หลินอวี่เบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง
ไม่เพียงแต่เขา ทั้งจั่วมู่เกอและหยานจีต่างก็ตกตะลึงเช่นกัน
"สามารถฟักและเติบโตได้ในชั่วข้ามคืน? สามารถกินเลือดเนื้อเพื่อวิวัฒนาการ?! นั่นมันสัตว์ประหลาดอะไรกันน่ะ?!"
"แต่ในเมื่อพวกมันเติบโตมาโดยที่ยังไม่ได้กินเลือดเนื้อ ก็หมายความว่าพวกมันจะยังไม่แข็งแกร่งเท่าไหร่สินะ?"
หลินอวี่ขมวดคิ้วพลางใช้ความคิด
"ไปกันเถอะ การฆ่าพวกมันสามารถรวบรวมเครดิตได้"
จั่วมู่เกอที่ขมวดคิ้วมุ่นมาตลอด เมื่อได้ยินว่ามีรางวัลตอบแทนเป็นเครดิตก็พลันกระตือรือร้นขึ้นมา
หลินอวี่พยักหน้า
"อืม ไปกันเถอะ"
"รอเดี๋ยว ฉันตามเสี่ยวเยว่ก่อน"
หยานจีเบรคเอาไว้
จั่วมู่เกอพลันนึกขึ้นได้
"อ่า ใช่ นี่จะเป็นภารกิจแรกที่ทีมของเราจะลงมือพร้อมกันสินะ?!"
เธอหัวเราะ
"อาหวี่ นายไปก่อนเลย พวกเราสามคนจะรวมกลุ่มกันไว้"
"อื้ม นายแข็งแกร่งเกินไป ไปกับนาย พวกเราก็ได้แต่มองดูแล้ว"
หยานจีพยักหน้าหงึกหงัก
การทำได้เพียงมองดูก็ไม่ต่างอะไรจากไม้ประดับ
หลินอวี่มองสองสาวก่อนจะยิ้มพูดว่า
"โอเค งั้นก็ระวังตัวกันด้วย ถ้ามีอันตรายก็เรียกฉันทันที"
"ไม่ต้องห่วง นายให้ไอเท็มพิเศษพวกเรามาหลายชิ้นแล้ว มีของพวกนี้อยู่ก็ไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว"
หลินอวี่พยักหน้า
เมื่อเขาก้าวเท้าออก ร่างของเขาก็พลันหายไป
...............................
ที่ด้านนอกมหาวิทยาลัยขงหมิง เวลานี้กำลังเต็มไปด้วยความวุ่นวาย
สิ่งมีชีวิตที่มีเกร็ดสีดำทั่วร่างพร้อมกรงเล็บที่แหลมคม และหางเดือยกระดูกบนแผ่นหลังกำลังวิ่งพ่านไปทั่วท้องถนน
นี่ก็คือ อสูรยมโลก
เมื่อพวกมันพบเห็นสิ่งมีชีวิต พวกมันก็จะพุ่งเข้าขย้ำ
ประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้มีพลังพิเศษต่างถูกสังหารและจับกินทันทีที่พบกับพวกอสูรยมโลก
เมื่อพวกอสูรยมโลกดื่มกินเลือดเนื้อ ร่างกายของพวกมันก็ขยายขนาดขึ้นจนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
ตามแยกและบนถนนมีผู้มีพลังพิเศษบางคนทำการจับกลุ่มเพื่อตามล่าพวกอสูรยมโลก
มีทั้งคนจากกองทัพและพวกนักผจญภัย
ผู้มีพลังพิเศษหลากหลายอาชีพรวมกลุ่มกันออกล่าพวกอสูรยมโลก
นี่คือหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้มีพลังพิเศษ
"คนธรรมดาให้วิ่งมาทางผม!"
นักรบที่ถือโล่ขนาดใหญ่ผู้หนึ่งเปิดปากตะโกน
ที่ด้านหลังของเขามีผู้มีพลังพิเศษหลากหลายอาชีพติดตามเขามา
นักรบผู้นั้นพุ่งตัวออกมาพลางใช้โล่ในมือทุบฟาดพวกอสูรยมโลกที่อยู่ตามรายทาง
นักวทที่อยู่ด้านหลังของเขาร่ายเวทยิงบอลน้ำแข็งออกไปไม่ได้หยุด นักธนูเองง้างยิงลูกธนูอย่างต่อเนื่อง ขณะที่พวกนักบวชก็ทำการรักษาและมอบบัฟให้กับคนอื่นๆ
ในพื้นที่รัศมี 100 บนถนน พวกอสูรยมโลกถูกสังหารล้มตายอย่างหนัก
พวกประชาชนธรรมดาที่เห็นฉากนี้ต่างก็รีบวิ่งไปทางพวกเขา
"ผู้มีพลังพิเศษ!"
"รีบไปเร็ว!"
พวกเขาเข้ามาหากลุ่มของนักรบและแสดงความขอบคุณ
"ขอบคุณที่ช่วยเหลือ ท่านผู้เชี่ยวชาญทุกท่าน!"
"ขอบคุณ ขอบคุณจริงๆ"
"...."
เหตุผลที่ว่าทำไมเหล่าผู้มีพลังพิเศษนั้นมีฐานะสูงกว่าคนธรรมดาทั่วไปก็เพราะพวกเขาคือผู้พิทักษ์ของเหล่าคนธรรมดาทั่วไป
นักรบที่คล้ายเป็นหัวหน้ากลุ่มนั้นยิ้มพูดว่า
"ตามพวกเรามาครับ อย่าหลุดกลุ่มเด็ดขาด! พวกเราจะพาพวกคุณไปยังที่หลบภัย!"
กลุ่มของผู้มีพลังพิเศษที่ถูกรายล้อมไปด้วยคนธรรมดาจำนวนมากค่อยๆเคลื่อนตัวไปทางที่หลบภัย
ในขั้นตอนนี้ ผู้คนส่วนใหญ่ล้วนเคยปฏิบัติมาแล้ว
ตอนนั้นเอง ประกายเย็นเยียบสายหนึ่งก็กระพริบวูบ
เดือยกระดูกอันแหลมคมเส้นหนึ่งพุ่งทะลุหน้าอกของชายวัยกลางคนจนโลหิตสาดกระเซ็นไปทั่ว
ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้ชายคนนั้นกรีดร้องออกมาสุดเสียง
"อ๊ากกกก!"
เดือยกระดูกหดตัวกลับพลางฉุดลากร่างของชายวัยกลางคนไป
เมื่อเห็นฉากนี้ เหล่าผู้มีพลังพิเศษต่างก็เบิกตากว้าง ดวงตาพลันฉายแววเดือดดาล
"หมอบลง!"
นักรบสืบเท้าขึ้นหน้า ดาบเล่มเขื่องตวัดฟันไปยังเดือยกระดูกนั้น
เคร้ง!
บังเกิดเสียงของโลหะดังกระทบกัน
-12
จากนั้นตัวเลขค่าความเสียหายเพียงน้อยนิดก็ลอยขึ้นมา
"อะไรกัน?!"
ผู้มีพลังพิเศษต่างพากันตกตะลึง รูม่านตาของพวกเขาเกิดการหดตัวอย่างรุนแรง
เดือยกระดูกคล้ายไม่ได้รับผลกระทบใดๆ มนยังคงฉุดลากร่างของชายวัยกลางคนไปในมุมมืด
จากนั้นก็บังเกิดเสียงกรีดร้องโหยหวน ทิ้งไว้เพียงบรรยากาศอันน่าสยดสยอง
เมื่อพวกคนธรรมดาได้เห็นฉากสยองขวัญนี้ พวกเขาก็หน้าซีดเผือดและตัวสั่น
แม้แต่ดวงตาของเหล่าผู้มีพลังพิเศษก็ทอแวววิตกกังวล
นักรบที่เป็นผู้นำกลับมาได้สติ
"ร้องขอกองหนุน ด่วน!!"
เขาตะโกน จากนั้นจึงหันไปยังกลุ่มคนธรรมดาที่ด้านหลัง
"พวกคุณวิ่งไปก่อน!"
สีหน้าของคนเหล่านั้นเปลี่ยนเป็นว่างเปล่า
จากนั้นเมื่อมีคนวิ่งเป็นคนแรก
คนที่เหลือจึงเริ่มวิ่งตามไป
กลุ่มผู้มีพลังพิเศษเฝ้ามองกลุ่มคนธรรมดามุ่งหน้าไปยังทิศทางหนึ่ง
นักรบที่ถือโล่ระบายลมหายใจออกมา
"รอก่อน พวกเราจะดึงดูดความสนใจไปอีกทาง และถ่วงเวลาไว้จนกว่ากองหนุนจะมาถึง!"
นักธนูคนหนึ่งมองดูกลุ่มคนธรรมดาวิ่งจากไป ในแววตาปรากฏความไม่พอใจขึ้น
"ทำไมไปทางพวกเขา พวกเขาสามารถถ่วงเวลาให้พวกเรา"
ได้ยินเช่นนั้น หลายคนก็หน้าแปรเปลี่ยนและหัะนมาจ้องมองเขาทันที
แน่นอนว่ายังมีบางคนที่รู้สึกเห็นด้วยกับข้อเสนอของนักธนู
"นายได้สิทธิพิเศษน้อยกว่าคนทั่วไปรึไง?!"
นักรบหันมาจ้องมองนักธนู
"ศัตรูเหล่านี้มีเพียงผู้มีพลังพิเศษที่สามารถจัดการได้ เงินเดือนที่พวกเราได้รับก็มาจากภาษีของพวกเขา!"
"แล้วพวกเราจะนิ่งเฉยดูดายได้ยังไง?! คนทั่วไปไม่ใช่มนุษย์รึไง?!"
"เมื่อได้ผลประโยชน์จากพวกเขาแล้ว พวกเราก็เปิดตูดหนีกันรึไง?!"
ผู้มีพลังพิเศษต่างมีสีหน้ากลับกลาย ความไม่พอใจเริ่มสลายหายไป
นักธนูนั้นมุ่ยหน้า
"ก็แค่ลองเสนอดูเท่านั้น ถ้าไม่เอาก็ช่างเถอะ"
นักรบใช้โล่นั้นคล้ายอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ตอนนั้นเองก็มีเสียงเคี้ยวที่เคยดังมาจากตรอกก็เงียบลงและมีเสียงคำรามต่ำดังขึ้นแทน
จากนั้นก็มีเสียงฝีเท้าหนักๆดังใกล้เข้ามา
เหล่าผู้มีพลังพิเศษต่างร่างเขม็งเกร็ง
"มันมาแล้ว! เตรียมตัว!"
นักรบถือโล่เดินออกมาอยู่ด้านหน้า
คนอื่นๆก็ติดตามอยู่ทางด้านหลังของนักรบ
ตอนนั้นเอง อสูยมโลกขนาดใหญ่ที่สูงกว่าสองเมตรก็เดินออกมาจากตรอกแห่งนั้น
มันเงยหน้าขึ้นจ้องมองนักรบที่อยู่ด้านหน้าสุดด้วยดวงตากระหายเลือด จากนั้นมันจึงเปิดปากที่เต็มไปด้วยฟันอันแหลมคมและคำรามออกมา
"โฮก!!!"
นักรบผู้ถือโล่พลันหน้าแปรเปลี่ยน
"คลาส 4! ถอยเร็ว!!"
คนอื่นๆเมื่อได้ยินดังนั้นก็รีบวิ่งไปทางอื่นทันที
นักรบใช้โล่เริ่มใช้สกิลยั่วยุใส่อสูรยมโลกตัวนั้น
อสูรยมโลกมีสติปัญญาไม่สูงนัก เมื่อถูกยั่วยุ มันก็พุ่งเข้าหานักรบอย่างบ้าคลั่ง
บนเล็บของมันสะท้อนแสงสีม่วงขึ้นวูบ กรงเล็บของมันฟาดเข้าใส่โล่ของนักรบอย่างรุนแรง
ตู้ม!!
นักรบหน้าถอดสีขณะที่ร่างกายของเขาลอยละลิ่วไปทางด้านหลัง
เขากระอักเลือดออกมาเป็นทางยาว....
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved