้

หลินหยวนตงถอนหายใจก่อนจะพูดขึ้นว่า

"ฉันจะกลับไปรายงานเรื่องนี้ต่อท่านนายพล"

ทุกคนพยักหน้า

"เก็บกวาดที่นี่ จากนั้นพวกเราจะไปที่ยอดเขาโลหิต"

"ครับ!"

..............................

บนยอดเขาโลหิตอันเป็นที่ตั้งของป้อมปราการโลหิต

เงาร่างที่ดูเตี้ยเล็กร่างหนึ่งพลันค่อยๆโผล่ออกมา เป็นคอลลินนั่นเอง

เขาเหลือบมองซากปรักหักพังที่เงียบสงัด จากนั้นจึงเบนสายตาไปมองดูร่างอันไร้วิญญาณของกาวินที่อยู่บนพื้น ดวงตาเต็มไปด้วยความกลัว

"ต้องเป็นฝีมือของนายท่านไม่ผิดแน่! แม้แต่รองผู้นำป้อมยังตายอนาถ! นายท่านแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!"

แววตาของคอลลินฉายแววเทิดทูนบูชา

บัดนี้เขาได้อุทิศดวงวิญญาณแก่หลินอวี่ไปแล้ว และนั่นจะแก้ไขไม่ได้อีกตลอดกาล

ดังนั้นยิ่งหลินอวี่แข็งแกร่งมากเท่าไร นั่นก็จะยิ่งเป็นผลดีต่อเขา

คอลลินยิ้มก่อนจะกลอกตา

"ต้องมีไอเท็มหลงเหลือจากพวกคนที่ตายไปแน่ ของพวกนั้นปล่อยให้ไร้เจ้าของแบบนั้นก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร ไม่สู้มาเป็นสมบัติของข้าดีกว่า ข้าจะรวยแล้ว~"

สามารถเข้ามาประจำการที่ป้อมปราการจอมเชือดได้ อย่างน้อยก็ต้องอยู่ในคลาสหนึ่ง อีกทั้งในกองทัพยังมีคลาสสองอยู่ไม่น้อย ดังนั้นไอเท็มที่ดรอปออกมาต้องมีมูลค่าไม่น้อยแน่!

คอลลินฉีกยิ้มดีใจก่อนจะเริ่มปฏิบัติการเก็บกู้ขุมทรัพย์

เพียงสิ่งของที่เขาได้มากจากบนพื้นก็ทำให้เขาตื่นเต้นจนแทบบ้าแล้ว ในใจยิ่งมายิ่งกล่าวสรรเสริญต่อนายท่านผู้ยิ่งใหญ่

ตอนนั้นเอง เขาก็ได้ยินเสียงดังขึ้นจากที่ห่างออกไป

เขาหันมองตามไปและเห็นว่ามีกองทัพกำลังเคลื่อนทัพใกล้เข้ามา

คอลลินหน้าเปลี่ยนสี

"กองทัพรุ่งอรุณ? ต้องรีบไปแล้ว!"

เหลือบมองซากปรักหักพังอันกว้างใหญ่ที่ยังไม่ได้สำรวจ ดวงตาของเขาก็ฉายแววโลภ จากนั้นจึงค่อยสงบใจลง

มีชีวิตรอดจึงจะสำคัญที่สุด!

ร่างกายของเขาค่อยๆจางหายไปในอากาศ.....