ตอนที่ 15

เขาเก็บอุปกรณ์ทั้งหมดด้วยความจนใจ หลินอวี่อาบน้ำ จากนั้นจึงกลับไปยังห้องนอน

ตอนที่เขากลับมาก็ฟ้ามืดแล้ว พรุ่งนี้ยังต้องไปเรียน เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ล่ะนะ

......................

ในพื้นที่ใจกลางเมืองประกายแสง คฤหาสน์ตระกูลจั่ว

ในฐานะที่เป็นหนึ่งในตระกูลชั้นนำของเมืองประกายแสง ตระกูลจั่วจึงครอบครองพื้นที่กว้างใหญ่ ภายในมีการตกแต่งสวน มีสะพานขนาดเล็ก มีสายน้ำไหล ยังมีก้อนหินและป่าไม้ที่ถูกจัดไว้อย่างงดงาม

บรรยากาศดูรมรื่นและงดงามมาก

ภายในบ้านหลังหนึ่ง จั่วมู่เกอเดินเข้าไปในห้องโดยสวมเพียงชุดนอนหลวมๆ

ผ่านระบบสื่อสารของระบบ จั่วมู่เกอก็ติดต่อกับพ่อของเธอ จั่วจิงเย่ ผู้นำตระกูลจั่ว

"ว่าไงลูกรัก มีเรื่องอะไรรึเปล่าเอ่ย?"

น้ำเสียงของจั่วจิงเย่ดูอ่อนโยนยิ่ง

เขารักลูกสาวของเขาปานแก้วตาดวงใจ และตอนนี้ลูกสาวของเขาก็ได้ปลุกพลังและได้รับอาชีพนักบวชวจนะศักดิ์สิทธิ์อันน่าภาคภูมิใจมา

ในตระกูลจั่วนั้น ไม่มีผู้ที่สามารถปลุกพลังนักบวชวจนะศักดิ์สิทธิ์มาได้หลายสิบปีแล้ว

เพียงเหตุผลข้อนี้ก็ทำให้เหล่าผู้นำของตระกูลให้ความสำคัญและรักใคร่จั่วมู่เกออย่างมากแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงจั่วจิงเย่

"พ่อ หนูอยากไปโรงเรียนมัธยม"

"ห้ะ?"

จั่วจิงเย่งุนงง

"ทำไมจู่ๆลูกถึงอยากไปเข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมล่ะลูก?"

จั่วมู่เกอก้มหน้าลงมองเรียวขาตัวเอง จากนั้นจึงทิ้งตัวนอนลงไปบนเตียง

"หนูอยากไปเรียนกับเสี่ยวจีจี"

สายตาของเธอดูหลุกหลิกอยู่บ้าง

"เสี่ยวหยานจีน่ะเหรอ? เดี๋ยวพอเข้ามหาลัยลูกก็ได้อยู่มหาลัยเดียวกันอยู่แล้ว ผู้หญิงอารมณ์ร้อนอย่างลูกอยากจะย้ายไปโรงเรียนมัธยมหมายเลขหนึ่งเพียงเพราะเรื่องแค่นี้น่ะเหรอ? เห็นพ่อเป็นคนโง่รึไง"

จั่วจิงเย่เข้าใจนิสัยของจั่วมู่เกอเป็นอย่างดี

"โธ่พ่อ! แค่ตอบมาว่าได้หรือไม่ได้ก็พอ!"

จั่วมู่เกอหน้าแดงเล็กน้อย เธอไม่อยากจะตอบอะไรไปมากกว่านี้

นั่นก็เพราะในใจเธอมีเป้าหมายที่จะไปตีสนิทกับหลินอวี่

"โอเค โอเค พ่อจะจัดการให้ตามที่ลูกต้องการ"

จั่วมู่เกอเป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของเขา เมื่อเห็นว่าจั่วมู่เกอเริ่มโมโหแล้ว จั่วจิงเย่ก็รีบตอบตกลงทันที

"คิกๆ~ ขอบคุณค่ะพ่อ!"

จั่วมู่เกอยิ้มอย่างมีความสุข

"ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว พ่อรีบเข้านอนล่ะ ฝันดีค่ะ"

พูดจบ เธอก็ตัดการเชื่อมต่อทันที

"เอ๊ะ? ฮัลโหล?"

จั่วจิงเย่วางแผนจะพูดคุยกับลูกสาวต่อ เมื่อได้ยินเสียงวางสายเขาก็รู้สึกงุนงงเล็กน้อย

เขาเกาหน้าผากอย่างอย่างจนใจ

"ลุงด่าฉันตายแน่ เฮ้อ"

ผู้อำนวยการของโรงเรียนมัธยมหมายเลขสองนั้นมาจากตระกูลจั่ว และเป็นลุงของจั่วจิงเย่

คุณหนุคนโตที่มีพรสวรรค์มากที่สุดของตระกูลจั่วจะไม่เรียนที่โรงเรียนมัธยมหมายเลขสองอีกต่อไป แต่จะย้ายไปยังโรงเรียนมัธยมหายเลขหนึ่ง

จั่วจิงเย่จินตนาการได้เลยว่าพรุ่งนี้เขาจะถูกลุงด่าจนเสียหมาขนาดไหน

ปวดกบาลจริงๆ

ทว่าไม่นาน เขาก็หรี่ตาลง สีหน้าทอแววครุ่นคิด

"เด็กน้อยนี่....ทำไมถึงออกจากโรงเรียนหมายเลขสองอย่างไม่มีเหตุผล? ....วันนี้เธอและเด็กจากตระกูลหยานไปที่ที่ราบกระดูกเหี่ยวเฉาด้วยกัน....."

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็กล่าวขึ้นช้าๆ "หมายเลขหนึ่ง"

เกิดเงาบิดเบี้ยวที่มุมมืด จากนั้นเงาร่างสีดำก็คุกเข่าลงที่เบื้องหน้าของเขา

"นายท่าน"

"ไปตรวจสอบดูซิ เกิดอะไรขึ้นที่ที่ราบกระดูกเหี่ยวเฉาในวันนี้ โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับคุณหนูใหญ่ อย่าปล่อยให้เล็ดรอดไปได้มีแต่เรื่องเดียว"

"ครับ!"

เงาดำบิดเบี้ยวก่อนจะหายไป...

ภายในห้องของจั่วมู่เกอ

จั่วมู่เกอนอนอยู่บนเตียง เธอหรี่ตาลงก่อนจะยิ้มออกมา

"อยู่ระดับฝึกหัด แต่มีสกิลระดับ D ถึงสองสกิล อุปกรณ์สวมใส่เองก็ดูแข็งแกร่งมาก หน้าตาก็หล๊อหล่อ แล้วก็ยังช่วยชีวิตฉันไว้ด้วย"

"ฮี่ฮี่ หลินอวี่ นายเป็นใครกันแน่?"

.............................

เช้าวันต่อมา

ทันทีที่มาถึงห้องเรียน หลินอวี่ก็ได้ยินบทสนทนาอันร้อนแรงดังจากภายในห้อง

"ฉันได้ยินมาว่าคุณหนูใหญ่ของตระกูลจั่วได้ย้ายมาเรียนที่โรงเรียนของพวกเราแล้ว!"

"พูดเป็นเล่น?!"

"เอ้าพูดจริง ฉันเห็นเธอในระหว่างทางมากับตา! เธออยุ่กับองค์หญิงหยาน!"

"เอาจริงดิเฮ้ย?! สองเจ้าหญิงจากตระกูลจั่วและตระกูลหยานจะมาเรียนที่โรงเรียนของพวกเรา?! เพราะอะไรกัน?"

"ได้ยินมาว่าพวกเธอสองคนเป็นเพื่อนสนิทกัน บางทีอาจจะเพราะเรื่องนี้ล่ะมั้ง?"

"....พวกคนใหญ่คนโตนี่ดีจังน้า อยากจะย้ายโรงเรียนกันตอนไหนก็ได้ ฉันล่ะอิจฉาจริงๆ"

ทุกคนต่างพูดไม่ออก

"ได้ยินว่าผอ.ของโรงเรียนหมายเลขโมโหจนแทบคลั่งเลยทีเดียว"

"ก็เข้าใจได้ล่ะนะ...."

ผู้มีพลังพิเศษหายากดันลอยหลุดมือไปแบบนี้ ใครที่ไหนจะไปทนได้

หลินอวี่ฟังพวกเขาคุยกันด้วยสีหน้าสับสน

นี่มันเรื่องอะไรกัน?

แม่สาวนมโ...แค่กๆ แม่สาวฝีปากกล้าคนเมื่อวานนี้จะย้ายมาเรียนที่นี่จริงๆ?

พวกเธอดูท่าจะสนิทกันมากจริงๆ

ตอนนี้เอง หัวหน้าอาจารย์หลี่หยวนก็เดินเข้ามาในห้อง

ที่ด้านหลังของหลี่หยวนมีจั่วมู่เกอเดินตามมา

เพราะวันนี้เธอไม่ได้สวมชุดนักบวชหลวมโคร่งแบบเมื่อวาน ดังนั้นจึงไม่อาจปิดบังส่วนโค้งเว้าอันงดงามตระการตาได้

เมื่อสายตาทุกคู่มองไปที่หน้าห้อง ภายในห้องเรียนก็เกิดความปั่นป่วนขึ้นมาทันที

ผู้ชายทุกคนต่างอ้าปากค้าง

ผู้หญิงทุกคนเบิกตากว้างอย่างไม่อาจทำใจเชื่อ ในใจแอบปาดน้ำตาไม่หยุด

นี่มันรังแกกันเกินไปแล้ว!

หยานจีเข้ามาจากประตูหลังห้อง เธอเดินมานั่งที่

หลินอวีพบว่าสีหน้าของเธอดูแปลกประหลาดเล็กน้อย โดยเฉพาะสายตาที่มองดูเขา

หลินอวี่ "?"

เขายกมือขึ้นแตะๆใบหน้า ฉันก็หล่อเท่เหมือนเดิมไม่ใช่รึไง?